เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 789 ดาบเหล็กปฐมกาล
สนามประลองอยู่ใกล้กับจัตุรัสของเมืองทางตะวันตก นี่คือธุรกิจการค้าของตระกูลเหลย สนามประลองนี้ไม่เพียงแต่ใช้สำหรับการประลองเท่านั้น แต่มันยังเป็นสถานที่ทำเงินขนาดใหญ่ด้วย
เมื่อสร้างขึ้นครั้งแรก มันมีไว้สำหรับทายาทตระกูลใหญ่เพื่อสู้กันและป้องกันการเกิดความรุนแรงขึ้นในเมืองซึ่งมันถือว่าฝ่าฝืนกฎ จากนั้นมันก็กลายเป็นสถานที่ลงเดิมพันในการต่อสู้ ทุกๆวันจะมีจอมยุทธที่เป็นทาสมาสู้กันตัวต่อตัวและผู้ชมสามารถวางเดิมพันได้ มีการต่อสู้กันบ่อยครั้งระหว่างยอดฝีมือและจักรพรรดิอสูรเช่นกัน และไม่ว่าจะรุนแรงเพียงใด มันก็ยิ่งกระตุ้นความเลือดร้อนของผู้ชมเท่านั้น
ที่นี่เป็นที่พนันที่ใหญ่ที่สุดในเกาะเทพประทาน ในช่วงเวลากลางวันของทุกวันจะมีการประลองกันสามครั้งเพื่อให้เดิมพันและการเดิมพันแต่ละครั้งจะสูงถึงหลักพันล้าน มันไม่สำคัญว่าตระกูลเหลยจะแพ้หรือชนะในฐานะเจ้าภาพ แต่จำนวนศิลาสวรรค์ที่พวกเขาได้ไปในทุกวันนั้นถือว่ามีมูลค่าสูงนัก
ตระกูลใหญ่ๆนี่ร่ำรวยจริงๆ
หลังจากที่เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนได้ยินคำอธิบายของสนามประลองจากหวงฝูเทาเทียนแล้ว พวกเขาก็ถอนหายใจเงียบๆ จู่ๆเฉียนว่านก้วนก็นึกอะไรบางอย่างได้และส่งข้อความถามว่า พี่ใหญ่เทาเทียน เราจะเดิมพันระหว่างลูกพี่กับลู่หลินได้ไหม? หากมีอัตราสูง เราจะสามารถเดิมพันด้วยกันและรับกำไรมหาศาลจากพวกนั้นซะ
แน่นอน เราทำได้
หวงฝูเทาเทียนแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์และเมื่อมั่นใจว่าไม่มีผู้ใดติดตามพวกเขาอยู่ เขาก็พยักหน้าและพูดว่า ด้วยคนมากมายที่เข้าร่วม เหลยฉีเหยียนจะให้สนามประลองเปิดการเดิมพันแน่ๆ และเนื่องจากเขาจะให้ลู่หลินยืมสมบัติที่เชื่อมดวงจิตด้วยแล้ว เขาจะขยายโอกาสเพื่อดึงดูดการเดิมพันมากขึ้น ข้าว่าครั้งนี้โอกาสพนันนั้นสูงมาก แต่…ว่านก้วน เจ้ามั่นใจมากขนาดนั้นเลยหรือว่าน้องเจียงจะชนะ?
แน่นอน! เฉียนว่านก้วนยิ้มและพูดว่า อย่าว่าแต่พวกไร้สาระอย่างลู่หลินเลย หากลูกพี่ข้าตัดสินใจจะลงมือแล้ว แม้แต่เหลยฉีเหยียนเองก็เอาชนะเขาไม่ได้
เอาล่ะ!
หวงฝูเทาเทียนโบกมือและพูดว่า หากเหลยฉีเหยียนกล้าเดิมพัน ข้าก็จะเดิมพันหมื่นล้าน!
หมื่นล้าน?
เฉียนว่านก้วนและเจียงอี้มองหน้ากันขณะที่หวงฝูเทาเทียนนั้นบ้าระห่ำมาก หากอัตราการต่อรองพวกเขาสูง เหลยฉีเหยียนจะขาดทุนมากจนเขาจะต้องขายก้นของตัวเองเพื่อชำระหนี้เลย
สามสิบนาทีต่อมา ทุกคนก็มาถึงสนามประลองกัน ผู้บัญชาการได้จัดเตรียมทุกสิ่งไว้ต้อนรับทุกคนด้านในแล้ว และเจียงอี้มองจากด้านนอกก็เห็นว่าสนามประลองนี้ไม่ได้ใหญ่มาก และเมื่อเขาเข้าไปดูมันก็ยิ่งประหลาดใจมากขึ้น
สนามประลองนี้ไม่ใหญ่มากจริงๆ และข้างในนั้นแทบจะเต็มไปด้วยที่นั่งและมีที่นั่งอย่างน้อยหลายหมื่นที่นั่ง ส่วนพื้นที่ประลองนั้นมีรัศมีเพียงไม่กี่เมตรเท่านั้น
เราจะประลองกันในพื้นที่เล็กๆเช่นนี้ได้ยังไงกัน?
เจียงอี้มองไปยังหวงฝูเทาเทียนด้วยความสงสัยและอีกฝ่ายก็หัวเราะและกล่าวว่า เจ้าจะรู้เองเมื่อเจ้าเข้าไปแล้ว ไม่ต้องกังวล พวกเจ้าทั้งสองจะสู้กันได้ตามที่ต้องการแน่นอน
ผู้ประลองทั้งสองจะขึ้นลานประลองเลยไหม!
เหลยฉีเหยียนโบกมือของเขาและตะโกนออกมาในเวลาเดียวกัน พวกเจ้าทั้งสองคนอาจตกลงกับการประลองนี้ แต่โดยส่วนตัวแล้วข้ารู้สึกว่าพวกเจ้าควรหยุดเมื่อการต่อสู้ถูกตัดสินแล้ว พวกเจ้าสามารถยอมแพ้ได้หากรู้สึกว่าเจ้าจะแพ้ อย่าจบด้วยความตายเพราะมันจะไม่เป็นผลดีกับทุกคน
ลู่หลินหัวเราะด้วยความเย็นชาก่อนที่จะตอบว่า ไม่ต้องกังวลพี่ใหญ่เหยียน ข้าจะทำให้มันพิการเท่านั้นและจะไม่สังหารมัน
ฟรึ่บ!
เมื่อสิ้นคำพูด ลู่หลินก็บินไปที่ลานประลองก่อนที่ลงไปด้วยความมั่นคง ส่วนเจียงอี้ก็ยักไหล่และบินไปโดยไม่คิดอะไรทั้งนั้น
บรึฟ!
เมื่อทั้งสองขึ้นไปบนลานประลอง มันสว่างขึ้นด้วยแสงสีขาวขณะที่ทั้งคู่หายวับไป ท้องฟ้าเหนือแท่นนั้นทำให้เกิดภาพเขตแดนประหลาดขึ้นมาโดยที่มีเจียงอี้และลู่หลินยืนอยู่บนยอดเขาสองยอด เอ่อ…
เฉียนว่านก้วนตระหนักได้ในทันทีและเข้าใจว่าลานประลองเล็กๆนั้นไม่ใช่ลานประลอง…แต่มันเป็นเพียงค่ายกลเคลื่อนย้าย ลานต่อสู้ที่ทั้งคู่ถูกย้ายไปในนั้นใหญ่มากและฉากข้างในก็จะถูกฉายในสนามประลอง
เฉียนว่านก้วนคิดเรื่องนี้และเข้าใจอย่างรวดเร็ว ผู้ที่ประลองที่นี่ล้วนเป็นยอดฝีมือ และสถานที่เล็กๆแห่งนี้เองก็คงไม่เพียงพอสำหรับพวกเขาที่จะประมือกัน และหากพวกเขาระเบิดข้อจำกัด ผู้ชมกลุ่มใหญ่จะต้องตายอย่างแน่นอน
ทุกๆท่าน เมื่อเรามาอยู่ที่สนามประลองแล้ว ทำไมไม่ลองเดิมพันกันดูล่ะ? ข้าจะเป็นตัวแทนตระกูลเหลยเพื่อเปิดการเดิมพันเอง!
เหลยฉีเหยียนมองไปยังทุกคนและยิ้มขณะที่พูดว่า สำหรับอัตราการเดิมพัน ให้เป็นห้าต่อหนึ่งเท่า หากลู่หลินชนะ ข้าจะจ่ายหนึ่งเท่า หากหัวหน้าเจียงชนะ ข้าจะจ่ายห้าเท่า ทุกท่านสามารถเดิมพันได้ตามต้องการ ห้าต่อหนึ่ง?
หวงฝูเทาเทียนและเฉียนว่านก้วนแลกสายตากันขณะที่ใบหน้าของพวกเขามืดมน เหลยฉีเหยียนเชื่อมั่นมากว่าลู่หลินจะชนะ ไม่เช่นนั้นอัตราการเดิมพันจะไม่มากเช่นนี้และมันจะดึงดูดผู้คนให้วางเดิมพันกับเจียงอี้
เอาล่ะ ข้าจะสนับสนุนพี่น้องข้า ข้าจะเดิมพันห้าพันล้าน! เฉียนว่านก้วนเป็นคนแรกที่พูดขึ้นมาเพราะเขามั่นใจในตัวเจียงอี้
หวงฝูเทาเทียนเองก็พูดอย่างเย็นชา ข้าเดิมพันหมื่นล้านฝั่งน้องเจียง!
ฮู่ ฮู่…
นายน้อยและคุณหนูหลายคนสูดอากาศเย็นเยียบ ทั้งสองคนเดิมพันด้วยเงินก้อนโตเช่นนี้ เจียงอี้จะเอาชนะได้จริงๆหรือ?
อื้ม ผู้บัญชาการจิน ลงบันทึกไว้ด้วยเพื่อที่จะได้จัดการค่าใช้จ่ายกันทีหลัง เหลยฉีเหยียนเหมือนจะคาดเอาไว้ว่าทั้งคู่จะเดิมพันกับเจียงอี้ขณะที่เขายิ้มและพยักหน้าก่อนจะสั่งผู้ดูแลสนามประลองที่ด้านหลัง
ลู่หลี่เป็นคนที่สามที่พูด ข้าขอเดิมพันหนึ่งพันล้านกับลูกพี่ลูกน้องข้า
ฮ่าฮ่าฮ่า ในเมื่อทุกท่านอารมณ์ดีกันมาก ข้าเองก็จะเดิมพันด้วย ซือถูอีเสี้ยวเดิมพันฝั่งเจียงอี้ห้าพันล้าน
ข้าเชื่อในความคิดพี่ใหญ่เทาเทียน ข้าเดิมพันฝั่งหัวหน้าเจียงหนึ่งพันล้าน ซือถูอีเนี่ยนพูดด้วยรอยยิ้มที่น่ารัก
ข้าเดิมพันลู่หลินสองพันล้าน!
หัวหน้าเจียงหนึ่งพันล้าน
ลู่หลินสองพันล้าน!
ปรมาจารย์รุ่นเยาว์และสตรีหลายสิบคนเริ่มเดิมพันกัน มันเป็นความคิดที่ดีในการวางเดิมพันเล็กๆน้อยๆในการแสดงวันนี้ คนส่วนใหญ่อาจจะคิดว่าลู่หลินจะชนะ แต่หากเจียงอี้ชนะ ก็เป็นโอกาสดีที่พวกเขาจะได้เงินเดิมพันก้อนโต พวกเขาจะเสียแค่หนึ่งหรือสองพันล้านหากพวกเขาแพ้เดิมพัน แต่หากเจียงอี้ชนะ พวกเขาจะได้กลับไปห้าเท่า มันเป็นการเดิมพันใช่ไหมล่ะ? มันจะต้องน่าตื่นเต้นแน่นอนหากพวกเขาต้องการจะเล่น
เหลยฉีเหยียนนับการเดิมพันอยู่เงียบๆและสังเกตว่าการเดิมพันค่อนข้างกระจายไปทั้งสองฝั่ง แต่เจียงอี้มีเดิมพันที่เยอะกว่าซึ่งมันทำให้รอยยิ้มของเขารุนแรงยิ่งขึ้น เขาจะได้กำไรมากกว่าหมื่นล้านในการประลองครั้งนี้
ใกล้จะเริ่มแล้ว!
เสียงของซือถูอีเนี่ยนเตือนทุกคน ในภาพฉายบนฟ้า ลู่หลินเคลื่อนไหว ส่วนทุกคนก็เดิมพันเสร็จแล้วและกำลังดูการต่อสู้เพื่อรอผลตัดสิน
ไอ้สารเลว ครานั้นเจ้าทำให้ข้าอับอายมาก วันนี้นายน้อยผู้นี้จะเอาคืนหลายเท่า หากข้าไม่ได้สับเจ้าออกเป็นร้อยแปดชิ้น ข้าจะไม่ยอมหยุดพักเลย!
เมื่อลู่หลินทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าจากยอดเขา ดวงตาของเขาก็มีประกายในขณะที่ดาบเหล็กยักษ์ก็ปรากฏขึ้น ดาบเหล็กยักษ์นั้นมีสีทองแดงและเปล่งกลิ่นอายแห่งความว่างเปล่าออกมาขณะที่มันถูกปกคลุมด้วยค่ายกลประหลาด หลังจากที่เขาหมุนเวียนแก่นแท้พลังของเขา มันก็ใหญ่ขึ้นหลายเท่าในทันที และลวดลายของมันก็เปล่งประกายขณะที่อักขระแปลกๆก็ปรากฏขึ้น
ดาบเหล็กปฐมกาล!
หวงฝูเทาเทียนเผยความเย้ยหยันที่มุมปากของเขา มันเป็นอย่างที่เขาคิดไว้ เหลยฉีเหยียนให้ลู่หลินยืมสมบัติเชื่อมดวงจิตของเขาจริงๆ
เมื่อทุกคนหันไปมองเหลยฉีเหยียน เขาก็กางมือออกมาปัดป้องอย่างไร้เดียงสาและพูดว่า อย่ามองข้า ข้าได้ขายดาบเหล็กปฐมกาลให้ลู่หลินในวันเทศกาลเทพประทานไปแล้ว อ้อ…ข้ายังขายเกราะพระแม่ธรณีให้เขาด้วย เนื่องจากเขาให้ราคาข้าสูงในขณะที่ข้าเจอสมบัติเชื่อมดวงจิตที่ดีกว่านี้ มันจึงไม่มีเหตุผลที่ข้าจะขายพวกมันออกไป ใช่ไหมล่ะ?
น่ารังเกียจ… หวงฝูเทาเทียนเย้ยหยันขณะที่นายน้อยและคุณหนูคนอื่นๆกลอกตา เหลยฉีเหยียนพูดโอ่อ่าออกมาอย่างไม่ลังเล ดาบเหล็กปฐมกาลและเกราะพระแม่ธรณีเป็นสมบัติชั้นยอดอยู่แล้ว และเขาได้ของที่ดีกว่านี้อีก? นอกจากนี้ ลู่หลินจ่ายไหวหรือ?
ในภาพด้านล่าง ลู่หลินได้กวัดแกว่งดาบเหล็กปฐมกาลไปยังเจียงอี้อย่างกะทันหัน ทุกคนจึงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องจดจ่ออยู่กับการต่อสู้ขณะที่ผู้เดิมพันว่าเจียงอี้จะชนะต่างก็สาปแช่งอยู่เงียบๆ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังถูกเหลยฉีเหยียนหลอกลวงอยู่เลย