เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 757 เกาะเทพประทาน
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ทุกคนที่อยู่ภายในเรือทั้งหมดพอกันออกมาขณะที่ผู้คนที่อยู่ในสมบัติห้วงมิติเองก็ถูกเคลื่อนย้ายออกมาและได้ส่งมอบศิลาสวรรค์ หวงฝูเทาเทียนผู้นี้ยังถือว่าเป็นคนมีเหตุผลบ้างเนื่องจากมีคนไม่กี่คนที่ลบตราประทับดวงจิตในแหวนและโยนให้หวงฝูเทาเทียน เมื่อเขาตรวจสอบในแหวนแล้ว เขาก็คืนมันให้กับพวกนั้นและเขาไม่ได้สังหารผู้ใดก็ตามที่มีศิลาสวรรค์ไม่เพียงพออย่างแท้จริง
จอมยุทธทั้งหมดมอบศิลาสวรรค์ให้ทีละคน และหนึ่งชั่วโมงต่อมา ผู้คนหลายพันคนก็ได้มอบศิลาสวรรค์ของพวกเขาเสร็จแล้ว จากนั้นหวงฝูเทาเทียนก็กวาดสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ไปยังเรือลิขิตสวรรค์ และเมื่อเขาแผ่ไปทั่วที่พักของเจียงอี้ ดวงตาของเขาก็เผยความเย็นชาขณะที่พูดว่า “พวกเจ้าอยากตายจริงๆหรือ?”
ฟรึ่บ! เฟิ่งหลวนใช้หินจันทร์มายาแปลงกายบินออกมาซึ่งทำให้นางมีรูปลักษณ์เหมือนหญิงชรา นางคำนับและกล่าวว่า “ท่านหวงฝู นายน้อยของข้ากำลังเข้าสู่สันโดษและอยู่ในช่วงเวลาที่สลักสำคัญมากเจ้าค่ะ ศิลาสวรรค์ทั้งหมดอยู่กับเขา ท่านช่วยสละเวลาเพื่อรอให้เขาตื่นก่อนได้ไหมเจ้าคะ?”
“ฮึ่ม!”
หวงฝูเทาเทียนระเบิดกลิ่นอายสังหารออกมาและตะโกนว่า “เจ้ามีสองทางเลือกว่าจะปลุกเขาขึ้นมาเพื่อให้เขาส่งศิลาสวรรค์ให้ข้าหรือจะให้ข้าไปเอามาเอง!”
เฟิ่งหลวนถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้และกลับไปยังระวางเรือเพื่อที่จะปลุกเจียงอี้ให้ตื่น
แต่ในตอนนั้นเอง ดวงตาของเจียงอี้ก็ส่องสว่างขึ้นมาขณะที่เขาหัวเราะอย่างสุดเสียง “ฮ่าฮ่าฮ่า ในที่สุดข้าก็เข้าใจมันแล้ว อัสนีเป็นตัวแทนของการทำลายล้างและการจุติใหม่อีกครั้ง, อัคคีเป็นการทำลายล้าง, ส่วนแสงสว่างนั้นคือชีวิต อัสนีทำลายได้ทุกอย่างและยังทำลายความมืดเพื่อนำแสงสว่างได้ซึ่งให้กำเนิดชีวิต….ในที่สุดข้าก็เข้าใจมันแล้ว พลังแห่งอัสนี, อัคคี, การทำลายล้าง แสงสว่าง ความมืด และชีวิต ในที่สุดข้าก็มาถึงจุดเชื่อมที่จะทำให้มันผสานกันได้เสียที ฮ่าฮ่าฮ่า เมื่อรูปแบบเต๋าระดับสูงนี้ผสานกันได้แล้ว มันจะมีประโยชน์ในการต่อสู้อย่างมาก เอ๊ะ? เฟิ่งเอ๋อร์ ทำไมเจ้าถึงได้มองข้าเช่นนี้ล่ะ?”
เจียงอี้หัวเราะขณะที่หันหน้าขึ้นไปบนฟ้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความปิติยินดี แต่เมื่อเขาเห็นการแสดงออกที่ผิดปกติของเฟิ่งหลวนและชิงหยี เขาก็ตระหนักถึงสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว
เจียงอี้แผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปและสังเกตเห็นกลุ่มคนทั้งหมดใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์เพ่งมาที่เขา ซึ่งมันทำให้ร่างของเขาสะดุ้งขึ้นมาทันที เขาไม่ได้คาดคิดว่าอาคมยับยั้งจะถูกเปิดออกมาและผู้คนจำนวนมากกำลังพุ่งความสนใจมาที่เขาอยู่
“นายน้อย รีบไปมอบศิลาสวรรค์เถอะเจ้าค่ะ หากเราทำให้นายน้อยหวงฝูผู้นี้โกรธเคือง เราทุกคนจะต้องตาย…” เฟิ่งหลวนส่งข้อความเสียงมาถึงเจียงอี้และอธิบายสถานการณ์ก่อนหน้านี้ให้เขาฟังอย่างรวดเร็ว
เจียงอี้ลูบจมูกของเขาอย่างเคอะเขิน โชคดีที่เขาได้กินยาเปลี่ยนกายและใช้หินจันทร์มายาไป และตอนนี้บุคคลทั่วไปจะไม่สามารถเห็นตัวตนที่แท้จริงของเขาได้
เจียงอี้รีบบินออกไปและส่งแหวนให้หวงฝูและป้องกำปั้นขณะที่ส่งข้อความว่า “นายน้อยหวงฝู การต่อสู้ของท่านก่อนหน้านี้ได้ให้ความรู้แก่ข้าน้อยและเป็นประโยชน์ต่อการฝึกฝนของข้ามาก เนื่องจากท่านต้องการศิลาสวรรค์ ข้ามีอยู่ในแหวนวงนั้นหนึ่งร้อยล้านก้อนซึ่งข้าหวังว่ามันคงพอจะช่วยท่านได้บ้าง”
“หืม?”
หวงฝูเทาเทียนเหลือบมองเข้าไปในแหวนที่เขาเพิ่งได้มาและมองไปที่เจียงอี้ จากนั้นหวงฝูเทาเทียนก็ส่งข้อความกลับหาเจียงอี้ด้วยเสียงที่เย็นชาว่า “การสังเกตการต่อสู้และเข้าใจมันได้คือชะตาและพรสวรรค์ของเจ้าเอง ปกติแล้วข้าจะเอาศิลาสวรรค์จากเจ้าเพียงห้าแสนก้อน แต่ข้าจำเป็นต้องใช้ศิลาสวรรค์จริงๆ หากภายภาคหน้าข้ามีโอกาส…ข้าจะตอบแทนเจ้าเป็นร้อยเท่า!”
กลุ่มของเจียงอี้เป็นกลุ่มสุดท้ายที่มอบศิลาสวรรค์ให้หวงฝู จากนั้นหวงฝูเทาเทียนก็ป้องกำปั้นและมองทุกคนก่อนจะพูดว่า “ทุกคน วันนี้ข้าได้ทำให้ทุกคนขุ่นเคือง หากผู้ใดต้องการแก้แค้นในภายภาคหน้า พวกเจ้าไปยังเกาะเทาเทียนเพื่อตามหาข้าได้ ข้าขอลาก่อน”
หวงฝูเทาเทียนบินไปยังทิศทางของเมฆอัสนีต่อ จอมยุทธที่อยู่กลางอากาศเองก็ทยอยบินกลับไปยังระวางเรือของตนเองกัน ส่วนชิงหลงและผู้บัญชาการสมาคมการค้าวิหคมรกตยังคงพากันยิ้มขออภัย แต่ไม่มีผู้ใดสนใจพวกเขาเลย
ส่วนเจียงอี้เองก็บินกลับเข้าไปอย่างรวดเร็วเช่นกันขณะที่เฟิ่งหลวนส่งข้อความและเล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้น แต่ศิลาสวรรค์หนึ่งร้อยล้านก้อนที่เขามอบให้หวงฝูเทาเทียนนั้นไม่ได้ต้องการสร้างความซาบซึ้งใจให้กับใคร แต่เพราะเขารู้สึกขอบคุณนายน้อยหวงฝูผู้นี้อย่างแท้จริง
หากนายน้อยหวงฝูไม่ได้เริ่มการต่อสู้ที่นี่เจียงอี้ก็จะไม่มีวันเข้าใจเรื่องพวกนี้ได้ในทันที และตอนนี้เขามั่นใจมากว่าเขาจะผสานรูปแบบเต๋าหกรูปแบบได้ในเวลาสั้นๆ และเมื่อเขาพบทางที่จะผสานรูปแบบเต๋าอีกสามรูปแบบเมื่อไหร่ รูปแบบเต๋าระดับสูงนี้ก็จะสมบูรณ์แบบ
ในอีกทางหนึ่ง เจียงอี้เลื่อมใสหวงฝูเทาเทียนอยู่แล้ว เนื่องจากเขามีความแข็งแกร่งเทียบเท่าขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดในวัยเพียงยี่สิบเจ็ดถึงยี่สิบแปดปี สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงอาจเป็นของตระกูลหวงฝูก็จริง แต่รูปแบบเต๋าระดับสูงห้าดาวของเขานั้น เขาเข้าใจและผสานมันด้วยตัวเองอย่างแน่นอนหวงฝูเทาเทียนผู้นี้อาจปล้นพวกเขากลางวันแสกๆแต่เขาก็ค่อนข้างเป็นคนมีเหตุผล โดยเฉพาะคำพูดทิ้งท้ายของเขาที่ทำให้เจียงอี้ยอมรับเขาโดยสมบูรณ์
ศิลาสวรรค์? ไอรีนโนเวล
เจียงอี้หาศิลาสวรรค์ได้โดยการวาดภาพเพียงไม่กี่ภาพ การใช้ศิลาสวรรค์ไปร้อยล้านก้อนเพื่อสร้างมิตรภาพกับอัจฉริยะที่มีภูมิหลังที่แข็งแกร่ง? มันคือการลงทุนที่คุ้มค่า “ศิลาสวรรค์หกหมื่นล้านก้อน? หวงฝูเทาเทียนต้องการอะไรกันแน่นะ? เขามีศิลาสวรรค์มากมายแล้วแต่ยังต้องการจะปล้นเพิ่มอีก? ศิลาสวรรค์มากมายขนาดนั้นจะมีสิ่งใดที่เขาซื้อไม่ได้อีก?”
เจียงอี้นั่งอยู่บนเรือด้วยความงุนงง แต่เมื่อเขาคิดถึงเรื่องที่มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์จับจ้องมาที่เขาก่อนหน้านี้ เจียงอี้ก็ปวดหัวขึ้นมาอีกครั้ง หากตัวตนของเจียงอี้ถูกเปิดเผย เขาอาจจะต้องใช้วิชาหลีกสวรรค์หลบหนีอีกครั้งก็ได้
เจียงอี้นั่งร้อนรนถึงเรื่องนี้อยู่ครู่หนึ่งและตัดสินใจที่จะไม่นึกถึงเรื่องนี้อีก เขาให้เฟิ่งหลวนคุ้มกันเขาขณะที่เขานั่งขัดสมาธิเพื่อเริ่มฝึกฝนต่อ เจียงอี้ตัดสินใจที่จะหลอมรวมรูปแบบเต๋าระดับต่ำทั้งหกรูปแบบก่อนที่จะคิดถึงเรื่องอื่น
…
ความกังวลของเจียงอี้นั้นไม่จำเป็นจริงๆเนื่องจากทุกคนถูกดึงดูดด้วยเสียงหัวเราะของเขา ยิ่งไปกว่านั้น เจียงอี้มีหินจันทร์มายาและใช้ยาแปลงกายเพื่อเปลี่ยนรูปลักษณ์อีกครั้ง แม้ว่าจะมีใครมองทะลุผ่านหินจันทร์มายาได้ แต่พวกเขาก็จะไม่เห็นตัวตนที่แท้จริงของเจียงอี้
แม้ว่าจะมีคนเห็นร่างจริงของเจียงอี้ได้ แต่ก็ไม่มีผู้ใดสนใจเขาแล้ว เนื่องจากเรื่องของเขามันผ่านมานานแล้วและคนส่วนใหญ่ที่มีข้อมูลก็ลืมเขาไปกันหมดแล้ว
การเดินทางที่เหลือดำเนินต่อไปอย่างราบรื่น สมาคมการค้าวิหคมรกตเป็นหนึ่งในสามสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเทพประทาน เหล่ากองโจรที่มีพลังมากมายก็เจรจากับพวกเขาไว้แล้วและกองโจรที่อ่อนแอก็ไม่กล้าแม้แต่จะเข้ามาขัดขวางพวกเขา
เจียงอี้เข้าสู่สันโดษกว่าหนึ่งเดือนและเรือลิขิตสวรรค์ก็ได้เข้าสู่เกาะเทพประทานแล้วและกำลังมุ่งหน้าไปยังเมืองเทพประทาน เมื่อพวกเขาเข้าไปในเกาะเทพประทานแล้ว เฟิ่งหลวนและชิงหยีก็รู้สึกได้ถึงความแตกต่าง ที่นี่เป็นดั่งโลกอมตะที่มีพลังฟ้าดินอัดแน่นมากซึ่งมันหนาแน่นเป็นอย่างน้อยสองเท่าของทะเลเทพประทาน
และเพราะพลังฟ้าดินที่หนาแน่นนี้ พื้นที่เพาะปลูกของที่นี่จึงเขียวขจีเป็นพิเศษและทิวทัศน์ก็น่ารื่นรมย์มาก
ปึง! ปัง! ปัง!
หลังจากที่เข้าสู่เกาะเทพประทานแล้ว ทุกคนก็จะเห็นการต่อสู้เป็นปกติ มันอาจเป็นทั้งกลุ่มคนที่ไล่ล่าคนคนเดียวหรือไล่ล่าเป็นร้อยเป็นพันคนในการต่อสู้ที่อลหม่านได้ เมื่อพวกเขาเห็นเรือลิขิตสวรรค์ของสมาคมการค้าวิหคมรกต พวกเขาทั้งหมดจะพากันบินหนีไป
“ข้าทำสำเร็จแล้ว!”
เก้าวันต่อมา เจียงอี้ลืมตาขึ้นมาพร้อมกับยิ้มแย้มแจ่มใส ในที่สุดเขาก็หลอมรูปแบบเต๋าทั้งหกเข้าด้วยกันได้อย่างไร้ที่ติเสียที แม้ว่าเขาจะยังไม่ได้รวมรูปแบบเต๋าอีกสามประเภทแต่รูปแบบเต๋าในตอนนี้ก็น่าจะทรงพลังมากแล้ว แต่เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ทดลองถึงพลังของมันเลย!
“ยังมีรูปแบบเต๋าอีกสามประเภท หากข้ารวมมันเข้าด้วยกันได้ พลังของรูปแบบเต๋าจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าแน่ๆ!” เจียงอี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น เขากวาดตามองไปรอบๆด้วยสัมผัสศักดิ์สิทธิ์และเห็นผู้คนนับหมื่นกำลังบินมาซึ่งมันทำให้ใจของเจียงอี้ตื่นตระหนกและประหม่า ในบรรดาคนนับหมื่นนั้นมีขอบเขตเทียนจุนมากกว่าสามพันคนด้วย
“ชิงหลงแห่งสมาคมการค้าวิหคมรกตอยู่ที่นี่ ไสหัวไปให้พ้นซะ!”
เสียงคนชราที่ทรงพลังดังก้องขึ้นมา ซึ่งทำให้ผู้คนนับหมื่นพากันเปลี่ยนทิศทางและบินหนีไป เจียงอี้ถอนหายใจออกมายาวมากและถามว่า “เกาะเทพประทานโกลาหลมากถึงเพียงนี้เลยหรือ?”
“อืม เราเห็นการฆ่าฟันกันเกือบทุกที่ที่เราผ่านมา เราจะเจอกองโจรที่ทรงพลังอย่างน้อยสิบกองทัพในทุกๆวัน และกลุ่มก่อนหน้านี้ถือว่าเล็กแล้วเจ้าค่ะ” เฟิ่งหลวนพยักหน้าและตอบด้วยน้ำเสียงจริงจัง
ฟู่!
เจียงอี้สูดอากาศเข้าไป นี่ยังถือว่าอยู่นอกเขตเมืองเทพประทาน จะมียอดฝีมืออยู่ในเมืองนี้อีกกี่คนกันนะ? เมืองเทพประทานนี้จะวิเศษและสงบสุขจริงๆเหมือนที่เขาเคยได้ยินคำร่ำลือมาหรือไม่? หลังจากที่พวกเขาซื้อลานภายในเมืองแล้ว พวกเขาจะสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสงบสุขจริงๆหรือ?