เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 679 พวกเจ้าเข้ามาได้เลย!
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 679 พวกเจ้าเข้ามาได้เลย!
มีคำกล่าวแต่โบราณว่าการบัญชาการทหารนั้นเกี่ยวกับการโจมตีคู่ต่อสู้แบบไม่ทันตั้งตัว
เจียงอี้ถูกผนึกตันเทียนไว้ตั้งแต่ยังเด็ก เขามักจะถูกรังแกแต่ไม่เคยยอมแพ้เลย ด้วยเหตุนี้ เขาจึงอ่านตำราศึกและทหารมากมายเพื่อพยายามเอาชนะเจียงหยูหู่และพวกนั้นให้ได้
ศาสตร์สงครามไม่จำเป็นจะต้องเป็นการทำสงครามระหว่างสองกองกำลังก็ได้ อันที่จริงแล้วมันสามารถนำไปใช้ในการต่อสู้แบบใดก็ได้ นอกจากนี้ จุดที่สำคัญที่สุดคือเล่ห์เหลี่ยม หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือการโจมตีแบบไม่ทันตั้งตัว
อย่างการสู้ระหว่างเจียงอี้กับป้าเตา หากเขาบอกว่าหัวหน้าหลงมาที่นี่ตั้งแต่เริ่ม ป้าเตาก็คงไม่มีทางเชื่อเขาและปล่อยท่าไม้ตายทันที ยิ่งไปกว่านั้น หากเจียงอี้ตะโกนออกไปเพื่อให้หัวหน้าหลี่โจมตีตั้งแต่ที่หัวหน้าหลงเพิ่งจะเริ่มไล่ล่าเขา หัวหน้าหลงก็จะไม่มีทางหลงกลและปลดปล่อยรูปแบบเต๋าทันที
เจียงอี้ไม่ต้องการให้หัวหน้าหลงเชื่อคำพูดของเขาเต็มร้อย เขาเพียงแค่ต้องการจะกระตุ้นให้หัวหน้าหลงคิด เห็นได้ชัดว่าคำพูดของเจียงอี้นั้นเป็นเรื่องโกหก แต่กล่องหญ้ามังกรยาจกนั้นเป็นของจริง การกระทำทั้งหมดของเขาก่อนหน้านี้เป็นการสร้างทีท่าที่จอมปลอมเพื่อให้หัวหน้าหลงเชื่อว่าป้าเตาถูกสังหารด้วยแผนการของเขา แต่ไม่ใช่ด้วยพละกำลังของเขา
ในขณะที่หัวหน้าหลงต้องการจะตลบหลังเจียงอี้ด้วยกลลวงของเจียงอี้เอง เจียงอี้ก็วางแผนซุ่มโจมตีหัวหน้าหลงเอาไว้เช่นกัน
และเมื่อเจียงอี้โยนกล่องหญ้ามังกรยาจกออกไป มันก็เบี่ยงเบนความสนใจของหัวหน้าหลงได้สำเร็จ แม้ว่ามันจะเพียงชั่วพริบตาเดียวแต่พวกเขาก็อยู่ใกล้กันมากในตอนนี้ ซึ่งทำให้เจียงอี้ย้ายร่างฉับพลันไปยังหัวหน้าหลงได้อย่างง่ายดาย
ไข่มุกวิญญาณเพลิงของเขาเปล่งประกายออกมา จากนั้นเปลวเพลิงสีฟ้าที่มีกระแสไฟฟ้าอยู่ในนั้นก็ปรากฏขึ้นรอบๆตัวเขา ทันใดนั้นเขาก็ปลดปล่อยฝ่ามือขึ้นไปบนฟ้าและเปลวเพลิงสีฟ้าก็พุ่งเข้าหาหัวหน้าหลง
เห็นได้ชัดว่าหัวหน้าหลงจบเห่แล้ว แก่นแท้พลังของเขาทรงพลังมาก, ชุดเกราะที่เขาสวมใส่อยู่ก็เป็นเกราะวายุภักษ์ซึ่งเป็นสมบัติเหนืออิทธิฤทธิ์ แต่เจียงอี้อยู่ห่างจากเขาไม่ถึงสามร้อยเมตร และเปลวเพลิงสีฟ้านั่นก็ไม่ใช่แค่เปลวเพลิงอัสนีธรรมดาแต่มันถูกปรับแต่งมาแล้วซึ่งมันกลายเป็นสิ่งที่จะทำลายล้างทุกอย่างที่อยู่ตรงหน้าให้ราบคาบ
“อ๊ากกก!”
เสียงกรีดร้องอันน่าสยดสยองดังขึ้นในสันเขาอัสนีอีกครั้ง ซึ่งเสียงของหัวหน้าหลงไม่ได้ดูเหมือนเสียงที่ทรงพลังของป้าเตาเลย เสียงของเขาแหลมมาก
โล่ศักดิ์สิทธิ์ของหัวหน้าหลงแตกสลายไปและเกราะวายุภักษ์ก็เปล่งประกายออกมาเพื่อปกป้องร่างกายของเขา แต่น่าเสียดายที่เกราะวายุภักษ์ปกคลุมร่างเพียงบางส่วนเท่านั้น หัวและขาของเขาไม่ถูกคลุมเอาไว้ด้วยซึ่งมันทำให้ส่วนนั้นๆถูกแผดเผาและตายลงทันที
“นั่นมันหัวหน้าหลงนี่!”
“นั่นมันเสียงหัวหน้าหลง!”
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสามสิบคนที่ตามหัวหน้าหลงมาได้ยินเสียงโหยหวนนั้น ทุกคนก็หยุดนิ่งอยู่กลางอากาศ เสียงของหัวหน้าหลงดูน่าสังเวชกว่าป้าเตาเสียอีก มันจะเป็นไปได้ไหมว่าเขายังมีชีวิตอยู่? ตอนนี้ ทั้งป้าเตาและหัวหน้าหลงก็ตายลงไปแล้ว แล้วพวกเขาจะวิ่งไปสู่ความตายด้วยหรือ?
“เอ่อ….”
หัวหน้าอีกสี่คนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของสันเขาอัสนีที่กำลังจะพากันเข้าไปก็หยุดนิ่งไปเช่นกัน พวกเขามองหน้ากันและไม่อยากเป็นเช่นนั้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่เป็นผู้ใต้บัญชาของพวกเขาเองก็กระกริบตาปริบๆ เจียงอี้สังหารป้าเตาและหัวหน้าหลงไปแล้ว และเขายังอยู่ในสันเขาอัสนีด้วย แล้วพวกเขาจะสังหารเจียงอี้ได้หรือ? ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะถูกสังหารแทนหรือ?
“รอดูกันไปก่อน!”
หัวหน้าที่ดูมีอายุกล่าวด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและหัวหน้าอีกสามคนก็เห็นด้วยกับเขา พวกเขาไม่ได้ขุ่นเคืองกับเจียงอี้โดยตรงและยังไม่ใช่ศัตรูของเจียงอี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่จำเป็นต้องเข้าไปเสี่ยง
“ฮึฮึฮึฮึ!”.Aileen-novel.
บนสันเขาอัสนีที่ห่างไกลออกไป เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเริ่มหัวเราะออกมา นางหัวเราะหนักมากจนหน้าอกของนางเริ่มสั่นและกระดิ่งของนางก็สั่นไม่หยุด ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความชื่นชม นางพยักหน้าและพูดว่า “อัจฉริยะผู้ลึกลับ เขาเป็นอัจฉริยะที่ลึกลับจริงๆและสามารถควบคุมเปลวเพลิงอัสนีได้ เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริงๆ…”
“อ๊ะ?”
ปากของเสี่ยวหงเปิดออกมาเล็กน้อยและนางก็ร้องออกมาว่า “นายหญิง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของท่านสามารถตรวจสอบได้ไกลถึงเพียงนี้เลยหรือเจ้าคะ?! เปลวเพลิงอัสนีในสันเขาอัสนีไม่สามารถทำลายสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของท่านหรือเจ้าคะ? ท่านทำได้อย่างไร….?”
“ฮึ่ม!”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเหลือบมองไปที่เสี่ยวหงและกระซิบว่า “มีอีกหลายสิ่งที่เจ้าไม่รู้ โลกนี้กว้างใหญ่มากจนอะไรก็เกิดขึ้นได้ อย่างหมาป่าเดียวดายผู้นี้ เขาเป็นคนที่แปลกมากๆ เสี่ยวหง ในช่วงหลายปีที่เจ้ารับใช้ข้ามา เจ้ายะโสโอหังนัก ด้วยพลังอันน้อยนิดของเจ้า หากวันใดข้าออกเดินทางไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพาล่ะก็ ข้ารับรองได้เลยว่าเจ้าจะอยู่ได้ไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ”
“เอ๋?!”
ร่องรอยของความหวาดกลัวปรากฏขึ้นในดวงตาเสี่ยวหง นางคุกเข่าลงทันทีและพูดด้วยความอับอายว่า “นายหญิง ข้าน้อยผิดไปแล้ว ข้าจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเจ้าค่ะ นายหญิงได้โปรดอย่าทิ้งเสี่ยวหงเลยนะเจ้าคะ”
“เฮ้อ!”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานส่ายหัวเบาๆแล้วหันไปพูดกับเสี่ยวหงอย่างจริงจังว่า “ลุกขึ้นซะเสี่ยวหง เจ้าเป็นคนแรกในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างที่เมตตาต่อข้า หากเจ้าทำอะไรผิดพลาดไป ข้าไม่ทิ้งเจ้าเอาไว้หรอก แต่เจ้าจงจำเอาไว้นะ อย่าพยายามพึ่งพาคนอื่น พลังของเจ้าคือสิ่งสำคัญที่จะหนุนเจ้าเอาไว้”
เสี่ยวหงพยักหน้าซ้ำๆและไม่กล้าพูดอะไรอีก นางลุกขึ้นมาและมองไปในทิศที่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมองไป
….
“เอ๊ะ? ชุดเกราะสีดำนี่ยังคงสภาพสมบูรณ์อยู่ในความร้อนเช่นนี้ได้?!”
ในสันเขาอัสนี หลังจากที่เจียงอี้แผดเผาหัวหน้าหลงไปแล้ว เขาก็จ้องไปที่ชุดเกราะบนร่างของหัวหน้าหลงก่อนที่จะเก็บเปลวเพลิงอัสนีเข้าไปในไข่มุกวิญญาณเพลิงทันที เขาไม่ต้องการที่จะทำลายสมบัติล้ำค่าเช่นนี้
ฟรึ่บ!
เจียงอี้พุ่งผ่านท้องฟ้าไปและจับร่างที่ไร้หัวและขาของหัวหน้าหลงพร้อมกับกระชากชุดเกราะออกมา ในเวลาเดียวกันเขาก็หยิบแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณมาด้วย
แหวนนั้นไม่ใช่สมบัติสำคัญอะไรแต่อาคมที่อยู่ในแหวนนั้นลึกลับมาก ตราบใดที่ไม่ได้ถูกโจมตีอย่างรุนแรง มันจะไม่แตกสลายไป และสมบัติที่อยู่ข้างในก็จะไม่เป็นอะไรด้วย
เจียงอี้ยังไม่ได้เห็นว่ามีสมบัติอะไรอยู่ในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของหัวหน้าหลง เขายกร่างหัวหน้าหลงและบินออกจากสันเขาอัสนีไป
แกร๊ง!
เขาข้ามผ่านพื้นที่หลายกิโลเมตรไปในพริบตา ซึ่งผู้เชี่ยวชาญที่เป็นลูกน้องของป้าเตาและหัวหน้าหลงกว่ายี่สิบคนเริ่มเกิดความโกลาหลเมื่อเห็นร่างสีดำบินผ่านภูเขามาโดยมีร่างไร้ศีรษะอยู่ในมือ
ดวงตาของพวกเขาเปล่งประกายออกมา บางคนโกรธแค้นและพุ่งพล่านไปด้วยกลิ่นอายสังหาร บางคนก็ตกใจกลัว บางคนตื่นตระหนกกันมากและเริ่มล่าถอยกลับไปโดยสัญชาตญาณ
เจียงอี้ไม่เผยกลิ่นอายออกมารอบตัวเขาเลย ศีรษะที่โล่งเตียนที่ไม่มีแม้แต่คิ้วหรือเคราของเจียงอี้ดูประหลาดมาก ในขณะที่เขาค่อยๆบินผ่านไป ใบหน้าของเขาก็ไร้ความรู้สึกและดวงตาของเขาก็มองไปที่ผู้คนเหล่านั้น แสงของสายฟ้าสาดส่องผ่านดวงตาของเขาเป็นครั้งคราวซึ่งมันดูน่ากลัวมาก
ฝูงคนเหล่านั้นมองหน้ากันและกันและไม่มีใครกล้าก้าวไปข้างหน้าเลย พวกเขาทั้งหมดไม่รู้ว่าจะต้องทำอะไรและได้แต่จ้องมองเจียงอี้พร้อมกับอาวุธในมือที่เปล่งประกายพร้อมที่จะโจมตีทุกเมื่อ
ปัง!
เจียงอี้หยุดอยู่บนท้องฟ้าห่างออกไปหนึ่งกิโลเมตรและโยนร่างหัวหน้าหลงไป และมันกระแทกลงบนก้อนหินซึ่งทำให้ก้อนหินแตกละเอียด ร่างนั้นก็แหลกเป็นชิ้นๆเช่นกันซึ่งทำให้ไส้ในของหัวหน้าหลงกระจายไปทั่วทุกที่
“มีสองทางเลือก!”
เจียงอี้มองไปที่ฝูงคนเหล่านั้นอย่างเย็นชาและพูดอย่างเฉยเมยว่า “นายของพวกเจ้าตายแล้ว พวกเจ้าเลือกได้ว่าจะภักดีต่อข้า….หรือพวกเจ้าจะตามนายของพวกเจ้าไปก็ได้ ผู้ที่เลือกข้า จงไปยังทางซ้ายของภูเขาห่างไปห้ากิโลเมตร ส่วนผู้ที่ปฏิเสธ พวกเจ้าเข้ามาได้เลย!”