เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 718 เดินทางไปยังภูเขา
เกาะพยัคฆ์ขาวมีขนาดใหญ่มาก แม้แต่ผู่เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำเองก็ยังต้องใช้เวลาในการบินข้ามเกาะนี้อย่างน้อยครึ่งเดือน จริงๆแล้ว เกาะนี้ก็ไม่ได้ต่างจากทวีปเล็กๆเลย
เกาะนี้มีเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสองของหมู่เกาะมังกรขาว นั่นคือเมืองพยัคฆ์ขาว ซึ่งมีเมืองเล็กๆอยู่ด้วยอีกสามสิบเมือง ภูมิประเทศของเกาะนั้นก็ซับซ้อนมากและส่วนใหญ่มักจะเป็นทิวเขาที่สูงตระหง่านหรือเป็นหุบเหวลึก เกาะนี้ยังตั้งอยู่บนด้านใต้สุดของหมู่เกาะมังกรขาว และอยู่ติดกับหมู่เกาะมังกรฟ้า นั่นทำให้สถานที่นี้เจริญรุ่งเรืองมาก ผู้คนจากหมู่เกาะมังกรฟ้าต้องใช้เส้นทางนี้เพื่อเข้าไปยังหมู่เกาะมังกรขาว
ดังนั้น….มันจึงมีโจรมากมายในเกาะพยัคฆ์ขาวซึ่งมีอย่างน้อยๆก็สามสี่ร้อยกลุ่ม และโจรภูเขาเหล่านี้ก็มีสมาชิกอย่างน้อยหนึ่งร้อยคน กลุ่มที่มีสมาชิกเพียงไม่กี่สิบหรือไม่กี่ร้อยนั้นไม่ถูกนับรวม
โจรภูเขาซ่อนตัวอยู่ในภูเขามากมาย ไม่ว่าจะบ่มเพาะพลัง, ล่าสัตว์ หรือซุ่มโจมตี ยิ่งไปกว่านั้นคือจอมยุทธทั่วไปจะหาพวกมันไม่เจอและหากพวกเขาเหล่านั้นประมาท พวกเขาก็จะถูกเหล่าโจรภูเขาเล่นงานและสังหารได้
ทุกเมืองในเผ่าเทพประทานขายสิ่งประดิษฐ์ลึกลับชนิดหนึ่งที่เรียกว่าศิลาลวงตา และเมื่อมีศิลาลวงตานี้ พวกเขาก็จะตั้งเขตมายาได้ทุกที่ มันดูเหมือนว่าจะถูกทั้งสิบสามตระกูลสร้างขึ้นมาไว้ใช้กับจอมยุทธที่ไม่มีคุณสมบัติที่จะอาศัยอยู่ในเมือง และกลุ่มโจรภูเขาเกือบทั้งหมดมีศิลาลวงตาที่มีความแข็งแกร่งแตกต่างกันไป ปกติแล้วพวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ตามภูเขาหรือภูมิประเทศพิเศษ พวกเขาจะเผยเขี้ยวเล็บออกมาก็ต่อเมื่อมีคนผ่านมาเท่านั้น
อย่างเช่นเวลานี้!
เจียงอี้และคนอื่นๆไม่ได้บินบนท้องฟ้าเพราะมันจะสะดุดตาเกินไปและพวกเขาก็จะตายเร็วขึ้นอีก หลังจากที่วิ่งบนเกาะเป็นเวลาสองชั่วโมง คนนับพันก็พุ่งออกมาจากภูเขาทันทีที่พวกเขาผ่านหุบเขามาและโจมตีทันทีโดยไม่พูดอะไรออกมาเลยแม้แต่คำเดียว
หุบเขานี้เล็กมากและเจียงอี้ก็ตรวจสอบและไม่พบสิ่งใดผิดปกติ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สนใจเลย ใครจะไปคาดคิดว่าจะมีจอมยุทธมากมายพุ่งออกมากัน?
“ฆ่า!”
เจียงอี้โบกมือของเขาและคนทั้งหนึ่งร้อยห้าคนก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าพร้อมกับแผ่กลิ่นอายและเปิดใช้งานโล่ศักดิ์สิทธิ์ขณะที่สาดเทการโจมตีที่หลากหลายออกมา
“กลุ่มแข็งแกร่ง ถอย!”
“ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนเยอะมาก รีบหนีเร็ว!”
“บ้าเอ้ย ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนพวกนี้ซ่อนกลิ่นอายตัวเองเอาไว้….”
หลังจากที่เข้าสู่เกาะพยัคฆ์ขาวแล้ว เจียงอี้ก็ให้ทุกคนลดความเร็วและปิดกลิ่นอายของตัวเองจึงทำให้ยากต่อการตัดสินถึงความแข็งแกร่งที่แท้จริงจากระยะไกลเมื่อใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์
เหล่าโจรในหุบเขานั้นก็ไม่ได้แย่นักและโดยพื้นฐานแล้วเป็นพวกขอบเขตจินกัง และมีขอบเขตเทียนจุนกว่ายี่สิบคน แต่ไม่มีขอบเขตเทียนจุนระดับกลางแม้แต่คนเดียว เมื่อหยางตงและคนอื่นๆแผ่กลิ่นอายของพวกเขาออกมา ทุกคนต่างพากันตกใจและรีบหนีไปทั่วทุกสารทิศอย่างร้อนรน
จี๊! จี๊!
ฮูว ฮูว!
แกร๊ง แคร้ง!
….
หยางตง, หนิวเติงและคนอื่นๆไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เมื่อโจรภูเขาเหล่านี้กล้ามาขวางทางพวกเขา พวกเขาจึงสังหารโจรเหล่านั้นอย่างพอใจก่อน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าร้อยคนปลดปล่อยการโจมตีรูปแบบเต๋า, ความสามารถพิเศษและสิ่งประดิษฐ์อันทรงพลังออกมา
ในช่วงเวลานั้น ท้องฟ้าเต็มไปด้วยแสงและการระเบิดอย่างต่อเนื่องในขณะที่อากาศโดยรอบสั่นสะเทือนและเกิดหลุมจากการต่อสู้ไปหมด ยอดเขาทั้งสามที่อยู่ใกล้ๆหุบเขาเล็กๆเกือบพังทลายลงมากับพื้น เศษหินกระเด็นไปทั่วทุกสารทิศขณะที่ควันลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า
“อ๊ากกก!”
“ท่านใต้เท้า หยุดสังหารเราเถอะ! เรายอมแล้ว เรายอมแล้ว!”
“ไว้ชีวิตเราด้วย ท่านใต้เท้า…..”
มีคำวิงวอนมากมายร้องขอความเมตตา, เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวช, เสียงโหยหวนที่ทรมาน แต่หยางตงและคนอื่นๆไม่สนใจขณะที่ยังคงไล่สังหารพวกเขาอย่างไร้ปรานี
จากโจรทั้งหมดสามสี่พันคน นอกจากคนเจ็ดแปดร้อยคนที่โชคดีหลบหนีไปได้ก่อนแล้ว พวกเขาที่เหลือทั้งหมดก็ถูกสังหารจนสิ้น พื้นที่แถบนั้นเต็มไปด้วยซากศพ, อาวุธที่แตกเป็นเสี่ยงๆ, ชุดเกราะและสิ่งประดิษฐ์มากมาย เลือดได้ย้อมผืนดินนี้จนเป็นสีแดงและกลายเป็นสายน้ำ
เจียงอี้ยืนอยู่กลางอากาศตลอดเวลาโดยที่ไม่ได้เคลื่อนไหวเลยขณะที่ไม่มีอารมณ์ใดๆเผยบนใบหน้าของเขา เขาไม่ได้สั่งให้หยุดโจมตี และถึงเจียงอี้จะไม่ใช่คนที่ชอบเข่นฆ่าใคร แต่เมื่อกลุ่มโจรภูเขานี้กล้ามาขัดขวางพวกเขา พวกเขาก็ต้องพร้อมที่จะถูกสังหาร การเดินทางไปยังเขาวายุทมิฬอาจมีการต่อสู้ที่ดุเดือดและมันจะเป็นการดีสำหรับทุกคนที่จะได้อุ่นเครื่องเตรียมพร้อมกันด้วย
“หยุดไล่ล่า เก็บกวาดสนามรบ หยางตง แบ่งของที่ปล้นมาได้ให้ทุกคนเลย” เมื่อเห็นหนึ่งในขอบเขตเทียนจุนพยายามไล่ตามไป เจียงอี้ก็ออกคำสั่งลงมา
ทุกคนรู้สึกยินดีในทันทีเมื่อได้ยินที่เจียงอี้พูด มันอาจมีแหวน, อาวุธ, ชุดเกราะและสิ่งประดิษฐ์มากมายที่ถูกทำลายไป แต่เมื่อนำของที่เหลือมารวมกันก็ยังถือว่ามหาศาลอยู่ดี หากทุกคนได้ส่วนแบ่ง มันก็เหมือนได้โชคลาภเล็กๆน้อย เจียงอี้เองก็ใจกว้างมากและเขาไม่ได้ต้องการสิ่งใดเลย
อย่างที่คาดไว้! ไอลีนโนเวล
หลังจากที่รวบรวมของและเผาศพทั้งหมดแล้ว พวกเขาก็พบว่ามีศิลาสวรรค์เกือบหนึ่งล้านก้อนและทุกคนก็ได้ส่วนแบ่งกันไปค่อนข้างมาก
“ออกเดินทางกันเถอะ!”
เจียงอี้โบกมือและให้ทุกคนบินในระดับต่ำ คราวนี้เขาหลับตาลงและเข้าสู่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาไม่สามารถตรวจสอบผู้คนในหุบเขาได้เลย แต่สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์ของเขาจะเฉียบแหลมกว่ามากและมันจะช่วยให้เขาเจอผู้คนได้อย่างง่ายได้แม้แต่ความผันผวนของสภาพแวดล้อมเล็กน้อยเองก็ยังสัมผัสได้
“ทุกคน ระวัง!”
หลังจากที่บินไปได้หนึ่งชั่วโมง เจียงอี้ก็ลืมตาขึ้นมาทันทีขณะที่เขามองไปยังหุบเขามืดๆด้านหน้าด้วยดวงตาที่เฉียบแหลมและพูดว่า “มีคนอยู่ในหุบเขานั้นประมาณสี่ห้าร้อยคน กลิ่นอายของพวกนั้นไม่ถือว่าทรงพลังและน่าจะมีขอบเขตเทียนจุนแปดคน เตรียมตัวเอาไว้ด้วย”
“ขอรับ!”
หยางตงและคนอื่นๆเผยรอยยิ้มที่โหดร้ายออกมาขณะที่พวกเขาปกปิดกลิ่นอายและบินไปข้างๆหน้าอย่างช้าๆ และตามที่คาดไว้ เมื่อพวกเขาผ่านหุบเขาไป ผู้คนหลายร้อยคนก็พุ่งขึ้นมาบนท้องฟ้าและปล่อยการโจมตีมายังพวกเจียงอี้
บรึฟ!
ทุกคนเปิดใช้งานโล่ศักดิ์สิทธิ์ทันทีซึ่งส่องสว่างด้วยแสงสีทองไปครึ่งท้องฟ้า ทุกคนหลบหลีกด้วยความเร็วสูงสุดขณะที่ปล่อยการโจมตีต่างๆออกมา ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างตกตะลึงเพราะตอนแรกกลิ่นอายของคนเหล่านี้ไม่ได้แข็งแกร่งขนาดนี้ แต่พวกเขากลับกลายเป็นขอบเขตเทียนจุนกันหมดได้อย่างไร?
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าร้อยคนที่มีพลังมหาศาลแกล้งทำเป็นจอมยุทธผู้อ่อนแอและหลอกล่อพวกเขาให้ติดกับ แล้วจะเกิดอะไรขึ้น…..?
“หนี!”
เมื่อพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุน พวกเขาทั้งหมดก็มีท่าทีสิ้นหวังทันที แต่พวกเขาก็ยังพยายามจะหลบหนีไป โชคร้ายที่มีขอบเขตเทียนจุนนับร้อยอยู่ที่นี่และหากพวกเขาปล่อยให้ศัตรูหนีไปได้ ยอดฝีมือเหล่านี้ก็คงอยากจะฆ่าตัวตายเช่นกัน
การต่อสู้จบลงอย่างรวดเร็วและเจียงอี้ก็โบกมือและพูดว่า “เก็บกวาดสนามรบและแบ่งของที่ได้จากศัตรู”
“ฮิฮิ!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนต่างพากันร่าเริงและจิตใจที่หนักอึ้งของพวกเขาก็มีความสุขขึ้นมาก ดูเหมือนว่าพวกเขาจะร่ำรวยขึ้นมากหากพวกเขาสังหารไปตลอดทางตั้งแต่การไปยังจุดหมายปลายทางและการกลับไปยังเมืองอัสนีฟ้ากระจ่าง
แต่ในช่วงหลังๆพวกเขาก็ไม่ได้มีโชคมากนักเนื่องจากพวกเขาไม่เจอกลุ่มโจรอีกเลย ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ทุกคนก็มาถึงบริเวณใกล้ๆเขายักษ์แล้ว
เทือกเขานั้นเต็มไปด้วยหินสีดำ, หุบเหวที่นับไม่ถ้วนและลมหนาว ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปใกล้พวกเขาก็รู้สึกได้ว่าเลือดของพวกเขาเย็นเยือกลงเพียงแค่มองจากระยะไกล เจียงอี้หรี่ตาของเขาลงและไม่ต้องการให้คนเหล่านี้เข้าไปในภูเขา เขาออกคำสั่งว่า “ทุกคนระวังตัวไว้และรอข้าสำรวจที่นั่นก่อน”
เจียงอี้ปล่อยญาณศักดิ์สิทธิ์และสำรวจพื้นที่รัศมีหนึ่งล้านกิโลเมตรซึ่งใช้เวลาไปครึ่งวันจนท้องฟ้าใกล้มืดแล้ว ในที่สุดเขาก็ลืมตาอย่างหมดหนทาง เขาสำรวจเทือกเขาวายุทมิฬบริเวณใกล้ๆแล้วแต่ไม่พบใครเลยแม้แต่คนเดียว เห็นได้ชัดว่ามันเป็นเขตลวงตา
“หยางตง!”
เขายืนขึ้นมาและตะโกนว่า “ข้าจะพาพวกเจ้าเข้าไปในสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติ หลังจากที่พวกเจ้าเข้าไปในนั้นแล้ว เตรียมพร้อมต่อสู้ทุกเมื่อ และเมื่อจำเป็น ข้าจะนำพวกเจ้าออกมาและเริ่มฆ่าได้ทันที”
“ขอรับหัวหน้าเจียง!”
หยางตงป้องกำปั้นและรับคำสั่งเจียงอี้ สีหน้าของทุกคนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขณะที่ราชวังจักรพรรดิปรากฏขึ้นและเจียงอี้ก็นำทุกคนเข้าไป ราชวังจักรพรรดินั้นใหญ่มากและแม้พวกเขาทั้งหมดเข้าไปแล้ว พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกแออัดอะไร
ฟรึ่บ!
เนื่องจากเขาหาศัตรูไม่เจอ เขาจึงต้องเสี่ยงเดินทางเข้าไปยังภูเขา เจียงอี้เข้าสุ๋สภาวะมนุษย์ประสานสวรรค์และพุ่งตรงไปยังเทือกเขาวายุทมิฬทันที