เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 818 จิตใจของผู้หญิงนั้นชั่วร้ายที่สุด
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 818 จิตใจของผู้หญิงนั้นชั่วร้ายที่สุด
เกาะแห่งบาปใหญ่มาก แต่มันก็เล็กเกินไปเมื่อเทียบกับทวีปจักรพรรดิบูรพา ทวีปจักรพรรดิบูรพามีถึงร้อยแปดเขตภูมิภาคและขนาดพื้นดินโดยรวมของเกาะแห่งบาปก็เทียบไม่ได้กับทวีปจักรพรรดิบูรพาเพียงภูมิภาคเดียวด้วยซ้ำ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้โดยรวมก็ไม่เพียงพอที่จะเทียบกับหนึ่งตระกูลในเก้าตระกูลจักรพรรดิด้วย หากปราศจากค่ายกลเก้ามังกรสยบเทพและเผ่าปีศาจจากทะเลลึกไร้สิ้นสุดแล้ว เกาะแห่งบาปก็คงจะถูกกำจัดไปนานแล้ว
ดังนั้นเกาะแห่งบาปจึงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องคอยป้องกันอย่างต่อเนื่องและพวกเขาไม่เคยคิดจะโต้กลับ เว้นแต่ว่าจะมีใครบางคนเช่นจักรพรรดิลี้ลับปรากฏขึ้นท่ามกลางพวกเขา มันจะทำให้พวกเขากวาดทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ด้วยชายเพียงหนึ่งกับศาสตราวุธของเขา มันจะเป็นไปได้ไหม?ตั้งแต่ล้านปีก่อนของแดนเทียนชิง, จักรพรรดิลี้ลับก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ทั้งสิบสามตระกูลจากเกาะแห่งบาปไม่เคยคิดโต้กลับและคิดเพียงว่าจะป้องกันอย่างไร, จะขยายขอบเขตพลังค่ายกลเก้ามังกรสยบเทพอย่างไร และจะรักษาสัมพันธ์กับเผ่าปีศาจในทะเลลึกไร้สิ้นสุดอย่างไรเท่านั้น
มีสายลับของทวีปจักรพรรดิบูรพาที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในเกาะแห่งบาปได้เสมอและทั้งสิบสามตระกูลเองก็รู้เรื่องนี้ดี พวกเขายังรู้ด้วยว่าทวีปจักรพรรดิบูรพาคิดหาทางทำลายเกาะแห่งบาปอยู่ตลอด เนื่องจากทุกวันที่เกาะแห่งบาปดำรงชีวิตอยู่ เหล่าเก้าตระกูลจักรพรรดิจะรู้สึกอับอายขายหน้าไปเพิ่มอีกวัน
อันที่จริงแล้ว สิบสามตระกูลเองก็มีสายลับในทวีปจักรพรรดิบูรพาเช่นกัน แต่พวกเขาก็เป็นสายลับที่คอยหาข้อมูลง่ายๆในทวีปจักรพรรดิบูรพาเท่านั้น อย่างข้อมูลเหตุการณ์สำคัญๆ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจไม่รู้ว่าตายเช่นไร พวกเขาจะรู้ข้อมูลอย่างราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับที่ปรากฏบนเขาลี้ลับ หรือที่เจียงอี้สร้างความอับอายให้เก้าตระกูลจักรพรรดิ หรือเรื่องเก้าตระกูลจักรพรรดิมียอดฝีมือรุ่นเยาว์กำเนิดขึ้น สิ่งเหล่านี้นั้นเป็นข้อมูลที่หามาได้ง่ายๆ
แต่หากพวกเขาต้องพึ่งพาคนเหล่านั้นเพื่อล้มล้างการปกครองของเก้าตระกูลจักรพรรดิ มันคงเป็นเพียงความฝันเฟื่องเท่านั้น อันที่จริงแล้ว ข้อมูลที่มีรายละเอียดลึกลงไปมากกว่านี้นั้นยากที่จะสอดแนมได้ ทวีปจักรพรรดิบูรพาและเก้าตระกูลจักรพรรดิใหญ่เกินไป ซึ่งจำนวนคนที่อ่อนด้อยของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะทำอะไรได้
นั่นเป็นเหตุผลที่แผนของเฉียนว่านก้วนทำให้สิบสามตระกูลตกใจมาก นอกจากตระกูลซือถูแล้ว ตระกูลอื่นๆก็ไม่เชื่อ แต่พวกเขาเพียงต้องการกำไรบางส่วนร่วมกับตระกูลซือถูเท่านั้น อย่างที่เฉียนว่านก้วนว่าไว้……หากพวกเขาหาเงินจากทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ พวกเขาก็จะได้เงินจากเก้าตระกูลจักรพรรดิ จากนั้นพวกเขาจะซื้อน้ำยา สมบัติ และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆจากทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ และทำให้สิบสามตระกูลแข็งแกร่งขึ้น มันจะมีอะไรให้คัดค้านอีก?
แต่ตระกูลเหลย ตระกูลหนานกง ตระกูลลู่และอีกสองตระกูลต่อต้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง เพราะพวกเขารู้สึกว่าตระกูลซือถูกำลังพยายามต้านกระแสน้ำเพื่อทำการค้ากับศัตรู? การส่งสมบัติจากทะเลลึกไร้สิ้นสุดและเกาะแห่งบาปไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพา? ไม่ใช่ว่ามันทำให้ศัตรูได้เปรียบหรอกหรือ?
หากพวกเขามีการเจรจาอย่างยาวนานกับทวีปจักรพรรดิบูรพา มันจะไม่ทำให้สายลับแทรกซึมเข้ามาได้ง่ายขึ้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปล้วงความลับศัตรูได้ เก้าตระกูลจักรพรรดิอาจเข้ามาล้วงความลับพวกเขาแทน อันที่จริง…ตระกูลเหลยถึงกับถามอย่างคลุมเครือว่าเจียงอี้และเฉียนว่านก้วนนั้นเป็นสายลับจากทวีปจักรพรรดิบูรพาหรือเปล่าด้วยซ้ำ
ตระกูลต่างๆนั้นไม่เชื่อในประเด็นสุดท้ายที่โต้เถียงกัน เพราะเจียงอี้ทำให้เก้าตระกูลจักรพรรดิขุ่นเคืองมากเกินไป พวกเขายังส่งคนมาลอบสังหารเจียงอี้ถึงในเมืองเทพประทานด้วย หากไม่ใช่เพราะปรมาจารย์เหลยยื่นมือเข้ามาช่วย เจียงอี้ก็คงจะตายไปแล้ว
นอกจากนั้น เฉียนว่านก้วนได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าวัสดุสำคัญของเกาะแห่งบาปจะต้องไม่ขายให้กับทวีปจักรพรรดิบูรพา อย่างเช่น หินอัสนีหรือสมบัติพิเศษของทะเลลึกไร้สิ้นสุด เขาถึงกับตั้งกลุ่มกำกับดูแลซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากแปดตระกูลด้วย และสมาชิกเหล่านี้จะต้องถูกเปลี่ยนทุกๆปี และทั้งแปดตระกูลจะต้องตัดสินใจว่าจะส่งใครมา ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ในการสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูได้อย่างสมบูรณ์ เฉียนว่านก้วนยังกล่าวอีกว่า อีกห้าตระกูลอาจไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่พวกเขาก็ยังสามารถส่งสมาชิกมาคอยกำกับดูแลได้ และเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกฎ มันจะยิ่งทำให้การค้าเปิดกว้างและยุติธรรมยิ่งขึ้น และด้วยวิธีนี้ ตระกูลเหลย ตระกูลหนานกง ตระกูลลู่และอีกสองตระกูลเองก็คงจะไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และทำให้เกิดการก่อตั้งสมาคมการค้ามังกรโผบินขึ้นมาอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ก่อตั้งสมาคมการค้ามังกรโผบินขึ้นมา ซือถูอ้าวก็แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปครึ่งเดือน
นี่ไม่ใช่เพียงแค่สมาคมการค้าเท่านั้น มันไม่ได้หาเพียงแค่เงิน แต่มันหาพันธมิตรด้วย! ด้วยการก่อตั้งสมาคมการค้านี้ขึ้นมา แปดตระกูลก็ถูกผูกอยู่ในรถม้าศึกเดียวกันกับตระกูลซือถูที่อยู่ในฐานะผู้นำ หากสมาคมการค้าแห่งนี้สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแปดตระกูลเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าตระกูลเหลยจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่พวกเขาจะสามารถสู้กับแปดตระกูลใหญ่ได้หรือ?
เฉียนว่านก้วนกล่าวว่าเขาจะทำให้ตระกูลซือถูเป็นที่หนึ่งในห้าปีและมันไม่ใช่เพียงคำพูดเท่านั้น
ที่สำคัญที่สุดคือเฉียนว่านก้วนกำลังสมรู้ร่วมคิดอย่างเปิดเผยและทำในแบบที่ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิได้ แม้ว่าตระกูลเหลยจะไม่ชอบใจนัก แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะตระกูลเหลยจะกล้าสู้กับแปดตระกูลหรือ? ปรมาจารย์ตระกูลเหลยอยู่ยงคงกระพันจริงหรือ?
โลกของการค้าก็เหมือนสนามรบ ในขณะที่เฉียนว่านก้วนใช้การสมคบคิดทั้งโดยลับและโดยเปิดเผย เขาจะใช้วิธีนี้โดยปราศจากการแสดงเหตุผลตามประเพณีดั้งเดิม ทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้านได้ เฉียนว่านก้วนเพิ่งได้กลายเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดกล้าดูถูก เนื่องจากเขาได้กลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของทั้งแปดตระกูล ทำให้เขาได้รับเกียรติเหนือกว่าเจียงอี้ และมีบางอย่างที่เฉียนว่านก้วนไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะในบรรดากลุ่มกำกับดูแล สี่ตระกูลได้ส่งสตรีที่งดงามที่สุดมาซึ่งรายล้อมเฉียนว่านก้วนอยู่ตลอดทั้งวัน พวกนางจะคอยช่วยเฉียนว่านก้วนดูแลแต่เพียงแค่ฉากหน้าเท่านั้น แต่ทุกคนรู้ดีถึงเจตนาของพวกเขา
….
“เฉียนว่านก้วน? ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าอ้วนจะมีความสามารถเพียงนี้ ข้าตัดสินใจพลาดไปจริงๆ คนผู้นี้มีความสามารถมากจริงๆ”
ในโถงแห่งบาปของปราสาทหวู่ในเมืองจักรพรรดิอุดร, จีทิงยวี่กำลังดูข้อมูลล่าสุดที่ได้มาขณะที่ใบหน้าอันมีเสน่ห์ของนางก็เต็มไปด้วยความชื่นชม นางประทับใจเจ้าอ้วนคนนี้เพราะเขาเป็นประมุขน้อยของตระกูลเฉียนและเป็นน้องชายคนเล็กที่ภักดีที่สุดของเจียงอี้
มีสมาชิกหลายคนของตระกูลหวู่ที่ถูกกำจัดไป ดังนั้นข้อมูลที่ถูกส่งกลับมาจึงคลุมเครือมาก ข้อมูลของสมาคมการค้ามังกรโผบินเองก็ถูกเก็บเป็นความลับซึ่งจีทิงยวี่ไม่ได้ข้อมูลใดๆมา นางรู้เพียงว่าเฉียนว่านก้วนเลื่องชื่ออย่างมากในตอนนี้และช่วยตระกูลซือถูให้ได้ศิลาสวรรค์มามากมายและสถานะของเขาในตอนนี้ก็สูงส่งและทรงพลังมาก
หวู่นี่เข้าสู่สันโดษขณะที่เขาปฏิเสธการร่วมงานเลี้ยงทั้งหมดและฝึกฝนหรือไม่ก็คอยอ่านข้อมูลต่างๆในโถงแห่งบาป นี่คือคำชี้แนะของจีทิงยวี่ เพื่อตะกายกลับมา มันไม่สำคัญว่าเขาจะปีนกลับมาได้หรือไม่ แต่เขาจะต้องเริ่มสนใจในเรื่องทัศนคติ เขาคุกเข่าอยู่ในโถงแห่งบาปมาหลายวันแล้ว ซึ่งทำให้ความไม่พอใจจากโถงผู้อาวุโสนั้นลดลงมาเหลือน้อยที่สุด
เมื่อเขาได้ยินจีทิงยวี่ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ เขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “จีทิงยวี่ เจ้ายังมีอารมณ์จะขบขันอีก? หากเฉียนว่านก้วนทำได้ดี เจียงอี้ก็จะปลอดภัยกว่าเดิมและทำให้เรารับมือกับเขาได้ยากขึ้นอีก…” จีทิงยวี่หัวเราะเบาๆและส่ายหัว “นายน้อยนี่ เราต้องเผชิญกับศัตรูอย่างตรงไปตรงมาและเราก็ต้องเคารพศัตรูของเราด้วย เฉียนว่านก้วนนั้นมีพรสวรรค์อย่างแท้จริงและนี่คือสิ่งที่เราต้องยอมรับเจ้าค่ะ หากเรามองศัตรูไม่เฉียบขาด แล้วเราจะวิเคราะห์พวกเขาได้อย่างไร? แล้วเราจะหาข้อบกพร่องและสังหารพวกเขาในการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้อย่างไรเจ้าคะ?”
หวู่นี่นั้นมีข้อดีอยู่และนั่นคือการที่เขาเต็มใจจะรับฟัง หลังจากที่จีทิงยวี่พูดจบ เขาก็ครุ่นคิดและพยักหน้า “เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าถูกความเกลียดชังบังตา เราจะต้องมองศัตรูให้ถูกทางจริงๆ”
“นายน้อยนี่กำลังเดินไปถูกทางแล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าหากท่านพ่อของท่านได้ยินคำพูดนี้ เขาคงจะมีความสุขมาก”
จีทิงยวี่ลุกขึ้นมาและยิ้ม “อันที่จริงและมันง่ายสำหรับเรามากที่จะสังหารเฉียนว่านก้วนและเจียงอี้ เพราะยิ่งเฉียนว่านก้วนทำได้ดีเท่าไหร่ เขากับเจียงอี้ก็จะตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น มากเสียจน…ข้าสามารถใช้วิธีสกปรกสังหารพวกเขาได้ง่ายๆเลย!”
ดวงตาของหวู่นี่เป็นประกายขณะที่ถามว่า “วิธีสกปรกอะไร?”
จีทิงยวี่มองไปทางตะวันตกและพูดว่า “เฉียนว่านก้วนมีพ่อและตระกูลอยู่ในทวีปเทียนชิง เราสามารถจับพวกเขาและบังคับให้เฉียนว่านก้วนทรยศเจียงอี้ได้ง่ายๆ จากนั้นพวกเขาจะถูกตระกูลซือถูสังหาร แต่แน่นอนว่า…นี่เป็นเพียงแผนสำรองเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“ไม่มีทาง”
หวู่นี่ส่ายมือของเขาอย่างเด็ดขาดและพูดว่า “ความแค้นนั้นไม่เกี่ยวกับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว นี่คือกฎของเก้าตระกูลจักรพรรดิ หากเก้าตระกูลจักรพรรดิจะสู้ เราก็จะสู้อย่างมีเกียรติ ไม่เช่นนั้น เมื่อมีข่าวแพร่ออกไป ตระกูลหวู่ของเราจะกลายเป็นศัตรูกับทุกคน”
จีทิงยวี่พยักหน้าและพูดเบาๆ “ข้าเลยบอกว่ามันเป็นแผนสำรอง เพราะมันเป็นแผนการที่มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อนายน้อยไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ เช่นนั้นเราก็จะใช้แผนที่เหมาะสม แต่มันก็ต้องใช้เวลานะเจ้าคะ”
“เวลาไม่ใช่ปัญหา ข้าเพียงแค่ต้องชนะการต่อสู้ครั้งนี้อย่างถูกต้อง” หวู่นี่พยักหน้าและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้ากระหายความสำเร็จเกินไปและยังคิดไม่ดีพอ ข้าจะเตรียมเข้าสู่สันโดษอีกพักหนึ่งและคอยบ่มเพาะพลังของข้า ส่วนเรื่องของโถงแห่งบาป เจ้าก็ดูแลไปได้เลย”
“เยี่ยมยอดเจ้าค่ะ”
จีทิงยวี่รู้สึกถึงมันอย่างจริงใจขณะที่นางพูดว่า “นายน้อยนี่พัฒนาเร็วมาก ข้ามั่นใจว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง ท่านจะเป็นราชันอุดรรุ่นใหม่และเป็นจักรพรรดิอุดร นายน้อยไม่ต้องกังวลไป ภายในเวลาไม่ถึงสองปี ทิงยวี่จะเปลี่ยนแปลงเกาะแห่งบาป เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนจะต้องตายโดยไม่มีแม้แต่หลุมฝังศพ!”
หวู่นี่รู้สึกหนาวเหน็บไปถึงกระดูกสันหลังเมื่อมองดวงตาที่ลุกโชนของจีทิงยวี่ ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ว่า จิตใจของผู้หญิงนั้นชั่วร้ายที่สุด
ดังนั้นเกาะแห่งบาปจึงไม่มีทางอื่นนอกจากต้องคอยป้องกันอย่างต่อเนื่องและพวกเขาไม่เคยคิดจะโต้กลับ เว้นแต่ว่าจะมีใครบางคนเช่นจักรพรรดิลี้ลับปรากฏขึ้นท่ามกลางพวกเขา มันจะทำให้พวกเขากวาดทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ด้วยชายเพียงหนึ่งกับศาสตราวุธของเขา มันจะเป็นไปได้ไหม?ตั้งแต่ล้านปีก่อนของแดนเทียนชิง, จักรพรรดิลี้ลับก็มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น
ทั้งสิบสามตระกูลจากเกาะแห่งบาปไม่เคยคิดโต้กลับและคิดเพียงว่าจะป้องกันอย่างไร, จะขยายขอบเขตพลังค่ายกลเก้ามังกรสยบเทพอย่างไร และจะรักษาสัมพันธ์กับเผ่าปีศาจในทะเลลึกไร้สิ้นสุดอย่างไรเท่านั้น
มีสายลับของทวีปจักรพรรดิบูรพาที่แทรกซึมเข้ามาอยู่ในเกาะแห่งบาปได้เสมอและทั้งสิบสามตระกูลเองก็รู้เรื่องนี้ดี พวกเขายังรู้ด้วยว่าทวีปจักรพรรดิบูรพาคิดหาทางทำลายเกาะแห่งบาปอยู่ตลอด เนื่องจากทุกวันที่เกาะแห่งบาปดำรงชีวิตอยู่ เหล่าเก้าตระกูลจักรพรรดิจะรู้สึกอับอายขายหน้าไปเพิ่มอีกวัน
อันที่จริงแล้ว สิบสามตระกูลเองก็มีสายลับในทวีปจักรพรรดิบูรพาเช่นกัน แต่พวกเขาก็เป็นสายลับที่คอยหาข้อมูลง่ายๆในทวีปจักรพรรดิบูรพาเท่านั้น อย่างข้อมูลเหตุการณ์สำคัญๆ ไม่เช่นนั้นพวกเขาอาจไม่รู้ว่าตายเช่นไร พวกเขาจะรู้ข้อมูลอย่างราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับที่ปรากฏบนเขาลี้ลับ หรือที่เจียงอี้สร้างความอับอายให้เก้าตระกูลจักรพรรดิ หรือเรื่องเก้าตระกูลจักรพรรดิมียอดฝีมือรุ่นเยาว์กำเนิดขึ้น สิ่งเหล่านี้นั้นเป็นข้อมูลที่หามาได้ง่ายๆ
แต่หากพวกเขาต้องพึ่งพาคนเหล่านั้นเพื่อล้มล้างการปกครองของเก้าตระกูลจักรพรรดิ มันคงเป็นเพียงความฝันเฟื่องเท่านั้น อันที่จริงแล้ว ข้อมูลที่มีรายละเอียดลึกลงไปมากกว่านี้นั้นยากที่จะสอดแนมได้ ทวีปจักรพรรดิบูรพาและเก้าตระกูลจักรพรรดิใหญ่เกินไป ซึ่งจำนวนคนที่อ่อนด้อยของพวกเขานั้นไม่เพียงพอที่จะทำอะไรได้
นั่นเป็นเหตุผลที่แผนของเฉียนว่านก้วนทำให้สิบสามตระกูลตกใจมาก นอกจากตระกูลซือถูแล้ว ตระกูลอื่นๆก็ไม่เชื่อ แต่พวกเขาเพียงต้องการกำไรบางส่วนร่วมกับตระกูลซือถูเท่านั้น อย่างที่เฉียนว่านก้วนว่าไว้……หากพวกเขาหาเงินจากทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ พวกเขาก็จะได้เงินจากเก้าตระกูลจักรพรรดิ จากนั้นพวกเขาจะซื้อน้ำยา สมบัติ และสิ่งประดิษฐ์ต่างๆจากทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ และทำให้สิบสามตระกูลแข็งแกร่งขึ้น มันจะมีอะไรให้คัดค้านอีก?
แต่ตระกูลเหลย ตระกูลหนานกง ตระกูลลู่และอีกสองตระกูลต่อต้านเรื่องนี้อย่างรุนแรง เพราะพวกเขารู้สึกว่าตระกูลซือถูกำลังพยายามต้านกระแสน้ำเพื่อทำการค้ากับศัตรู? การส่งสมบัติจากทะเลลึกไร้สิ้นสุดและเกาะแห่งบาปไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพา? ไม่ใช่ว่ามันทำให้ศัตรูได้เปรียบหรอกหรือ?
หากพวกเขามีการเจรจาอย่างยาวนานกับทวีปจักรพรรดิบูรพา มันจะไม่ทำให้สายลับแทรกซึมเข้ามาได้ง่ายขึ้นหรือ? หากเป็นเช่นนั้น ก่อนที่พวกเขาจะเข้าไปล้วงความลับศัตรูได้ เก้าตระกูลจักรพรรดิอาจเข้ามาล้วงความลับพวกเขาแทน อันที่จริง…ตระกูลเหลยถึงกับถามอย่างคลุมเครือว่าเจียงอี้และเฉียนว่านก้วนนั้นเป็นสายลับจากทวีปจักรพรรดิบูรพาหรือเปล่าด้วยซ้ำ
ตระกูลต่างๆนั้นไม่เชื่อในประเด็นสุดท้ายที่โต้เถียงกัน เพราะเจียงอี้ทำให้เก้าตระกูลจักรพรรดิขุ่นเคืองมากเกินไป พวกเขายังส่งคนมาลอบสังหารเจียงอี้ถึงในเมืองเทพประทานด้วย หากไม่ใช่เพราะปรมาจารย์เหลยยื่นมือเข้ามาช่วย เจียงอี้ก็คงจะตายไปแล้ว
นอกจากนั้น เฉียนว่านก้วนได้กล่าวไว้อย่างชัดเจนว่าวัสดุสำคัญของเกาะแห่งบาปจะต้องไม่ขายให้กับทวีปจักรพรรดิบูรพา อย่างเช่น หินอัสนีหรือสมบัติพิเศษของทะเลลึกไร้สิ้นสุด เขาถึงกับตั้งกลุ่มกำกับดูแลซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจากแปดตระกูลด้วย และสมาชิกเหล่านี้จะต้องถูกเปลี่ยนทุกๆปี และทั้งแปดตระกูลจะต้องตัดสินใจว่าจะส่งใครมา ด้วยวิธีนี้ พวกเขาจะหลีกเลี่ยงความเป็นไปได้ในการสมรู้ร่วมคิดกับศัตรูได้อย่างสมบูรณ์ เฉียนว่านก้วนยังกล่าวอีกว่า อีกห้าตระกูลอาจไม่เกี่ยวข้องด้วย แต่พวกเขาก็ยังสามารถส่งสมาชิกมาคอยกำกับดูแลได้ และเมื่อทุกอย่างเป็นไปตามกฎ มันจะยิ่งทำให้การค้าเปิดกว้างและยุติธรรมยิ่งขึ้น และด้วยวิธีนี้ ตระกูลเหลย ตระกูลหนานกง ตระกูลลู่และอีกสองตระกูลเองก็คงจะไม่สามารถวิพากษ์วิจารณ์ได้ และทำให้เกิดการก่อตั้งสมาคมการค้ามังกรโผบินขึ้นมาอย่างเป็นทางการ
หลังจากที่ก่อตั้งสมาคมการค้ามังกรโผบินขึ้นมา ซือถูอ้าวก็แทบไม่ได้หลับไม่ได้นอนไปครึ่งเดือน
นี่ไม่ใช่เพียงแค่สมาคมการค้าเท่านั้น มันไม่ได้หาเพียงแค่เงิน แต่มันหาพันธมิตรด้วย! ด้วยการก่อตั้งสมาคมการค้านี้ขึ้นมา แปดตระกูลก็ถูกผูกอยู่ในรถม้าศึกเดียวกันกับตระกูลซือถูที่อยู่ในฐานะผู้นำ หากสมาคมการค้าแห่งนี้สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งแปดตระกูลเองก็จะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าตระกูลเหลยจะแข็งแกร่งเพียงใด แต่พวกเขาจะสามารถสู้กับแปดตระกูลใหญ่ได้หรือ?
เฉียนว่านก้วนกล่าวว่าเขาจะทำให้ตระกูลซือถูเป็นที่หนึ่งในห้าปีและมันไม่ใช่เพียงคำพูดเท่านั้น
ที่สำคัญที่สุดคือเฉียนว่านก้วนกำลังสมรู้ร่วมคิดอย่างเปิดเผยและทำในแบบที่ไม่มีผู้ใดสามารถตำหนิได้ แม้ว่าตระกูลเหลยจะไม่ชอบใจนัก แต่มันก็ไร้ประโยชน์ เพราะตระกูลเหลยจะกล้าสู้กับแปดตระกูลหรือ? ปรมาจารย์ตระกูลเหลยอยู่ยงคงกระพันจริงหรือ?
โลกของการค้าก็เหมือนสนามรบ ในขณะที่เฉียนว่านก้วนใช้การสมคบคิดทั้งโดยลับและโดยเปิดเผย เขาจะใช้วิธีนี้โดยปราศจากการแสดงเหตุผลตามประเพณีดั้งเดิม ทำให้มันเป็นเรื่องยากที่จะต่อต้านได้ เฉียนว่านก้วนเพิ่งได้กลายเป็นบุคคลยิ่งใหญ่ที่ไม่มีผู้ใดกล้าดูถูก เนื่องจากเขาได้กลายเป็นแขกผู้มีเกียรติของทั้งแปดตระกูล ทำให้เขาได้รับเกียรติเหนือกว่าเจียงอี้ และมีบางอย่างที่เฉียนว่านก้วนไม่รู้ว่าเขาควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เพราะในบรรดากลุ่มกำกับดูแล สี่ตระกูลได้ส่งสตรีที่งดงามที่สุดมาซึ่งรายล้อมเฉียนว่านก้วนอยู่ตลอดทั้งวัน พวกนางจะคอยช่วยเฉียนว่านก้วนดูแลแต่เพียงแค่ฉากหน้าเท่านั้น แต่ทุกคนรู้ดีถึงเจตนาของพวกเขา
….
“เฉียนว่านก้วน? ข้าไม่นึกเลยว่าเจ้าอ้วนจะมีความสามารถเพียงนี้ ข้าตัดสินใจพลาดไปจริงๆ คนผู้นี้มีความสามารถมากจริงๆ”
ในโถงแห่งบาปของปราสาทหวู่ในเมืองจักรพรรดิอุดร, จีทิงยวี่กำลังดูข้อมูลล่าสุดที่ได้มาขณะที่ใบหน้าอันมีเสน่ห์ของนางก็เต็มไปด้วยความชื่นชม นางประทับใจเจ้าอ้วนคนนี้เพราะเขาเป็นประมุขน้อยของตระกูลเฉียนและเป็นน้องชายคนเล็กที่ภักดีที่สุดของเจียงอี้
มีสมาชิกหลายคนของตระกูลหวู่ที่ถูกกำจัดไป ดังนั้นข้อมูลที่ถูกส่งกลับมาจึงคลุมเครือมาก ข้อมูลของสมาคมการค้ามังกรโผบินเองก็ถูกเก็บเป็นความลับซึ่งจีทิงยวี่ไม่ได้ข้อมูลใดๆมา นางรู้เพียงว่าเฉียนว่านก้วนเลื่องชื่ออย่างมากในตอนนี้และช่วยตระกูลซือถูให้ได้ศิลาสวรรค์มามากมายและสถานะของเขาในตอนนี้ก็สูงส่งและทรงพลังมาก
หวู่นี่เข้าสู่สันโดษขณะที่เขาปฏิเสธการร่วมงานเลี้ยงทั้งหมดและฝึกฝนหรือไม่ก็คอยอ่านข้อมูลต่างๆในโถงแห่งบาป นี่คือคำชี้แนะของจีทิงยวี่ เพื่อตะกายกลับมา มันไม่สำคัญว่าเขาจะปีนกลับมาได้หรือไม่ แต่เขาจะต้องเริ่มสนใจในเรื่องทัศนคติ เขาคุกเข่าอยู่ในโถงแห่งบาปมาหลายวันแล้ว ซึ่งทำให้ความไม่พอใจจากโถงผู้อาวุโสนั้นลดลงมาเหลือน้อยที่สุด
เมื่อเขาได้ยินจีทิงยวี่ถอนหายใจด้วยความประหลาดใจ เขาก็ขมวดคิ้วและพูดว่า “จีทิงยวี่ เจ้ายังมีอารมณ์จะขบขันอีก? หากเฉียนว่านก้วนทำได้ดี เจียงอี้ก็จะปลอดภัยกว่าเดิมและทำให้เรารับมือกับเขาได้ยากขึ้นอีก…” จีทิงยวี่หัวเราะเบาๆและส่ายหัว “นายน้อยนี่ เราต้องเผชิญกับศัตรูอย่างตรงไปตรงมาและเราก็ต้องเคารพศัตรูของเราด้วย เฉียนว่านก้วนนั้นมีพรสวรรค์อย่างแท้จริงและนี่คือสิ่งที่เราต้องยอมรับเจ้าค่ะ หากเรามองศัตรูไม่เฉียบขาด แล้วเราจะวิเคราะห์พวกเขาได้อย่างไร? แล้วเราจะหาข้อบกพร่องและสังหารพวกเขาในการโจมตีเพียงครั้งเดียวได้อย่างไรเจ้าคะ?”
หวู่นี่นั้นมีข้อดีอยู่และนั่นคือการที่เขาเต็มใจจะรับฟัง หลังจากที่จีทิงยวี่พูดจบ เขาก็ครุ่นคิดและพยักหน้า “เจ้าพูดถูกแล้ว ข้าถูกความเกลียดชังบังตา เราจะต้องมองศัตรูให้ถูกทางจริงๆ”
“นายน้อยนี่กำลังเดินไปถูกทางแล้วเจ้าค่ะ ข้าคิดว่าหากท่านพ่อของท่านได้ยินคำพูดนี้ เขาคงจะมีความสุขมาก”
จีทิงยวี่ลุกขึ้นมาและยิ้ม “อันที่จริงและมันง่ายสำหรับเรามากที่จะสังหารเฉียนว่านก้วนและเจียงอี้ เพราะยิ่งเฉียนว่านก้วนทำได้ดีเท่าไหร่ เขากับเจียงอี้ก็จะตกอยู่ในอันตรายมากขึ้นเท่านั้น มากเสียจน…ข้าสามารถใช้วิธีสกปรกสังหารพวกเขาได้ง่ายๆเลย!”
ดวงตาของหวู่นี่เป็นประกายขณะที่ถามว่า “วิธีสกปรกอะไร?”
จีทิงยวี่มองไปทางตะวันตกและพูดว่า “เฉียนว่านก้วนมีพ่อและตระกูลอยู่ในทวีปเทียนชิง เราสามารถจับพวกเขาและบังคับให้เฉียนว่านก้วนทรยศเจียงอี้ได้ง่ายๆ จากนั้นพวกเขาจะถูกตระกูลซือถูสังหาร แต่แน่นอนว่า…นี่เป็นเพียงแผนสำรองเท่านั้นเจ้าค่ะ”
“ไม่มีทาง”
หวู่นี่ส่ายมือของเขาอย่างเด็ดขาดและพูดว่า “ความแค้นนั้นไม่เกี่ยวกับสมาชิกคนอื่นในครอบครัว นี่คือกฎของเก้าตระกูลจักรพรรดิ หากเก้าตระกูลจักรพรรดิจะสู้ เราก็จะสู้อย่างมีเกียรติ ไม่เช่นนั้น เมื่อมีข่าวแพร่ออกไป ตระกูลหวู่ของเราจะกลายเป็นศัตรูกับทุกคน”
จีทิงยวี่พยักหน้าและพูดเบาๆ “ข้าเลยบอกว่ามันเป็นแผนสำรอง เพราะมันเป็นแผนการที่มีประสิทธิภาพที่สุด เมื่อนายน้อยไม่เห็นด้วยกับวิธีนี้ เช่นนั้นเราก็จะใช้แผนที่เหมาะสม แต่มันก็ต้องใช้เวลานะเจ้าคะ”
“เวลาไม่ใช่ปัญหา ข้าเพียงแค่ต้องชนะการต่อสู้ครั้งนี้อย่างถูกต้อง” หวู่นี่พยักหน้าและพูดว่า “ก่อนหน้านี้ข้ากระหายความสำเร็จเกินไปและยังคิดไม่ดีพอ ข้าจะเตรียมเข้าสู่สันโดษอีกพักหนึ่งและคอยบ่มเพาะพลังของข้า ส่วนเรื่องของโถงแห่งบาป เจ้าก็ดูแลไปได้เลย”
“เยี่ยมยอดเจ้าค่ะ”
จีทิงยวี่รู้สึกถึงมันอย่างจริงใจขณะที่นางพูดว่า “นายน้อยนี่พัฒนาเร็วมาก ข้ามั่นใจว่าเมื่อเวลานั้นมาถึง ท่านจะเป็นราชันอุดรรุ่นใหม่และเป็นจักรพรรดิอุดร นายน้อยไม่ต้องกังวลไป ภายในเวลาไม่ถึงสองปี ทิงยวี่จะเปลี่ยนแปลงเกาะแห่งบาป เจียงอี้และเฉียนว่านก้วนจะต้องตายโดยไม่มีแม้แต่หลุมฝังศพ!”
หวู่นี่รู้สึกหนาวเหน็บไปถึงกระดูกสันหลังเมื่อมองดวงตาที่ลุกโชนของจีทิงยวี่ ทันใดนั้นเขาก็นึกบางอย่างขึ้นได้ว่า จิตใจของผู้หญิงนั้นชั่วร้ายที่สุด