เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 692 คำมั่นสัญญา!
“เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน?”
ดวงตาของหญิงสาวเป็นประกายแวววับ นางเคืองเล็กน้อยแต่นางก็จ้องไปที่เจียงอี้และกล่าวว่า “ก็นะ หัวหน้าเจียงน่าประทับใจนัก แต่ในเมื่อเจ้ารู้แล้วว่าข้าเป็นใคร เจ้ากล้าดียังไงถึงมาแกล้งข้าเช่นนี้! นี่หัวหน้าเจียง….ต้องการจะข่มขู่ข้าและครองเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างด้วย?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้หัวเราะออกมา เขาหันกลับมาพูดว่า “เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน อย่ามาบิดเบือนความจริง ใครกันที่เข้ามายั่วยวน? เจ้ามาหาข้าถึงที่และบอกให้ข้าทำอะไรที่ข้าต้องการก็ได้ เจ้าจะโทษผู้ใดได้? แต่ยังไงข้าก็ยังไม่ได้ทำอะไรเจ้าเลย มันเป็นเรื่องเล็กน้อยกับเจ้าในฐานะหัวหน้าอันดับหนึ่งของเมืองนี้ เช่นนั้นถ้าหากข้าทำให้เจ้ามีความสุขแทนคำขอโทษจะได้ไหม?”
เจียงอี้ไม่ได้รู้สึกประหม่าต่อหัวหน้าอันดับหนึ่งเลย เขาทำตัวอิสระและผ่อนคลายราวกับว่าเขากำลังคุยกับสหายเก่า เขาไม่ได้รู้สึกเคอะเขินหรือทำอะไรระมัดระวังเพราะตำแหน่งและพละกำลังของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเลย
เขาไม่รู้ว่าเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานคิดอะไรอยู่ แต่เมื่อนางมาเยี่ยมเขาเอง, แกล้งเขา และแกล้งมามอบกายให้เขา นางก็ไม่ได้ดูมุ่งร้ายอะไรนัก
เจียงอี้ยังเต็มใจสนิทสนมกับหัวหน้าอันดับหนึ่งของเมืองอีกด้วย และวิธีที่ดีที่สุดคือการปฏิบัติกับอีกฝ่ายในฐานะสหายธรรมดาคนหนึ่งแทนที่จะคิดว่านางเป็นหัวหน้า
อย่างที่คาด!
แม้ว่านางจะดูโกรธ แต่ดวงตาของนางก็เป็นประกาย นางเย้ยหยันและพูดว่า “ทำให้ข้ามีความสุข? เจ้าคิดว่าข้าเป็นขอทานหรือไง? เจ้านี่ไม่จริงใจเอาซะเลย”
“ฮึฮึ!”
เจียงอี้เผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา เขาจ้องไปที่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานและพูดว่า “เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน หากเจ้าพอใจกับข้อตกลงนั้น เอาอย่างนี้ไหมล่ะ…เจ้าจะทำสิ่งใดกับข้าก็ได้?”
“ปึง!”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานฟึดฟัดและหยิบเสื้อผ้าโยนไปให้เจียงอี้ นางกระแทกพื้นแล้วพูดว่า “เจ้าสารเลว! รีบล้างตัวได้แล้ว! บ้านเจ้าไม่มีชาสักถ้วยหรือไง? นี่เป็นวิธีต้อนรับแขกของเจ้าหรือ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้หัวเราะออกมาเมื่อเห็นเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานวิ่งไปที่ห้องโถงใหญ่ด้วยความอับอาย เขารีบล้างร่างกายก่อนจะนำชุดใหม่ออกมา และเมื่อแต่งตัวเรียบร้อยแล้วเขาก็เดินออกไป
“เอ่อ….”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานนั่งอยู่ในห้องโถงใหญ่ เมื่อนางเห็นเจียงอี้เข้ามาใกล้ๆนาง ดวงตาของนางก็เป็นประกายตามสัญชาตญาณ นางแอบตะลึงอยู่ลับๆ “ช่างเป็นหนุ่มที่หล่อเหลาอะไรเช่นนี้!”
เจียงอี้ไม่ได้ถือว่าหล่อเหลานัก อย่างมากเขาก็มีเรือนร่างที่ละเอียดลออและยังห่างไหลจากชายหนุ่งรูปงามตัวจริงด้วย
แต่ในตอนนี้มันต่างไปแล้ว!
ด้วยการขัดเกลาหญ้ามังกรยาจก ไม่เพียงแต่ผิวพรรณของเขาจะขาวราวกับหยก แต่ร่างกายของเขายังสมบูรณ์ด้วย เขามีไหล่ที่กว้าง มีเอวคดและมีขาเรียวยาว ที่สำคัญที่สุดคือ กลิ่นอายของเขาผิดปกติ อายุเขายังไม่ถึงสิบเก้าปีเลยด้วยซ้ำแต่กลับมีประสบการณ์และความเปลี่ยนแปลงและฉลาดราวกับชายวัยกลางคนเสียแล้ว
กลิ่นอายเช่นนี้ไม่ควรปรากฏในร่างชายหนุ่ม แต่เมื่อมันเกิดขึ้นแล้ว สำหรับผู้หญิงแล้ว…มันก็ถึงตายได้เลย!
ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่เจียงอี้กลายเป็นหัวหน้า เขาก็ปล่อยกลิ่นอายของผู้นำออกมาอย่างเป็นธรรมชาติ เจียงอี้จึงมีเสน่ห์ต่อหญิงสาวทั้งหลาย แม้แต่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานที่เจอผู้ชายมามากมายนับไม่ถ้วนยังต้องยอมรับว่าเจียงอี้มีเสน่ห์ที่ทำให้หญิงสาวคลั่งไคล้ได้
เจียงอี้ชอบชุดธรรมดาและเสื้อคลุมสีดำ ขณะที่เขากำลังจะไปพบเจอกับแขกและฉลองกับหัวหน้าหลายคน เขาก็สวมเสื้อคลุมสีดำปักลาย ซึ่งมันทำให้เขาดูโดดเด่นมากยิ่งขึ้นซึ่งมันบ่งบอกได้จากสายตาของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน
โชคดีที่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานผ่านประสบการณ์มามากและเชี่ยวชาญในด้านการฝึกฝนดวงจิตวิญญาณ นางจึงดึงสติกลับมาได้ทันที นางยิ้มอย่างแผ่วเบาและกล่าวว่า “หัวหน้าเจียง เจ้านี่ช่างน่าประทับใจจริงๆ”
“ฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้หัวเราะออกมาและนั่งอยู่ตรงข้ามเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน เขาหยิบไวน์ชั้นดีออกมาจากแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณและเติมมันให้กับเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน จากนั้นเขาก็ค่อยๆพูดว่า “เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน ข้าไม่ได้ใช้หน้าตาหากินและคงไม่สามารถเป็นของเล่นได้ แต่แน่นอนว่า หากเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานต้องการเก็บข้าไว้ เช่นนั้น”.Aileen-novel.
“อึ้ก!”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานสำลักออกมา นางถูกล้อเลียนซ้ำแล้วซ้ำเล่า หากเป็นคนอื่นทำเช่นนี้ นางคงโกรธมากแน่นอน แต่เมื่อนางเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเจียงอี้ นางก็โกรธไม่ลงแต่กลับรู้สึกเร้าใจอย่างบอกไม่ถูก
นางกลอกตาไปทางเจียงอี้และพูดว่า “หัวหน้าเจียง เจ้าเป็นถึงผู้บัญชาการนะ! ชื่อของเจ้ากึกก้องไปทั่วเมือง หากจะมีใครต้องการถูกเก็บเป็นสัตว์เลี้ยง มันควรจะเป็นเจ้าที่เก็บข้าไว้มากกว่า”
“ฮิฮิ!”
เจียงอี้ยิ้มอย่างสงบและพูดว่า “เอาล่ะๆ เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน ข้าไม่ล้อเล่นแล้ว เอาจริงๆข้าไม่ได้ชอบความรุนแรงเลย หากป้าเตาและหัวหน้าหลงไม่กดดันข้าถึงเพียงนั้น ข้าคงไม่สังหารพวกเขาหรอก ข้าเพียงได้ยินว่าหัวหน้าเหลิ่งมุ่งร้ายกับข้าก่อน ข้าไม่ได้ทะเยอทะยานอะไรนัก ขอเพียงได้ใช้ชีวิตอย่างสงบสบายและหวังว่าจะได้รับการคุ้มครองจากเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน หากเจ้าต้องการสิ่งใดจากข้า ข้าจะไม่ขัดขืนคำสั่งเจ้า”
คำมั่นสัญญา!
เจียงอี้เผยทัศนคติของเขาออกมาชัดเจนมาก เขาไม่ได้ต้องการจะเป็นคู่แข่งเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเลยและเพียงแค่อยากจะใช้ชีวิตอย่างสงบสุข
เขาประพฤติตัวด้วยความเคารพและความอ่อนน้อมอย่างลึกซึ้ง เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเองก็ไม่ได้เกลียดชังเขาและยังมาหาเขาเองอีก นางไม่เดือดดาลแม้กระทั่งตอนที่เขาแกล้งนาง และที่สำคัญที่สุด เจียงอี้ยังไม่ได้เห็นความสามารถของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน เขาเพียงแค่รู้สึกว่านางอันตรายมากและนางสามารถสังหารเขาได้ด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว
ฮึฮึ!
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์
เจียงอี้เป็นคนฉลาดและรู้วิธีตกลงกับผู้คน เขาไม่ได้เอาแต่ใจเหมือนแต่ก่อน นอกจากนี้ เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานก็รู้สึกว่าเจียงอี้จริงจังมาก เขาไม่ได้อยากแย่งชิงอำนาจจริงๆ
มันคือความเคารพซึ่งกันและกัน!
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานนิ่งไปชั่วขณะและพูดอย่างอ่อนโยนว่า “หัวหน้าเจียง หากเจ้าอยากอยู่ในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างอย่างสบายๆ เจ้าต้องไปเยี่ยมเจ้าเมืองและหัวหน้าทั้งสิบคน ยิ่งกว่านั้น….เจ้ารับคนของพี่เหิงไม่ได้และจะได้ครองภูเขาอัสนีแค่เพียงลูกเดียว หากเจ้าทำได้ ข้าไม่คิดว่าจะมีใครสร้างปัญหากับเจ้า”
เจียงอี้พยักหน้าและลุกขึ้นยืน เขาคำนับนางและพูดด้วยความยินดี “ขอบคุณเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานสำหรับคำชี้แนะ ข้าจะจำเอาไว้”
“เอ่อ….”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานนิ่งงันไปและถามด้วยความสงสัย “เจ้าไม่โกรธหรือ?”
เจียงอี้เองก็สงสัยเช่นกันและถามว่า “ทำไมข้าถึงต้องโกรธกัน?”
“…”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานพูดไม่ออก เจียงอี้สังหารหัวหน้าไปสามคน, นำคนของหัวหน้าทั้งสามมาเป็นคนของตนและเอาชนะหัวหน้าเหลิ่ง ตามหลักแล้ว เขาน่าจะต้องการครอบครองภูเขาอัสนีสามแห่งเพื่อให้ลูกน้องของเขาได้หินอัสนีมาเพิ่มขึ้นและเขาจะได้แต้มความดีความชอบมากขึ้น
แต่เจียงอี้ไม่เคยคิดจะครอบครองภูเขาอัสนีทั้งสามลูก ดังนั้นเขาจึงตกลงกับนางทันที เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานกลอกตาและยิ้ม “หัวหน้าเจียงเด็ดขาดนัก เจ้าเป็นคนตั้งใจทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ ข้าเลื่อมใสจิตใจของเจ้านัก”
“ฮึฮึ!”
เจียงอี้หันมามองและเข้าใจรางๆว่าเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานหมายถึงอะไร เขายิ้มเบาๆและพูดว่า “เจ้าบุกเข้าไปในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างด้วยตัวเอง, สังหารหัวหน้าคนอื่นในชั่วพริบตาและยังข่มขู่ผู้คนเอาไว้ ข้าควรเลื่อมใสเจ้ามากกว่าที่ไม่มีผู้ใดกล้าท้าทายพลังของเจ้าในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”
“เจ้าช่างน่ารักอะไรเช่นนี้ ก็ได้ ข้าจะปฏิบัติต่อเจ้าเหมือนน้องชายของข้า ข้าจะพาเจ้าไปพบเจ้าเมืองสักครั้ง!”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานลุกขึ้นและเดินออกไปข้านอก เมื่อนางอยู่หน้าประตู นางก็โบกมือและให้เจียงอี้หยุดอยู่ตรงนั้น จากนั้นนางก็หันกลับมาและยิ้มอย่างงดงาม “น้องเล็ก มาเยี่ยมพี่สาวของเจ้าบ้างล่ะ แล้วข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความอร่อย….”
“ความอร่อย?”
เจียงอี้เลิกคิ้วและชำเลืองมองไปยังเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน จากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาและพูดว่า “ช่างเป็นสาวงามที่น่าดึงดูดใจนัก คงไม่มีสิ่งใดอร่อยไปกว่าพี่สาวของข้าแล้วล่ะ….”
“ฮึ!”
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานฟึดฟัดออกมาเงียบๆและจากไปด้วยความอับอาย
….