เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 795
“ข้อตกลง?”
เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นถามว่า “ข้าเอาสมบัติที่เชื่อมดวงจิตของเหลยฉีเหยียนมาสองชิ้น ตระกูลเหลยจะต้องเดือดดาลแน่ๆ แล้วอีกสามตระกูลจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อข้าที่เป็นคนนอกหรือ? เจ้าก็รู้นี่….ว่าข้าไม่สามารถร่วมตระกูลพวกเขาได้ ข้าเคยเป็นอิสระและจะกลับไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพาสักวันหนึ่งเพื่อล้างแค้นให้ได้”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องร่วมตระกูลเดียวกับพวกเขาหรอก”
หวงฝูเทาเทียนยิ้มและพูดอย่างมั่นใจ “น้องเจียง เจ้าไม่รู้คุณค่าของตัวเองเลย หากเจ้าสัญญาว่าเจ้าจะวาดภาพวาดสวรรค์ชั้นสูงให้พวกเขาไม่กี่ภาพ ทั้งสามตระกูลก็พร้อมที่จะเสี่ยงมีเรื่องมีราวกับตาเฒ่าเหลยเพื่อปกป้องเจ้า แต่แน่นอนว่า…ภาพวาดสวรรค์ของเจ้าจะต้องมีรูปแบบเต๋าระดับสูงและอย่างน้อยสามดาวขึ้นไป เจ้ามั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่? ถ้าทำได้ พรุ่งนี้เราก็ไปคุยกับตระกูลซือถูหรือตระกูลหนานกงกัน”
คราวนี้หวงฝูเทาเทียนตัดตระกูลหวงฝูทิ้งไป เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหาเรื่องการสร้างภาพวาดสวรรค์หรอก ตอนนี้ข้าผสมรูปแบบเต๋าได้เจ็ดรูปแบบแล้วและมันจะสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ พี่หวงฝู….แล้วถ้าเราจะไปเจรจากับตระกูลหวงฝูล่ะ?”
ความตั้งใจของเจียงอี้นั้นชัดเจนมาก เมื่อพวกเขาจะมีผลประโยชน์กับตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ตระกูลนั้นก็คงเป็นตระกูลหวงฝู ท้ายที่สุดแล้ว หวงฝูเทาเทียนก็มาจากตระกูลหวงฝู อย่างไรก็ตาม หวงฝูเทาเทียนก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “มันก็ดีที่เจ้าจะหันไปหาตระกูลหวงฝู แต่ข้าจะไม่ตามเจ้าเข้าไปในตำหนักหวงฝู ข้าเคยสาบานเอาไว้ว่าข้าจะไม่เข้าไปยังตำหนักหวงฝูอีก”
“ฮะ!” เจียงอี้ไม่ได้คาดว่าหวงฝูเทาเทียนจะดื้อรั้นมากเพียงนี้ เขามองเฉียนว่านก้วนและพูดพร้อมกับกัดฟันว่า “เช่นนั้นพรุ่งนี้เราไปตำหนักซือถูกัน”
ตระกูลซือถูแสดงความเชื่อมั่นที่ดีต่อเขามาโดยตลอด และซือถูอีเสี้ยวและซือถูอีเนี่ยนก็ได้สร้างความรู้สึกประทับใจให้เจียงอี้เช่นกัน นอกจากนี้ เฉียนว่านก้วนก็ชอบซือถูอีเนี่ยนมาก เจียงอี้อยากจะดูว่าเขาจะช่วยเฉียนว่านก้วนในครั้งนี้ได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ ความฝันของเฉียนว่านก้วนก็จะจบลงอย่างสมบูรณ์
ตระกูลหนานกงเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเองก็มาจากตระกูลหนานกงด้วย แต่น่าเสียดายที่หนานกงหยุนยี่แข็งกร้าวเกินไป และดูเหมือนว่าหนานกงมู่หยีก็ดูไม่น่าเชื่อนัก ครั้งที่แล้ว เจียงอี้ไม่ได้รับอนุญาตให้พบเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมีความประทับใจที่เลวร้ายต่อตระกูลหนานกง
แผนการนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว แต่เจียงอี้ก็ยังไม่กล้าลดความระมัดระวังตัวเองลง เขารวบรวมคนอื่นๆมานั่งกันที่ห้องโถงใหญ่และพร้อมที่จะออกไปด้วยวิชาหลีกสวรรค์ทุกเมื่อ ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็กินยารักษา อวัยวะภายในของเขาเสียหายอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่กระดูกไม่หักและไส้เขาก็ไม่ฉีกขาด
เมื่อหวงฝูเทาเทียนเห็นเจียงอี้กำลังรักษาตัว ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นและถามด้วยความสงสัย “น้องเจียง เจ้าเข้าถึงรูปแบบเต๋าในนาทีสุดท้ายหรือเปล่า? ข้าเห็นเจ้าปล่อยวิชาศักดิ์สิทธิ์ประหลาดออกมาซึ่งทำลายมังกรวายุกลืนนภาของลู่หลินไป จากนั้นเจ้าก็สังหารเขาด้วยการโจมตีดวงจิตได้อย่างง่ายดาย”
“ใช่ ใช่! ลูกพี่ เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าเกือบจะตกใจตายในนาทีสุดท้ายแล้ว เจ้าไม่โจมตีกลับหรือหนีไปและเผชิญกับการโจมตีของลู่หลินอยู่อย่างนั้น!” เฉียนว่านก้วนตบหน้าอกของเขาและยังคงหวาดผวาอยู่ และแม้ว่าเฟิ่งหลวนและคนอื่นๆจะไม่ได้เห็นการต่อสู้นั้น แต่พวกนางเองก็กลั้นใจและรู้สึกประหม่า
“ฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้ยิ้มและพูดว่า “ใช่ ข้าเข้าถึงรูปแบบเต๋าในนาทีสุดท้ายจริงๆ และข้าตั้งชื่อมันว่าวายุพิโรธคำราม มันเป็นการใช้ลมสร้างเสียงที่ทำให้ดวงจิตวิญญาณของคู่ต่อสู่สั่นคลอนและเวลาในการตอบสนองของศัตรูจะช้าลงมาก”
“ฮู่ ฮู่ โฮ๊ว โฮ๊ว…..”
ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็ใช้ดาบของเขาตวัดไปไม่กี่จังหวะและจากนั้นคลื่นลมก็มารวมตัวกันที่ด้านหน้าทันทีและพัดปลิวในวิถีพิเศษก่อนที่จะมีเสียงคร่ำครวญดังออกมา มันเหมือนกับเสียงวิญญาณ ทำให้เฉียนว่านก้วน, เฟิ่งหลวนและชิงหยีต่างพากันจับหัวและบิดไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด
“นี่มัน!”
ดวงตาของหวงฝูเทาเทียนเบิกกว้างในทันที แม้ว่าดวงจิตของเขาจะแข็งแกร่งมากและเจียงอี้ก็ยังไม่ได้เทแก่นแท้พลังทั้งหมดลงไป แต่หวงฝูเทาเทียนก็ยังรู้สึกอึดอัด เขากลอกตาและพูดว่า “ไม่ใช่ว่านี่มันคือเสียงวิญญาณในแดนลึกลับของตระกูลหนานกงหรือ?”
“ใช่แล้ว!” เจียงอี้พยักหน้าและพูดว่า “นี่เป็นรูปแบบเต๋าที่ได้กำเนิดมาจากเสียงวิญญาณในแดนลึกลับของตระกูลหนานกงนั่นแหละ มันเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบเต๋าวายุระดับต่ำสามแบบ”
“ไม่ มันไม่น่าใช่!”
หวงฝูเทาเทียนกระพริบตาด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่รูปแบบเต๋าวายุ ข้ารู้จักรูปแบบเต๋าวายุระดับกลางทั้งหมดเป็นอย่างดีและไม่มีอันไหนเหมือนของเจ้า เสียงนี้มันน่าสะอิดสะเอียนมากจนทำให้ดวงจิตสั่นสะท้านได้ หรือจะให้พูดก็คือ มันน่าจะเป็นประเภทการโจมตีดวงจิตวิญญาณที่อยู่ในหมวดทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์”
“ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์?” เจียงอี้, เฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนมองหน้ากันด้วยความสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเฉียนว่านก้วนก็ถามอย่างสงสัย “พี่เทาเทียน ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นั่นมันคืออะไรกัน? มันดูทรงพลังยิ่งนัก”
“อื้ม มันเป็นการโจมตีดวงจิตวิญญาณแบบพิเศษ!”
หวงฝูเทาเทียนอธิบายและกล่าวว่า “พวกเจ้าน่าจะเคยได้ยินเรื่องขลุ่ยคล้องวิญญาณที่ทำให้จักรพรรดิแห่งศาสตรามีชื่อเสียง ย้อนไปในตอนนั้นจักรพรรดิแห่งศาสตรากับขลุ่ยของเขาได้กำจัดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นไปด้วยเพลงคล้องวิญญาณ ดูเหมือนว่าจะมียอดฝีมืออยู่ในตระกูลจ้าน(จักรพรรดิแห่งสงคราม) ที่พอจะรู้ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย อาวุธของเขาคือกู่ฉิน [1] เมื่อเขาเล่นเพลงปรโลก ยอดฝีมือขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดเองก็จะต้องตาย ไม่ว่าพวกเขาจะมีกี่คนก็ตาม” “ยอดเยี่ยมนัก!”
ดวงตาของเจียงอี้และกลุ่มของเขาเป็นกระกายและร่างอ้วนๆของเฉียนว่านก้วนก็สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น เขาคว้าแขนของเจียงอี้และพูดว่า “ลูกพี่ เจ้าน่าจะหาเครื่องดนตรีและฝึกฝนทักษะนี้นะ หากเจ้าขัดขวางคนอื่นๆได้ด้วยเพลงเดียวได้ มันจะสูงส่งเพียงใด! เจ้าควรจะใช้เครื่องดนตรีอะไรดีนะ? โอ้…เซียวดีไหม[2]? ผู้คนนั้นจะดูหล่อเหลานักเมื่อเป่าเซียวอยู่”
“ออกไปซะ!”
เจียงอี้เตะเฉียนว่านก้วนปลิวออกไป แต่อย่างไรก็ตาม เฟิ่งหลวนและชิงหยีที่อยู่ข้างๆกลับหน้าแดง เจียงอี้ไม่รู้วิธีเป่าเซียว แต่พวกนางทั้งสองช่ำชองการเป่าเป็นอย่างดี
หวงฝูเทาเทียนยิ้มและพูดอย่างจริงจังว่า “น้องเจียง เจ้าควรจะศึกษาทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์หากมีเวลา นี่เป็นสิ่งที่ทรงพลังมากและมันจะช่วยได้มากในการต่อสู้แบบกลุ่ม หากเจ้าเข้าใจแก่นแท้มันได้ ข้าเกรงว่าแม้แต่ฝูงขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดเองก็ยังไม่สามารถเข้าใกล้เจ้าได้”
“อื้อ!”
เจียงอี้เห็นด้วยอย่างลึกซึ้ง ในตอนนี้เขาสัมผัสถึงพลังของมันแล้ว มันจะเป็นอาวุธร้ายแรงมากเมื่อใช้กับดาบวิญญาณ เมื่อดวงจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้ตะลึงงันอยู่และพวกเขาไม่สามารถรวบรวมพลังในการจัดการกับดาบวิญญาณได้ มันก็มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะต้องตาย
อย่างไรก็ตาม ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้ยังไม่ถึงว่าแข็งแกร่งมากนักเพราะลู่หลินถูกสังหารเพราะดวงจิตเขาอ่อนแอ แต่มันคงไม่ได้มีผลกับผู้มีดวงจิตที่แข็งแกร่งมากนัก เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่หวงฝู ช่วยข้าทดสอบพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของมันได้หรือไม่ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของข้าสามารถรับมือกับคู่ต่อสู้ระดับไหน? เราไปในราชวังจักรพรรดิกันดีไหม?” “เอาสิ!”
หวงฝูเทาเทียนพยักหน้า เจียงอี้ย้ายสัตว์อสูรหยาจื้อและจิ้งจอกน้อยออกมาจากราชวังจักรพรรดิ โชคดีที่บานนั้นกว้างพอ ไม่เช่นนั้นร่างยักษ์ของสัตว์อสูรหยาจื้อคงไม่สามารถยัดอยู่ในลานได้ ไอลีนโนเวล
บรึฟ!
เจียงอี้ส่งหวงฝูเทาเทียนเข้ามาก่อนที่เขาจะเข้าไป จากนั้นดาบมังกรเพลิงเริ่มลุกโชนและเขาก็เริ่มปล่อยวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ตอนแรกเสียงนั้นยังไม่ค่อยดังมากนักและหวงฝูเทาเทียนก็ยิ้มเบาๆและพูดว่า “ปล่อยพลังของเจ้าออกมาให้หมดเลย ดวงจิตวิญญาณของข้าไม่ถือว่าแย่นัก”
“เข้าใจแล้ว!”
เจียงอี้แกว่งดาบมังกรเพลิงอย่างรวดเร็ว และเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อมันมาถึงระดับสูงสุดแล้ว หวงฝูเทาเทียนก็โบกมือและพูดว่า “เอาล่ะ พอได้แล้ว วิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าค่อนข้างทรงพลังอยู่ ดวงจิตวิญญาณของขอบเขตเทียนจุนระดับกลางจะต้องสั่นสะท้านอย่างแน่นอน ขอบเขตเทียนจุนระดับสูงเองก็จะได้รับผลกระทบจากมันเช่นกัน แต่อิทธิพลของเสียงนั้นอาจจะด้อยกว่านิดหน่อย ดวงจิตของข้าเทียบได้กับขอบเขตเทียนจุนระดับสูง ข้าเองก็ยังรู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน”
…
[1] กู่ฉินเป็นเครื่องดีดคล้ายพิณ
[2] เซียวเป็นชนิดของขลุ่ยไม้ไผ่
เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเงยหน้าขึ้นถามว่า “ข้าเอาสมบัติที่เชื่อมดวงจิตของเหลยฉีเหยียนมาสองชิ้น ตระกูลเหลยจะต้องเดือดดาลแน่ๆ แล้วอีกสามตระกูลจะยืนหยัดต่อสู้เพื่อข้าที่เป็นคนนอกหรือ? เจ้าก็รู้นี่….ว่าข้าไม่สามารถร่วมตระกูลพวกเขาได้ ข้าเคยเป็นอิสระและจะกลับไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพาสักวันหนึ่งเพื่อล้างแค้นให้ได้”
“เจ้าไม่จำเป็นต้องร่วมตระกูลเดียวกับพวกเขาหรอก”
หวงฝูเทาเทียนยิ้มและพูดอย่างมั่นใจ “น้องเจียง เจ้าไม่รู้คุณค่าของตัวเองเลย หากเจ้าสัญญาว่าเจ้าจะวาดภาพวาดสวรรค์ชั้นสูงให้พวกเขาไม่กี่ภาพ ทั้งสามตระกูลก็พร้อมที่จะเสี่ยงมีเรื่องมีราวกับตาเฒ่าเหลยเพื่อปกป้องเจ้า แต่แน่นอนว่า…ภาพวาดสวรรค์ของเจ้าจะต้องมีรูปแบบเต๋าระดับสูงและอย่างน้อยสามดาวขึ้นไป เจ้ามั่นใจว่าจะทำได้หรือไม่? ถ้าทำได้ พรุ่งนี้เราก็ไปคุยกับตระกูลซือถูหรือตระกูลหนานกงกัน”
คราวนี้หวงฝูเทาเทียนตัดตระกูลหวงฝูทิ้งไป เจียงอี้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “ไม่มีปัญหาเรื่องการสร้างภาพวาดสวรรค์หรอก ตอนนี้ข้าผสมรูปแบบเต๋าได้เจ็ดรูปแบบแล้วและมันจะสมบูรณ์ในอนาคตอันใกล้ พี่หวงฝู….แล้วถ้าเราจะไปเจรจากับตระกูลหวงฝูล่ะ?”
ความตั้งใจของเจียงอี้นั้นชัดเจนมาก เมื่อพวกเขาจะมีผลประโยชน์กับตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ตระกูลนั้นก็คงเป็นตระกูลหวงฝู ท้ายที่สุดแล้ว หวงฝูเทาเทียนก็มาจากตระกูลหวงฝู อย่างไรก็ตาม หวงฝูเทาเทียนก็ส่ายหัวแล้วพูดว่า “มันก็ดีที่เจ้าจะหันไปหาตระกูลหวงฝู แต่ข้าจะไม่ตามเจ้าเข้าไปในตำหนักหวงฝู ข้าเคยสาบานเอาไว้ว่าข้าจะไม่เข้าไปยังตำหนักหวงฝูอีก”
“ฮะ!” เจียงอี้ไม่ได้คาดว่าหวงฝูเทาเทียนจะดื้อรั้นมากเพียงนี้ เขามองเฉียนว่านก้วนและพูดพร้อมกับกัดฟันว่า “เช่นนั้นพรุ่งนี้เราไปตำหนักซือถูกัน”
ตระกูลซือถูแสดงความเชื่อมั่นที่ดีต่อเขามาโดยตลอด และซือถูอีเสี้ยวและซือถูอีเนี่ยนก็ได้สร้างความรู้สึกประทับใจให้เจียงอี้เช่นกัน นอกจากนี้ เฉียนว่านก้วนก็ชอบซือถูอีเนี่ยนมาก เจียงอี้อยากจะดูว่าเขาจะช่วยเฉียนว่านก้วนในครั้งนี้ได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ ความฝันของเฉียนว่านก้วนก็จะจบลงอย่างสมบูรณ์
ตระกูลหนานกงเป็นทางเลือกที่ดีทีเดียว เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเองก็มาจากตระกูลหนานกงด้วย แต่น่าเสียดายที่หนานกงหยุนยี่แข็งกร้าวเกินไป และดูเหมือนว่าหนานกงมู่หยีก็ดูไม่น่าเชื่อนัก ครั้งที่แล้ว เจียงอี้ไม่ได้รับอนุญาตให้พบเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงค่อนข้างมีความประทับใจที่เลวร้ายต่อตระกูลหนานกง
แผนการนั้นเริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว แต่เจียงอี้ก็ยังไม่กล้าลดความระมัดระวังตัวเองลง เขารวบรวมคนอื่นๆมานั่งกันที่ห้องโถงใหญ่และพร้อมที่จะออกไปด้วยวิชาหลีกสวรรค์ทุกเมื่อ ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็กินยารักษา อวัยวะภายในของเขาเสียหายอย่างรุนแรง แต่โชคดีที่กระดูกไม่หักและไส้เขาก็ไม่ฉีกขาด
เมื่อหวงฝูเทาเทียนเห็นเจียงอี้กำลังรักษาตัว ดวงตาของเขาก็สว่างขึ้นและถามด้วยความสงสัย “น้องเจียง เจ้าเข้าถึงรูปแบบเต๋าในนาทีสุดท้ายหรือเปล่า? ข้าเห็นเจ้าปล่อยวิชาศักดิ์สิทธิ์ประหลาดออกมาซึ่งทำลายมังกรวายุกลืนนภาของลู่หลินไป จากนั้นเจ้าก็สังหารเขาด้วยการโจมตีดวงจิตได้อย่างง่ายดาย”
“ใช่ ใช่! ลูกพี่ เจ้าไม่รู้หรอกว่าข้าเกือบจะตกใจตายในนาทีสุดท้ายแล้ว เจ้าไม่โจมตีกลับหรือหนีไปและเผชิญกับการโจมตีของลู่หลินอยู่อย่างนั้น!” เฉียนว่านก้วนตบหน้าอกของเขาและยังคงหวาดผวาอยู่ และแม้ว่าเฟิ่งหลวนและคนอื่นๆจะไม่ได้เห็นการต่อสู้นั้น แต่พวกนางเองก็กลั้นใจและรู้สึกประหม่า
“ฮ่าฮ่า!”
เจียงอี้ยิ้มและพูดว่า “ใช่ ข้าเข้าถึงรูปแบบเต๋าในนาทีสุดท้ายจริงๆ และข้าตั้งชื่อมันว่าวายุพิโรธคำราม มันเป็นการใช้ลมสร้างเสียงที่ทำให้ดวงจิตวิญญาณของคู่ต่อสู่สั่นคลอนและเวลาในการตอบสนองของศัตรูจะช้าลงมาก”
“ฮู่ ฮู่ โฮ๊ว โฮ๊ว…..”
ในเวลาเดียวกัน เจียงอี้ก็ใช้ดาบของเขาตวัดไปไม่กี่จังหวะและจากนั้นคลื่นลมก็มารวมตัวกันที่ด้านหน้าทันทีและพัดปลิวในวิถีพิเศษก่อนที่จะมีเสียงคร่ำครวญดังออกมา มันเหมือนกับเสียงวิญญาณ ทำให้เฉียนว่านก้วน, เฟิ่งหลวนและชิงหยีต่างพากันจับหัวและบิดไปมาบนพื้นด้วยความเจ็บปวด
“นี่มัน!”
ดวงตาของหวงฝูเทาเทียนเบิกกว้างในทันที แม้ว่าดวงจิตของเขาจะแข็งแกร่งมากและเจียงอี้ก็ยังไม่ได้เทแก่นแท้พลังทั้งหมดลงไป แต่หวงฝูเทาเทียนก็ยังรู้สึกอึดอัด เขากลอกตาและพูดว่า “ไม่ใช่ว่านี่มันคือเสียงวิญญาณในแดนลึกลับของตระกูลหนานกงหรือ?”
“ใช่แล้ว!” เจียงอี้พยักหน้าและพูดว่า “นี่เป็นรูปแบบเต๋าที่ได้กำเนิดมาจากเสียงวิญญาณในแดนลึกลับของตระกูลหนานกงนั่นแหละ มันเป็นการผสมผสานระหว่างรูปแบบเต๋าวายุระดับต่ำสามแบบ”
“ไม่ มันไม่น่าใช่!”
หวงฝูเทาเทียนกระพริบตาด้วยความประหลาดใจและกล่าวว่า “นี่ไม่ใช่รูปแบบเต๋าวายุ ข้ารู้จักรูปแบบเต๋าวายุระดับกลางทั้งหมดเป็นอย่างดีและไม่มีอันไหนเหมือนของเจ้า เสียงนี้มันน่าสะอิดสะเอียนมากจนทำให้ดวงจิตสั่นสะท้านได้ หรือจะให้พูดก็คือ มันน่าจะเป็นประเภทการโจมตีดวงจิตวิญญาณที่อยู่ในหมวดทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์”
“ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์?” เจียงอี้, เฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนมองหน้ากันด้วยความสับสน นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ยินเรื่องนี้ จากนั้นเฉียนว่านก้วนก็ถามอย่างสงสัย “พี่เทาเทียน ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์นั่นมันคืออะไรกัน? มันดูทรงพลังยิ่งนัก”
“อื้ม มันเป็นการโจมตีดวงจิตวิญญาณแบบพิเศษ!”
หวงฝูเทาเทียนอธิบายและกล่าวว่า “พวกเจ้าน่าจะเคยได้ยินเรื่องขลุ่ยคล้องวิญญาณที่ทำให้จักรพรรดิแห่งศาสตรามีชื่อเสียง ย้อนไปในตอนนั้นจักรพรรดิแห่งศาสตรากับขลุ่ยของเขาได้กำจัดผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนนับหมื่นไปด้วยเพลงคล้องวิญญาณ ดูเหมือนว่าจะมียอดฝีมืออยู่ในตระกูลจ้าน(จักรพรรดิแห่งสงคราม) ที่พอจะรู้ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ด้วย อาวุธของเขาคือกู่ฉิน [1] เมื่อเขาเล่นเพลงปรโลก ยอดฝีมือขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดเองก็จะต้องตาย ไม่ว่าพวกเขาจะมีกี่คนก็ตาม” “ยอดเยี่ยมนัก!”
ดวงตาของเจียงอี้และกลุ่มของเขาเป็นกระกายและร่างอ้วนๆของเฉียนว่านก้วนก็สั่นสะท้านด้วยความตื่นเต้น เขาคว้าแขนของเจียงอี้และพูดว่า “ลูกพี่ เจ้าน่าจะหาเครื่องดนตรีและฝึกฝนทักษะนี้นะ หากเจ้าขัดขวางคนอื่นๆได้ด้วยเพลงเดียวได้ มันจะสูงส่งเพียงใด! เจ้าควรจะใช้เครื่องดนตรีอะไรดีนะ? โอ้…เซียวดีไหม[2]? ผู้คนนั้นจะดูหล่อเหลานักเมื่อเป่าเซียวอยู่”
“ออกไปซะ!”
เจียงอี้เตะเฉียนว่านก้วนปลิวออกไป แต่อย่างไรก็ตาม เฟิ่งหลวนและชิงหยีที่อยู่ข้างๆกลับหน้าแดง เจียงอี้ไม่รู้วิธีเป่าเซียว แต่พวกนางทั้งสองช่ำชองการเป่าเป็นอย่างดี
หวงฝูเทาเทียนยิ้มและพูดอย่างจริงจังว่า “น้องเจียง เจ้าควรจะศึกษาทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์หากมีเวลา นี่เป็นสิ่งที่ทรงพลังมากและมันจะช่วยได้มากในการต่อสู้แบบกลุ่ม หากเจ้าเข้าใจแก่นแท้มันได้ ข้าเกรงว่าแม้แต่ฝูงขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดเองก็ยังไม่สามารถเข้าใกล้เจ้าได้”
“อื้อ!”
เจียงอี้เห็นด้วยอย่างลึกซึ้ง ในตอนนี้เขาสัมผัสถึงพลังของมันแล้ว มันจะเป็นอาวุธร้ายแรงมากเมื่อใช้กับดาบวิญญาณ เมื่อดวงจิตวิญญาณของคู่ต่อสู้ตะลึงงันอยู่และพวกเขาไม่สามารถรวบรวมพลังในการจัดการกับดาบวิญญาณได้ มันก็มั่นใจได้เลยว่าพวกเขาจะต้องตาย
อย่างไรก็ตาม ทักษะวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้ยังไม่ถึงว่าแข็งแกร่งมากนักเพราะลู่หลินถูกสังหารเพราะดวงจิตเขาอ่อนแอ แต่มันคงไม่ได้มีผลกับผู้มีดวงจิตที่แข็งแกร่งมากนัก เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “พี่หวงฝู ช่วยข้าทดสอบพลังที่แข็งแกร่งที่สุดของมันได้หรือไม่ เพื่อที่เราจะได้รู้ว่าวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของข้าสามารถรับมือกับคู่ต่อสู้ระดับไหน? เราไปในราชวังจักรพรรดิกันดีไหม?” “เอาสิ!”
หวงฝูเทาเทียนพยักหน้า เจียงอี้ย้ายสัตว์อสูรหยาจื้อและจิ้งจอกน้อยออกมาจากราชวังจักรพรรดิ โชคดีที่บานนั้นกว้างพอ ไม่เช่นนั้นร่างยักษ์ของสัตว์อสูรหยาจื้อคงไม่สามารถยัดอยู่ในลานได้ ไอลีนโนเวล
บรึฟ!
เจียงอี้ส่งหวงฝูเทาเทียนเข้ามาก่อนที่เขาจะเข้าไป จากนั้นดาบมังกรเพลิงเริ่มลุกโชนและเขาก็เริ่มปล่อยวิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ ตอนแรกเสียงนั้นยังไม่ค่อยดังมากนักและหวงฝูเทาเทียนก็ยิ้มเบาๆและพูดว่า “ปล่อยพลังของเจ้าออกมาให้หมดเลย ดวงจิตวิญญาณของข้าไม่ถือว่าแย่นัก”
“เข้าใจแล้ว!”
เจียงอี้แกว่งดาบมังกรเพลิงอย่างรวดเร็ว และเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ และเมื่อมันมาถึงระดับสูงสุดแล้ว หวงฝูเทาเทียนก็โบกมือและพูดว่า “เอาล่ะ พอได้แล้ว วิชาเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ของเจ้าค่อนข้างทรงพลังอยู่ ดวงจิตวิญญาณของขอบเขตเทียนจุนระดับกลางจะต้องสั่นสะท้านอย่างแน่นอน ขอบเขตเทียนจุนระดับสูงเองก็จะได้รับผลกระทบจากมันเช่นกัน แต่อิทธิพลของเสียงนั้นอาจจะด้อยกว่านิดหน่อย ดวงจิตของข้าเทียบได้กับขอบเขตเทียนจุนระดับสูง ข้าเองก็ยังรู้สึกอึดอัดใจเช่นกัน”
…
[1] กู่ฉินเป็นเครื่องดีดคล้ายพิณ
[2] เซียวเป็นชนิดของขลุ่ยไม้ไผ่