เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 724 ไม่มีผู้ใดหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 724 ไม่มีผู้ใดหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!
“ข้าน่าจะลองย้ายร่างฉับพลันดูก่อน โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีจะแตกหรือเปล่านะ?”
ดวงตาของเจียงอี้สั่นไหว หลังจากที่เขาต้านการโจมตีไปหนึ่งรอบ ร่างของเขาก็หายไปจากจุดเดิมและปรากฏตัวขึ้นที่เส้นทางด้านหลังเขา สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ….โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีไม่แตก มันเปรียบเสมือนรังไหมที่ห่อหุ้มร่างกายของเขาเอาไว้แน่น
บรึฟ!
เจียงอี้ย้ายร่างฉับพลันอีกครั้ง และร่างของเขาก็ถูกผลักออกมาอยู่ในพื้นที่ดินเหนียวขณะที่ดาบมังกรเพลิงร่ายรำไปรอบๆ และทำให้พวกมันแตกออกเป็นเสี่ยงๆไปหมด เขาใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ตรวจสอบพื้นที่และเห็นว่ามีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสิบคนอยู่ที่จุดหนึ่ง ทันใดนั้นเขาก็หายตัวไปและย้ายร่างฉับพลันไปยังที่ที่คนเหล่านั้นอยู่ทันที
“เอ๊ะ?” ในตอนนี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสิบคนคอยอาศัยความร้อนที่แผดเผาและการสั่นสะเทือนของพื้นดินเพื่อตรวจจับจุดที่เจียงอี้อยู่ แต่ตอนนี้เจียงอี้ย้ายร่างฉับพลัน ดังนั้นการสะเทือนที่พื้นผิวจึงขาดๆหายๆ นอกจากนี้ อุณหภูมิที่สูงก็หายลับไปในทันใดขณะที่ความร้อนนั้นแผดเผาขึ้นมาอีกครั้ง ซึ่งมันทำให้พวกเขาตัดสินใจกันไม่ได้ชั่วครู่หนึ่ง
เมื่อพวกเขาเริ่มลังเล พื้นดินที่อยู่ด้านหน้าห่างออกไปประมาณหนึ่งกิโลเมตรก็เริ่มสั่นเล็กน้อย หลังจากนั้น คลื่นความร้อนก็พัดผ่านเข้ามา อุณหภูมิที่สูงจนน่าสะพรึงนี้ทำให้ทุกคนหวาดกลัวมากจนหน้าถอดสีและดวงจิตวิญญาณของพวกเขาแทบจะแตกเป็นเสี่ยงๆ
แน่นอนว่า….ดวงจิตวิญญาณของพวกเขาจะต้องสลายไปในไม่ช้า!
ความร้อนปกคลุมไปทั่วพื้นที่ทันที โล่ศักดิ์สิทธิ์ของขอบเขตเทียนจุนเหล่านั้นที่ค่อนข้างอยู่ในระดับต่ำถูกทำลายลงหลังจากนั้นเพียงชั่วครู่ คนอื่นๆต่างก็หวาดกลัวและอยากจะหนีไปแต่ความร้อนนั้นแล่นผ่านโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาและแผ่เข้าไปในร่างของพวกเขาแล้ว มันทำให้ร่างกายของพวกเขาทรมานเป็นอย่างมาก และเนื่องจากอุณหภูมินั้นสูงขึ้น ความเร็วของพวกเขาจึงลดลงไปมากและเจียงอี้ก็เริ่มย้ายร่างฉับพลันอีกครั้ง
บรึฟ!
คราวนี้ เจียงอี้ย้ายร่างฉับพลันไปที่หลุมตรงหน้าพวกเขาเลยและอยู่ห่างจากพวกเขาเพียงไม่กี่เมตร และเมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนราวๆสี่ห้าคนตระหนักได้ว่าโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขากำลังจะแตกสลายไป ดวงตาของพวกเขาก็เผยความบ้าคลั่งออกมาและปลดปล่อยการโจมตีครั้งสุดท้ายด้วยพลังทั้งหมด พวกเขาพยายามที่จะลากเจียงอี้ให้ตกตายไปกับพวกเขาด้วย
ตูม! ตูม! ตูม!
ลำแสงต่างๆถูกสาดเทมาที่เจียงอี้ แต่สิ่งที่ทำให้พวกเขาทั้งหมดต้องตายไปด้วยความคับข้องใจนั่นก็คือ…..เมื่อการโจมตีเหล่านั้นปะทะเข้ากับร่างของเจียงอี้ พวกมันทั้งหมดก็ถูกปัดผ่านตัวเจียงอี้ไป แม้แต่โล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางก็ยังแตกสลายไปเมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีมากมาย แต่ดูเหมือนว่าเกราะป้องกันสีฟ้ารอบตัวเจียงอี้จะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย
“อ๊ากก!”
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังขึ้นมา ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าสิบคนถูกแผดเผาเป็นเถ้าถ่านไปหมด แม้แต่สิ่งประดิษฐ์ของพวกเขาก็ยังละลายไปด้วย เหลือเพียงสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์และแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณกว่าสิบวงเท่านั้น
ฟรึ่บ!
เจียงอี้พุ่งออกไปและเห็บสมบัติทั้งหมดที่ยังไม่ถูกทำลายมา เขาตรวจสอบพื้นที่ด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อีกครั้งและพบผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนเกือบสี่สิบคนที่พุ่งมาจากด้านหน้าประมาณสิบกิโลเมตร มุมปากของเจียงอี้โค้งขึ้นมาและกลิ่นอายสังหารของเขาเริ่มเย็นเยียบ
“นั่นมันเสียงหลิวซานนี่!” “หยุดก่อน!”
“เกิดอะไรขึ้น? หลิวซานและคนอื่นๆถูกสังหารได้ยังไง?”
“ใครสังหารพวกเขา? หรือว่าจะเป็นหมาป่าเดียวดาย? ใช่แล้ว อุณหภูมิที่นั่นสูงเกินไป หมาป่าเดียวดายน่าจะอยู่ตรงนั้น…”
“จู่โจม จู่โจม!”
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชทำให้ทั้งสี่สิบกว่าคนรู้สึกขนลุกทันที ก่อนหน้านี้ เจียงอี้ยังเป็นผู้ถูกไล่ล่าและยังไม่มีกำลังจะตอบโต้อยู่เลย แต่ทำไมตอนนี้เขาถึงตอบโต้ล่ะ? นอกจากนี้เขายังสังหารคนของพวกเขาไปอีกกว่าสิบคนในเวลาสั้นๆเช่นนี้อีก?
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
อย่างไรก็ตาม ทุกคนก็ระบุตำแหน่งของเจียงอี้ได้ลางๆและปล่อยการโจมตีไปทางนั้นทันที การโจมตีที่รุนแรงกว่าสี่สิบสายทะลวงใต้ดินไปทั่ว ส่วนพื้นดินก็สั่นสะเทือนไม่หยุดเนื่องจากเกิดหลุมขึ้นมาหลายแห่ง ในหมู่พวกเขาสี่สิบคนมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางอยู่ด้วย นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งในสามคนที่แข็งแกร่งที่สุดในกองทัพวายุทมิฬ การโจมตีของคนผู้นี้รุนแรงที่สุดและความแข็งแกร่งของเขาก็เทียบได้กับหัวหน้าเหลิ่ง เขาปลดปล่อยภาพลวงตาของกะโหลกสัตว์อสูรซวนหนีที่ถูกอัดแน่นด้วยแก่นแท้พลัง ดินจะกลายเป็นผุยผงทันทีที่กะโหลกนี้ผ่านไป มันเจาะเป็นรูขนาดใหญ่ที่มีความกว้างหลายสิบเมตร เมื่อกะโหลกซวนหนีพุ่งผ่านไป หลุมนั้นก็จะพังทลายลงมาทำให้พื้นดินรอบๆสั่นสะเทือนซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับเกิดแผ่นดินไหวครั้งใหญ่
“เหอะ เหอะ!”
เจียงอี้ไม่สนใจการโจมตีของทุกคน แม้ว่ากะโหลกซวนหนีขนาดยักษ์จะปะทะเข้ากับร่างของเขา มันก็แล่นผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แต่มันก็กลืนกินเปลวเพลิงอัสนีไปค่อนข้างมากถึงหนึ่งในสิบส่วนของจำนวนเปลวเพลิงอัสนีทั้งหมด
“โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีไม่น่าจะแตกสลายไปได้! ฆ่า…”
เจียงอี้ย้ายร่างฉับพลัน คราวนี้เขาไม่กลัวที่จะย้ายร่างฉับพลันแล้ว เขาจะย้ายร่างฉับพลันไปทางตะวันออกก่อนที่จะย้ายร่างฉับพลันไปทางตะวันตกสลับกัน ซึ่งทำให้คู่ต่อสู้ไม่สามารถจับตำแหน่งที่แน่ชัดได้ และจะทำให้เกิดการตัดสินใจพลาดมากขึ้น
“ถอย!”
ในที่สุดฝั่งศัตรูก็ตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติขณะที่เจียงอี้ค่อยๆเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น อุณหภูมิก็สูงขึ้นเรื่อยๆและการโจมตีของพวกเขาแทบจะไม่พุ่งโดนเจียงอี้เลย หากเจียงอี้เข้าใกล้พวกเขาได้ พวกเขาก็จะต้องตายอย่างเลี่ยงไม่ได้
บรึฟ!
แต่ใครจะไปรู้?
เจียงอี้ย้ายร่างฉับพลันอีกครั้ง เมื่อก่อนการย้ายร่างฉับพลันของเขาจะปกคลุมไปได้ประมาณไม่กี่ร้อยเมตร แต่ในตอนนี้มันย้ายร่างฉับพลันได้หลายพันเมตรแล้ว เจียงอี้ลดระยะห่างระหว่างพวกเขาจนเหลือเพียงไม่กี่เมตรและอุณหภูมิที่น่าสะพรึงทำให้ความเร็วของฝ่ายศัตรูลดลงอย่างมาก แม้ว่าโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาจะยังไม่แตกสลาย แต่บางคนก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายแห่งความตายแล้ว
“ไอ้สารเลว ตายซะ!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางที่ทรงพลังเห็นความเร็วของผู้คนมากมายช้าลง และเขาก็รู้ดีว่าพวกเขาจะไม่สามารถหนีไปได้อีกต่อไป ร่องรอยของความบ้าคลั่งปรากฏอยู่ในดวงตาของเขาและเขาก็ไม่คิดที่จะหนีอีกต่อไป แก่นแท้พลังสีเทาเข้มพุ่งออกมาจากมือของเขาขณะที่มันรวมเข้ากับภาพลวงตาของกะโหลกซวนหนีขนาดใหญ่ ทันใดนั้นเขาก็ปลดปล่อยมันไปทางเจียงอี้ผู้ที่อยู่ห่างจากเขาหลายเมตร
จี๊! จี๊! ไอลีนโนเวล
เมื่อกะโหลกปรากฏขึ้น พื้นที่รอบๆก็เริ่มผันผวนขณะที่ดินถูกบดขยี้เป็นผุยผง ความเร็วของมันรวดเร็วมากและก่อนที่เจียงอี้จะทันได้ย้ายร่างฉับพลัน เขาก็ถูกการโจมตีปะทะเข้าแล้ว
ตูม! ตูม!
เมื่อกะโหลกซวนหนีปะทะเข้ากับร่างเจียงอี้ มันก็ยังหลุดผ่านไปเหมือนเดิม แต่เจียงอี้ก็ถูกส่งให้ปลิวกลับไปอยู่หลายเมตร ทันใดนั้น โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีที่แต่เดิมเป็นสีฟ้าเข้มกลับเปลี่ยนเป็นสีฟ้าอ่อน เพราะพลังของเปลวเพลิงอัสนีถูกใช้ไปกว่าครึ่งหนึ่งแล้ว
“น่ากลัวนัก! โชคดีที่โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีไม่แตกสลายไป ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องตายอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่….ในเมื่อข้าไม่ตาย มันก็ถึงคราวที่พวกเจ้าทุกคนต้องตายได้แล้ว!”
ร่างของเจียงอี้เปล่งแสงสีขาวขณะที่เขาหายไป ในวินาทีถัดมา เขาก็ปรากฏตัวห่างจากคนที่กำลังหนีประมาณสามเมตร
“อ๊าก!”
ทันใดนั้น โล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้คนนับสิบก็แตกสลายไปและทิ้งเสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชเอาไว้ก่อนที่จะกลายเป็นเถ้าถ่านไป ส่วนโล่ศักดิ์สิทธิ์ของคนอื่นๆก็เริ่มพากันแตกสลายไป มีเพียงโล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางเท่านั้นที่ยังคงอยู่ได้อีกชั่วครู่
“ไอสารเลว งั้นก็ตายพร้อมกันเถอะ!”
ใบหน้าของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางเต็มไปด้วยความร้ายกาจ ทันใดนั้นเขาก็รวบรวมภาพลวงตากะโหลกซวนหนีอีกครั้งและต้องการที่จะลากเจียงอี้ให้พินาศไปพร้อมกับเขา
แต่ก่อนที่เขาจะได้ปล่อยการโจมตี ไข่มุกวิญญาณเพลิงบนมือของเจียงอี้ก็สว่างขึ้นมาทันที เปลวเพลิงอัสนีจำนวนนับไม่ถ้วนพวยพุ่งออกมาจนทำให้อุณหภูมิในบริเวณนั้นสูงขึ้นจนน่าสะพรึง
โล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางอาจคงอยู่ในชั่วขณะแต่ร่างของเขาไม่สามารถทนได้ โล่ศักดิ์สิทธิ์สามารถแบ่งเบาอุณหภูมิลงได้บ้าง แต่ตอนนี้พวกเขาอยู่ใกล้กันเกินไป มันแทรกซึมเข้าไปในโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้และเลือดภายในร่างกายของเขาก็เริ่มถูกแผดเผา ร่างของเขาเจ็บปวดทรมานมากและไม่สามารถปล่อยการโจมตีได้อีกต่อไป
ป๊อป….
โล่ศักดิ์สิทธิ์แตกออกราวกับฟองสบู่ แล้วเขาก็เริ่มลุกเป็นไฟในเวลาต่อมาและเริ่มส่งเสียงโหยหวนที่เกรี้ยวกราดออกมา จนท้ายที่สุดร่างของเขาก็กลายเป็นเถ้าถ่านไปและเหลือไว้เพียงแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณ
“ฮู่ว ฮู่ว ช่างเฉียดฉิวอะไรเช่นนี้….”
ใบหน้าของเจียงอี้มีเหงื่อที่เย็นเยียบออกมา หากบุคคลนี้ปลดปล่อยการโจมตี โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีของเขาก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆและเขาก็จะตายเพราะแรงกระแทก โชคดีที่เขาปล่อยเปลวเพลิงอัสนีออกมาทันทีเลย
ฟรึ่บ!
เขาใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์กวาดมองและยืนยันว่าทั้งสามสิบกว่าคนนั้นถูกแผดเผาไปหมดแล้ว เจียงอี้ก็ไปรวบรวมแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณและพบว่ายังมีคนอื่นอยู่แถวๆนี้อีก
เขาแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังกุ่ยอิ่งขณะที่ดวงตาเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหาร เสียงที่เย็นยะเยือกก้องไปในรัศมีหลายกิโลเมตร “กุ่ยอิ่ง วันนี้กองทัพวายุทมิฬของเจ้าจะไม่มีผู้ใดหนีไปได้แม้แต่คนเดียว!”
��