เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 811 สภาวะมนุษย์ประสานกระบี่
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 811 สภาวะมนุษย์ประสานกระบี่
…
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
กองทัพทั้งสามซึ่งแต่เดิมอยู่ในความโกลาหลต่างพากันมารวมตัวกันในทางเดียว ซือถูอีเสี้ยวได้ออกคำสั่งให้รวมกลุ่มกันโจมตีแล้ว หากพวกเขายังคงบินสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่ พวกเขาคงจะตายโดยไม่รู้สาเหตุ
จี๊! จี๊!
ในเวลาเดียวกัน ห้วงอากาศที่ว่างเปล่าทางทิศเหนือของเกาะจอมมารก็ถูกแหวกออกมา กลุ่มทหารเกราะสีเทาปรากฏตัวขึ้นมาขณะที่ซือถูนู่เองก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเช่นกัน เขาปลดปล่อยยอดสวรรค์สะท้านปฐพีลงมาที่หุบเขาเบื้องล่างทันทีทำให้อาคมยับยั้งพังทลายไปอย่างสิ้นเชิง ปราสาทมากมายปรากฏขึ้นมาในภายหลัง จากนั้นเขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้เชี่ยวชาญนับพันลงไป ยอดฝีมือนับร้อยจากกลุ่มลับที่แอบแฝงมาก็อยู่ในสนามรบแล้วและผู้คนจำนวนมากกำลังปกป้องปราสาทอยู่
“ผสานการโจมตี!”
ซือถูนู่แผดเสียงออกมาและปล่อยยอดสวรรค์สะท้านปฐพีไปยังท้องฟ้าทางตะวันออก ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าหมื่นคนได้โจมตีออกมาและฉีกท้องฟ้าเหนือเกาะจอมมารอีกครั้ง
“เหอ…”
โม๋เทียนและโม๋หลงเองก็ยังคงถูกไล่ล่าและถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มคนเหล่านั้นอยู่ เดิมทีพวกเขาเดือดดาลมากและเตรียมจะออกคำสั่งให้จัดการกองโจรทั้งสาม แต่เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาก็ตกตะลึงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาเห็นตระกูลซือถูสองหมื่นคนและยอดสวรรค์สะท้านปฐพีของซือถูนู่ซึ่งมันทำให้ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดราวกับหิมะ
“เราหลงกลแล้ว!”
ทั้งสองคนมองหน้ากันและเห็นความสิ้นหวังในดวงตาของแต่ละฝ่าย หากตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ทัพกองทัพจอมมารแล้ว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นแผนการทั้งหมด การต่อสู้ที่วุ่นวายระหว่างสามกองโจรเองก็เช่นกัน
เดิมทีพวกเขาวางแผนไว้ว่าจะหลอกล่อเป้าหมายออกมาแล้วทำการล้อมเป้าหมายเหล่านั้นไว้!
การลักพาตัวจ้านอู๋ซวงและหยุนเฟยเพื่อล่อให้เจียงอี้ออกมาช่วยพวกเขา พวกเขานั้นรู้อยู่แล้วว่าเจียงอี้ได้มายังทะเลเทพประทานกับสมาคมการค้าวิหคมรกตและพวกเขาก็รู้อย่างชัดเจนว่าสมาคมการค้าวิหคมรกตส่งคนออกมาหมื่นคน และพวกเขายังมั่นใจด้วยซ้ำว่าตระกูลอื่นๆที่เหลือไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ดังนั้นโม๋เทียนจึงสันนิษฐานไว้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับกองทัพโจรสี่กลุ่มที่จะทำลายสมาคมการค้าวิหคมรกต แม้กองทัพจอมมารจะต้องเผชิญกับสมาคมการค้าวิหคมรกตเพียงลำพัง พวกเขาก็ไม่ได้กลัวเลย และทันทีที่เจียงอี้ปรากฏตัว โม๋หลงก็ได้ส่งข้อความไปยังกองโจรทั้งสามทันทีและให้พวกเขารีบมาโดยเร็วที่สุด
ซึ่งกองทัพทั้งสามนั้นมาถึงแล้ว แต่ทว่า…พวกเขาแปรพักตร์ไปและตอนนี้ตระกูลซือถูก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้? โม๋เทียนและโม๋หลงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขารู้ว่ากองทัพจอมมารจบเห่แล้ว และพวกเขากำลังจะพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
“กองกำลังจอมมารจงฟังคำสั่งข้า กำลังเสริมจะมาถึงในไม่ช้าและเราไม่มีทางหนีรอด จงเสี่ยงชีวิตในสงครามครั้งนี้ซะ…”
โม๋เทียนคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขามีภรรยาหลายสิบคน, ลูกๆหลายร้อยคน และสมาชิกนับพันอยู่บนเกาะจอมมาร เขาไม่แม้แต่จะหนีไป ตระกูลซือถูลงมือแล้ว แล้วจะให้เขาหนีไปที่ไหนได้?
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
สมาชิกทั้งหมดของกองทัพจอมมารเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารจากเสียงคำรามของเขาในขณะที่การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว โจรหลายคนยังมีภรรยาอยู่บนเกาะและพวกเขาไม่มีที่ให้หนีไปและต้องเสี่ยงชีวิตในการต่อสู้
“กระจายตัวกันไปสู้ ถ้าฆ่าได้หนึ่ง เท่ากับเสมอตัว แต่ถ้าฆ่าได้สอง นั่นถือเป็นกำไร!”
โม๋หลงคำรามออกมาขณะที่เขาดึงธนูยาวสีดำออกมาอย่างเต็มที่ครั้งแล้วครั้งเล่า ศรแก่นแท้พลังถูกยิงออกไปทีละลูกและในชั่วพริบตา ศรนับร้อยก็ถูกยิงออกมา ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมการค้าวิหคมรกตเองก็สู้กลับเช่นกันขณะที่พวกเขาทำลายลูกธนูแก่นพลังได้บางลูก แต่บางลูกก็ปะทะเข้ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนบางคน เห็นได้ชัดว่าศรเหล่านี้เป็นการโจมตีรูปแบบเต๋าแบบพิเศษเพราะโล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่อ่อนแอแตกสลายลงทันทีและร่างของพวกเขาก็ถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ฆ่า!”
กองทัพจอมมารมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมากกว่าหมื่นคนและความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาอยู่ในอันดับสามในสิบของกองโจร กองโจรจอมมารยังเป็นกองทัพที่ชอบการต่อสู้มากที่สุดและหลังจากสิ้นเสียงคำรามของโม๋เทียนและโม๋หลงแล้ว โจรทั้งหมดก็ระเบิดกลิ่นอายที่ชั่วร้ายออกมา หลายๆคนพร้อมที่จะสละทุกสิ่งขณะที่พวกเขากระจายกันออกไปสังหารผู้คน พวกเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีจำนวนคนมากเกินไปและพวกเขาจะต้องตายแม้ว่าจะมีกำลังเสริมใดๆก็ตาม ทางเดียวของพวกเขาคือการแยกกันไปและดึงผู้คนอีกไม่กี่คนลงมาตายพร้อมกับพวกเขาด้วยเท่านั้น
“โม๋หลง มาสู้กันเถอะ ผ่าอัสนี!”
ร่างของหวงฝูเทาเทียนกระพริบและมีแสงอัสนีขณะที่กระบี่อัสนีของเขาเปล่งแสงออกมามากยิ่งขึ้น เขาเมินเฉยต่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำทั้งหมดไปขณะที่เขาเพ่งเล็งไปยังโม๋หลงและฟาดกระบี่ไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดผ่านท้องฟ้าและพุ่งไปทางโม๋หลงทันที
“เจ้าเด็กโง่เขลา เจ้ากล้าท้าทายข้ารึ?”
โม๋หลงเย้ยและยังคงดึงคันธนูอย่างต่อเนื่อง เมื่อดาวทั้งเก้าเรียงกัน ศรแก่นแท้พลังทั้งเก้าเส้นก็พุ่งออกมา จากนั้นพวกมันก็ทำลายการผ่าอัสนีของหวงฝูเทาเทียนได้อย่างง่ายดาย เขาหรี่ตาลงและยิ้มเยาะถากถาง “หวงฝูเทาเทียน? หากข้าลากนายน้อยตระกูลหวงฝูให้ตายไปพร้อมกับข้าได้ มันก็คุ้มค่าแล้ว!ไอ้หนู ตายซะเถอะ! ศรมิติ!”
มือของโม๋หลงสั่นไหวด้วยแก่นแท้พลังขณะที่คันธนูยาวเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายที่น่าตกตะลึงทันที เขาดึงคันธนูจนสุดแขนแต่เขาไม่ได้ยิงศรแก่นแท้พลังออกไป ห้วงมิติสั่นสะท้านเมื่อศรนั้นเคลื่อนตัวราวกับมังกรคลั่งที่แอบย่องอยู่ในความว่างเปล่า จากนั้นศรแก่นแท้พลังขนาดยักษ์ก็ก่อตัวขึ้นด้านหน้าหวงฝูเทาเทียนซึ่งมันใหญ่กว่าลูกศรธรรมดาถึงห้าเท่าและความกดดันของมันช่างน่าสยดสยองนัก “นายน้อยหวงฝู ระวัง!”
“นายน้อยหวงฝู รีบหนีไปขอรับ….”
สมาชิกของสมาคมการค้าวิหคมรกตหลายคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากขณะที่พวกเขาตะโกนออกมา หากหวงฝูเทาเทียนตายที่นี่ ตระกูลหวงฝูจะต้องไม่พอใจสมาคมการค้าวิหคมรกตอย่างแน่นอนและพวกเขาจะไม่สามารถทำการค้าต่อไปได้อีก
“พี่ใหญ่หวงฝู!”
เจียงอี้อุทานอยู่ภายในเรือลิขิตสวรรค์ ดวงตาที่อ่อนล้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และหากร่างกายของเขาไม่ได้อ่อนล้าจนไม่สามารถขยับได้ เขาก็คงจะกระเสือกกระสนออกไปอย่างแน่นอน
จากนั้นซือถูอีเสี้ยวก็โบกมือและพูดว่า “น้องเจียง ไม่ต้องกังวลไป พี่ใหญ่เทาเทียนไม่ตายง่ายๆอย่างนั้นหรอก หากไม่เช่นนั้น เขาก็คงจะไม่ใช่อัจฉริยะที่หายากของตระกูลที่ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุกๆหมื่นปีแน่นอน” “ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหนือทะเลเกาะจอมมาร, หวงฝูเทาเทียนหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ “อย่างเจ้านี่หรอที่จะฆ่าข้า? เจ้าไม่คู่ควรพอหรอก เงาอัสนี, มนุษย์ประสานกระบี่!”
หวงฝูเทาเทียนฟาดกระบี่ออกมาและปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา รูปแบบเต๋าห้าดาว เงาอัสนี อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มันต่างไปจากครั้งก่อนเพราะหลังจากที่หวงฝูเทาเทียนฟาดกระบี่ลงมาแล้ว กระบี่ของเขาก็กลายเป็นความว่างเปล่าและหายไปขณะที่ร่างของเขาเองก็หายไปจากตรงนั้นอย่างสมบูรณ์
และในวินาทีต่อมา!
เกิดความผันผวนห้วงอากาศข้างหน้าโม๋หลงและแสงหลากสีก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันและมันฟาดลงไปบนโล่ศักดิ์สิทธิ์ของโม๋หลง จากนั้นโล่ศักดิ์สิทธิ์ก็แตกสลายออก รูปแบบอักขระบนกระบี่อัสนีส่องประกายและผ่าโม๋หลงออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดายในใบมีดเดียว!
“นี่มัน…..”
ทุกคนพากันตกตะลึง หวงฝูเทาเทียนเองก็รู้วิชาย้ายห้วงมิติด้วย ไม่ใช่สิ! มันไม่ใช่วิชาย้ายห้วงมิติ บรรดาผู้ที่คุ้นเคยกับวิชาย้ายห้วงมิตินั้นรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งานมันโดยไม่มียาที่เป็นเอกลักษณ์จากตระกูลซือถูที่มันปฏิรูปร่างกาย
ความเร็วของหวงฝูเทาเทียนนั้นเร็วกว่าเคลื่อนย้ายฉับพลันมากนัก นอกจากนี้ ศรมิติของโม๋หลงเองก็สร้างความผันผวนใกล้ๆที่ที่หวงฝูเทาเทียนอยู่แต่เขากลับยังสามารถเดินทางข้ามผ่านห้วงมิติได้?
“เขาเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! มนุษย์ประสานกระบี่ พี่ใหญ่เทาทียนเข้าถึงมนุษย์ประสานกระบี่ได้!”
ดวงตาของซือถูอีเสี้ยวสว่างไสวอย่างน่ากลัวขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาและเสียใจเล็กน้อย เฟิงปู้ชีเองก็พึมพำว่า “มนุษย์ประสานกระบี่ประกบกับรูปแบบเต๋าเงาอัสนี, พลังดารา…กระบี่อัสนี หวงฝูเทาเทียนนั้นสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดธรรมดาๆได้เลย”
“ฮู่วว…”
เจียงอี้ถอนหายใจออกมาและรู้สึกว่าก้อนหินที่หนักอึ้งได้หายไปจากใจเขาแล้ว หวงฝูเทาเทียนได้บอกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดธรรมดานั้นไม่สามารถสังหารเขาได้ คราวนี้ดวงตาของเจียงอี้เบิกกว้างอย่างแท้จริงและดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเรียกว่ามนุษย์ประสานกระบี่!
เขานิ่งไปครู่หนึ่งและฝืนความเหนื่อยล้าทางดวงจิตและถามว่า “พี่อีเสี้ยว สภาวะมนุษย์ประสานกระบี่คืออะไรหรือ?”
ดวงตาของซือถูอีเสี้ยวเปล่งประกายด้วยความฉลาดยิ่งขึ้นขณะที่อธิบายว่า “สมบัติที่เชื่อมดวงจิตทั้งหมดนั้นมีจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์อยู่ในนั้น หลังจากที่บรรลุการเชื่อมดวงจิตได้แล้ว ดวงจิตของสิ่งประดิษฐ์จะจดจำเจ้าของและเพิ่มพลังให้สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด เกราะสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นคือการบรรลุความกลมกลืนที่สมบูรณ์ระหว่างมนุษย์กับจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ให้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับศาตราวุธ จากนั้นคนผู้นั้นจะสามารถปลดปล่อยความสามารถที่ซ่อนเร้นของจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ได้ และจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดนั้นมีความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ อย่างจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ในกระบี่อัสนีของพี่ใหญ่เทาเทียนนั้นมีความสามารถในการเดินทางข้ามผ่านห้วงมิติที่ว่างเปล่าได้อย่างแน่นอน…”
กองทัพทั้งสามซึ่งแต่เดิมอยู่ในความโกลาหลต่างพากันมารวมตัวกันในทางเดียว ซือถูอีเสี้ยวได้ออกคำสั่งให้รวมกลุ่มกันโจมตีแล้ว หากพวกเขายังคงบินสุ่มสี่สุ่มห้าอยู่ พวกเขาคงจะตายโดยไม่รู้สาเหตุ
จี๊! จี๊!
ในเวลาเดียวกัน ห้วงอากาศที่ว่างเปล่าทางทิศเหนือของเกาะจอมมารก็ถูกแหวกออกมา กลุ่มทหารเกราะสีเทาปรากฏตัวขึ้นมาขณะที่ซือถูนู่เองก็ปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าเช่นกัน เขาปลดปล่อยยอดสวรรค์สะท้านปฐพีลงมาที่หุบเขาเบื้องล่างทันทีทำให้อาคมยับยั้งพังทลายไปอย่างสิ้นเชิง ปราสาทมากมายปรากฏขึ้นมาในภายหลัง จากนั้นเขาก็โบกมือเพื่อส่งสัญญาณให้ผู้เชี่ยวชาญนับพันลงไป ยอดฝีมือนับร้อยจากกลุ่มลับที่แอบแฝงมาก็อยู่ในสนามรบแล้วและผู้คนจำนวนมากกำลังปกป้องปราสาทอยู่
“ผสานการโจมตี!”
ซือถูนู่แผดเสียงออกมาและปล่อยยอดสวรรค์สะท้านปฐพีไปยังท้องฟ้าทางตะวันออก ในเวลาเดียวกัน ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนกว่าหมื่นคนได้โจมตีออกมาและฉีกท้องฟ้าเหนือเกาะจอมมารอีกครั้ง
“เหอ…”
โม๋เทียนและโม๋หลงเองก็ยังคงถูกไล่ล่าและถูกโจมตีอย่างต่อเนื่องโดยกลุ่มคนเหล่านั้นอยู่ เดิมทีพวกเขาเดือดดาลมากและเตรียมจะออกคำสั่งให้จัดการกองโจรทั้งสาม แต่เมื่อพวกเขาเห็นเหตุการณ์นี้ พวกเขาก็ตกตะลึงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อพวกเขาเห็นตระกูลซือถูสองหมื่นคนและยอดสวรรค์สะท้านปฐพีของซือถูนู่ซึ่งมันทำให้ใบหน้าของพวกเขาซีดเผือดราวกับหิมะ
“เราหลงกลแล้ว!”
ทั้งสองคนมองหน้ากันและเห็นความสิ้นหวังในดวงตาของแต่ละฝ่าย หากตอนนี้พวกเขายังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเขาก็ไม่คู่ควรที่จะเป็นแม่ทัพกองทัพจอมมารแล้ว ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในวันนี้เป็นแผนการทั้งหมด การต่อสู้ที่วุ่นวายระหว่างสามกองโจรเองก็เช่นกัน
เดิมทีพวกเขาวางแผนไว้ว่าจะหลอกล่อเป้าหมายออกมาแล้วทำการล้อมเป้าหมายเหล่านั้นไว้!
การลักพาตัวจ้านอู๋ซวงและหยุนเฟยเพื่อล่อให้เจียงอี้ออกมาช่วยพวกเขา พวกเขานั้นรู้อยู่แล้วว่าเจียงอี้ได้มายังทะเลเทพประทานกับสมาคมการค้าวิหคมรกตและพวกเขาก็รู้อย่างชัดเจนว่าสมาคมการค้าวิหคมรกตส่งคนออกมาหมื่นคน และพวกเขายังมั่นใจด้วยซ้ำว่าตระกูลอื่นๆที่เหลือไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆ
ดังนั้นโม๋เทียนจึงสันนิษฐานไว้ว่ามันเป็นเรื่องง่ายสำหรับกองทัพโจรสี่กลุ่มที่จะทำลายสมาคมการค้าวิหคมรกต แม้กองทัพจอมมารจะต้องเผชิญกับสมาคมการค้าวิหคมรกตเพียงลำพัง พวกเขาก็ไม่ได้กลัวเลย และทันทีที่เจียงอี้ปรากฏตัว โม๋หลงก็ได้ส่งข้อความไปยังกองโจรทั้งสามทันทีและให้พวกเขารีบมาโดยเร็วที่สุด
ซึ่งกองทัพทั้งสามนั้นมาถึงแล้ว แต่ทว่า…พวกเขาแปรพักตร์ไปและตอนนี้ตระกูลซือถูก็ปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ไหนก็ไม่รู้? โม๋เทียนและโม๋หลงไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น แต่พวกเขารู้ว่ากองทัพจอมมารจบเห่แล้ว และพวกเขากำลังจะพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง
“กองกำลังจอมมารจงฟังคำสั่งข้า กำลังเสริมจะมาถึงในไม่ช้าและเราไม่มีทางหนีรอด จงเสี่ยงชีวิตในสงครามครั้งนี้ซะ…”
โม๋เทียนคำรามออกมาอย่างบ้าคลั่ง เขามีภรรยาหลายสิบคน, ลูกๆหลายร้อยคน และสมาชิกนับพันอยู่บนเกาะจอมมาร เขาไม่แม้แต่จะหนีไป ตระกูลซือถูลงมือแล้ว แล้วจะให้เขาหนีไปที่ไหนได้?
“ฆ่า ฆ่า ฆ่า!”
สมาชิกทั้งหมดของกองทัพจอมมารเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารจากเสียงคำรามของเขาในขณะที่การแสดงออกของพวกเขาเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว โจรหลายคนยังมีภรรยาอยู่บนเกาะและพวกเขาไม่มีที่ให้หนีไปและต้องเสี่ยงชีวิตในการต่อสู้
“กระจายตัวกันไปสู้ ถ้าฆ่าได้หนึ่ง เท่ากับเสมอตัว แต่ถ้าฆ่าได้สอง นั่นถือเป็นกำไร!”
โม๋หลงคำรามออกมาขณะที่เขาดึงธนูยาวสีดำออกมาอย่างเต็มที่ครั้งแล้วครั้งเล่า ศรแก่นแท้พลังถูกยิงออกไปทีละลูกและในชั่วพริบตา ศรนับร้อยก็ถูกยิงออกมา ผู้เชี่ยวชาญจากสมาคมการค้าวิหคมรกตเองก็สู้กลับเช่นกันขณะที่พวกเขาทำลายลูกธนูแก่นพลังได้บางลูก แต่บางลูกก็ปะทะเข้ากับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนบางคน เห็นได้ชัดว่าศรเหล่านี้เป็นการโจมตีรูปแบบเต๋าแบบพิเศษเพราะโล่ศักดิ์สิทธิ์ของผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนที่อ่อนแอแตกสลายลงทันทีและร่างของพวกเขาก็ถูกทำลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย
“ฆ่า!”
กองทัพจอมมารมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนมากกว่าหมื่นคนและความแข็งแกร่งโดยรวมของพวกเขาอยู่ในอันดับสามในสิบของกองโจร กองโจรจอมมารยังเป็นกองทัพที่ชอบการต่อสู้มากที่สุดและหลังจากสิ้นเสียงคำรามของโม๋เทียนและโม๋หลงแล้ว โจรทั้งหมดก็ระเบิดกลิ่นอายที่ชั่วร้ายออกมา หลายๆคนพร้อมที่จะสละทุกสิ่งขณะที่พวกเขากระจายกันออกไปสังหารผู้คน พวกเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีจำนวนคนมากเกินไปและพวกเขาจะต้องตายแม้ว่าจะมีกำลังเสริมใดๆก็ตาม ทางเดียวของพวกเขาคือการแยกกันไปและดึงผู้คนอีกไม่กี่คนลงมาตายพร้อมกับพวกเขาด้วยเท่านั้น
“โม๋หลง มาสู้กันเถอะ ผ่าอัสนี!”
ร่างของหวงฝูเทาเทียนกระพริบและมีแสงอัสนีขณะที่กระบี่อัสนีของเขาเปล่งแสงออกมามากยิ่งขึ้น เขาเมินเฉยต่อผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำทั้งหมดไปขณะที่เขาเพ่งเล็งไปยังโม๋หลงและฟาดกระบี่ไปด้วยความเร็วที่เร็วที่สุด จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดผ่านท้องฟ้าและพุ่งไปทางโม๋หลงทันที
“เจ้าเด็กโง่เขลา เจ้ากล้าท้าทายข้ารึ?”
โม๋หลงเย้ยและยังคงดึงคันธนูอย่างต่อเนื่อง เมื่อดาวทั้งเก้าเรียงกัน ศรแก่นแท้พลังทั้งเก้าเส้นก็พุ่งออกมา จากนั้นพวกมันก็ทำลายการผ่าอัสนีของหวงฝูเทาเทียนได้อย่างง่ายดาย เขาหรี่ตาลงและยิ้มเยาะถากถาง “หวงฝูเทาเทียน? หากข้าลากนายน้อยตระกูลหวงฝูให้ตายไปพร้อมกับข้าได้ มันก็คุ้มค่าแล้ว!ไอ้หนู ตายซะเถอะ! ศรมิติ!”
มือของโม๋หลงสั่นไหวด้วยแก่นแท้พลังขณะที่คันธนูยาวเปล่งประกายด้วยกลิ่นอายที่น่าตกตะลึงทันที เขาดึงคันธนูจนสุดแขนแต่เขาไม่ได้ยิงศรแก่นแท้พลังออกไป ห้วงมิติสั่นสะท้านเมื่อศรนั้นเคลื่อนตัวราวกับมังกรคลั่งที่แอบย่องอยู่ในความว่างเปล่า จากนั้นศรแก่นแท้พลังขนาดยักษ์ก็ก่อตัวขึ้นด้านหน้าหวงฝูเทาเทียนซึ่งมันใหญ่กว่าลูกศรธรรมดาถึงห้าเท่าและความกดดันของมันช่างน่าสยดสยองนัก “นายน้อยหวงฝู ระวัง!”
“นายน้อยหวงฝู รีบหนีไปขอรับ….”
สมาชิกของสมาคมการค้าวิหคมรกตหลายคนมีสีหน้าเปลี่ยนไปอย่างมากขณะที่พวกเขาตะโกนออกมา หากหวงฝูเทาเทียนตายที่นี่ ตระกูลหวงฝูจะต้องไม่พอใจสมาคมการค้าวิหคมรกตอย่างแน่นอนและพวกเขาจะไม่สามารถทำการค้าต่อไปได้อีก
“พี่ใหญ่หวงฝู!”
เจียงอี้อุทานอยู่ภายในเรือลิขิตสวรรค์ ดวงตาที่อ่อนล้าของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก และหากร่างกายของเขาไม่ได้อ่อนล้าจนไม่สามารถขยับได้ เขาก็คงจะกระเสือกกระสนออกไปอย่างแน่นอน
จากนั้นซือถูอีเสี้ยวก็โบกมือและพูดว่า “น้องเจียง ไม่ต้องกังวลไป พี่ใหญ่เทาเทียนไม่ตายง่ายๆอย่างนั้นหรอก หากไม่เช่นนั้น เขาก็คงจะไม่ใช่อัจฉริยะที่หายากของตระกูลที่ปรากฏขึ้นเพียงครั้งเดียวในทุกๆหมื่นปีแน่นอน” “ฮ่าฮ่าฮ่า!”
เหนือทะเลเกาะจอมมาร, หวงฝูเทาเทียนหัวเราะออกมาอย่างเต็มที่ “อย่างเจ้านี่หรอที่จะฆ่าข้า? เจ้าไม่คู่ควรพอหรอก เงาอัสนี, มนุษย์ประสานกระบี่!”
หวงฝูเทาเทียนฟาดกระบี่ออกมาและปล่อยการโจมตีที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา รูปแบบเต๋าห้าดาว เงาอัสนี อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้มันต่างไปจากครั้งก่อนเพราะหลังจากที่หวงฝูเทาเทียนฟาดกระบี่ลงมาแล้ว กระบี่ของเขาก็กลายเป็นความว่างเปล่าและหายไปขณะที่ร่างของเขาเองก็หายไปจากตรงนั้นอย่างสมบูรณ์
และในวินาทีต่อมา!
เกิดความผันผวนห้วงอากาศข้างหน้าโม๋หลงและแสงหลากสีก็ปรากฏขึ้นอย่างกะทันหันและมันฟาดลงไปบนโล่ศักดิ์สิทธิ์ของโม๋หลง จากนั้นโล่ศักดิ์สิทธิ์ก็แตกสลายออก รูปแบบอักขระบนกระบี่อัสนีส่องประกายและผ่าโม๋หลงออกเป็นสองส่วนอย่างง่ายดายในใบมีดเดียว!
“นี่มัน…..”
ทุกคนพากันตกตะลึง หวงฝูเทาเทียนเองก็รู้วิชาย้ายห้วงมิติด้วย ไม่ใช่สิ! มันไม่ใช่วิชาย้ายห้วงมิติ บรรดาผู้ที่คุ้นเคยกับวิชาย้ายห้วงมิตินั้นรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะใช้งานมันโดยไม่มียาที่เป็นเอกลักษณ์จากตระกูลซือถูที่มันปฏิรูปร่างกาย
ความเร็วของหวงฝูเทาเทียนนั้นเร็วกว่าเคลื่อนย้ายฉับพลันมากนัก นอกจากนี้ ศรมิติของโม๋หลงเองก็สร้างความผันผวนใกล้ๆที่ที่หวงฝูเทาเทียนอยู่แต่เขากลับยังสามารถเดินทางข้ามผ่านห้วงมิติได้?
“เขาเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมจริงๆ! มนุษย์ประสานกระบี่ พี่ใหญ่เทาทียนเข้าถึงมนุษย์ประสานกระบี่ได้!”
ดวงตาของซือถูอีเสี้ยวสว่างไสวอย่างน่ากลัวขณะที่ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความอิจฉาและเสียใจเล็กน้อย เฟิงปู้ชีเองก็พึมพำว่า “มนุษย์ประสานกระบี่ประกบกับรูปแบบเต๋าเงาอัสนี, พลังดารา…กระบี่อัสนี หวงฝูเทาเทียนนั้นสามารถสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดธรรมดาๆได้เลย”
“ฮู่วว…”
เจียงอี้ถอนหายใจออกมาและรู้สึกว่าก้อนหินที่หนักอึ้งได้หายไปจากใจเขาแล้ว หวงฝูเทาเทียนได้บอกว่าผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดธรรมดานั้นไม่สามารถสังหารเขาได้ คราวนี้ดวงตาของเจียงอี้เบิกกว้างอย่างแท้จริงและดูเหมือนว่าสิ่งนี้จะเรียกว่ามนุษย์ประสานกระบี่!
เขานิ่งไปครู่หนึ่งและฝืนความเหนื่อยล้าทางดวงจิตและถามว่า “พี่อีเสี้ยว สภาวะมนุษย์ประสานกระบี่คืออะไรหรือ?”
ดวงตาของซือถูอีเสี้ยวเปล่งประกายด้วยความฉลาดยิ่งขึ้นขณะที่อธิบายว่า “สมบัติที่เชื่อมดวงจิตทั้งหมดนั้นมีจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์อยู่ในนั้น หลังจากที่บรรลุการเชื่อมดวงจิตได้แล้ว ดวงจิตของสิ่งประดิษฐ์จะจดจำเจ้าของและเพิ่มพลังให้สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝง อย่างไรก็ตาม มันไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด เกราะสภาวะที่แข็งแกร่งที่สุดนั้นคือการบรรลุความกลมกลืนที่สมบูรณ์ระหว่างมนุษย์กับจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ให้ผสานเป็นหนึ่งเดียวกับศาตราวุธ จากนั้นคนผู้นั้นจะสามารถปลดปล่อยความสามารถที่ซ่อนเร้นของจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ได้ และจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดนั้นมีความสามารถที่ซ่อนเร้นอยู่ อย่างจิตวิญญาณของสิ่งประดิษฐ์ในกระบี่อัสนีของพี่ใหญ่เทาเทียนนั้นมีความสามารถในการเดินทางข้ามผ่านห้วงมิติที่ว่างเปล่าได้อย่างแน่นอน…”