เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 814 ข้าจะเสี่ยงทุกอย่าง
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 814 ข้าจะเสี่ยงทุกอย่าง
เฉียนว่านก้วน!
มันเป็นชื่อที่ไม่ได้คุ้นเคยและไม่ได้งดงามนัก แต่ในตอนนี้ ชื่อนี้ก็ดังก้องไปทั่วทั้งเมืองเทพประทานและยังคงแพร่ไปทั่วเผ่าเทพประทานด้วย
ทั้งสิบสามตระกูลเป็นผู้ปกครองเผ่าเทพประทานและพวกเขาไม่ได้ขาดแคลนศิลาสวรรค์และไม่เคยให้ความสำคัญกับการค้าเลย ในความคิดเห็นของพวกเขานั้น ความแข็งแกร่งที่แท้จริงคือหนทางในการปกครอง ด้วยความแข็งแกร่ง พวกเขาสามารถปล้นสมบัติผู้อื่นได้ตามต้องการ เผ่าเทพประทานทั้งหมดเป็นของพวกเขา แล้วพวกเขาจะต้องการศิลาสวรรค์ไปเพื่ออะไรกัน?
หลังจากที่ซือถูอ้าวดำรงตำแหน่งประมุขตระกูลซือถู เขาก็ได้ล้มล้างปรัชญาของทุกคน!
เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ขึ้นในตระกูลซือถูในไม่กี่ช่วงอายุคนก่อนหน้านี้ ปรมาจารย์รุ่นนั้นได้ออกผจญภัยไปยังแดนลึกลับในทะเลลึกไร้สิ้นสุดและตกตายอยู่ที่นั่น และเขาก็ไม่ได้ตัดสินใจเลือกประมุขตระกูลคนต่อไปและผู้สืบทอดรุ่นต่อไปเลย ทำให้ตระกูลซือถูแก่งแย่งกันภายในตระกูลซึ่งนำพาไปสู่ความเสียหายอันใหญ่หลวง อีกสามตระกูลใหญ่ได้ประโยชน์จากความโชคร้ายของพวกเขาและเกือบจะขับไล่ตระกูลซือถูออกไปจากเกาะเทพประทานแล้ว
ในช่วงเวลานั้น ตระกูลซือถูอยู่ที่ก้นเหวของเมืองเทพประทานจนกระทั่งบิดาของซือถูอ้าวขึ้นกุมบังเหียนต่อและฟื้นฟูอิทธิพลบางอย่างกลับคืนสู่ตระกูล แต่พวกเขาก็ยังคงรั้งท้ายอยู่ หลังจากที่ซือถูอ้าวเข้ารับตำแหน่งประมุขและจัดการกิจการทั้งหมดของตระกูลซือถู เขาก็ได้พัฒนาธุรกิจการค้าอย่างรวดเร็วและก่อตั้งโรงประมูลและการค้าอื่นๆขึ้นมาอีกมากมายทำให้ตระกูลซือถูรวบรวมศิลาสวรรค์จำนวนมากได้ในเวลาเพียงไม่กี่เดือน ส่วนสามตระกูลที่เหลือต่างส่งเสียงดูถูกเหยียดหยามและรู้สึกว่าตระกูลซือถูกำลังเดินไปในเส้นทางนอกรีต พวกเขาเชื่อว่าตระกูลซือถูนั้นไม่มีหลักที่แข็งแกร่งเนื่องจากพวกเขาไม่ได้มุ่งเน้นไปที่การบ่มเลี้ยงยอดฝีมือเพิ่ม
และผลก็คือ ซือถูอ้าวใช้เรื่องจริงตบหน้าทั้งสามตระกูลใหญ่ หลังจากที่ตระกูลซือถูรวบรวมศิลาสวรรค์ได้มากมาย พวกเขาก็แอบคัดเลือกยอดฝีมือมานับไม่ถ้วนและซื้อคนจากตระกูลอื่นๆอีกมากมาย ทำให้อิทธิพลของตระกูลซือถูแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเวลาเพียงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ตระกูลซือถูในตอนนี้ก็กลายเป็นอันดับสองของเมือง หากไม่ใช่เพราะทักษะวิชาของปรมาจารย์ตระกูลเหลย ตระกูลซือถูก็จะกลายเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเผ่าเทพประทานอย่างแน่นอน
ในที่สุดทั้งสามตระกูลใหญ่ก็เข้าใจแล้วว่าตระกูลต่างๆยึดติดกับพวกเขา แต่ยึดติดในลักษณะที่ถูกสามตระกูลใหญ่สูบเลือดสูบเนื้อไปด้วย ในขณะที่ตระกูลซือถูใช้ธุรกิจการค้าเพื่อผูกกับตระกูลเล็กๆทั้งหมด ซึ่งพวกเขาได้ประโยชน์และแบ่งปันเกียรติและความอัปยศร่วมกัน
ด้วยการมีธุรกิจการค้าที่มากขึ้น ตระกูลซือถูก็จะดึงคนเข้ามาได้มากขึ้นซึ่งมันต่างจากสามตระกูลใหญ่ที่ต้องจ่ายเงินจัดหาคนเหล่านั้นโดยเปล่าประโยชน์
ตลอดหลายปีที่ผ่านมา สามตระกูลใหญ่ได้รับอิทธิพลจากตระกูลซือถูและเริ่มให้ความสำคัญกับการค้ามากขึ้น เหมือนอย่างสนามประลองของตระกูลเหลย หรือแม้แต่หนานกงหยุนยี่เองก็ที่เป็นพวกหัวโบราณเองก็เปิดแดนลึกลับตระกูลหนานกงเพื่อหากำไรเช่นกัน
ส่วนซือถูอ้าวนั้นดำเนินการค้ามาสิบกว่าปีแล้วและมันเป็นไปไม่ได้ที่ทั้งสามตระกูลใหญ่จะตามเขาทันในเวลาสั้นๆ การค้าของตระกูลซือถูทำให้สามตระกูลหลักอื่นๆยอมรับว่าพวกเขาไม่ได้ดีเท่าที่ควร และตอนนี้เมื่อสมาคมการค้าวิหคมรกตเข้าร่วมตระกูลซือถูแล้ว มันก็จะทำให้ตระกูลซือถูกลายเป็นองค์กรการค้าอันดับหนึ่งของเผ่าเทพประทานไป
ตระกูลซือถูมีธุรกิจการค้ามากมาย ในเมืองเทพประทานนั้นใหญ่โตมากและการค้าหนึ่งในสามส่วนของเมืองก็เป็นของตระกูลซือถู
ในตอนนี้…การค้าทั้งหมดเหล่านี้ถูกส่งมอบให้คนคนเดียวจัดการจริงๆหรือ? บุคคลนี้ไม่ใช่สมาชิกตระกูลซือถูด้วยซ้ำ แต่เป็นใครก็ไม่รู้ที่มีเพียงความประทับใจเดียวคือการเป็นพี่น้องของเจียงอี้
เจียงอี้นั้นมีชื่อเสียงมากในเมืองเทพประทานและศักยภาพของเขาก็คุ้มค่าที่ซือถูอ้าวจะผูกมัดเขาไว้ มันเป็นเรื่องปกติมาก แต่การกดดันผู้อาวุโสทั้งร้อยแปดคนและมอบธุรกิจการค้าให้เฉียนว่านก้วนจัดการนี่เป็นเรื่องที่น่าตกตะลึงเกินไป
ทุกคนคิดว่าซือถูอ้าวบ้าไปแล้ว และนั่นก็รวมถึงเจียงอี้และหวงฝูเทาเทียนด้วย!
ทั้งสองคนกำลังนั่งอยู่ในปราสาทเจียงและมองไปยังซือถูอีเสี้ยวด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความสงสัยและรอให้เขาตอบคำถามนี้ ส่วนเฉียนว่านก้วนไม่ได้อยู่ด้วยเนื่องจากเขามีหลายสิ่งที่ต้องจัดการและเป็นไปได้ว่าทุกคนอาจจะไม่ได้เจอเขาไปนับเดือน
ง่ายมาก!
ซือถูอีเสี้ยวกางมือออกและพูดว่า ว่านก้วนเป็นอัจฉริยะ ข้า ท่านพ่อและประธานเฟิงต่างก็เห็นด้วย หากเขามีเวลาห้าปี สินทรัพย์ของตระกูลซือถูทั้งหมดจะมีมูลค่าเพิ่มหลายเท่าตัวและจะทำให้ตระกูลซือถูขึ้นเป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเผ่าเทพประทานได้
เหอ…
ทุกคนพากันตกตะลึง ชิงหยียังคงกระพริบตาของนางและถามว่า เจ้าอ้วนนั่นน่าทึ่งถึงเพียงนี้จริงหรือ?
ใช่แล้ว!
ซือถูอีเสี้ยวพยักหน้าซ้ำๆ พวกเจ้ายังไม่รู้เรื่องนี้สินะ ว่านก้วนเคยจัดการหนึ่งในธุรกิจการค้าของเรามาสามเดือนแล้ว แต่เดิมมันวุ่นวายมาก แต่เขากำจัดทุกสิ่งได้ภายในเวลาเพียงครึ่งเดือน และสามเดือนให้หลัง เขาก็รายงานกำไรที่เพิ่มขึ้นถึงสามเท่าในระหว่างการโจมตีที่เกาะจอมมาร ท่านพ่อได้ตัดสินใจเรื่องแผนการรบและส่งคนมาให้ข้าดูแลและเฉียนว่านก้วนก็เป็นคนจัดการต่อ ข้ารู้สึกละอายมากที่ต้องพูดเช่นนี้…แต่จริงๆแล้วข้าแทบไม่ได้ทำอะไรเลยด้วยซ้ำ ก่อนที่ข้าจะสั่งการอะไร ว่านก้วนก็ได้ทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว สิ่งที่ทำให้การต่อสู้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นนั้น…เป็นน้องเจียงที่มีส่วนช่วยมากที่สุด ในขณะที่ว่านก้วนมีส่วนช่วยรองลงมา!
อันที่จริงเรื่องเหล่านี้ไม่ใช่เรื่องหลักเลย ปัจจัยที่สำคัญที่สุดนั้นคือสมาคมการค้าวิหคมรกตเป็นหนึ่งในสามสมาคมการค้าที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทพประทานและพวกเขายังครองเมืองมานับหมื่นปี สมาคมการค้าแห่งนี้มีสิบตระกูลไปถึงร้อยตระกูลที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ว่านก้วนใช้เวลาเพียงสิบวันในการโน้มน้าวใจทุกคน เฟิงปู้ชียังถึงขนาดแต่งตั้งให้ว่านก้วนรับผิดชอบแทนขณะที่เขาเต็มใจมาเป็นผู้ช่วยของว่านก้วนแทนด้วยซ้ำ พ่อค้าที่มากประสบการณ์ซึ่งทำการค้ามากว่าเจ็ดสิบปีและเป็นพ่อค้าที่แม้แต่ท่านพ่อข้ายังชื่นชมนั้นยอมลงมาเป็นผู้ช่วยของว่านก้วนอย่างเต็มใจ ข้าถามหน่อยว่า….ยังมีเหตุผลอะไรอีกที่จะทำให้เราไม่เชื่อในตัวว่านก้วน?
หลังจากซือถูอีเสี้ยวพูดจบ ทุกคนก็เงียบไป เจียงอี้และจ้านอู๋ซวงแลกสายตากันด้วยความภาคภูมิใจ การที่พี่น้องของพวกเขามีความสามารถเช่นนี้และได้รับการยกย่องจากผู้คนมากมาย พวกเขานั้นภูมิใจในตัวว่านก้วนอย่างแท้จริง
เจียงอี้กระพริบตาก่อนจะมองซือถูอีเสี้ยวและพูดอย่างจริงใจ ว่านก้วนไม่ได้ชอบการฝึกฝนและหลงใหลในเรื่องการค้าเท่านั้น นับเป็นโชคของเขาจริงๆที่ตระกูลซือถูได้ให้เขาได้แสดงความสามารถออกมา มีเพียงลุงซือถูและพี่อีเสี้ยวเท่านั้นที่จะกล้าได้กล้าเสียเช่นนี้แต่ข้อบกพร่องเพียงอย่างเดียวของว่านก้วนนั้นคือความหลงใหลใฝ่ฝันของเขา ข้าหวังว่าเขาจะพบที่ที่เรียกว่าบ้านได้ในตระกูลซือถูนี้ ข้า เจียงอี้ผู้นี้ก็อยากเป็นพี่น้องกับพี่อีเสี้ยวไปตลอดชีวิตและเพื่อว่านก้วนแล้ว ข้าจะยอมเสี่ยงทุกอย่าง
คำพูดสุดท้ายของเจียงอี้ทำให้ตัวของซือถูอีเสี้ยวสั่นเทา
มันอาจดูคลุมเครือ แต่คนชาญฉลาดอย่างซือถูอีเสี้ยวจะไม่เข้าใจได้อย่างไร? มันเป็นไปไม่ได้ที่เจียงอี้จะเข้าร่วมตระกูลซือถูและซือถูอีเสี้ยวก็รู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี เมื่อเจียงอี้บอกว่าเขาจะเสี่ยงทุกอย่าง เห็นได้ชัดว่ามันถูกชี้เป้าไปที่…วิชาศาสตร์เวทย์ญาณศักดิ์สิทธิ์
หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งคือเจียงอี้ได้บอกจุดยืนของเขาแล้ว ตราบใดที่ตระกูลซือถูยกซือถูอีเนี่ยนให้แก่เฉียนว่านก้วน เขาก็กล้าที่จะมอบญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นของขวัญการหมั้นให้แก่ตระกูลซือถู ตระกูลซือถูนั้นมีวิชาย้ายห้วงมิติและหากพวกเขาสามารถผสานการใช้งานกับญาณศักดิ์สิทธิ์ได้ มันก็เหมือนกับการติดปีกให้เสือ เป้าหมายในการขึ้นเป็นอันดับหนึ่งของพวกเขาจะอยู่ไม่ไกล และในอนาคต ตระกูลซือถูจะกำจัดผู้ใดก็ได้ที่พวกเขาต้องการ
ซือถูอีเสี้ยวยิ้มอย่างขมขื่นและป้องมือขณะที่พูดว่า อีเสี้ยวเองก็อยากเป็นพี่น้องกับน้องเจียงตลอดชีวิต ส่วนเรื่องนี้ข้าก็ยังต้องถามท่านพ่อและผู้อาวุโสด้วย นอกจากนี้ ว่านก้วนก็จะต้องพยายามชนะใจน้องสาวข้าด้วย ซึ่งเราไม่อาจรู้ได้ว่าเขาจะทำได้หรือไม่ เราอย่าเพิ่งพูดเรื่องนี้กันเลยดีกว่า เราควรดื่มฉลองให้แก่ว่านก้วนไม่ใช่หรือ?
เจียงอี้รู้ว่าเรื่องนี้ไม่สามารถรีบร้อนได้เช่นกันและมันก็จะขึ้นอยู่กับความสามารถของเฉียนว่านก้วน เขาหัวเราะออกมาและลุกขึ้นยืน การที่พี่อู๋ซวงและหยุนเฟยกลับมานั้นก็เป็นเรื่องที่น่าเฉลิมฉลองอยู่แล้ว วันนี้เราจะไม่หยุดจนกว่าเราจะเมา! เฟิ่งหลวน, ชิงหยีและหยุนเฟยมองหน้ากันอย่างเป็นห่วง ซือถูอีเสี้ยวและคนอื่นๆอาจยอมรับความสามารถของเฉียนว่านก้วนแล้ว แต่มันคงยากมากที่เขาจะชนะใจซือถูอีเนี่ยนได้ ใช่ไหมล่ะ? ทำไมเจ้าอ้วนถึงได้น่าสงสารถึงเพียงนี้นะ…?