เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 735 สู้กับคนเหล่านั้น เอาชนะมันและสังหารมันซะ!
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 735 สู้กับคนเหล่านั้น เอาชนะมันและสังหารมันซะ!
“อ๊ากก!”
เสียงร้องอันน่าสยดสยองดังขึ้นมา เจียงอี้อยู่ห่างจากพวกเขาเพียงไม่กี่ร้อยเมตร นายน้อยทั้งสองเป็นเพียงขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำเท่านั้น แล้วพวกเขาจะทนความร้อนของเปลวเพลิงอัสนีได้อย่างไร? เมื่อโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาแตกสลาย พวกเขาก็กลายเป็นเถ้าถ่านทันทีและเหลือไว้เพียงแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณสองวงที่ลอยอยู่กลางอากาศ
“นายน้อย!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนทั้งสองตะโกนออกมา ดวงตาของพวกเขาเบิกกว้างจนแทบจะถลนออกมาอยู่แล้วและมันเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง พวกเขาเป็นผู้ติดตามของนายน้อยทั้งสองคนนี้ และตามกฎตระกูลแล้ว เมื่อนายน้อยของพวกเขาตกตายไป พวกเขาทั้งหมดก็จะถูกประหาร “นายน้อย!”
ผู้เชี่ยวชาญหลายสิบคนที่อยู่ใต้หม้อเวหาสลาตันต่างก็ตะโกนออกมา ดวงตาของพวกเขาทุกคนแดงก่ำแบะวิ่งเข้าหาเจียงอี้อย่างบ้าคลั่ง พวกเขากำลังเสี่ยงชีวิตสังหารเจียงอี้ เพราะหากเจียงอี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกเขาทั้งหมดก็จะต้องตาย
ตูม! ตูม! ตูม!
พวกเขาเพียงแต่ลืมไปว่ามีหมอเวหาสลาตันอยู่เหนือพวกเขาซึ่งมันเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงที่เชื่อมดวงจิตแล้วและพลังของมันก็แข็งแกร่งมากแม้ขาจะหักไปข้างหนึ่ง
ฝูงชนไม่สนใจปล่อยการโจมตีเพื่อหยุดหม้อเวหาสลาตันอีกต่อไป หม้อเวหาสลาตันจึงตกลงมาทันทีและฝังคนเกือบครึ่งจมดินไป พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและฝุ่นก็คลุ้งออกมาทั่วทุกสารทิศก่อนที่มันจะพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้าและปกคลุมไปทั่วครึ่งฟ้า
“อ๊าก อ๊าก!”
ผู้คนกว่าสิบคนรอดออกมาได้ แต่ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำเหล่านี้ก็ลืมไปอีกเรื่องหนึ่งว่าโล่ศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาไม่สามารถต้านทานความร้อนของเปลวเพลิงอัสนีได้และโล่ศักดิ์สิทธิ์ก็แตกสลายไปทันทีและพวกเขาก็ถูกไฟคลอก พวกเขากรีดร้องและกลิ้งเกลือกอยู่บนฟ้าและดังก้องไปทั่ว
จี๊! จี๊!
เจียงอี้พุ่งเข้าหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว ดาบมังกรเพลิงปรากฏขึ้นในมือของเขาและเปลวเพลิงอัสนีก็พุ่งพล่านออกมาอีกครั้ง และทันใดนั้น เขาก็ตวัดดาบลงมาซึ่งรอบๆนั้นเต็มไปด้วยเปลวเพลิงอัสนีอีกครั้ง ความร้อนอันน่าสยดสยองนี้ทำให้โล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนสองคนแรกแตกสลายเป็นเสี่ยงๆ แอม
“หนีเร็ว!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางที่เหลืออีกหกคนต่างก็ตระหนักได้ในที่สุดว่าแม้ว่าพวกเขาจะเป็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลาง แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพวกเขาก็ไม่ได้แข็งแกร่งมากนัก และรู้ว่าตนเองไม่สามารถต่อกรกับเจียงอี้ได้ หากไม่หนีไปในตอนนี้ พวกเขาก็คงตายกันหมด
นายน้อยทั้งสองคนตายไปแล้ว พวกเขาจะถูกสังหารอย่างแน่นอนหากพวกเขากลับบ้าน แต่เผ่าเทพประทานนั้นใหญ่มาก พวกเขายังสามารถซ่อนตัวอยู่ที่อื่นหรือเข้าร่วมกองทัพโจรได้ตราบใดที่ไม่ถูกไล่ล่า พวกเขาก็ยังจะมีชีวิตรอดได้ แต่หากพวกเขายังอยู่ตรงนี้ คงมีเพียงความตายเท่านั้นที่รอพวกเขาอยู่
“ฆ่า!”
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำบางคนยังคงพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่งและปลดปล่อยการโจมตีทุกอย่างออกมา แต่น่าเสียดายที่เจียงอี้ทำลายการโจมตีของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย โล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีเองก็ไม่สั่นคลอนแม้แต่น้อย
ฟรึ่บ!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางทั้งหกกลายเป็นสายรุ้งหกสายและพุ่งออกไป และท้ายที่สุดเหล่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำก็พึงตระหนักได้ แต่มันก็สายเกินไปแล้ว เสื้อคลุมเงาวายุบนหลังของเจียงอี้กระพือออกมา เขาเร็วมากและทำให้ระยะห่างระหว่างพวกเขาร่นลงทันที โล่ศักดิ์สิทธิ์ของเหล่าขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำต่างแตกสลายไปทีละคนและถูกไฟคลอกขณะที่พวกเขากรีดร้องและแด้ดิ้นอยู่กลางอากาศ
“ฮึ่ม!”
เจียงอี้เย้ยหยันเมื่อเห็นผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางทั้งหกบินหนีไป หากไม่ใช่เพราะเขาอยู่ใกล้ปราสาทและเรือลิขิตสวรรค์จะไม่ออกเดินเรือ เขาจะไม่มีวันปล่อยพวกนั้นไปอย่างแน่นอน คนเหล่านี้ถูกความร้อนปกคลุมและช้ากว่าเดิมมาก หากเจียงอี้ต้องการสังหารพวกนั้น เขาก็ยังสังหารคนมากกว่าสามคนได้อย่างง่ายดาย
ฟรึ่บ! ไอรีนโนเวล
เจียงอี้วนไปรอบๆแถวนั้นและเก็บแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณมากกว่าสิบวงมา ในเวลาเดียวกัน เขาก็ทำให้หม้อเวหาสลาตันเล็กลงและเก็บเข้าไปในแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของเขา หลังจากนั้นเขาก็บินลงไปเก็บแหวนของคนที่ถูกหม้อเวหาสลาตันบดขยี้จนตายมา และเขารีบบินขึ้นไปบนฟ้าและรีบตรงไปยังชายฝั่งด้วยวิชาหลีกสวรรค์
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ห้านาทีให้หลัง หลังจากที่เจียงอี้จากไปแล้ว ร่างสีดำหลายสิบร่างก็บินมาจากปราสาท พวกเขาตื่นตัวเพราะความผันผวนของห้วงอากาศที่เกิดจากการต่อสู้ มีสองคนในนั้นที่มีกลิ่นอายที่ทรงพลังมากและอยู่ขอบเขตเทียนจุนระดับสูง พวกเขากวาดไปรอบๆด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าไม่มีใครอยู่รอบๆ พวกเขาก็บินกลับปราสาทไป
ครั้งนี้เจียงอี้ทำถูกแล้ว เขาเริ่มต่อสู้อย่างรวดเร็วและจากไปหลังจากสังหารคนไปแล้ว หากเขายังคงไล่ตามคนอีกหกคนนั้นไป เขาจะถูกกลุ่มยอดฝีมือเจอตัวอย่างแน่นอน และเมื่อถึงตอนนั้น หากมีใครโลภในสมบัติของเขา เขาก็จะไม่ได้ลงเอยด้วยดีเป็นแน่ ปัง!
หลังจากผ่านไปห้านาที ห้วงอากาศรอบชายฝั่งก็แตกออกมาขณะที่มีคนผู้หนึ่งพุ่งไปยังเรือลิขิตสวรรค์ ทหารบนเรือหลายร้อยคนชักดาบออกมาทันทีและชี้ไปที่เจียงอี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับกลางตะโกนด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น “เจ้าเป็นใคร? หยุดอยู่ตรงนั้นซะ ไม่เช่นนั้นเจ้าจะถูกสังหารโดยไม่มีการถามอะไรอีก!”
ฟรึ่บ!
แหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณในมือของเจียงอี้ส่องประกาย และบัตรสีม่วงก็ปรากฏขึ้นและเขาโยนมันออกไป ทันใดนั้นทหารผู้นั้นก็โบกมืออย่างรวดเร็วและทหารบนเรือทั้งหมดก็ลดอาวุธลง เขาเผยรอยยิ้มออกมาและกล่าวว่า “แขกพิเศษ ท่านใต้เท้า ข้าต้องขออภัยที่ทำให้เกิดความสับสนด้วย”
เจียงอี้บินไปยังเรือลิขิตสวรรค์และคนผู้นั้นก็เข้ามาพูดกับเจียงอี้อย่างใกล้ชิดและพูดอย่างสุภาพว่า “ท่านใต้เท้า เชิญทางนี้ขอรับ แขกพิเศษทุกท่านมีห้องโดยสารพิเศษโดยที่ไม่มีค่าใช้จ่าย”
เจียงอี้พยักหน้าและคิดอยู่เงียบๆว่าศิลาสวรรค์หนึ่งร้อยห้าสิบล้านก้อนของเขาที่ถูกใช้ไปนั้นดีจริงๆ ชายผู้นั้นพาเขาไปยังห้องโดยสารที่มีขนาดใหญ่กว่าครั้งแรกสองเท่า จากนั้นเจียงอี้ก็ถามพร้อมกับขมวดคิ้วว่า “เรือจะออกเมื่อไหร่? ข้าจะไปยังเกาะต้นกล้าขาว”
เขาตอบอย่างสุภาพ “อีกไม่นานขอรับ ไม่เกินหนึ่งชั่วโมง และเราจะถึงเกาะต้นกล้าขาวในอีกสองวันขอรับ”
“ได้ กลับไปเถอะ หากข้ามีเรื่องอะไรข้าจะเรียกเจ้า”
เจียงอี้โบกมือของเขา และหลังจากที่คนผู้นั้นจากไป เขาก็เปิดอาคมยับยั้งในห้องโดยสารทันที จากนั้นราชวังจักรพรรดิก็ส่องสว่างและทุกคนก็ออกมา
“ลูกพี่!”
เฉียนว่านก้วนตะโกนทันทีที่เขาออกมา เมื่อเขาเห็นเรือลิขิตสวรรค์เขาก็พูดอย่างมีความสุข “ลูกพี่นี่ยอดเยี่ยมจริงๆ เจ้าเอาชนะคนพวกนั้นทั้งหมดได้อย่างง่ายดายเลย!”
เจียงอี้ยิ้มจางๆและไม่ได้อธิบายอะไร ในทางกลับกัน หยางตงก็คิดบางอย่างขึ้นมาและถามด้วยสีหน้าขมวดคิ้วว่า “หัวหน้าเจียง คนกลุ่มนั้นจะตามเรามาที่เกาะต้นกล้าขาวหรือไม่ขอรับ? พวกนั้นจะตามขัดขวางเราระหว่างทางหรือเปล่า?”
“ฮึฮึ!”
เจียงอี้ส่ายหัวและตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไร ข้าสังหารพวกนั้นไปมากแล้ว และเหลือเพียงหกคนเท่านั้นที่หนีไปได้ เมื่อทั้งสองตระกูลได้ข้อมูล เราก็จะกลับไปยังเมืองอัสนีฟ้ากระจ่างกันแล้ว”
พวกเขาคิดว่าเจียงอี้เพียงป้องกันตัวจากการโจมตีของคนเหล่านั้นจนมาถึงที่นี่ และไม่เคยคาดคิดว่าเขาจะสังหารผู้คนไปมากมายอีกครั้งและเหลือคนรอดเพียงหกคน
ดวงตาของหยางตงและคนอื่นๆเป็นประกาย พวกเขามองไปยังเจียงอี้ราวกับว่าเขาเป็นเทพสังหาร แต่เฉียนว่านก้วนก็ถามอย่างกังวลว่า “ลูกพี่ เจ้าประมาทไปหรือเปล่า? เราจะสร้างศัตรูมากขึ้นเรื่อยๆ และมันไม่ดีสำหรับเราในการจะอยู่ที่เผ่าเทพประทานในระยะยาวนะ”
“ผิดแล้ว!”
เจียงอี้พูดอย่างจริงจังว่า “ว่านก้วน เจ้ายังมีความคิดเหมือนตอนจัดการการค้าตระกูลเฉียนที่ทวีปเทียนชิงอยู่ เมื่อเจ้าทำการค้าที่นั่น ความกลมเกลียวจะนำมาซึ่งความมั่งคั่ง แต่ที่นี่มันต่างกัน หากเจ้าถอยให้หนึ่งก้าว พวกเขาจะพุ่งมาข้างหน้าสามก้าว เราไม่สามารถพูดถึงเหตุผลและมิตรภาพในที่แห่งนี้ได้ หากคนอื่นรังแกเจ้า ด่าเจ้าและดูถูกเจ้า เจ้าต้องสู้กับคนเหล่านั้น เอาชนะมันและสังหารมันซะ! เมื่ออยู่ที่นี่ เพียงแต่ตอนที่เจ้าสร้างชื่อเสียงด้วยการสังหาร ผู้คนก็จะไม่กล้ายั่วยุเจ้า เมื่อเจ้าทำการค้าในอนาคต เจ้าต้องให้ความสำคัญกับหลักการนี้ เมื่อตอนที่เจ้าแข็งแกร่งเท่านั้น เจ้าถึงจะสามารถสร้างเงินได้อย่างไม่รู้จบ การสร้างความสามัคคีไม่ได้ผลกับที่นี่!”