เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 643 หม้อพฤกษา
เมฆหมอกเต็มไปทั่วท้องฟ้าและน้ำทะเลก็ปั่นป่วนท้องฟ้าสั่นสะเทือนและเต็มไปด้วยฟ้าร้องที่ดังกึกก้องไปทั่ว เสียงคำรามของปีศาจทะเลและเหล่าจอมยุทธก็ดังขึ้นและดับลงอย่างต่อเนื่อง
ทางตอนเหนือของทะเลราตรีสีเลือดมีการต่อสู้ระหว่างมนุษย์และปีศาจอยู่เนื่องจากหมอกสีฟ้ามีพิษมาก ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์จึงไม่กล้าเคลื่อนไหวอย่างประมาท ไม่เช่นนั้นทั้งปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์และนักโหราศาสตร์คงจะตายไปอย่างไม่ต้องสงสัยเลย เสียเฟยเองก็ค่อนข้างแข็งแกร่งแต่เขาเป็นนายน้อยคนแรกของตระกูลเสีย ดังนั้นผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเปิดการป้องกันเอาไว้ก่อน
จากผู้เชี่ยวชาญที่มากันสี่สิบคนตอนนี้มีสามสิบคนที่ถูกปีศาจทะเลรายล้อมไปทั่วแล้ว และเมื่อศาสตราวุธและความสามารถถูกปลดปล่อยออกมา ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนคนอื่นๆก็เริ่มสังหารปีศาจทะเลด้านล่าง
ปีศาจทะเลนั้นมีมากเกินไปมันอาจเป็นเพราะคำสั่งจากจักรพรรดิอสูร แม้ว่าพวกมันจะรู้ดีว่าพวกมันจะตายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุน แต่พวกมันก็ยังคงพุ่งมาโดยที่ไม่ได้สนใจเรื่องนั้นเลย
ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีผู้ใดสามารถมองข้ามปีศาจทะเลได้ยังไงเสียพวกมันก็มีความสามารถแปลกๆและหากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนประมาทเพียงนิดเดียว ปีศาจทะเลก็จะโจมตีพวกเขาสำเร็จ
“กรู๊กรู๊”
จักรพรรดิหมึกทมิฬปล่อยเสียงคำรามออกมาด้วยความเดือดดาลและหนวดสีฟ้าที่เปล่งแสงออกมาก็กวัดไกวไปทั่วพร้อมกับส่งผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนปลิวลอยไปแต่เหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนเหล่านี้มีโล่ศักดิ์สิทธิ์ที่คอยปกป้องร่างของพวกเขาอยู่ หนวดของจักรพรรดิหมึกทมิฬไม่สามารถทำลายโล่ศักดิ์สิทธิ์และไม่สามารถทำร้ายผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนได้ด้วย
ตูม!ตูม! ตูม!
ด้านผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนพวกเขานั้นได้มีเรื่องราวการสู้รบที่น่าทึ่ง แม้ว่าการป้องกันของจักรพรรดิหมึกทมิฬจะน่ากลัวเพียงใด แต่เสียเฟยนำเหล่าทหารแห่งหมู่มารอันเลื่องชื่อของทวีปจักรพรรดิบูรพามาด้วย ไม่มีพวกเขาคนใดที่อ่อนแอและแม้ว่าพวกเขาส่วนใหญ่จะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำ แต่พวกเขาทั้งหมดก็มีความสามารถพิเศษและทรงพลัง
พวกเขาปลดปล่อยรูปแบบเต๋า,ความสามารถ และศาสตราวุธของพวกเขาออกไปยังจักรพรรดิอสูรหมึกทมิฬ ในการปะทะเพียงรอบเดียวและมันได้ทำให้เกิดบาดแผลขนาดใหญ่ในร่างของจักรพรรดิอสูรขึ้น เลือดสีดำไหลออกมาจากบาดแผลและกลิ่นเหม็นก็คลุ้งไปทั่วรัศมีร้อยกิโลเมตร
“ทำไมจักรพรรดิอสูรระดับสูงตนนี้ถึงอ่อนแอเช่นนี้?มีเพียงหมอกพิษเท่านั้นที่ดูเหมือนจะมีพลังใช่ไหมนะ?”
เสียเฟยดูกระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมในการต่อสู้ในครั้งนี้ด้วยแต่ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์ก็รีบพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น“นายน้อยเฟย อย่าประมาทศัตรูของท่าน เมื่อจักรพรรดิอสูรผู้นี้สามารถไปถึงระดับสูงได้ เขาจะมีพละกำลังเพียงน้อยนิดได้อย่างไร?”
“กรู๊กรู๊”
ขณะที่พวกเขาพูดคุยกันอยู่นั้นจักรพรรดิอสูรหมึกทมิฬก็ส่งเสียงคำรามที่เกรี้ยวกราดออกมาและส่วนท้องน้อยของมันที่ดูเหมือนจะใหญ่พอๆกับภูเขาก็เริ่มหดตัวลง หลังจากนั้นก๊าซสีดำก็ถูกพ่นออกมาอย่างรุนแรงและปกคลุมไปทั่วผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสิบคนทันที
“ถอยไปเร็วเข้า!พิษนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะต้านทานได้!”
ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์ตกตะลึงและใบหน้าของเขาก็ซีดเผือดมือข้างหนึ่งของเขาจับผ้าสีดำขณะที่เขาปล่อยแก่นแท้พลังออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมันหยุดไม่ให้หมอกพิษเข้ามาข้างใน ส่วนมืออีกข้างหนึ่งของเขาก็มีหม้อทองแดงปรากฏขึ้น จากนั้นเขาก็รีบโยนมันออกไปทันที
ในขณะที่หม้อลอยขึ้นไปบนท้องฟ้ามันก็เริ่มขยายตัวและแผ่ออกมาในระยะสามร้อยเมตร บนพื้นผิวของหม้อสามารถมองเห็นแสงสีเขียวและกลิ่นอายจางๆหมุนวนอยู่รอบพื้นผิวด้านนอกของมัน มีอักขระโบราณลึกลับเปล่งประกายอยู่บนหม้อนั้นและในขณะที่มันปรากฏขึ้น ดูเหมือนว่าอากาศที่อยู่รอบๆเริ่มสั่นคลอน เมฆเริ่มเปลี่ยนสีและปลดปล่อยกลิ่นอายของความโบราณออกมา ทำให้ปีศาจทะเลระดับต่ำถูกตรึงเอาไว้ทั้งหมด
“หม้อพฤกษาสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝง! แถมยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ที่เชื่อมกับดวงจิตผู้เป็นเจ้าของแล้วด้วย!”
ดวงตาของเสียเฟยสว่างขึ้นและร้องออกมาในใจเขาเองก็มีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงด้วยเช่นกันซึ่งเป็นกระดูกโลหิตปีศาจโบราณที่อยู่ที่คอของเขา แต่ความแข็งแกร่งของเขาไม่เพียงพอที่จะทำให้สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงนี้รับเขาเป็นเจ้าของและมันทำให้เขาไม่สามารถใช้มันได้อย่างเต็มกำลัง
“อ๊ากอ๊ากก!”
เสียงร้องโหยหวนภายในหมอกสีดำดึงดูดความสนใจของเสียเฟยและใจของเขาก็ดิ่งลงไปถึงตาตุ่มมีคนมากกว่าสิบสองคนติดอยู่ในหมอกสีดำและเขาก็รู้ดีว่าโอกาสที่พวกเขาจะรอดชีวิตออกมานั้นน้อยมาก อันที่จริงแล้ว เขาไม่ควรดูถูกจักรพรรดิอสูรระดับสูงตนนี้
ตูม!ตูม! ตูม!
หม้อที่ถูกนำออกมานั้นมาพร้อมกับกลิ่นอายแห่งการปราบปรามและกระแทกเข้ากับร่างของจักรพรรดิอสูรหมึกทมิฬทำให้ร่างของจักรพรรดิอสูรหมึกทมิฬซึ่งเป็นเหมือนภูเขาเล็กๆตกลงไปในทะเลด้านล่าง น้ำทะเลรอบๆที่จักรพรรดิอสูรร่วงหล่นลงไปกลายเป็นคลื่นขนาดยักษ์ที่ซัดออกมาและทำให้ร่างของปีศาจทะเลระดับต่ำจำนวนมากปลิวขึ้นไปบนท้องฟ้า
ซู่ซู่……ไอลีนโนเวล
หม้อใบนั้นได้กระจายหมอกพิษและในที่สุดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนก็ถูกเผยตัวออกมาและเมื่อเสียเฟยกวาดตาของเขาไปมอง เขาก็สูดลมหายใจที่เย็นเยียบทันที
หมอกพิษได้กัดกร่อนร่างของผู้เชี่ยวชาญไปและมีหลายคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างของพวกเขาหายไปมากกว่าครึ่งส่วนและเห็นเพียงแต่กระดูกเท่านั้น โครงกระดูกเองก็มีสีดำสนิทเช่นกัน และยังมีอีกเจ็ดถึงแปดร่างที่ตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างไร้พลังและร่างกายของพวกเขาก็หายไปและเหลือเพียงโครงกระดูกอย่างสมบูรณ์
“ไอ้เด็กสารเลวข้าจะฆ่าเจ้า!”
เสียเฟยบินไปด้วยความโกรธแค้นหากไม่ใช่เพราะเจียงอี้และคนของเขา พวกเขาจะถูกจักรพรรดิอสูรโจมตีได้อย่างไร? คนเหล่านี้เป็นคนชนชั้นสูงของตระกูลเสีย หากพวกเขาตายไปเพียงคนสองคนก็คงไม่มีปัญหา แต่นี่ เจ็ดถึงแปดคนตกตายไปในเวลาเดียวกันและมีอีกแปดถึงเก้าคนที่ได้รับบาดเจ็บสาหัส สิ่งนี้ทำให้เสียเฟยปวดใจทันทีเพราะเขาไม่รู้จะอธิบายให้พ่อของเขาฟังอย่างไรเมื่อเขากลับไป
บรึฟ!
ในตอนนั้นเองความผันผวนที่กลางอากาศเกิดแสงสว่างขึ้นบนฟ้าและเส้นทางโบราณสีดำสนิทก็ปรากฏขึ้น ชายหกสิบถึงเจ็ดสิบคนบินออกมาและเจี้ยนอู๋อิงก็เป็นผู้นำของพวกเขา
“โอ้เกิดอะไรขึ้นที่นี่กัน?”
เจี้ยนอู๋อิงปรากฏตัวขึ้นมาพร้อมกับใบหน้าที่มีความกังวลแต่ในน้ำเสียงของเขาก็มีความเยาะเย้ยอยู่ในนั้น “นายน้อยเฟย ทำไมท่านถึงกำลังสู้กับสัตว์อสูรกันเล่า? ดูเหมือนว่าท่านจะเสียหลักอยู่ที่นี่ ท่านต้องการให้ข้าเรียกคนมากำจัดเจ้าสัตว์เดรัจฉานนี้หรือไม่? ท่านเพียงแค่มอบเทพธิดาผีเสื้อสองคนให้ข้าในภายหลัง”
“ไสหัวไปซะ!”
เสียเฟยพูดออกมาหลังจากที่เขากัดฟันอดกลั้นเอาไว้เจี้ยนอู๋อิงยังเด็กนัก แต่เมื่อได้ยินคำเย้ยหยันของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ว่าเสียเฟยจะอารมณ์ดีแค่ไหนแต่เขาก็ไม่สามารถทนคำเย้ยของเจี้ยนอู๋อิงได้อีกต่อไป เขาจ้องไปที่เจี้ยนอู๋อิงและพูดว่า “เจ้าอยากได้เทพธิดาผีเสื้อหรอ? ฝันต่อไปเถอะ”
เจี้ยนอู๋อิงไม่ได้โกรธแต่อย่างใดแต่มุมปากเขาโค้งขึ้นมาพร้อมกับถอนหายใจและส่ายหัว “เสียเฟย เจ้าเป็นนายน้อยจากตระกูลสูงศักดิ์นะ ทำไมถึงมาทะเลาะกับเด็กอย่างข้ากัน? ไม่ใช่ว่าเราแค่หยอกเล่นกันหรอกหรือ? เฮ้อ..ข้าล่ะเป็นห่วงอนาคตตระกูลเสียจริงๆ เอาล่ะ ข้าขอตัวก่อน เราจะใช้ประโยชน์จากโอกาสที่นายน้อยเฟยกำลังต่อสู้กับจักรพรรดิอสูรไปแย่งชิงหญ้ามังกรยาจกกัน”
เจี้ยนอู๋อิงส่ายหัวและถอนหายใจขณะที่เขาพาคนของเขาจากไปหลังจากที่เสียเฟยเห็นว่าพวกเขาจากไปแล้ว เสียเฟยก็ระเบิดความโกรธของเขาออกมา “เจี้ยนอู๋อิง ไอ้เด็กระยำ! บรรพบุรุษสิบแปดชั่วโคตรของเจ้าก็ด้วย!”
ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกใจเสียเฟยเป็นทายาทที่โดดเด่นที่สุดในรุ่นสามของตระกูลเสียและคำสอนของทุกเก้าตระกูลจักรพรรดินั้นยอดเยี่ยมเสมอมา แต่วันนี้เสียเฟยสบถออกมาต่อหน้าทุกคน มันก็เห็นแล้วว่าเขาโกรธมากเพียงใด
ตูม!
หม้อนั้นโจมตีอีกครั้งและปราบจักรพรรดิอสูรเอาไว้ซึ่งมันโจมตีต่อไปอย่างไม่หยุดยั้งจนในที่สุดจักรพรรดิอสูรหมึกทมิฬก็หนีไป ในขณะที่มันหนีไป ปีศาจทะเลทั้งหมดก็พากันกระจัดกระจายกลับไปด้วย และในพริบตาพวกมันก็หายไปจนหมดและไม่เห็นแม้แต่เงา
ผู้อาวุโสศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่ได้ไล่ล่าพวกมันไปเพราะพวกเขาไม่ได้มาที่นี่เพื่อสังหารสัตว์อสูร
เขาเก็บโครงกระดูกของเหล่ายอดฝีมือที่ตกตายไปและให้ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสไปอยู่ในสิ่งประดิษฐ์มิติของเขาจากนั้นเขาก็พาทุกคนไปหาเกาะเพื่อพักผ่อนและจัดการระเบียบใหม่
นักโหราศาสตร์เองก็ไม่จำเป็นต้องรอคำสั่งของเสียเฟยและปลดปล่อยศาสตร์ของเขาออกมาเพื่อค้นหาร่องรอยของเจียงอี้ทันทีในช่วงที่ผ่านมานี้เขาจะคอยจับตำแหน่งเจียงอี้เป็นระยะและมันก็ได้กลายเป็นนิสัยของเขาไปแล้ว
ในตอนแรกเขาไม่ได้หวังอะไรมากนักเพราะเจียงอี้มีสิ่งประดิษฐ์ที่ไม่สามารถทำให้เขาจับตำแหน่งได้แต่หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง จู่ๆเขาก็ลืมตาขึ้นมาและตะโกนออกมาด้วยความดีใจ “นายน้อยเฟย ข้าจับตำแหน่งจักรพรรดิอสูรได้ เด็กนั่นอาจไม่รู้ว่าข้าสามารถจับกลิ่นอายจักรพรรดิอสูรได้และเขาก็ไม่ได้เก็บมันไว้ในสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติ เราจะไล่ล่าเขาและสังหารเขาหรือไม่ขอรับ?”
“ไล่ล่า!”
ร่างของเสียเฟยพุ่งออกมาและเขาก็ตะโกนว่า“ปรมาจารย์ขบวนทัพศักดิ์สิทธิ์ เปิดทางเดินมิติโบราณเดี๋ยวนี้ คราวนี้ข้าจะทำให้แน่ใจว่ามันจะหนีจากภัยพิบัตินี้ไปไม่ได้อีก”