เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 756 ข้าเป็นคนมีเหตุผลมาก
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 756 ข้าเป็นคนมีเหตุผลมาก
ฮือฮา!
เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่ขึ้นบนเรือลิขิตสวรรค์ ชิงหลงผู้ที่เป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดแพ้จริงๆหรือ? ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของหวงฝูเทาเทียนเป็นผู้ท้าทายสวรรค์จริงๆ?
เฟิ่งหลวนและชิงหยีมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจ ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดจะยอมต่อขอบเขตเทียนจุนระดับกลางได้อย่างไร? มันทำให้พวกนางมึนงงไปโดยสิ้นเชิง แม้ว่านายน้อยหวงฝูจะมีสมบัติล้ำค่าที่เชื่อมดวงจิตวิญญาณแล้วอย่างไร? พลังการต่อสู้ของเขาเพิ่มขึ้นมากเพียงไหนกัน? หรือเป็นเพราะรูปแบบเต๋าระดับสูงห้าดาวนั่น?
“ฮึ่ม”
เหนือขึ้นไปบนฟ้า, หวงฝูเทาเทียนพ่นลมหายใจอันเย็นเยียบออกมาขณะที่แสงกระบี่หายลับไป เขามองไปที่ชิงหลงและพูดอย่างเย็นชาว่า “หากเจ้าตะโกนออกมาช้ากว่านี้เพียงเสี้ยวเดียวเจ้าคงจะถูกสังหารตายอย่างแน่นอน”
ชิงหลงยิ้มอย่างขมขื่นแลป้องกำปั้นคำนับ “พรสวรรค์ของนายน้อยนั้นช่างท้าทายสวรรค์นักและยังสามารถผสานรูปแบบเต๋าระดับสูงห้าดาวได้อีก ตาเฒ่าผู้นี้ฝึกฝนมาหลายร้อยปีก็ยังไม่ได้อะไร อัจฉริยะอันดับหนึ่งของเผ่าเทพประทานในช่วงหมื่นปีนี้ต้องเป็นของนายน้อยอย่างแน่นอน ตระกูลหวงฝูจะก้าวไปได้อีกระดับเพราะนายน้อยหวงฝูเลยขอรับ”
“ตาเฒ่า เจ้าหูหนวกหรือ?”
หวงฝูเทาเทียนจ้องเขาและคำรามออกมา “ข้าบอกว่าข้าไม่ใช่คนตระกูลหวงฝูอีกแล้ว ตระกูลหวงฝูอะไรกัน ข้า หวงฝูเทาเทียนจะสร้างตระกูลหวงฝูอื่นขึ้นมาด้วยตัวเองพร้อมกับกระบี่ของข้า อีกสิบปีให้หลัง จากสิบสามตระกูลจะต้องกลายเป็นสิบสี่ตระกูลอย่างแน่นอน!”
“เอ่อ?”
สีหน้าของหวงฝูดูค่อนข้างอักอ่วนและผู้คนบนเรือลิขิตสวรรค์เองก็ฝืนยิ้มออกมาเช่นกัน ดูเหมือนว่าหวงฝูเทาเทียนจะขัดแย้งกับตระกูลหวงฝูจริงๆและต้องการจะสร้างตระกูลของตัวเองขึ้นมาจริงๆ?
แต่ ณ ตอนนี้ ไม่มีผู้ใดกล้าเยาะเย้ยเขา เพราะด้วยอายุเพียงยี่สิบแปดปี เขาก็ทำให้ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดยอมรับความพ่ายแพ้ได้แล้ว หวงฝูเทาเทียนผู้นี้อาจเข้าทะลวงไปถึงผู้ที่แข็งแกร่งเทียมเทพได้จริงๆ และเมื่อถึงตอนนั้น มันคงเป็นไปได้ที่เขาจะสร้างตระกูลตัวเองขึ้นมา
“หยุดพูดเรื่องไร้สาระเถอะ!”
หวงฝูเทาเทียนกวาดสายตาที่เย็นชาของเขาไปทั่วและพูดว่า “สมาคมการค้าวิหคมรกตจงจ่ายศิลาสวรรค์มาห้าร้อยล้านก้อนและพวกเจ้าที่เหลือก็จ่ายมาคนละล้านก้อนซะ หากผู้ใดไม่จ่าย…ก็จงตายซะ!”
ชิงหลงยิ้มอย่างขมขื่นและกล่าวว่า “นายน้อย ทุกท่านทั้งหมดนี้เป็นลูกค้าของสมาคมข้า เมื่อพวกเขากำลังนั่งอยู่บนเรือลิขิตสวรรค์ เราจะต้องรับประกันความปลอดภัยของพวกเขา แล้วหากว่า…เราจะจ่ายศิลาสวรรค์พันล้านก้อนและจ่ายค่าผ่านทางแทนพวกเขาได้หรือไม่?” “ไม่มีทาง!”
หวงฝูเทาเทียนเย้ยหยันและพูดว่า “ข้าไม่จำเป็นต้องปิดบังอะไรเจ้า ในเดือนที่ผ่านมา ข้าได้สกัดเรือลิขิตสวรรค์สามสิบลำบนทะเลเทพประทาน ทุกคนจะต้องมอบศิลาสวรรค์มาโดยไม่มีแม้แต่ข้อยกเว้นเดียว! หากสมาคมการค้าของเจ้าต้องการจะช่วยจ่ายแทนพวกเขา เช่นนั้น คนบนเรือทั้งหมดมีราวๆหกถึงเจ็ดพันคน ข้าจะถือว่ามีเพียงแค่ห้าพันคนเท่านั้น และสมาคมการค้าของเจ้าจะต้องจ่ายมาห้าพันล้านศิลาสววรค์!”
ฟู่วว…
ชิงหลงสูดลมหายใจเย็นเยียบของเขา ศิลาสวรรค์ห้าพันล้านก้อนไม่ใช่เงินจำนวนน้อยๆสำหรับสมาคมการค้าวิหคมรกตเลย มันดีมากพอแล้วสำหรับพวกเขาที่จะหารายได้ไม่กี่ร้อยล้านสำหรับการเดินทางครั้งนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็มีกองโจรที่ทรงพลังมากมายที่พวกเขาต้องยับยั้ง หากเขาต้องจ่ายศิลาสวรรค์ห้าพันล้านก้อน เขาคงไม่สามารถอยู่บนตำแหน่งผู้อาวุโสได้ แต่หากเขาไม่จ่าย ชื่อเสียงของสมาคมการค้าจะสูญเสียไปอย่างมหาศาล หากมีคนนั่งเรือลิขิตสวรรค์ของพวกเขา แต่พวกเขาไม่สามารถรับประกันความปลอดภัยให้ลูกค้าได้ จะมีใครอยากนั่งบนเรือลำนั้นกัน?
สงคราม?
พวกเขาอาจสังหารนายน้อยหวงฝูได้หากผสานกำลังของทุกคน แต่สมาคมการค้าวิหคมรกตก็จะถูกยุติลงไป นายน้อยที่มีพรสวรรค์เช่นนี้ย่อมเป็นสายเลือดใหญ่ของตระกูลหวงฝู ยิ่งไปกว่านั้น อาจมีองครักษ์ที่ทรงพลังหลบซ่อนอยู่แถวๆนี้ด้วยซ้ำ
ชิงหลงอยู่ในภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก เขาพึมพำอยู่ครู่หนึ่งและกัดฟันแน่น “นายน้อย ตาเฒ่าผู้นี้ขอแทนลูกค้าเหล่านี้ได้หรือไม่ ลูกค้าสามารถจ่ายศิลาสวรรค์สามแสนก้อนสำหรับขอบเขตเทียนจุน และหนึ่งแสนก้อนสำหรับขอบเขตจินกังได้หรือไม่? เพราะอย่างไรเสีย ทุกคนก็ทำงานอย่างหนักเพื่อทำมาหากินกันนะขอรับ” “บ้าเอ้ย!” Aileen-novel
ลูกค้านับไม่ถ้วนบนเรือเริ่มสาปแช่งเพราะเห็นได้ชัดว่าชิงหลงจะไม่ช่วยพวกเขาจ่าย แต่หากพวกเขาไม่มอบศิลาสวรรค์ให้ หลายๆคนก็จะถูกหวงฝูผู้นี้สังหาร
หวงฝูเทาเทียนมองไปยังจอมยุทธทั้งหมดบนดาดฟ้าและพูดว่า “ขอบเขตเทียนจุนจะจ่ายศิลาสวรรค์ห้าแสนก้อนและขอบเขตจินกังจ่ายห้าหมื่นก้อน หากขาดไปแม้แต่ก้อนเดียว ข้าจะสังหารผู้คนตามจำนวนก้อนที่ขาดไป ข้าจำเป็นต้องใช้ศิลาสวรรค์จำนวนมหาศาล ดังนั้นข้าจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำให้ทุกคนขุ่นเคือง”
“แต่แน่นอนว่า หากพวกเจ้าไม่ยินยอม พวกเจ้าก็ลงมือได้เลย พวกเจ้าจะเข้ามาทีละคนหรือจะโจมตีพร้อมกันก็ได้ ข้ามีศิลาสวรรค์ทั้งหมดประมาณหกหมื่นล้านก้อน สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงอีกสามชิ้น และกระบี่เล่มนี้ก็ยังเชื่อมดวงจิตวิญญาณด้วย หากพวกเจ้าสังหารข้าได้….ศิลาสวรรค์และสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงทั้งหมดจะตกเป็นของเจ้า ข้ารับประกันได้ว่าตระกูลหวงฝูจะไม่ไล่ล่าพวกเจ้าเพราะข้าถูกขับไล่ออกจากตระกูลแล้ว”
หวงฝูเทาเทียนพูดอย่างเย่อหยิ่ง
แต่ผู้คนหลายพันคนบนดาดฟ้าไม่กล้าลงมือเลย หากไม่พูดถึงการที่พวกเขาอาจจะสังหารหวงฝูเทาเทียนได้ แต่ถึงทำได้ แล้วผู้ใดจะกล้าทำเช่นนั้นกัน? ตระกูลหวงฝูจะทิ้งลูกหลานอัจฉริยะเช่นนี้จริงๆหรือ?
“ทุกๆท่าน ข้าต้องขออภัยด้วย!”
ชิงหลงฝืนยิ้มและป้องมือขณะพูดว่า “นี่คือความไร้สามารถของสมาคมการค้าวิหคมรกตของเราและของชิงหลงเอง ในภายหน้าข้าจะมอบป้ายแขกพิเศษของเราให้พวกท่าน และในอนาคต ตราบใดที่พวกท่านซื้อสินค้าจากสมาคมของเราหรือขึ้นเรือลิขิตสวรรค์ ทุกท่านจะได้ส่วนลดสองในสิบส่วน…”
“บ้าเอ้ย!”
จอมยุทธมากมายกลอกตาไปมาขณะที่หลายๆคนสาปแช่งอยู่เงียบๆ ให้ป้ายบ้าบออะไรกัน? พวกเขาควรจะคืนศิลาสวรรค์ให้ทุกคนบนเรือลิขิตสวรรค์ไม่ใช่หรือ? หากสมาคมการค้าทำเช่นนั้น คงไม่มีใครบ่นอะไร ใครจะไปสนใจป้ายของสมาคมกัน?
แม้ว่าทุกๆคนจะบ่น แต่หลายคนก็ยังคงมอบศิลาสวรรค์ให้อยู่ดี ผู้ที่สามารถขึ้นเรือลิขิตสวรรค์ไปยังเมืองเทพประทานได้มักเป็นคนร่ำรวยและน่านับถืออยู่แล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงต้องตายหลังจากที่ไปถึงเมืองเทพประทานอยู่ดี แต่ศิลาสวรรค์สำหรับขอบเขตจินกังจำนวนห้าหมื่นก้อนกับขอบเขตเทียนจุนจำนวนห้าแสนก้อนนั้นก็ยังถือว่าเป็นราคาที่พวกเขารับได้
ฟรึ่บ!
แต่แน่นอนว่ามีบางคนที่ไม่สามารถมอบศิลาสวรรค์ให้ได้หรือพวกที่ไม่ต้องการมอบศิลาสวรรค์ให้ มีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหลายคนที่แยกตัวกันไปทั่วทุกสารทิศ พวกเขาไม่ต้องการสู้กลับ แต่การหนีไปก็ยังทำได้ใช่ไหม? มีหลายคนหลบหนีไปหลายทิศทาง ซึ่งหวงฝูคงสังหารพวกเขาทั้งหมดไม่ได้หรอกใช่ไหม?
“ฮึ่ม!”
ผ้าคลุมสีเขียวปรากฏขึ้นบนหลังหวงฝูเทาเทียน มันเปล่งแสงออกมาเรื่อยๆขณะที่เขารีบพุ่งไป
“ช่างรวดเร็วอะไรเช่นนี้…”
เฟิ่งหลวนและชิงหยีต่างพากันตกตะลึงขณะที่สีหน้าของพวกนางเจื่อนไป ความเร็วแต่เดิมของหวงฝูนั้นน่ายกย่องอยู่แล้ว แต่เมื่อมีผ้าคลุมจากสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงอีก ความเร็วของเขากลับเทียบได้กับขอบเขตเทียนจุนระดับสูงเลยทีเดียว
เขาใช้เวลาเพียงครู่เดียวในการไล่ตามคนแรก และฟาดกระบี่ออกมาหลายสิบครั้งพร้อมกับปล่อยมังกรอัสนีออกมานับไม่ถ้วนและมันได้กลืนกินผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนผู้นั้นทันที หลังจากที่โล่ศักดิ์สิทธิ์ของขอบเขตเทียนจุนแตกสลายไปแล้ว ร่างของคนผู้นั้นก็กลายเป็นฝุ่นผงทันที ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
หวงฝูเทาเทียนไม่ได้หยุดเลยแม้แต่เสี้ยววินาทีขณะที่เขาหันกลับไปและฟาดกระบี่ไปอีกนับครั้งไม่ถ้วนเพื่อสังหารผู้หลบหนีทั้งห้าคนไปทีละคน
กลิ่นอายสังหารของเขาเอ่อล้นออกมาขณะที่เขากวาดตามองไปยังดาดฟ้าและพูดอย่างเฉยเมยว่า “ข้าเป็นคนมีเหตุผลมาก หากพวกเจ้ามีศิลาสวรรค์ไม่พอ พวกเจ้าจะจ่ายด้วยสมบัติของพวกเจ้าก็ได้ และหากพวกเจ้าไม่มีจริงๆ พวกเจ้าแค่มอบแหวนแก่นแท้ศักดิ์สิทธิ์โบราณของพวกเจ้ามาและข้าจะไว้ชีวิตคนผู้นั้น เอาล่ะ….ทุกคนจงออกมาจากระวางเรือซะ และปล่อยทุกๆคนออกมาจากสิ่งประดิษฐ์ห้วงมิติด้วย ไม่เช่นนั้น อย่าโทษข้าที่ทำตัวไม่สุภาพแล้วกัน”
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ภายใต้ความเป็นความตาย ผู้คนนับไม่ถ้วนรีบพากันออกจากระวางเรือขณะที่เฟิ่งหลวนและชิงหยีต่างตื่นตระหนก ดวงตาของเจียงอี้ยังคงหมุนมึนอยู่และพวกนางทั้งสองคงไม่สามารถแบกเจียงอี้ออกไปได้ใช่ไหม? ดูเหมือนว่าเขากำลังเข้าถึงบางสิ่งอยู่ หากพวกนางแตะต้องเขาในตอนนี้ พวกนางอาจจะไปทำลายสมาธิของเขาเป็นแน่
เฟิ่งหลวนยังพอมีศิลาสวรรค์อยู่บ้าง แต่น่าเสียดายที่พวกนางซื้อของมากมายตอนที่อยู่ป้อมปราการทิวาอรุณ และพวกเขาทุกคนจะต้องมอบศิลาสวรรค์ให้หวงฝูเทาเทียนมากกว่าล้านก้อนและพวกนางมีศิลาสวรรค์ไม่พอ ส่วนเฉียนว่านก้วนมีศิลาสวรรค์ แต่ตอนนี้เขากับเจียงเสี่ยวนู๋อยู่ในราชวังจักรพรรดิ