เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 734 เพลิดเพลินไปกับการสังหาร
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 734 เพลิดเพลินไปกับการสังหาร
“จับมันมาแบบเป็นๆ! ข้าจะให้ไอสารเลวนี่ตายจากการถูกทรมานนับพัน!”
เมื่อนายน้อยได้ยินข้อความเสียงของเจียงอี้ เขาก็ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น หลังจากที่หยุดไปชั่วครู่ เขาก็ตะโกนออกมาอีกครั้งว่า “ใครก็ตามที่จับเป็นมันได้ คนผู้นั้นจะได้ศิลาสวรรค์ร้อยล้านก้อน!”
“ฮือฮา!”
นายน้อยหงยื่นข้อเสนอที่สูงเกินไป ผู้ติดตามทั้งหมดต่างก็ตื่นเต้นไปด้วย ดวงตาของคนกว่ายี่สิบคนของนายน้อยลี่เองก็สดใสกว่าเดิม ก่อนหน้านี้พวกเขาไม่ค่อยเต็มใจนักที่นายน้อยของพวกเขาต้องการความดีความชอบโดยการช่วยสังหารเจียงอี้ แต่ตอนนี้พวกเขาฮึกเหิมขึ้นมากและเพิ่มความเร็วสูงสุดเพื่อพุ่งไปทางเจียงอี้อย่างดุเดือด
“ศิลาสวรรค์ร้อยล้านก้อน ค่าหัวของข้ามีค่าอยู่นะ” เจียงอี้หัวเราะออกมา เขาพยายามบินหนีอย่างรวดเร็ว มันยังอยู่ใกล้ปราสาทมาก หากเกิดการต่อสู้ที่นี่ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนในปราสาทจะรู้ตัวและเขาจะต้องลงเอยด้วยความตายอย่างโหดร้าย
ผู้ที่ตามหลังเจียงอี้มาพยายามลดระยะห่างระหว่างพวกเขา แต่เขาก็เร็วมาก ดังนั้นมันจึงไม่น่าเป็นไปได้ที่พวกเขาจะตามทันในเวลาสั้นๆ
หลังจากที่ผ่านไปห้านาที เขาก็อยู่ห่างจากปราสาทไปหลายร้อยกิโลเมตรแล้ว เขามองภูเขาที่อยู่ไกลออกไปและเกราะเมฆาอัคคีก็ปรากฏขึ้นรอบตัวเขา จากนั้นเขาก็เทแก่นแท้พลังไปและแสงสีแดงก็เจิดจ้าทันที
คนที่อยู่ห่างจากเจียงอี้นั้นอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงสิบห้ากิโลเมตร เขาไม่สามารถเสี่ยงตัวเองกับยอดฝีมือมากมายเช่นนี้ได้
“สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝง!”
เมื่อเกราะเมฆาอัคคีปรากฏขึ้น ผู้คนที่อยู่ข้างหลังเจียงอี้ก็เสียสติกันไปใหญ่ สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงสำหรับการป้องกันนั้นประเมินค่าไม่ได้ หากเจียงอี้ถูกจับ นายน้อยหงจะให้รางวัลแก่พวกเขาอย่างแน่นอน นายน้อยหงและนายน้อยลี่มองหน้ากัน และทันใดนั้นเขาก็ตะโกนว่า “ไม่ต้องจับเป็นแล้ว สังหารมันซะ!”
ผู้คนอาจต้องยั้งการโจมตีของพวกเขาหากพวกเขาต้องจับเจียงอี้แบบเป็นๆ หากล่าช้าไป มันอาจมีการเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้ จะเกิดอะไรขึ้นหากมียอดฝีมือที่แท้จริงผ่านมา? ดังนั้นนายน้อยหงจึงตัดสินใจที่จะสังหารเจียงอี้ให้เร็วที่สุดเพื่อที่จะได้เกราะเมฆาอัคคีมา
จี๊! จี๊!
ฮู๊! ฮู๊!
จากระยะสิบห้ากิโลเมตร ขอบเขตเทียนจุนระดับกลางสองคนได้ลงมือแล้ว พวกเขาทั้งสองหยั่งถึงรูปแบบเต๋ามิติ พวกเขาปล่อยฝ่ามือออกไปและทำให้ห้วงอากาศด้านหน้าของพวกเขาผันผวนอย่างรุนแรงและพุ่งเข้าหาเจียงอี้ทันทีซึ่งมันทำให้เขาต้องช้าลง แอม
“สิบห้ากิโลเมตร? มันยังไกลไปหน่อย” แม้ว่าความเร็วของเจียงอี้จะลดลงอย่างรวดเร็ว แต่เขายังไม่ได้ปล่อยเปลวเพลิงอัสนีออกมาขณะที่เขาพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อควบคุมร่างกายและบินไปข้างหน้า เขาหันไปมองผู้ที่ตามหลังเขามา เขาค่อยๆนับระยะทางอยู่ในใจด้วยดวงตาที่เย็นเยียบราวหิมะ
สิบห้ากิโลเมตร, สิบกิโลเมตร….ห้ากิโลเมตร!
ตูม! ตูม! ตูม!
จี๊! จี๊!
ปึง ปัง ปึง!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางแปดคนเริ่มเปิดการโจมตีระลอกแรก หนึ่งในนั้นปลดปล่อยออกมาแม้กระทั่งการโจมตีดวงจิตวิญญาณด้วยและทำให้ห้วงอากาศสะเทือนกะทันหัน อย่างไรก็ตาม เมื่อเสียงนั้นมันเข้ามาในจิตใจของเจียงอี้ มันก็กลายเป็นเศษเสี้ยวพลังงานแปลกๆที่พุ่งไปที่ดวงจิตวิญญาณของเขาอย่างบ้าคลั่ง “ฮึ่ม! กล้าดียังไงที่ปล่อยการโจมตีดวงจิตวิญญาณนี้ออกมา!”
เจียงอี้เย้ยหยัน ดาบวิญญาณทั้งสามสิบหกเล่มของเขากำลังร่ายรำอยู่ในทะเลแห่งดวงจิตและขจัดพลังงานที่เข้ามาได้อย่างง่ายดาย เขามองไปยังแสงที่สาดมาอีกห้าสาย แต่เขาไม่รีบที่จะปลดปล่อยเปลวเพลิงอัสนีออกมาแต่รอจนกว่าพวกนั้นจะอยู่ห่างจากเขาประมาณสองกิโลเมตรครึ่ง จากนั้นไข่มุกวิญญาณเพลิงก็เปล่งประกายออกมา
เมื่อเปลวเพลิงอัสนีหลั่งไหลออกมา ท้องฟ้าก็เปลี่ยนสีไปในทันใด!
กระแสไฟในเปลวเพลิงอัสนีส่องประกายออกมาจากไข่มุกวิญญาณเพลิงเรื่อยๆและเริ่มเคลื่อนไหวด้วยความเร็วที่น่ากลัวภายใต้การร่ายมือของเจียงอี้ จากนั้นเปลวเพลิงอัสนีก็หดตัวลงอย่างรวดเร็วและในที่สุดเกราะกลายเป็นเกราะสีฟ้าที่ปกคลุมเจียงอี้เอาไว้
“นายน้อย ถอยไปขอรับ!”
ทันทีที่เปลวเพลิงอัสนีปรากฏขึ้น ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งแปดก็หยุดบินต่อและมองกลับไปหานายน้อยพร้อมกับตะโกนออกมา ความร้อนที่น่าสะพรึงพัดผ่านมาแล้ว และแม้ว่าพวกเขาจะอยู่ห่างออกไปหลายกิโลเมตรและไม่ได้ตกอยู่ในอันตรายร้ายแรงมากนัก แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางเหล่านี้ก็ยังไม่กล้าเสี่ยงอยู่ดี
ตูม! ตูม! ตูม!
ลำแสงทั้งเจ็ดสายโจมตีโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีของเจียงอี้ ทำให้พื้นที่รอบๆสั่นสะเทือนไปทั่ว ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำมากมายก็จับจ้องไปที่เจียงอี้ ดวงตาของพวกเขาหดลงพร้อมกันด้วยความตกตะลึงและไม่เชื่อ
“อะไรน่ะ?” Aileen-novel
เมื่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งแปดเห็นการแสดงออกที่ตกตะลึงของคนที่ตามพวกเขามา พวกเขาก็รีบหันกลับไปมองและต้องหน้าซีดเผือดด้วยความกลัวเมื่อเจียงอี้พุ่งเข้าหาพวกเขาราวกับมังกรคลั่ง โล่รอบตัวเขาไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลยและแค่สีจางลงเล็กน้อย “นายน้อย รีบถอยไปเร็วขอรับ!”
“ทุกคน แยกย้ายกันและโจมตีมัน!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหลายคนตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่เคร่งขรึม แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้ปล่อยพลังออกมาทั้งหมด แต่พวกเขาก็ใช้ความแรงของกำลังไปแปดในสิบส่วนแล้วและเจียงอี้ก็ไม่เป็นอะไรเลย! มันหมายความว่าการโจมตีจากผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่ระดับสูงกว่าพวกเขาก็จะไร้ประโยชน์อยู่ดี และพวกเขาเองก็จะต้องตายแม้ว่าพวกเขาจะมาที่นี่ด้วย
“ฮึ่ม! พวกขอบเขตเทียนจุนระดับกลางพวกนี้นั้นเป็นพวกเห็บหมัดจริงๆ การโจมตีของพวกเขาอ่อนแอเกินไป”
เจียงอี้ยิ้มอย่างเย็นชา หม้อเหลี่ยมเล็กๆก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา เขาเทแก่แท้พลังเข้าไปซึ่งแสงสีดำก็พุ่งออกมาทันที ขณะที่หม้อจิ๋วบินออกมา มันก็ใหญ่ขึ้นในพริบตาพร้อมกับมีอักขระส่องสว่างอยู่บนนั้น กระแสลมทมิฬหมุนเวียนอยู่ใต้หม้อใบนั้น หม้อใบนั้นมีขนาดใหญ่ราวกับภูเขาลูกยักษ์พร้อมกับกลิ่นอายโบราณ
ตูม! ตูม! ตูม!
หม้อเวหาสลาตันบินอยู่เหนือฝูงชนทันทีก่อนที่มันจะถล่มลงมา เมื่อมันกระทบพื้น ห้วงอากาศก็กลายเป็นคลื่นขนาดยักษ์และฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่ ห้วงอากาศนั้นยังผันผวนไปยังปราสาทที่อยู่ห่างออกไปหลายร้อยกิโลเมตรเล็กน้อยด้วย
“สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงอีกชิ้นและมันยังเชื่อมกับดวงจิตวิญญาณด้วย?!”
ดวงตาของนายน้อยหงและคนอื่นๆไม่กระหายด้วยความโลภอีกต่อไป แต่มันกลับเต็มไปด้วยความสยดสยอง กลิ่นอายของหม้อใบนี้น่าสะพรึงยิ่งนัก นายน้อยหงและนายน้อยลี่เป็นเพียงขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำผู้ซึ่งไม่มีทางที่จะรอดชีวิตจากการปะทะของหม้อใบนั้นได้
“สกัดกั้นเอาไว้! ไม่เช่นนั้น หากนายน้อยตาย พวกเราทุกคนก็ต้องตายด้วย!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางตะโกนออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยว พวกเขาคิดว่าจะจัดการกับเจียงอี้ได้ง่ายๆและไม่คิดว่าเขาจะมีสมบัติมากมาย นายน้อยหงที่อยู่ในฐานะนายน้อยอันดับหนึ่งของตระกูลหงเองยังไม่มีสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงแม้แต่ชิ้นเดียว แต่เด็กคนนี้กลับมีถึงสองชิ้น!
“นี่เขาเป็นนายน้อยของตระกูลที่ยอดเยี่ยมหรือเปล่า?”
ความคิดนี้ผุดขึ้นในใจของหลายๆคน ซึ่งมันยิ่งทำให้พวกเขาวิตกมากขึ้นไปอีก หากไม่เช่นนั้นแล้ว เขาจะมีสมบัติมากมายเช่นนี้ได้อย่างไร? เขาจะกล้าทำร้ายนายน้อยหงได้อย่างไรหลังจากที่นายน้อยหงเองก็บอกไปแล้วว่าเขาคือใคร? นี่เขาไม่เพียงแต่จะไม่หนีแต่กลับตอบโต้กลับด้วยซ้ำ
แต่ฝูงชนก็ยังตัดสินใจที่จะสกัดกั้นและรับน้ำหนักของหม้อเวหาสลาตันก่อน ไม่เช่นนั้นแล้ว นายน้อยหงและกลุ่มของเขาจะต้องถูกขยี้จนตายแน่.. ไม่ต้องพูดถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางทั้งแปดนั้นเลย จี๊! จี๊!
ตูม! ตูม!
“…”
ลำแสงมากมายส่องแสงและสาดไปยังหม้อเวหาสลาตัน ทหารกว่าสี่สิบคนยังคงโจมตีหม้อเวหาสลาตันอย่างสุดกำลัง จึงทำให้หม้อเวหาสลาตันความเร็วลดลงไปทันที ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระกับกลางสองคนปลดปล่อยลำแสงออกมาอีกสองสายก่อนที่จะคว้าตัวนายน้อยหงและนายน้อยลี่แล้วรีบบินหนีไป
“ฮึ่ม!”
อย่างไรก็ตาม!
เมื่อพวกเขากำลังจะออกไปจากเขตแดนของหม้อเวหาสลาตันกับนายน้อยทั้งสองแล้ว เสียงเย้ยหยันก็ดังมาจากด้านหน้า และในไม่ช้า ร่างสีฟ้าก็ปรากฏขึ้นในอากาศราวกับปีศาจที่เดินออกมาจากอเวจี คลื่นความร้อนอันน่าสยดสยองฝังลึกเข้าไปในพวกเขาทั้งสี่คนทันที
“ไม่ ไม่นะ! เจ้าสังหารเราไม่ได้ หากตระกูลเรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่ พวกเขาจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า…”
นายน้อยหงตะโกนด้วยความหวาดกลัวทันทีเมื่อเขาตระหนักได้ว่าโล่ศักดิ์สิทธิ์ของเขากำลังจะสลายอย่างรวดเร็ว นายน้อยลี่เองก็ตัวสั่นไม่หยุดและกรีดร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง
“ตายซะเถอะ!”
เจียงอี้พุ่งพล่านไปด้วยกลิ่นอายสังหาร ดวงตาของเขาดุร้ายมาก เขาไม่สนใจเรื่องตระกูลหงหรือตระกูลลี่เลย เมื่อเขาบาดหมางกับคนพวกนี้แล้ว เขาก็พร้อมที่จะเพลิดเพลินไปกับการสังหารแล้วเหมือนกัน