เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 771 อยากได้และมีเงิน!
หวงฝูเทาเทียนได้เสนอราคาทันที ดวงตาของเขาสั่นไหวเมื่อเหลือบมองที่ภาพไปอีกหลายครั้งก่อนที่จะกัดฟันและตะโกนว่า “สามหมื่นล้าน! เหลยจื่อหาน หากเจ้ายังเสนอราคาต่ออีก ข้าจะไม่เสนอต่อแล้ว!”
“ฮือฮา!”
ฝูงชนทั้งหมดตกอยู่ในความโกลาหล ภาพวาดชิ้นเดียวมีราคาถึงสามหมื่นล้าน ซึ่งราคาประมูลของมันได้เกินราคาประมูลสูงสุดในปีนี้ไปแล้ว แต่แน่นอนว่ามันยังห่างจากราคาสูงสุดในประวัติศาสตร์อีกมาก แต่นี่เป็นเพียงภาพวาดที่มีลวดลายเต๋าวายุธรรมดาๆอยู่ในนั้น
ในสายตาของผู้คนหลายๆคน ภาพวาดทั้งสามนี้น่าจะราคาเกินพันล้านก้อนต่อรูปเท่านั้น แต่ตอนนี้ภาพวาดสองภาพแรกก็ถูกประมูลไปในราคาหมื่นล้านแล้ว ขณะที่ภาพวาดสุดท้ายมีราคาเพิ่มขึ้นถึงสามเท่า ผู้คนนับไม่ถ้วนรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้เข้าร่วมการประมูลในครั้งนี้อย่างเปล่าประโยชน์ อย่างน้อยพวกเขาก็ได้เห็นนายน้อยและคุณหนูตระกูลใหญ่ๆที่ใช้เงินทองอย่างไม่ลังเล ในภายภาคหน้า พวกเขาก็ยังมีโอกาสได้โอ้อวดกับการได้เห็นฉากนี้ใช่ไหม?
“หวงฝูเทาเทียนไปหาศิลาสวรรค์มาจากไหนกันนะ?”
บางคนฉงนใจมากเมื่อทุกคนได้เห็นเหตุการณ์ที่จัตุรัสเทพประทาน หวงฝูเทาเทียนอยู่ในจุดแตกหักกับตระกูลหวงฝูแล้ว และหากตระกูลหวงฝูไม่ได้สนับสนุนเขา เขาไปเอาศิลาสวรรค์ทั้งหมดเหล่านี้มาได้อย่างไรกัน?
แน่นอนว่ามีข่าวลือหรือคนที่ถูกหวงฝูเทาเทียนปล้นรู้ดีว่าเขาไปเอาศิลาสวรรค์มาจากไหน แต่พวกเขาประหลาดใจที่หวงฝูเทาเทียนปล้นศิลาสวรรค์เหล่านั้นมาเพื่อซื้อภาพวาดนี้เนี่ยนะ?
“สามหมื่นหนึ่งพันล้าน!”
เสียงของแม่นางตระกูลเล่ยในศาลาหมายเลขหนึ่งดังก้องขึ้นซึ่งทำให้เสียงของฝูงชนเงียบลงทันที หลายคนต่างส่ายหัวและถอนหายใจ นี่มันไม่ใช่แค่เรื่องภาพวาดธรรมดา แต่มันคือการทะเลาะกันล้วนๆ เหลยถิงเวยให้เหลยจื่อหานประพฤติตัวเช่นนี้หรือ?
ดวงตาของหวงฝูเทาเทียนหรี่ลงและชำเลืองมองศาลาหมายเลขหนึ่งและสุดท้ายก็เงียบไป เขานั่งลงและหลับตาอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่าเขาล้มเลิกการประมูลภาพวาดนี้แล้ว
“ฮึฮึ!”
ซือถูอีเนี่ยนหัวเราะเบาๆและพูดว่า “พี่ใหญ่จื่อหานเป็นสตรีต้นแบบในการไม่ยอมแพ้ต่อบุรุษจริงๆเจ้าค่ะ สามหมื่นหนึ่งหันล้านเป็นราคาประมูลชิ้นเดียวที่สูงที่สุดในปีนี้ มีผู้ใดให้สูงกว่านี้ไหมเจ้าคะ? หากไม่มีแล้ว ภาพวาด “ความหลงใหล” นี้จะเป็นของพี่ใหญ่จื่อหานเจ้าค่ะ”
ทั้งห้องโถงเงียบสนิท แม้แต่อีกสิบสองตระกูลเองก็ยังเงียบ หลายๆคนชื่นชอบภาพวาดนี้จริงๆและต้องการจะสะสมมันเอาไว้ แต่ราคานั้นก็สูงเกินไปและมันไม่ค่อยคุ้มเท่าไหร่นัก
“สาม สอง!”
ขณะที่ซือถูอีเนี่ยนกำลังนับถอยหลัง หวงฝูเทาเทียนก็ไม่เงยหน้าขึ้นมาอีกต่อไป ซือถูอีเนี่ยนเหลือบมองเขาแล้วถอนหายใจเล็กน้อยขณะที่พูดต่อว่า “หนึ่ง เอาล่ะ…”
“รอเดี๋ยว!”
ในขณะนั้นเอง มีเสียงดังมาจากศาลาหมายเลขห้า บุคคลผู้นี้เองก็ไม่ใช้อาคมในการเปลี่ยนเสียงเช่นกัน เสียงที่ไพเราะของนางดังก้องไปทั่วห้องโถง “เชียนเชียนชอบภาพวาดนี้มาก แม่นางเหลย ข้าขออภัยด้วยนะเจ้าคะ ข้าขอเสนอราคาหนึ่งแสนล้าน!”
พรึ่บ!
พลั่บ!
ขณะที่เสียงเงียบลง ผู้คนจำนวนมากแทบตกจากที่นั่ง เฉียนว่านก้วนที่เพิ่งจะลุกขึ้นก็ลงไปนั่งกับพื้นอีกครั้ง ซือถูอีเนี่ยนอ้าปากเล็กๆของนางขณะที่หวงฝูเทาเทียนเองก็เงยหน้าขึ้นมาทันที ผู้คนนับไม่ถ้วนสงสัยว่าพวกเขาไม่ได้ยินผิดไปใช่หรือไม่ และพากันมองไปยังศาลาหมายเลขห้าด้วยสีหน้าอันตกตะลึงและประหลาดใจ
“แสนล้าน?”
ร่างอันบอบบางของซือถูอีเนี่ยนสั่นเทาเล็กน้อย สมบัติที่ประมูลได้ราคาสูงที่สุดในประวัติศาสตร์นั้นราคาเพียงแปดหมื่นห้าพันล้านเท่านั้นและเป็นสมบัติล้ำค่าที่เชื่อมดวงจิตซึ่งเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงประเภทป้องกัน นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนว่าประวัติศาสตร์นี้จะถูกทำลายไป
“หาก…”
แม่นางเชียนเชียนไม่ได้แกล้งเล่นเลย การประมูลในค่ำคืนนี้จะต้องถูกจารึกลงในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน และชื่อของซือถูอีเนี่ยนก็จะเลื่องลือไปทั่วปฐพีเพราะการประมูลในครั้งนี้ การประมูลด้วยราคาหนึ่งแสนล้านอาจเคยเกิดขึ้นในทวีปจักรพรรดิบูรพา….แต่มันไม่เคยเกิดขึ้นกับภาพวาด หากเหตุการณ์นี้เลื่องลือไปทั่วแดนเทียนชิง มันก็จะเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มาก
ซือถูอีเนี่ยนเลยกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปแล้วถามว่า “แม่นางเชียนเชียนแน่ใจหรือเจ้าคะที่จะประมูลภาพวาด “ความหลงใหล” นี้ด้วยศิลาสวรรค์แสนล้านก้อน?”
“ข้าแน่ใจ”
เสียงที่แน่วแน่ของแม่นางเชียนเชียนสะท้อนออกมาและมันชัดเจนมาก “เชียนเชียนอาจเป็นเผ่าปีศาจ แต่ข้าก็ชื่นชอบวัฒนธรรมของเผ่ามนุษย์ตั้งแต่ยังเด็ก ข้าใฝ่ฝันที่จะได้เห็นตำนานและเรื่องราวที่ยอดเยี่ยมในเผ่าพันธุ์มนุษย์มาโดยตลอด ในความเห็นของเชียนเชียน ภาพวาดภาพนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องราวความรักที่งดงามของมนุษย์ ข้าอาจไม่รู้ว่ามันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นกันแน่ แต่เชียนเชียนจินตนาการได้เลยว่าเปลวเพลิงสงครามได้ปกคลุมไปทั่วเมืองนี้และสตรีนางนี้ก็กำลังนำพลเมืองของนางต่อต้านศัตรูอย่างไม่สะทกสะท้าน”
“และในเวลาที่วิกฤติที่สุด คู่รักของนางก็ลงมาจากบนฟากฟ้าและสังหารเหล่าศัตรู เขาช่วยชีวิตนางและพลเมืองของนาง รอยยิ้มที่ชวนหลงใหลและความเสน่หาในดวงตาของนางนั้นเหมือนจริงมาก ข้าคิดว่าเหล่าหญิงสาวที่มีอารมณ์ที่ล้ำลึกเองก็คงหวังว่าพวกนางจะได้เป็นหญิงสาวในภาพวาดนั้นใช่ไหมล่ะ? เชียนเชียนเองก็อิจฉานางมากเช่นกัน ภาพวาดนี้ทำให้เชียนเชียนสัมผัสได้ถึงความจริงใจและรักที่แสนวิเศษระหว่างมนุษย์ และข้าเชื่อว่าภาพวาดนี้ควรค่ากับแสนล้านแล้ว”
เชียนเชียนพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงใจและล้ำลึกมาก นางพรรณนาถึงเจตนาของภาพวาดนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบซึ่งทำให้เจียงอี้ยิ้มในเวลานี้ และมันเป็นรอยยิ้มที่ยินดีและยอดเยี่ยมมาก เขาไม่ได้ยิ้มเพราะมูลค่าภาพวาดแสนล้าน เนื่องจากศิลาสวรรค์ไม่ได้มีค่าสำหรับเขา แต่เขายิ้มเพราะเขาพบคนที่รักภาพวาดจริงๆ คนที่เข้าใจถึงภาพวาดนี้จริงๆ องค์หญิงเผ่าอสูรผู้นี้ทำให้เขาประทับใจมาก
“เอาล่ะ!”
ซือถูอีเนี่ยนตะโกนออกมาขณะที่ดวงตาอันงดงามของนางเปล่งประกายและมองไปยังศาลาหมายเลขห้าและกล่าวว่า “แม่นางเชียนเชียนเป็นคนที่มีความลึกซึ้งและความน่าหลงใหลอย่างแท้จริง อีเนี่ยนนับถือ เป็นเกียรติแก่ภาพวาด “ความหลงใหล” ที่ถูกซื้อโดยแม่นางเชียนเชียน หากศิลปินที่วาดภาพนี้อยู่ที่นี่ในวันนี้ ศิลปินเองก็คงรู้สึกเป็นเกียรติอย่างสูงสุดเช่นกันเจ้าค่ะ”
คงไม่มีผู้ใดกล้าประมูลราคาเกินแสนล้านแล้ว ที่สำคัญที่สุดคือนางเป็นองค์หญิงเผ่าปีศาจและทะเลลึกไร้สิ้นสุดมีสายแร่ศักดิ์สิทธิ์กี่สายกัน? แล้วจะขุดศิลาสวรรค์ได้ขนาดไหนกัน? มันเป็นเรื่องที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเผ่าปีศาจไม่ใช้ศิลาสวรรค์เพื่อฝึกฝนและสกุลเงินของพวกเขาก็ไม่ใช่ศิลาสวรรค์เช่นกัน หากจะมีผู้ใดถือว่าเป็นผู้ที่ร่ำรวยที่สุดในห้องโถงนี้….นั่นก็คงเป็นองค์หญิงเผ่าปีศาจ
แต่เดิม ซือถูอ้าวกล่าวว่าองค์หญิงเผ่าปีศาจสามารถซื้อสิ่งใดก็ได้ตามที่นางต้องการและอนุญาตให้นางเสนอราคาได้ตามที่นางพอใจ แต่ตอนนี้เขาถึงกับพูดอะไรไม่ออกเพราะเขาไม่สามารถรับราคาแสนล้านไหว!
ถ้ามีเงินมากพอ ก็บันดาลทุกสิ่งได้ดังใจหวัง
ฝูงชนทั้งหมดส่งเสียงโห่ร้องออกมาไม่หยุดหย่อนเพราะพวกเขาเพิ่งได้เห็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์และรู้สึกภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง และเป็นไปตามที่คาดเอาไว้ เหลยจื่อหานไม่ได้เสนอราคาอีกต่อไป แม้ว่านางอยากจะเสนอราคาแต่เหลยถิงเวยคงจะห้ามปรามนางเอาไว้อย่างแน่นอน เนื่องจากภาพวาด “ความหลงใหล” นี้ถูกประมูลจากองค์หญิงเชียนเชียนแห่งเผ่าปีศาจ ไอรีนโนเวล
การประมูลส่วนที่สองจบลงไปแล้ว
หลังจากที่ซือถูอีเนี่ยนลงไปจากเวที กลุ่มสตรีที่มีเสน่ห์ก็ขึ้นมาเริงระบำบนเวทีอีกครั้งในช่วงพัก แต่ก็ยังมีผู้คนมากมายยังคงนึกถึงฉากก่อนหน้านี้ และสำหรับในการประมูลส่วนที่สามนั้นมีเพียงไม่กี่คนที่สามารถเสนอราคาได้
การประมูลรอบสุดท้ายมักจะเป็นสีสันของงาน รายการสินค้าชิ้นแรกนั้นยังเป็นสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงอีกชิ้นหนึ่งและมันคือไข่มุกที่ขายในราคาสองพันล้านขึ้นไป
เมื่อเทียบกับการประมูลก่อนหน้านี้ สินค้าชิ้นแรกๆของส่วนที่สามก็ดูน่าเบื่อเล็กน้อย แม้แต่สมบัติชิ้นที่สองเองก็ยังถูกประมูลไปในราคาห้าพันล้านเท่านั้น ทุกคนจึงไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก
“ลูกพี่ เรารวยแล้ว เรารวยแล้ว!”
เมื่อการประมูลสินค้าชิ้นที่สองจบลง ในที่สุดเฉียนว่านก้วนก็ตื่นจากภวังค์และโผกอดเจียงอี้ขณะที่ร้องไห้ไปหัวเราะไป ส่วนเฟิ่งหลวนและชิงหยีก็ตัวสั่นเทาอยู่เรื่อยๆขณะที่เจียงเสี่ยวนู๋กำลังร้องไห้เหมือนลูกแมวตัวน้อยอยู่
นางมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อซูรั่วเสวี่ยและนางก็ปฏิบัติต่อซูรั่วเสวี่ยเหมือนพี่สะใภ้ และในตอนนี้ซูรั่วเสวี่ยเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ได้และเป็นไปได้ที่นางจะต้องทนทรมานอย่างไม่รู้จบอยู่ในทวีปจักรพรรดิบูรพาด้วยตัวเอง จะให้นางนิ่งเฉยได้อย่างไร?
ส่วนเจียงอี้ก็ดูสงบนิ่งมากและเขาก็ยิ้มขณะที่มองไปยังเฉียนว่านก้วน, เฟิ่งหลวนและชิงหยี เขายังยื่นมือไปลูบเจียงเสี่ยวนู๋เพื่อปลอบโยนนางด้วย แต่ไม่มีผู้ใดสังเกตเลยว่ามีอีกข้างหนึ่งของเขาซ่อนอยู่ในแขนเสื้อ เขากำมืออย่างแน่นและเล็บของเขาก็ฝังลึกเข้าไปในฝ่ามือของตัวเอง เลือดสดค่อยๆไหลออกมาช้าๆและย้อมแขนเสื้อจนกลายเป็นสีแดงไปหมด