เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 827 กองกำลังลับ
เมื่อเจียงอี้ตัดสินใจบางอย่างแล้ว คนอื่นๆมักจะไม่ต่อต้านเขา สิ่งที่พวกเขาจะทำในครั้งนี้เป็นสิ่งที่อันตรายมาก พวกเขาจึงต้องใช้เวลาในการตัดสินใจ
ก่อนอื่น ไม่ว่าพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่พวกเขาก็จะอยู่ในเผ่าเทพประทานต่อไปไม่ได้แล้วนอกจากเฉียนว่านก้วนแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิตจากความเกรี้ยวโกรธของตระกูลหนานกงและตระกูลเหลยได้! และตอนนี้เฉียนว่านก้วนก็ตัดสินใจที่จะร่วมมือด้วย ดังนั้น เขาจึงต้องไปจากที่นี่ด้วยเช่นกัน
พวกเขาต้องออกไปก่อนที่ค่ายกลเก้ามังกรสยบเทพจะเปิดใช้งาน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเร่งรีบลงมืออย่างว่องไว เพื่อช่วยเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานอย่างรวดเร็วและจากนั้นก็ใช้วิชาหลีกสวรรค์ออกจากที่นี่
ก่อนที่พวกเขาจะช่วยเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน พวกเขาจะต้องช่วยชีวิตแม่ของนางก่อน ไม่เช่นนั้นนางคงยอมตายเสียดีกว่าที่จะไปจากที่นี่
“นั่นไม่ถูกต้อง ว่านก้วน!”
จู่ๆเจียงอี้ก็นึกบางอย่างขึ้นได้และพูดว่า “หากเจ้าใช้คนของตระกูลซือถู มันจะส่งผลต่อตระกูลซือถูหรือไม่? อีเสี้ยวและซือถูอ้าวดีกับเรามากนัก หากเราหนีไปและปล่อยให้ตระกูลซือถูจัดการตระกูลเหลยกับตระกูลหนานกง เช่นนั้นพวกเราคงเป็นคนบาปหนานัก!”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนยิ้มอย่างมั่นใจและพูดว่า “ลูกพี่ วางใจได้ ข้าจะไม่ใช่สมาชิกตระกูลซือถูเลย แม้ว่าเราจะออกไปแล้ว สมาคมการค้ามังกรโผบินก็จะยังคงดำเนินการค้าไปได้อย่างราบรื่น กิจการของตระกูลซือถูเข้าที่เข้าทางแล้ว หากไม่มีข้าก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างแย่ที่สุดมันก็อาจจะอยู่กับที่และไม่พัฒนามากนัก และนี่ยังเหลือเวลาอีกเก้าเดือนก่อนที่จะมีงานแต่งงาน ข้าจะจัดการทุกอย่างไว้ อิทธิพลของสมาคมการค้ามังกรโผบินจะแผ่ออกไปอีกและพันธมิตรระหว่างแปดตระกูลใหญ่ก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้น อีกแค่หนึ่งหรือสองเดือน ข้าจะร่วมมือกับอีกสองตระกูล และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าตระกูลเหลย ตระกูลหนานกงและตระกูลลู่จะกล้าหาญเพียงใด พวกเขาก็จะไม่กล้าโจมตีตระกูลซือถู”
“ดีมาก!”
เจียงอี้โล่งใจก่อนที่จะถามว่า “เมื่อไม่ใช่สมาชิกตระกูลซือถู เจ้ามีคนอื่นให้ใช้หรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ลูกพี่ อย่าดูถูกข้าสิ!”
เฉียนว่านก้วนยิ้มและพูดว่า “ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ข้าแอบเก็บคนที่ปฏิบัติตามคำสั่งข้าโดยตรงเอาไว้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้รวมทั้งอีเสี้ยวด้วย เจ้าน่าจะรู้ว่าสิ่งสำคัญที่ทำสมาคมการค้ามังกรโผบินขึ้นมานั้นไม่ใช่การทำธุรกิจ แต่เพื่อคอยบ่มฝึกกลุ่มกองกำลังในทวีปจักรพรรดิบูรพา ซึ่งจะแทรกแซงและค่อยๆโค่นล้มเก้าตระกูลจักรพรรดิ ข้าปิดความลับนี้เอาไว้จากพวกเขามาโดยตลอด ตอนนี้กองกำลังนั้นก็แข็งแกร่งพอสมควรแล้ว สมาชิกครึ่งหนึ่งเป็นคนที่ทั้งแปดตระกูลใหญ่ไม่รู้จัก พวกเขาเป็นกองกำลังลับ”
“…”
ทั้งเจียงอี้และเฟิ่งหลวนตกตะลึง เขาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของแปดตระกูลเพื่อเหณฑ์คนของเขา? ไม่ใช่ว่าเขาใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรอกหรือ? ที่สำคัญที่สุด ในฐานะคนนอก ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาคือคนของแปดตระกูลใหญ่ทั้งนั้น แล้วเขาจะเลี้ยงกองกำลังเหล่านี้ไว้เองได้อย่างไร? หากเจียงอี้และเฟิ่งหลวนไม่รู้ว่าเฉียนว่านก้วนจะไม่มีวันโกหกในเรื่องเช่นนี้ เจียงอี้คงตบหน้าเขาไปแล้ว
เฟิ่งหลวนกระพริบตาแล้วถามว่า “มีกี่คนกัน? แล้วมีขอบเขตเทียนจุนกี่คน?”
“พี่ใหญ่หลวน นี่เจ้ากำลังลบหลู่ข้าหรือ?”
เฉียนว่านก้วนกลอกตาและพูดว่า “เจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นเหมือนคนไม่รู้ความที่อยู่ในทวีปเทียนชิงอยู่อีกหรอ? เจ้าคิดว่าข้ามีผู้เชี่ยวชาญกี่คนที่ข้าจัดการได้เมื่อข้าเป็นประธานสมาคมการค้าซือถูและสมาคมการค้ามังกรโผบิน? ข้าระดมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนของตระกูลซือถูได้ห้าพันคนและมีขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดอย่างน้อยหนึ่งร้อยคน หากข้าจะแอบฝึกคนของข้า ข้าจะเอาขอบเขตจินกังเข้ามาไหม?”
“โอ้ อย่างนี้นี่เอง!”
เฟิ่งหลวนทำหน้าตลกและพูดว่า “แล้วเจ้ารับคนขอบเขตเทียนจุนมากี่คน?”
เฉียนว่านก้วนชี้นิ้วหนึ่งนิ้ว และเฟิ่งหลวนก็ถามด้วยความผิดหวังเล็กน้อย “แค่สิบคนเองหรือ?”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สิบคนจริงๆ แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด!”
“อะไรนะ?!”
ทั้งเจียงอี้และเฟิ่งหลวนยืนขึ้นมาด้วยความตกใจทันที ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่สิบสามตระกูลเองก็ยังยากที่จะรับพวกเขาเข้ามาได้ อย่าว่าแต่คนทั่วไปเลบ แต่เฉียนว่านก้วนกลับรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดมาได้สิบคนภายในหนึ่งปีเนี่ยนะ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?
“ทำไมพวกเจ้าต้องตกใจกันด้วย?”
เฉียนว่านก้วนพูดว่า “หากข้าไม่ต้องพินิจอย่างรอบคอบและรับคนระดับต่ำกับระดับกลางมาด้วย ข้าเกรงว่าตอนนี้ข้าคงมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนประมาณพันคนแล้ว พวกเจ้าไม่รู้ว่าทวีปจักรพรรดิบูรพาวุ่นวายเพียงใด สงครามปะทุขึ้นในร้อยแปดเขตแดนตลอดเวลา ตระกูลทั้งหลายต่างก็ถูกกำจัดอย่างต่อเนื่อง และการต่อสู้มักมีเชลยศึกเสมอ ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังหลายคนก็ถูกจับมาซึ่งพวกเขาไม่มีทางอื่นนอกจากต้องยอมจำนน อย่างไรก็ตาม คนมากมายเหล่านี้ยอมตายมากกว่าที่จะส่งผนึกแห่งดวงจิตของพวกเขามา ดังนั้น คนพวกนี้ราคาถูกมากเพียงศิลาสวรรค์คนละหนึ่งพันล้านก้อนเท่านั้น คนส่วนใหญ่ที่เรารับมาก็มาจากแบบนี้แหละ”
“หลังจากที่ซื้อทาสแล้ว เราก็จะพยายามซื้อสมาชิกตระกูลพวกนั้นด้วยหรือไม่ก็ช่วยพวกนั้นด้วยกำลังหากมันจำเป็น หลังจากนั้นเราก็ส่งสมาชิกตระกูลพวกเขาไปที่เกาะแห่งบาป เราให้พวกนั้นรับใช้เราหนึ่งร้อยปีก่อนที่จะปล่อยพวกเขาและสมาชิกตระกูลพวกเขาไป ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญที่เราลงทุนไปนั้นจะยอมจำนนต่อเราเนื่องจากเราเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา”
“ลูกพี่ เจ้าน่าจะจำการต่อสู้ที่เกาะจอมมารได้ ในตอนนั้น อีเสี้ยวมอบทาสขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดให้ข้าเพื่อให้ข้าปลอดภัย เขาทำอะไรหลายๆอย่างแทนข้าโดยไม่มีใครสนใจ อย่างไรก็ตาม อีกสิบคนนั้นที่ข้ามีอยู่ พวกเขาไม่ได้อยู่ในเผ่าเทพประทาน และตอนนี้พวกเขาก็ยังคงอยู่ในทวีปจักรพรรดิบูรพา ข้าสามารถส่งพวกเขามาในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานได้ง่ายๆ” “ยอดเยี่ยม!”
เจียงอี้ยกนิ้วโป้งให้ เฉียนว่านก้วนซึ่งเป็นหัวหน้าการค้าตระกูลซือถูและหัวหน้าสมาคมการค้ามังกรโผบินในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่เขาจะเติบโตขึ้นมาก แต่เขายังเฉลียวฉลาดมากขึ้นด้วย
แม้ว่าซือถูอีเสี้ยวจะเป็นประธานใหญ่และนายน้อยและคุณหนูมากมายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานและกำกับดูแล แต่เฉียนว่านก้วนเป็นผู้ดำเนินการเรื่องทั้งหมดไม่ว่ามันจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ นายน้อยและคุณหนูเหล่านั้นอาจเก่งกาจในเรื่องการต่อสู้เพื่อสร้างความประทับใจในหมู่พวกเขาเอง แต่พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจเลย สมาคมการค้ามังกรโผบินไม่ได้ทำการค้าระหว่างเกาะเทพประทานและทวีปจักรพรรดิบูรพาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทวีปอื่นๆด้วย มันจึงเติบโตเร็วมาก เฉียนว่านก้วนจัดการกับเรื่องทุกอย่างนี้ได้อย่างไร?
ก็เมื่อมีคนทำงานให้เขา มันจึงง่ายกว่ามาก!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสิบเหล่านี้อาจไม่มีค่าอะไรสำหรับตระกูลเหลยและตระกูลหนานกง แต่พวกเขาก็ถือว่ามากพอแล้วที่จะทำให้เกิดความโกลาหลในเมืองเทพประทาน ตราบใดที่เมืองวุ่นวาย มันก็จะช่วยเหลือคนสองคนได้ง่ายๆ
เจียงอี้หยิบกระดาษและพู่กันออกมา เขาเริ่มเขียนชื่อและวาดแผนที่เมืองเทพประทานและภูมิประเทศโดยรอบ เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ว่านก้วน แบบนี้ล่ะ? เราจะดำเนินการในอีกแปดเดือนข้างหน้า เพื่อลดการเฝ้าระวังของตระกูลหนานกง เพื่อที่พวกนั้นจะได้ลดการเฝ้าจับตามองเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานและแม่ของนาง เจ้าไปหาทางติดสินบนคนบางกลุ่มของสมาชิกตระกูลหนานกงไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย”
“แปดเดือนหน้า ข้าจะเชิญเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมางานวันเกิดข้า เหลยฉีเหยียนอาจมากับนางเพื่อทำให้ข้าอับอาย จากนั้นเจ้าก็ขอให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนสร้างปัญหาในการค้าของตระกูลหนานกงเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา ในเวลาเดียวกัน ก็ขอให้คนที่เจ้าเก็บไว้ไปช่วยเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานและแม่ของนางจากตระกูลหนานกง หลังจากนั้นเราจะรีบใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีออกไป!หากไม่ได้ผล ข้าจะทำให้เหลยฉีเหยียนเดือดดาลและท้าทายเขามาประลองกันเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน จากนั้นเจ้าก็แอบไปดำเนินการได้เลย”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ลูกพี่ โดยทั่วไปแผนการเจ้านั้นใช้ได้อยู่ เราจะต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างน้อยก็เจ็ดเดือนข้างหน้าจริงๆ แต่มันมีช่องโหว่มากมาย อย่างแรกเลย เราไม่สามารถทำอะไรในเมืองได้ เมื่อประมุขตระกูลเหลยและตระกูลหนานกงเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เราคงจะถูกสังหารแน่ๆ อืมม…..เราติดสินบนสมาชิกตระกูลหนานกงได้ มันง่ายที่จะนำเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานออกมา หากเราช่วยแม่ของนางได้ แผนนี้จะสำเร็จ เอาล่ะ ลูกพี่ เจ้าฝึกฝนไปก่อน ข้าจะไปหารือกับพี่เฟิ่งหลวนในเรื่องรายละเอียดในภายหลังและจะคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบมา”
เจียงอี้พยักหน้าและพูดว่า “ก็ได้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการเรื่องนี้ ข้าจะพยายามพัฒนาความแข็งแกร่งของข้าในช่วงแปดเดือน หลังจากที่เราออกจากเกาะเทพประทานไปแล้ว มันก็จะยากขึ้นมากที่จะฝึกฝนแก่นแท้พลัง”
ก่อนอื่น ไม่ว่าพวกเขาจะทำสำเร็จหรือไม่ แต่พวกเขาก็จะอยู่ในเผ่าเทพประทานต่อไปไม่ได้แล้วนอกจากเฉียนว่านก้วนแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดสามารถรอดชีวิตจากความเกรี้ยวโกรธของตระกูลหนานกงและตระกูลเหลยได้! และตอนนี้เฉียนว่านก้วนก็ตัดสินใจที่จะร่วมมือด้วย ดังนั้น เขาจึงต้องไปจากที่นี่ด้วยเช่นกัน
พวกเขาต้องออกไปก่อนที่ค่ายกลเก้ามังกรสยบเทพจะเปิดใช้งาน ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเร่งรีบลงมืออย่างว่องไว เพื่อช่วยเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานอย่างรวดเร็วและจากนั้นก็ใช้วิชาหลีกสวรรค์ออกจากที่นี่
ก่อนที่พวกเขาจะช่วยเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน พวกเขาจะต้องช่วยชีวิตแม่ของนางก่อน ไม่เช่นนั้นนางคงยอมตายเสียดีกว่าที่จะไปจากที่นี่
“นั่นไม่ถูกต้อง ว่านก้วน!”
จู่ๆเจียงอี้ก็นึกบางอย่างขึ้นได้และพูดว่า “หากเจ้าใช้คนของตระกูลซือถู มันจะส่งผลต่อตระกูลซือถูหรือไม่? อีเสี้ยวและซือถูอ้าวดีกับเรามากนัก หากเราหนีไปและปล่อยให้ตระกูลซือถูจัดการตระกูลเหลยกับตระกูลหนานกง เช่นนั้นพวกเราคงเป็นคนบาปหนานัก!”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนยิ้มอย่างมั่นใจและพูดว่า “ลูกพี่ วางใจได้ ข้าจะไม่ใช่สมาชิกตระกูลซือถูเลย แม้ว่าเราจะออกไปแล้ว สมาคมการค้ามังกรโผบินก็จะยังคงดำเนินการค้าไปได้อย่างราบรื่น กิจการของตระกูลซือถูเข้าที่เข้าทางแล้ว หากไม่มีข้าก็ไม่มีปัญหาอะไร อย่างแย่ที่สุดมันก็อาจจะอยู่กับที่และไม่พัฒนามากนัก และนี่ยังเหลือเวลาอีกเก้าเดือนก่อนที่จะมีงานแต่งงาน ข้าจะจัดการทุกอย่างไว้ อิทธิพลของสมาคมการค้ามังกรโผบินจะแผ่ออกไปอีกและพันธมิตรระหว่างแปดตระกูลใหญ่ก็จะมีเสถียรภาพมากขึ้น อีกแค่หนึ่งหรือสองเดือน ข้าจะร่วมมือกับอีกสองตระกูล และเมื่อถึงเวลานั้น ไม่ว่าตระกูลเหลย ตระกูลหนานกงและตระกูลลู่จะกล้าหาญเพียงใด พวกเขาก็จะไม่กล้าโจมตีตระกูลซือถู”
“ดีมาก!”
เจียงอี้โล่งใจก่อนที่จะถามว่า “เมื่อไม่ใช่สมาชิกตระกูลซือถู เจ้ามีคนอื่นให้ใช้หรอ?”
“ฮ่าฮ่าฮ่า ลูกพี่ อย่าดูถูกข้าสิ!”
เฉียนว่านก้วนยิ้มและพูดว่า “ในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ข้าแอบเก็บคนที่ปฏิบัติตามคำสั่งข้าโดยตรงเอาไว้ ไม่มีใครรู้เรื่องนี้รวมทั้งอีเสี้ยวด้วย เจ้าน่าจะรู้ว่าสิ่งสำคัญที่ทำสมาคมการค้ามังกรโผบินขึ้นมานั้นไม่ใช่การทำธุรกิจ แต่เพื่อคอยบ่มฝึกกลุ่มกองกำลังในทวีปจักรพรรดิบูรพา ซึ่งจะแทรกแซงและค่อยๆโค่นล้มเก้าตระกูลจักรพรรดิ ข้าปิดความลับนี้เอาไว้จากพวกเขามาโดยตลอด ตอนนี้กองกำลังนั้นก็แข็งแกร่งพอสมควรแล้ว สมาชิกครึ่งหนึ่งเป็นคนที่ทั้งแปดตระกูลใหญ่ไม่รู้จัก พวกเขาเป็นกองกำลังลับ”
“…”
ทั้งเจียงอี้และเฟิ่งหลวนตกตะลึง เขาใช้ประโยชน์จากทรัพยากรของแปดตระกูลเพื่อเหณฑ์คนของเขา? ไม่ใช่ว่าเขาใช้ตำแหน่งเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวหรอกหรือ? ที่สำคัญที่สุด ในฐานะคนนอก ผู้ที่ปฏิบัติตามคำสั่งของเขาคือคนของแปดตระกูลใหญ่ทั้งนั้น แล้วเขาจะเลี้ยงกองกำลังเหล่านี้ไว้เองได้อย่างไร? หากเจียงอี้และเฟิ่งหลวนไม่รู้ว่าเฉียนว่านก้วนจะไม่มีวันโกหกในเรื่องเช่นนี้ เจียงอี้คงตบหน้าเขาไปแล้ว
เฟิ่งหลวนกระพริบตาแล้วถามว่า “มีกี่คนกัน? แล้วมีขอบเขตเทียนจุนกี่คน?”
“พี่ใหญ่หลวน นี่เจ้ากำลังลบหลู่ข้าหรือ?”
เฉียนว่านก้วนกลอกตาและพูดว่า “เจ้ายังเห็นว่าข้าเป็นเหมือนคนไม่รู้ความที่อยู่ในทวีปเทียนชิงอยู่อีกหรอ? เจ้าคิดว่าข้ามีผู้เชี่ยวชาญกี่คนที่ข้าจัดการได้เมื่อข้าเป็นประธานสมาคมการค้าซือถูและสมาคมการค้ามังกรโผบิน? ข้าระดมผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนของตระกูลซือถูได้ห้าพันคนและมีขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดอย่างน้อยหนึ่งร้อยคน หากข้าจะแอบฝึกคนของข้า ข้าจะเอาขอบเขตจินกังเข้ามาไหม?”
“โอ้ อย่างนี้นี่เอง!”
เฟิ่งหลวนทำหน้าตลกและพูดว่า “แล้วเจ้ารับคนขอบเขตเทียนจุนมากี่คน?”
เฉียนว่านก้วนชี้นิ้วหนึ่งนิ้ว และเฟิ่งหลวนก็ถามด้วยความผิดหวังเล็กน้อย “แค่สิบคนเองหรือ?”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “สิบคนจริงๆ แต่พวกเขาทั้งหมดเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด!”
“อะไรนะ?!”
ทั้งเจียงอี้และเฟิ่งหลวนยืนขึ้นมาด้วยความตกใจทันที ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย แม้แต่สิบสามตระกูลเองก็ยังยากที่จะรับพวกเขาเข้ามาได้ อย่าว่าแต่คนทั่วไปเลบ แต่เฉียนว่านก้วนกลับรับผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดมาได้สิบคนภายในหนึ่งปีเนี่ยนะ มันเป็นไปได้อย่างไรกัน?
“ทำไมพวกเจ้าต้องตกใจกันด้วย?”
เฉียนว่านก้วนพูดว่า “หากข้าไม่ต้องพินิจอย่างรอบคอบและรับคนระดับต่ำกับระดับกลางมาด้วย ข้าเกรงว่าตอนนี้ข้าคงมีผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนประมาณพันคนแล้ว พวกเจ้าไม่รู้ว่าทวีปจักรพรรดิบูรพาวุ่นวายเพียงใด สงครามปะทุขึ้นในร้อยแปดเขตแดนตลอดเวลา ตระกูลทั้งหลายต่างก็ถูกกำจัดอย่างต่อเนื่อง และการต่อสู้มักมีเชลยศึกเสมอ ผู้เชี่ยวชาญที่ทรงพลังหลายคนก็ถูกจับมาซึ่งพวกเขาไม่มีทางอื่นนอกจากต้องยอมจำนน อย่างไรก็ตาม คนมากมายเหล่านี้ยอมตายมากกว่าที่จะส่งผนึกแห่งดวงจิตของพวกเขามา ดังนั้น คนพวกนี้ราคาถูกมากเพียงศิลาสวรรค์คนละหนึ่งพันล้านก้อนเท่านั้น คนส่วนใหญ่ที่เรารับมาก็มาจากแบบนี้แหละ”
“หลังจากที่ซื้อทาสแล้ว เราก็จะพยายามซื้อสมาชิกตระกูลพวกนั้นด้วยหรือไม่ก็ช่วยพวกนั้นด้วยกำลังหากมันจำเป็น หลังจากนั้นเราก็ส่งสมาชิกตระกูลพวกเขาไปที่เกาะแห่งบาป เราให้พวกนั้นรับใช้เราหนึ่งร้อยปีก่อนที่จะปล่อยพวกเขาและสมาชิกตระกูลพวกเขาไป ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญที่เราลงทุนไปนั้นจะยอมจำนนต่อเราเนื่องจากเราเป็นผู้มีพระคุณของพวกเขา”
“ลูกพี่ เจ้าน่าจะจำการต่อสู้ที่เกาะจอมมารได้ ในตอนนั้น อีเสี้ยวมอบทาสขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดให้ข้าเพื่อให้ข้าปลอดภัย เขาทำอะไรหลายๆอย่างแทนข้าโดยไม่มีใครสนใจ อย่างไรก็ตาม อีกสิบคนนั้นที่ข้ามีอยู่ พวกเขาไม่ได้อยู่ในเผ่าเทพประทาน และตอนนี้พวกเขาก็ยังคงอยู่ในทวีปจักรพรรดิบูรพา ข้าสามารถส่งพวกเขามาในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวานได้ง่ายๆ” “ยอดเยี่ยม!”
เจียงอี้ยกนิ้วโป้งให้ เฉียนว่านก้วนซึ่งเป็นหัวหน้าการค้าตระกูลซือถูและหัวหน้าสมาคมการค้ามังกรโผบินในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่เขาจะเติบโตขึ้นมาก แต่เขายังเฉลียวฉลาดมากขึ้นด้วย
แม้ว่าซือถูอีเสี้ยวจะเป็นประธานใหญ่และนายน้อยและคุณหนูมากมายเข้ามามีส่วนร่วมในการดำเนินงานและกำกับดูแล แต่เฉียนว่านก้วนเป็นผู้ดำเนินการเรื่องทั้งหมดไม่ว่ามันจะเรื่องเล็กหรือใหญ่ นายน้อยและคุณหนูเหล่านั้นอาจเก่งกาจในเรื่องการต่อสู้เพื่อสร้างความประทับใจในหมู่พวกเขาเอง แต่พวกเขาไม่รู้อะไรเกี่ยวกับธุรกิจเลย สมาคมการค้ามังกรโผบินไม่ได้ทำการค้าระหว่างเกาะเทพประทานและทวีปจักรพรรดิบูรพาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทวีปอื่นๆด้วย มันจึงเติบโตเร็วมาก เฉียนว่านก้วนจัดการกับเรื่องทุกอย่างนี้ได้อย่างไร?
ก็เมื่อมีคนทำงานให้เขา มันจึงง่ายกว่ามาก!
ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสิบเหล่านี้อาจไม่มีค่าอะไรสำหรับตระกูลเหลยและตระกูลหนานกง แต่พวกเขาก็ถือว่ามากพอแล้วที่จะทำให้เกิดความโกลาหลในเมืองเทพประทาน ตราบใดที่เมืองวุ่นวาย มันก็จะช่วยเหลือคนสองคนได้ง่ายๆ
เจียงอี้หยิบกระดาษและพู่กันออกมา เขาเริ่มเขียนชื่อและวาดแผนที่เมืองเทพประทานและภูมิประเทศโดยรอบ เมื่อผ่านไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นว่า “ว่านก้วน แบบนี้ล่ะ? เราจะดำเนินการในอีกแปดเดือนข้างหน้า เพื่อลดการเฝ้าระวังของตระกูลหนานกง เพื่อที่พวกนั้นจะได้ลดการเฝ้าจับตามองเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานและแม่ของนาง เจ้าไปหาทางติดสินบนคนบางกลุ่มของสมาชิกตระกูลหนานกงไว้ตั้งแต่ตอนนี้เลย”
“แปดเดือนหน้า ข้าจะเชิญเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมางานวันเกิดข้า เหลยฉีเหยียนอาจมากับนางเพื่อทำให้ข้าอับอาย จากนั้นเจ้าก็ขอให้ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนสร้างปัญหาในการค้าของตระกูลหนานกงเพื่อดึงดูดความสนใจของพวกเขา ในเวลาเดียวกัน ก็ขอให้คนที่เจ้าเก็บไว้ไปช่วยเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานและแม่ของนางจากตระกูลหนานกง หลังจากนั้นเราจะรีบใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีออกไป!หากไม่ได้ผล ข้าจะทำให้เหลยฉีเหยียนเดือดดาลและท้าทายเขามาประลองกันเพื่อดึงดูดความสนใจของทุกคน จากนั้นเจ้าก็แอบไปดำเนินการได้เลย”
“ฮึฮึ!”
เฉียนว่านก้วนยิ้มอย่างขมขื่นและพูดว่า “ลูกพี่ โดยทั่วไปแผนการเจ้านั้นใช้ได้อยู่ เราจะต้องดำเนินการในเรื่องนี้อย่างน้อยก็เจ็ดเดือนข้างหน้าจริงๆ แต่มันมีช่องโหว่มากมาย อย่างแรกเลย เราไม่สามารถทำอะไรในเมืองได้ เมื่อประมุขตระกูลเหลยและตระกูลหนานกงเข้ามามีส่วนร่วมด้วย เราคงจะถูกสังหารแน่ๆ อืมม…..เราติดสินบนสมาชิกตระกูลหนานกงได้ มันง่ายที่จะนำเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานออกมา หากเราช่วยแม่ของนางได้ แผนนี้จะสำเร็จ เอาล่ะ ลูกพี่ เจ้าฝึกฝนไปก่อน ข้าจะไปหารือกับพี่เฟิ่งหลวนในเรื่องรายละเอียดในภายหลังและจะคิดแผนการที่สมบูรณ์แบบมา”
เจียงอี้พยักหน้าและพูดว่า “ก็ได้ ข้าจะปล่อยให้เจ้าจัดการเรื่องนี้ ข้าจะพยายามพัฒนาความแข็งแกร่งของข้าในช่วงแปดเดือน หลังจากที่เราออกจากเกาะเทพประทานไปแล้ว มันก็จะยากขึ้นมากที่จะฝึกฝนแก่นแท้พลัง”