เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 728 ใจใหญ่
“เอาล่ะ!”
หลังจากพักฟื้นนานกว่าครึ่งวัน อาการบาดเจ็บของเจียงอี้ก็ดีขึ้นมาบ้างขณะที่เขารอให้ฟ้ามืด อย่างน้อยเขาก็ไม่มีบาดแผลใดๆบนร่างกายของเขาอีกต่อไป เขาทะยานขึ้นไปและกวักมือเรียกทุกคน “กลับเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างกันก่อนเถอะ”
ฟรึ่บ!
จากนั้นเฟิ่งหลวนก็พาเจียงเสี่ยวนู๋ตามไป หยางตงและคนอื่นๆเองก็ตามชึ้นไปขณะที่พวกเขาพากันบินออกจากเกาะพยัคฆ์ขาวไป
คนของกองทัพวายุทมิฬบางส่วนหลบหนีไปได้ ไม่มีใครรู้ว่ามันจะดึงดูดกลุ่มโจรภูเขากลุ่มอื่นๆมาหรือไม่และเจียงอี้ก็ไม่กล้าประมาท ตอนนี้เขาช่วยเฉียนว่านก้วนกลับมาได้แล้ว เขาต้องรีบกลับไปยังเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างทันที
ทุกคนใช้เส้นทางกลับจากที่พวกเขาเคยมาพวกเขาได้กำจัดกลุ่มโจรภูเขาไปแล้วและเมื่อพวกเขาจะเดินทางกลับไป มันจะปลอดภัยกว่าเดิมมาก แน่นอนว่าการเดินทางราบรื่นมากหลังจากที่พวกเขาบินมาได้แปดชั่วโมงแล้วและไม่เจอกับโจรภูเขาเลย
“เอ่อ…”
ทุกคนบินไปที่ริมชายฝั่งและเจียงอี้จ้องไปที่ทะเลที่ว่างเปล่าก่อนจะหันไปหาหยางตงพร้อมกับสงสัย “หยางตง เรือลิขิตสวรรค์ล่ะ? เราจะกลับไปกันยังไง?”
“หัวหน้าเจียง!”
หยางตงยิ้มเจื่อนๆ “เรือลิขิตสวรรค์ไม่ได้อยู่ที่นี่ตลอดเวลาขอรับ เราไปยังฐานที่มั่นของสมาคมการค้าทิวาอรุณกันก่อนและรอให้เรือผ่านมาเถอะขอรับ หัวหน้าเจียงสบายใจได้ ที่นั่นปลอดภัยเป็นอย่างยิ่ง ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดเป็นผู้ดูแลที่มั่นจึงไม่มีผู้ใดกล้าทำอะไรประมาทขอรับ”
“ได้ เจ้านำทางไปที!” เจียงอี้โบกมือของเขาและหยางตงก็พาทุกคนบินไปยังยอดเขาของภูเขายักษ์ ก่อนที่พวกเขาจะเข้าใกล้ภูเขา เจียงอี้ก็รับรู้ได้ว่ามีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์หลายสายกำลังกวาดมา
“ผู้บัญชาการหงฝู ข้าหยางตงขอรับ”
เมื่อหยางตงตะโกนออกมา สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็หายลับไป เทือกเขาขนาดยักษ์ที่อยู่ข้างหน้าส่องแสงระยิบระยับขณะที่ทิวทัศน์เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน ในไม่ช้าเจียงอี้ก็เห็นปราสาทขนาดใหญ่หลายแห่งที่ภูเขา
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ผู้คนหลายคนพุ่งออกมาจากปราสาทและมีผู้นำกลุ่มเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลาง หยางตงแยกตัวออกมาและไปยังทางที่ผู้บัญชาการพุ่งมาเพื่อไปเจรจา เขาหยิบศิลาสวรรค์หนึ่งหมื่นก้อนออกมาและส่งให้ก่อนจะกลับมา “หัวหน้าเจียง ทุกอย่างเรียบร้อยขอรับ แต่เรือลิขิตสวรรค์จะมาถึงที่นี่ในอีกห้าวัน เราสามารถอยู่ที่ปราสาทได้อย่างไม่มีปัญหาอะไรขอรับ” “ได้!”
เจียงอี้ไว้วางใจหยางตงขณะที่เขานำทุกคนบินไปยังปราสาทและชี้ไปที่ปราสาทเล็กๆ “หัวหน้าหยาง พวกเจ้าทุกคนจะพักอยู่ที่ปราสาทนี้ เจ้าคงรู้กฎดีแล้ว”
“ขอรับ ขอบคุณผู้บัญชาการหงฝู”
หยางตงพยักหน้า จากนั้นเขาก็ผายมือชี้ไปที่ปราสาทเล็กๆและพูดกับเจียงอี้ว่า “หัวหน้าเจียง เชิญขอรับ!”
พวกเขาทั้งหมดไปที่ปราสาทขณะที่หยางตงสรุปให้ฟังว่า “หัวหน้าเจียง ท่านต้องไม่ปล่อยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปสำรวจปราสาทอื่นๆ แน่นอนว่าแขกที่มาพักก็จะไม่ตรวจสอบเราเช่นกัน เราไม่สามารถไปยังปราสาทอื่นได้นอกจากปราสาทใหญ่ที่ด้านนอก ปราสาทใหญ่ๆที่อยู่ตรงกลางนั้นคล้ายๆกับตำหนักเจ้าเมืองในเมืองอัสนีฟ้ากระจ่าง มีร้านค้าและร้านอาหารอยู่ภายในนั้นมากมาย หากหัวหน้าเจียงรู้สึกเบื่อหน่าย ท่านสามารถไปที่นั่นได้ขอรับ”
สำหรับเจียงอี้แล้ว ห้าวันจะผ่านไปในชั่วพริบตาและเขาต้องใช้เวลาพักฟื้นอาการบาดเจ็บ ดังนั้นเขาจึงไม่มีอารมณ์ที่จะไปเดินเล่น หลังจากที่เขาพาทุกคนเข้ามาแล้ว เขาก็ให้หยางตงจัดที่ทางให้ทุกคนก่อนที่เขาจะเข้าไปในห้องพร้อมกับเจียงเสี่ยวนู๋และเฟิ่งหลวน จากนั้นเขาก็นำเฉียนว่านก้วน, ชิงหยีและมังกรวารีสีทองออกมาจากราชวังจักรพรรดิ
“ลูกพี่!”
“นายน้อย!”
เมื่อเฉียนว่านก้วนออกมา เขาก็จ้องไปที่เจียงอี้ เมื่อเขาเห็นใบหน้าและคอของเจียงอี้เต็มไปด้วยคราบเลือด เขาก็เผยร่องรอยของความอับอายขณะที่พูดว่า “ลูกพี่ ข้าผิดเอง ข้าขอโทษ”
“เงียบซะ!”
เจียงอี้ลืมตาขึ้นมาและตอบด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “ภายหน้าเจ้าอย่าพูดว่าขอโทษอีก ถ้าเจ้าทำเช่นนี้อีก อย่าเรียกข้าว่าลูกพี่อีกเลย เอาล่ะ อย่าทำตัวเคอะเขินเลย ไปจัดการเรื่องต่างๆซะ ข้าต้องรักษาอาการบาดเจ็บแล้วเราค่อยคุยกันหลังจากที่ข้าหายดีแล้ว” เฉียนว่านก้วนหดหัวกลับไป ตอนนี้เจียงอี้ยังโกรธอยู่ เขาไม่กล้าจะทำอะไรอีก ดวงตาของเฉียนว่านก้วนเริ่มแดงก่ำ เขาป้องมือให้เจียงอี้และพามังกรวารีสีทองออกมา จากนั้นเจียงอี้ก็หันไปพูดกับเฟิ่งหลวน, ชิงหยีและเจียงเสี่ยวนู๋ว่า “พวกเจ้าพักผ่อนกันก่อนเถอะ พวกเจ้าไปหาว่านก้วนได้หากอยากจะออกไปเดินเล่น ข้าขอเวลารักษาอาการบาดเจ็บสักสองวันก่อน” Aileen-novel
“ไม่เป็นไร นายน้อยแค่มีสมาธิกับการพักฟื้นเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะอยู่ปรนนิบัติท่านที่นี่!”
เจียงเสี่ยวนู๋ส่ายหัวของนาง การได้อยู่กับเจียงอี้เงียบๆนั้นนางก็เป็นสุขแล้ว ส่วนเฟิ่งหลวนและชิงหยีเองก็นั่งอยู่ข้างๆเขาเช่นกัน
เจียงอี้ไม่ได้พูดอะไรต่อและยังคงรักษาอาการบาดเจ็บของเขาไป คนธรรมดาจะใช้เวลาราวๆร้อยวันในการรักษาอาการบาดเจ็บที่รุนแรงเช่นนี้ เนื่องจากกระดูกของเขาหัก แม้ว่าจะมีเม็ดยาฟื้นฟูชั้นยอดและมีร่างกายที่สมบูรณ์ แต่เจียงอี้เองก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองวันถึงจะสามารถฟื้นตัวได้ ปราสาทนั้นปลอดภัยมากจริงๆ บางครั้งจะมีคนบินมาที่นี่ขณะที่บางคนบินออกไป ทุกคนยังคงปฏิบัติตามกฎ คนของเจียงอี้ไม่ได้ออกไปไหนเลยและพวกเขาก็อยู่ในปราสาทเล็กๆและฝึกฝน
สองวันผ่านไปอย่างรวดเร็วและเจียงอี้ก็หายจากอาการบาดเจ็บแล้ว เขาอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาดก่อนที่จะรวบรวมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าหกสิบคนมายังห้องโถง เขาโบกมือ “ครั้งนี้ ข้าขอบใจความช่วยเหลือของพวกเจ้ามาก ว่านก้วน เมื่อเรากลับไปแล้ว แบ่งศิลาสวรรค์ให้พวกเขาคนละหนึ่งล้านก้อน!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนนับไม่ถ้วนสั่นสะท้านและดวงตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ เจียงอี้ไม่ใจใหญ่ไปหน่อยหรือ? ศิลาสวรรค์หนึ่งล้านก้อนมีค่าเท่ากับแต้มความดีความชอบหนึ่งแสนแต้ม พวกเขาสามารถซื้อบ้านในเมืองเล็กๆและใช้ชีวิตที่เหลือไปกับการบ่มเพาะพลังในเมืองได้เลย
แต่มันไม่ได้หมายความว่าหยางตงและคนอื่นๆไม่มีแต้มความดีความชอบหลักแสนแต้มแล้ว แต่เดิมที่พวกเขาติดตามเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน, หัวหน้าอิงและคนอื่นๆ พวกเขาก็ได้ศิลาสวรรค์และแต้มความดีความชอบมาบ้าง แต่ครั้งนี้พวกเขาไม่ได้มีส่วนร่วมมากนักและพวกเขาทั้งหมดคงจะถูกกองทัพวายุทมิฬสังหารไปหมดหากไม่ใช่แพราะเจียงอี้ แต่ถึงอย่างนั้นเจียงอี้ก็ยังแจกศิลาสวรรค์ล้านก้อนมาในคราวเดียว มันไม่ได้โผงผางไปใช่ไหม? พวกเขามีคนมากกว่าหกสิบคนซึ่งมันเท่าๆกับศิลาสวรรค์หกสิบล้านก้อนเชียวนะ!
“อื้ม! ข้าจะจดเอาไว้!”
มุมปากของเฉียนว่านก้วนกระตุกอย่างปวดใจ แต่เขาก็รีบตอบด้วยรอยยิ้มทันที เขากวาดตามองไปยังผู้ที่ยังประหลาดใจและพูดอย่างหนักแน่นว่า “ยังไม่ขอบคุณหัวหน้าเจียงอี้หรือ?”
“ขอบคุณหัวหน้าเจียง เรายินดีเสี่ยงชีวิตเพื่อท่าน”
ทุกคนปรบมือและสายตาที่พวกเขามองเจียงอี้นั้นมีความเคารพนับถือมากขึ้น
แข็งแกร่ง, ซื่อตรงและตรงไปตรงมา! พวกเขาจะติดตามใครหากไม่ติดตามเจ้านายเช่นนี้? ครั้งนี้ผู้ที่ติดตามเจียงอี้ที่รับใช้เขาตั้งใจและแน่วแน่ที่จะติดตามเจียงอี้ไปตลอดชีวิต
“พวกเจ้าทุกคนไปพักผ่อนกันเถอะ เราไปเดินเล่นที่ปราสาทกัน”
เจียงอี้พยักหน้าและนำเฟิ่งหลวน, เจียงเสี่ยวนู๋, ชิงหยี, เฉียนว่านก้วนและมังกรวารีสีทองไปยังปราสาทที่ใหญ่ที่สุด เขาตบบ่าของเจ้าอ้วนเฉียนเมื่อเห็นว่ามุมปากของเจ้าอ้วนยังกระตุกอยู่และกระซิบว่า “เจ้ายังเศร้าใจกับศิลาสวรรค์หกสิบล้านก้อนอีกหรือ? ฮึฮึ คราวนี้เราได้กำไรมหาศาลเลย แค่แหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของกุ่ยอิ่งคนเดียวก็มีถึงสามร้อยล้านแล้ว”
“ไหนจะมีสมบัติอีกมากมายเลยด้วย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณอีกหลายวงที่ข้ายังไม่ได้ตรวจดูอีก หากรวมกันแล้วข้าคิดว่าเราน่าจะได้ศิลาสวรรค์อย่างน้อยราวๆสี่ถึงห้าร้อยล้านก้อน แล้วเมื่อเราเข้าไปในปราสาทแล้ว ข้าจะซื้อทุกสิ่งที่เจ้าต้องการเลย วันนี้หัวหน้าเจียงผู้นี้จะใจกว้างจ่ายให้เอง”
“สี่ถึงห้าร้อยล้าน?”
เฉียนว่านก้วน,ชิงหยี, เฟิ่งหลวนและมังกรวารีสีทองสูดลมหายใจอย่างเย็นเยียบ ในขณะเดียวกันเจียงเสี่ยวนู๋ก็กระพริบตาเหมือนว่านางไม่เข้าใจความหมายเบื้องหลังจำนวนเหล่านั้น เฉียนว่านก้วนยิ้มออกมาอย่างรวดเร็วและหัวเราะ “ลูกพี่ เจ้าพูดเองนะ ข้าจะไปซื้อชุดเกราะศักดิ์สิทธิ์แฝงเพื่อที่จะได้น่าเกรงขามเหมือนเจ้า”
“ฮ่าฮ่า หากในวันนี้เราหาซื้อได้ ข้าจะซื้อมันให้เจ้าเลย!”
เจียงอี้หัวเราะออกมา ศิลาสวรรค์นั้นเป็นเรื่องรองลงมาจากสิ่งที่เขาได้มา ครั้งนี้เขาได้สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงประเภทโจมตีมา และเมื่อเขาขัดเกลามัน ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของเขาก็จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และเมื่อมีโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีด้วยแล้ว ยิ่งไม่มีอะไรให้เขาต้องกลัวแม้ว่าจะมีกลุ่มผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางมาล้อมรอบเขาในตอนนี้
ทั้งห้าคนเดินเข้าไปในปราสาท และเจียงอี้ก็ถึงกับสะดุ้งเมื่อเขากวาดตามอง เขากลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนที่จะพูดว่า “ในที่ตั้งของสมาคมการค้าเล็กๆนั้นคึกคักมากจริงๆ นี่มันมีร้านค้าอยู่ในนี้อย่างน้อยพันร้านเลยใช่ไหม?”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนชี้ไปที่ชั้นสองและตอบว่า “นี่เป็นตลาดมืดที่ใหญ่ที่สุดในเกาะพยัคฆ์ขาว มีสิ่งประดิษฐ์เหนืออิทธิฤทธิ์อยู่มากมายในชั้นที่สองและข้าคิดว่ามันน่าจะมีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงด้วย ฮี่ฮี่ ลูกพี่ เจ้าบอกเองนี่ว่าเจ้าจะซื้อให้ข้าหากมันมีขาย”