เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 828 ทุกสิ่งเป็นไปด้วยดี
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 828 ทุกสิ่งเป็นไปด้วยดี
เจียงอี้ไม่ค่อยเก่งเรื่องแผนการเหล่านี้ ดังนั้นเขาจึงพอใจที่จะเป็นผู้นำในลักษณะที่ยกอำนาจในการวางแผนการให้แก่ลูกน้องไปเลย เฟิ่งหลวนเองก็มีมุมมองสถานการณ์โดยรวมที่ดี ส่วนเฉียนว่านก้วนก็มีความคิดที่แยบยลมากมายและดำเนินเรื่องตามแผนการได้ดีมาก การที่พวกเขาร่วมมือกัน เจียงอี้ก็เพียงแค่ทำตามแผนเท่านั้น ตอนที่พวกเขาวางแผนหนีออกจากเกาะอัสนีฟ้ากระจ่างในคราวนั้นได้นั่นก็เป็นเพราะพวกเขาทำตามแผนที่ทั้งสองคนวางไว้ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นไปด้วยดีอย่างมาก
ขณะที่เจียงอี้เองก็พยายามฝึกฝนแก่นแท้พลังให้ได้มากที่สุด เขาก็ยังพยายามหลอมรวมรูปแบบเต๋ารูปแบบสุดท้ายและขัดเกลาเกราะเมฆาอัคคีเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีด้วย เจียงอี้ไม่ได้เข้าถึงศาสตร์เวทย์สวรรค์สยบเพลิงอเวจีเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิ่มพลังของมันในเวลาอันสั้นได้ ถึงแม้ว่าเขาจะกลั่นเปลวเพลิงได้ แต่มันก็ยังด้อยกว่าเปลวเพลิงอัสนีอีกมากนัก เขาเองก็ยังมีเปลวเพลิงอัสนีเหลืออยู่มาก ซึ่งมันเพียงพอสำหรับการต่อสู้สิบกว่าครั้งได้
นอกจากนี้ เจียงอี้ก็เริ่มศึกษาทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันทรงพลังอย่างยิ่งเมื่อใช้พร้อมกับดาบวิญญาณ และตอนนี้เขามีดาบวิญญาณมากกว่าหกสิบเล่มและจะมีอีกกว่าสิบเล่มหลังจากผ่านไปอีกแปดเดือน หากเขาปรับปรุงทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาอาจจะสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับสูงธรรมดาๆได้เลย
เจียงอี้นั่งขัดสมาธิอยู่ในราชวังจักรพรรดิและดึงพลังดารามาใช้กับเกราะเมฆาอัคคีเพื่อให้พลังดาราหล่อเลี้ยงเกราะเมฆาอัคคีได้ เขายอมแพ้ต่อเกราะพระแม่ธรณีและดาบเหล็กปฐมกาลไปแล้ว เจียงอี้ยังปรึกษากับซือถูอีเสี้ยวและหวงฝูเทาเทียนในเรื่องนี้ด้วย มันเป็นไปได้มากที่เหลยฉีเหยียนจะแอบทำอะไรกับมัน อย่างเช่นตอนที่เขาลบรอยประทับดวงจิต เขาสามารถโจมตีดวงจิตสิ่งประดิษฐ์และทำให้มันหลบซ่อนอยู่ในศาสตราวุธได้ และอย่างไรก็ตาม เจียงอี้ก็ไม่สามารถตรวจจับดวงจิตของสิ่งประดิษฐ์ได้เลย
อันที่จริงแล้ว หลายๆคนรู้จักกลอุบายประเภทนี้ หลังจากที่ดวงจิตสิ่งประดิษฐ์เสียหาย มันจะต้องใช้เวลามากกว่าแปดปีเพื่อกู้คืน หากหาดวงจิตสิ่งประดิษฐ์ไม่เจอ แล้วพวกเขาจะเชื่อมดวงจิตกับสิ่งประดิษฐ์ได้อย่างไร? สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงที่ไม่ได้เชื่อมดวงจิตของเจียงอี้เอาไว้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขา เขาไม่ได้พึ่งสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงด้วย
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาเสียดายคือหม้อเวหาสลาตัน หากมันซ่อมแซมได้ กำลังของมันก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาก แต่มีปรมาจารย์คนเดียวที่รู้วิธีปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์ในเผ่าเทพประทานซึ่งเขาอยู่ในตระกูลหวงฝู หากเจียงอี้ไปตระกูลหวงฝูเอง คนผู้นั้นคงไม่สนใจเขา แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่หวงฝูเทาเทียนจะกลับไปที่ตระกูลด้วยเช่นกัน
ในขณะที่เจียงอี้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของเขาในการฝึกฝน สมาคมการค้ามังกรโผบินก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทั้งสองตระกูลที่เหลือเข้าร่วมสมาคมการค้ามังกรโผบิน การเป็นพันธมิตรกับตระกูลซือถูก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ทุกๆสิ่งเป็นไปในทางที่ถูกต้องและงานแต่งของเฉียนว่านก้วนและซือถูอีเนี่ยนก็ถูกนำเข้าที่วาระการหารือแล้ว
หากซือถูอ้าวไม่รีบแต่งลูกสาวเขากับเฉียนว่านก้วน ตระกูลอื่นๆก็จะทำเช่นนั้น ลูกเขยเช่นเขาเปรียบดังเหมืองทอง เพราะอีกเจ็ดตระกูลที่กอบโกยศิลาสวรรค์ไปได้ พวกเขาได้ไปอย่างน้อยที่สุดก็หลายหมื่นหลายแสนล้านก้อน ทั้งหมดนี้จะต้องขอบคุณเฉียนว่านก้วน
แม้ว่าศิลาสวรรค์หลายหมื่นหลายแสนล้านก้อนนั้นจะไม่ได้มากนัก แต่พวกเขาก็ให้ความหวังกับตระกูล หากว่าสมาคมการค้ามังกรโผบินยังคงเติบโตไปในอัตรานี้ บางทีมันอาจสามารถล้มล้างการปกครองของเก้าตระกูลจักรพรรดิแห่งทวีปจักรพรรดิบูรพาด้วยอำนาจและอิทธิพลที่สูงกว่า อย่างน้อย สิบสามตระกูลก็รู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับทวีปจักรพรรดิบูรพาด้วยสมาคมการค้ามังกรโผบิน ซึ่งมันดีกว่าเมื่อก่อนมาก
การกระทำทั้งหมดของสมาคมการค้ามังกรโผบินเป็นความลับ นอกจากสิบสามตระกูลแล้ว คนนอกก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน นี่เป็นเหตุผลที่เฉียนว่านก้วนสามารถฝึกฝนขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสิบคนอย่างลับๆได้
สมาคมการค้ามังกรโผบินไม่ได้ทำการค้ากับผู้คนในทวีปจักรพรรดิบูรพาโดยตรง แต่พวกเขาเสนอเงินให้แก่ตระกูลหนึ่งบนทวีปจักรพรรดิบูรพาและทำการค้าโดยใช้ชื่อตระกูลนี้ นอกจากนี้สมาคมการค้ามังกรโผบินจะเป็นฝ่ายติดต่อไปเท่านั้น เพื่อขจัดความเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบและเปิดโปง
โครงสร้างของการค้าทั้งหมดนี้ให้ความหวังแก่ทั้งสิบสามตระกูล แม้ว่าตระกูลเหลย, ตระกูลหนานกงและตระกูลลู่จะดูยึดมั่นในจุดยืนของพวกเขา แต่ลึกๆแล้วพวกเขาก็สนับสนุนสมาคมการค้ามังกรโผบินและอยากเข้าร่วมเป็นสมาชิก แต่เฉียนว่านก้วนไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาและไม่ได้ริเริ่มเชิญชวนพวกเขาก่อน ดังนั้นพวกเขาทั้งสามตระกูลจึงไม่สามารถบากหน้าไปขอเข้าร่วมด้วยได้ ไร้ยางอายและเป็นคนขอเข้าร่วมได้
การแต่งงานของซือถูอีเนี่ยนและเฉียนว่านก้วนนั้นไม่เป็นที่น่าแปลกสำหรับทุกคนนัก นายน้อยและคุณหนูทุกคนเห็นความหลงใหลที่เฉียนว่านก้วนมีต่อซือถูอีเนี่ยน อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงวันงานแต่ง เฉียนว่านก้วนก็ได้ให้คำตอบที่ไม่คาดคิดกับซือถูอ้าวมา
เฉียนว่านก้วนบอกซือถูอ้าวว่าเขาจะแต่งงานตอนนี้ได้อย่างไรหากเขายังไม่สร้างอาชีพของตน?
เขาบอกว่าเขาจะรอจนกว่าทุกอย่างจะมีเสถียรภาพและการค้าตระกูลซือถูสมบูรณ์แบบ เมื่อการค้าในทวีปจักรพรรดิบูรพามีเสถียรภาพอย่างสมบูรณ์และพัฒนาเขตการปกครองไปถึงสิบส่วนซึ่งจะไม่ถูกเก้าตระกูลจักรพรรดิทำลายลงถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยากทำลายมันก็ตาม นั่นคือตอนที่เขาจะแต่งงาน ซึ่งอย่างน้อยจะต้องใช้เวลาเจ็ดเดือน
ประมุขซือถูรู้สึกประทับใจกับคำตอบของเขาและแอบคิดว่าเขาเจอลูกเขยที่ดีแล้ว ดังนั้นซือถูอ้าวจึงเขียนคำเชิญไปถึงประมุขของทั้งสิบสามตระกูลเพื่อประกาศการหมั้นหมายระหว่างพวกเขาทั้งสองและสัญญาว่างานแต่งจะจัดขึ้นในเจ็ดเดือน
เฉียนว่านก้วนมีเหตุผลที่ดีที่จะเลื่อนงานแต่งออกไปอีกเจ็ดเดือน ก่อนหน้านี้ เจียงอี้ต้องการจะเชิญเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมางานเลี้ยงวันเกิดเขา ซึ่งเฉียนว่านก้วนเชื่อว่านี่ไม่ใช่แผนที่ปลอดภัยนัก ด้วยสถานะของเขาและอีเนี่ยนในเกาะเทพประทาน นายน้อยและคุณหนูทุกคนจะปรากฏตัวขึ้นในโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ ที่สำคัญที่สุดคือตระกูลหนานกงและตระกูลเหลยจะไม่มีวันคาดคิดว่าเจียงอี้จะสร้างปัญหาในวันงานแต่งของเฉียนว่านก้วนด้วย
เฉียนว่านก้วนเริ่มค่อยๆปูธุรกิจการค้าของตระกูลซือถูและสมาคมการค้ามังกรโผบินด้วยเช่นกัน เขาเริ่มฝึกซือถูอีเสี้ยวให้เป็นผู้สืบทอดของเขา เพราะตระกูลซือถูดีกับพวกเขามาก แม้ว่าเฉียนว่านก้วนจะไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ซือถูอีเนี่ยนฟัง แต่นางก็ตกลงที่จะไปกับเขา เฉียนว่านก้วนจึงอยากจะช่วยตระกูลซือถูเพื่อตอบแทนบุณคุณพวกเขาอยู่แล้ว
ซือถูอีเนี่ยนเองก็เป็นหญิงสาวที่แปลกมาก ราวกับว่านางหมดความสนใจในผู้ชายและอุทิศตนเพื่อเขา หลังจากที่นางตัดสินใจแล้วว่าเฉียนว่านก้วนคือคนนั้น นางก็หยุดไปพบนายน้อยคนอื่นๆหรือออกไปงานสังสรรค์ และนางจะอยู่บ้านเพื่อฝึกฝนหรือไม่ก็ออกไปกับเฉียนว่านก้วน เฉียนว่านก้วนเองก็สัมผัสได้ถึงความทุ่มเทใจของนางซึ่งมันไม่สามารถปลอมแปลงได้ เว้นแต่ว่าซือถูอีเนี่ยนจะเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์มาก
สามเดือนผ่านไป!
เฉียนว่านก้วนใช้เวลาเพียงสามเดือนในการซื้อผู้ดูแลบ้านตระกูลหนานกงซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านคนสำคัญในตำหนักกิจการภายในตระกูลหนานกง คนผู้นี้มักจะเสี่ยงดวงในสนามประลอง เฉียนว่านก้วนจึงจัดฉากให้เขาแพ้พนันและติดหนี้จำนวนมาก เขาจึงถูกมังกรวารีสีทองจับมาเป็นทาสวิญญาณได้อย่างง่ายดาย
เมื่อมีผู้ดูแลบ้านแฝงตัวเข้าไป การซื้อสมาชิกตระกูลหนานกงต่อก็เป็นเรื่องง่ายดายมาก ดูเหมือนว่าแม้แต่พระเจ้าก็ยังเข้าข้างพวกเขา เฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนรู้สึกว่าพวกเขาโชคดีมาก และหลังจากที่คิดและลองทดสอบมาสักพักแล้ว พวกเขาก็มั่นใจได้ว่าผู้ดูแลบ้านไม่ได้เป็นกลอุบายของตระกูลหนานกง
ผู้ดูแลบ้านสัญญาว่าจะซื้อคนเพิ่มอีกสามคนหากเฉียนว่านก้วนให้เวลาเขาอีกสักสองถึงสามเดือน พวกนั้นเป็นหน่วยลาดตระเวน, ผู้บัญชาการองครักษ์และผู้ดแลบ้านในลานของหนานกงฉี่หลิง และเมื่อสามคนนี้ร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาก็จะช่วยแม่ของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานได้ทุกเมื่อ
เจียงอี้ออกสู่สันโดษครั้งหนึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าเฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนจัดการทุกอย่างแล้ว เขาก็ไม่สนใจอะไรและเข้าสู่สันโดษอีกครั้ง ในหลายเดือนมานี้ เขาพยายามผสานรูปแบบเต๋าเป็นอย่างมาก
ส่วนเจียงเสี่ยวนู๋ก็เข้าสู่สันโดษ เจียงอี้เองก็ไม่มีเวลาดูแลนางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นางปลอดภัยมากเมื่ออยู่ในราชวังจักรพรรดิและเขาจะสามารถพานางหนีไปด้วยได้ทุกเมื่อ ส่วนจ้านอู๋ซวงและหยุนเฟยก็อยู่ในราชวังจักรพรรดิเช่นกัน เมื่อเจียงอี้และกลุ่มของเขาจากไป มันจะไม่ปลอดภัยที่พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่เมือง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องไปกับเจียงอี้
“สี่เดือน ยังเหลือเวลาอีกสี่เดือน หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” เจียงอี้สูดหายใจเข้าลึกๆและเข้าสู่สันโดษต่อไป
….
ขณะที่เจียงอี้เองก็พยายามฝึกฝนแก่นแท้พลังให้ได้มากที่สุด เขาก็ยังพยายามหลอมรวมรูปแบบเต๋ารูปแบบสุดท้ายและขัดเกลาเกราะเมฆาอัคคีเพื่อเสริมความแข็งแกร่งของโล่ศักดิ์สิทธิ์เปลวเพลิงอัสนีด้วย เจียงอี้ไม่ได้เข้าถึงศาสตร์เวทย์สวรรค์สยบเพลิงอเวจีเพราะมันเป็นไปไม่ได้ที่จะเพิ่มพลังของมันในเวลาอันสั้นได้ ถึงแม้ว่าเขาจะกลั่นเปลวเพลิงได้ แต่มันก็ยังด้อยกว่าเปลวเพลิงอัสนีอีกมากนัก เขาเองก็ยังมีเปลวเพลิงอัสนีเหลืออยู่มาก ซึ่งมันเพียงพอสำหรับการต่อสู้สิบกว่าครั้งได้
นอกจากนี้ เจียงอี้ก็เริ่มศึกษาทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมันทรงพลังอย่างยิ่งเมื่อใช้พร้อมกับดาบวิญญาณ และตอนนี้เขามีดาบวิญญาณมากกว่าหกสิบเล่มและจะมีอีกกว่าสิบเล่มหลังจากผ่านไปอีกแปดเดือน หากเขาปรับปรุงทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ได้ เขาอาจจะสังหารผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนระดับสูงธรรมดาๆได้เลย
เจียงอี้นั่งขัดสมาธิอยู่ในราชวังจักรพรรดิและดึงพลังดารามาใช้กับเกราะเมฆาอัคคีเพื่อให้พลังดาราหล่อเลี้ยงเกราะเมฆาอัคคีได้ เขายอมแพ้ต่อเกราะพระแม่ธรณีและดาบเหล็กปฐมกาลไปแล้ว เจียงอี้ยังปรึกษากับซือถูอีเสี้ยวและหวงฝูเทาเทียนในเรื่องนี้ด้วย มันเป็นไปได้มากที่เหลยฉีเหยียนจะแอบทำอะไรกับมัน อย่างเช่นตอนที่เขาลบรอยประทับดวงจิต เขาสามารถโจมตีดวงจิตสิ่งประดิษฐ์และทำให้มันหลบซ่อนอยู่ในศาสตราวุธได้ และอย่างไรก็ตาม เจียงอี้ก็ไม่สามารถตรวจจับดวงจิตของสิ่งประดิษฐ์ได้เลย
อันที่จริงแล้ว หลายๆคนรู้จักกลอุบายประเภทนี้ หลังจากที่ดวงจิตสิ่งประดิษฐ์เสียหาย มันจะต้องใช้เวลามากกว่าแปดปีเพื่อกู้คืน หากหาดวงจิตสิ่งประดิษฐ์ไม่เจอ แล้วพวกเขาจะเชื่อมดวงจิตกับสิ่งประดิษฐ์ได้อย่างไร? สิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงที่ไม่ได้เชื่อมดวงจิตของเจียงอี้เอาไว้ มันก็ไม่มีประโยชน์อะไรสำหรับเขา ยิ่งไปกว่านั้น การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดของเขา เขาไม่ได้พึ่งสิ่งประดิษฐ์ศักดิ์สิทธิ์แฝงด้วย
สิ่งเดียวที่ทำให้เขาเสียดายคือหม้อเวหาสลาตัน หากมันซ่อมแซมได้ กำลังของมันก็อาจจะเพิ่มขึ้นมาก แต่มีปรมาจารย์คนเดียวที่รู้วิธีปรับแต่งสิ่งประดิษฐ์ในเผ่าเทพประทานซึ่งเขาอยู่ในตระกูลหวงฝู หากเจียงอี้ไปตระกูลหวงฝูเอง คนผู้นั้นคงไม่สนใจเขา แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่หวงฝูเทาเทียนจะกลับไปที่ตระกูลด้วยเช่นกัน
ในขณะที่เจียงอี้ทุ่มเทความพยายามทั้งหมดของเขาในการฝึกฝน สมาคมการค้ามังกรโผบินก็ยังคงเติบโตขึ้นเรื่อยๆ เมื่อทั้งสองตระกูลที่เหลือเข้าร่วมสมาคมการค้ามังกรโผบิน การเป็นพันธมิตรกับตระกูลซือถูก็ยิ่งแข็งแกร่งขึ้นไปอีก ทุกๆสิ่งเป็นไปในทางที่ถูกต้องและงานแต่งของเฉียนว่านก้วนและซือถูอีเนี่ยนก็ถูกนำเข้าที่วาระการหารือแล้ว
หากซือถูอ้าวไม่รีบแต่งลูกสาวเขากับเฉียนว่านก้วน ตระกูลอื่นๆก็จะทำเช่นนั้น ลูกเขยเช่นเขาเปรียบดังเหมืองทอง เพราะอีกเจ็ดตระกูลที่กอบโกยศิลาสวรรค์ไปได้ พวกเขาได้ไปอย่างน้อยที่สุดก็หลายหมื่นหลายแสนล้านก้อน ทั้งหมดนี้จะต้องขอบคุณเฉียนว่านก้วน
แม้ว่าศิลาสวรรค์หลายหมื่นหลายแสนล้านก้อนนั้นจะไม่ได้มากนัก แต่พวกเขาก็ให้ความหวังกับตระกูล หากว่าสมาคมการค้ามังกรโผบินยังคงเติบโตไปในอัตรานี้ บางทีมันอาจสามารถล้มล้างการปกครองของเก้าตระกูลจักรพรรดิแห่งทวีปจักรพรรดิบูรพาด้วยอำนาจและอิทธิพลที่สูงกว่า อย่างน้อย สิบสามตระกูลก็รู้ข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับทวีปจักรพรรดิบูรพาด้วยสมาคมการค้ามังกรโผบิน ซึ่งมันดีกว่าเมื่อก่อนมาก
การกระทำทั้งหมดของสมาคมการค้ามังกรโผบินเป็นความลับ นอกจากสิบสามตระกูลแล้ว คนนอกก็ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน นี่เป็นเหตุผลที่เฉียนว่านก้วนสามารถฝึกฝนขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสิบคนอย่างลับๆได้
สมาคมการค้ามังกรโผบินไม่ได้ทำการค้ากับผู้คนในทวีปจักรพรรดิบูรพาโดยตรง แต่พวกเขาเสนอเงินให้แก่ตระกูลหนึ่งบนทวีปจักรพรรดิบูรพาและทำการค้าโดยใช้ชื่อตระกูลนี้ นอกจากนี้สมาคมการค้ามังกรโผบินจะเป็นฝ่ายติดต่อไปเท่านั้น เพื่อขจัดความเสี่ยงที่จะถูกตรวจสอบและเปิดโปง
โครงสร้างของการค้าทั้งหมดนี้ให้ความหวังแก่ทั้งสิบสามตระกูล แม้ว่าตระกูลเหลย, ตระกูลหนานกงและตระกูลลู่จะดูยึดมั่นในจุดยืนของพวกเขา แต่ลึกๆแล้วพวกเขาก็สนับสนุนสมาคมการค้ามังกรโผบินและอยากเข้าร่วมเป็นสมาชิก แต่เฉียนว่านก้วนไม่ได้ให้โอกาสพวกเขาและไม่ได้ริเริ่มเชิญชวนพวกเขาก่อน ดังนั้นพวกเขาทั้งสามตระกูลจึงไม่สามารถบากหน้าไปขอเข้าร่วมด้วยได้ ไร้ยางอายและเป็นคนขอเข้าร่วมได้
การแต่งงานของซือถูอีเนี่ยนและเฉียนว่านก้วนนั้นไม่เป็นที่น่าแปลกสำหรับทุกคนนัก นายน้อยและคุณหนูทุกคนเห็นความหลงใหลที่เฉียนว่านก้วนมีต่อซือถูอีเนี่ยน อย่างไรก็ตาม เมื่อพูดถึงวันงานแต่ง เฉียนว่านก้วนก็ได้ให้คำตอบที่ไม่คาดคิดกับซือถูอ้าวมา
เฉียนว่านก้วนบอกซือถูอ้าวว่าเขาจะแต่งงานตอนนี้ได้อย่างไรหากเขายังไม่สร้างอาชีพของตน?
เขาบอกว่าเขาจะรอจนกว่าทุกอย่างจะมีเสถียรภาพและการค้าตระกูลซือถูสมบูรณ์แบบ เมื่อการค้าในทวีปจักรพรรดิบูรพามีเสถียรภาพอย่างสมบูรณ์และพัฒนาเขตการปกครองไปถึงสิบส่วนซึ่งจะไม่ถูกเก้าตระกูลจักรพรรดิทำลายลงถึงแม้ว่าพวกเขาจะอยากทำลายมันก็ตาม นั่นคือตอนที่เขาจะแต่งงาน ซึ่งอย่างน้อยจะต้องใช้เวลาเจ็ดเดือน
ประมุขซือถูรู้สึกประทับใจกับคำตอบของเขาและแอบคิดว่าเขาเจอลูกเขยที่ดีแล้ว ดังนั้นซือถูอ้าวจึงเขียนคำเชิญไปถึงประมุขของทั้งสิบสามตระกูลเพื่อประกาศการหมั้นหมายระหว่างพวกเขาทั้งสองและสัญญาว่างานแต่งจะจัดขึ้นในเจ็ดเดือน
เฉียนว่านก้วนมีเหตุผลที่ดีที่จะเลื่อนงานแต่งออกไปอีกเจ็ดเดือน ก่อนหน้านี้ เจียงอี้ต้องการจะเชิญเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมางานเลี้ยงวันเกิดเขา ซึ่งเฉียนว่านก้วนเชื่อว่านี่ไม่ใช่แผนที่ปลอดภัยนัก ด้วยสถานะของเขาและอีเนี่ยนในเกาะเทพประทาน นายน้อยและคุณหนูทุกคนจะปรากฏตัวขึ้นในโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ ที่สำคัญที่สุดคือตระกูลหนานกงและตระกูลเหลยจะไม่มีวันคาดคิดว่าเจียงอี้จะสร้างปัญหาในวันงานแต่งของเฉียนว่านก้วนด้วย
เฉียนว่านก้วนเริ่มค่อยๆปูธุรกิจการค้าของตระกูลซือถูและสมาคมการค้ามังกรโผบินด้วยเช่นกัน เขาเริ่มฝึกซือถูอีเสี้ยวให้เป็นผู้สืบทอดของเขา เพราะตระกูลซือถูดีกับพวกเขามาก แม้ว่าเฉียนว่านก้วนจะไม่ได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ซือถูอีเนี่ยนฟัง แต่นางก็ตกลงที่จะไปกับเขา เฉียนว่านก้วนจึงอยากจะช่วยตระกูลซือถูเพื่อตอบแทนบุณคุณพวกเขาอยู่แล้ว
ซือถูอีเนี่ยนเองก็เป็นหญิงสาวที่แปลกมาก ราวกับว่านางหมดความสนใจในผู้ชายและอุทิศตนเพื่อเขา หลังจากที่นางตัดสินใจแล้วว่าเฉียนว่านก้วนคือคนนั้น นางก็หยุดไปพบนายน้อยคนอื่นๆหรือออกไปงานสังสรรค์ และนางจะอยู่บ้านเพื่อฝึกฝนหรือไม่ก็ออกไปกับเฉียนว่านก้วน เฉียนว่านก้วนเองก็สัมผัสได้ถึงความทุ่มเทใจของนางซึ่งมันไม่สามารถปลอมแปลงได้ เว้นแต่ว่าซือถูอีเนี่ยนจะเป็นนักแสดงที่มีพรสวรรค์มาก
สามเดือนผ่านไป!
เฉียนว่านก้วนใช้เวลาเพียงสามเดือนในการซื้อผู้ดูแลบ้านตระกูลหนานกงซึ่งเป็นผู้ดูแลบ้านคนสำคัญในตำหนักกิจการภายในตระกูลหนานกง คนผู้นี้มักจะเสี่ยงดวงในสนามประลอง เฉียนว่านก้วนจึงจัดฉากให้เขาแพ้พนันและติดหนี้จำนวนมาก เขาจึงถูกมังกรวารีสีทองจับมาเป็นทาสวิญญาณได้อย่างง่ายดาย
เมื่อมีผู้ดูแลบ้านแฝงตัวเข้าไป การซื้อสมาชิกตระกูลหนานกงต่อก็เป็นเรื่องง่ายดายมาก ดูเหมือนว่าแม้แต่พระเจ้าก็ยังเข้าข้างพวกเขา เฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนรู้สึกว่าพวกเขาโชคดีมาก และหลังจากที่คิดและลองทดสอบมาสักพักแล้ว พวกเขาก็มั่นใจได้ว่าผู้ดูแลบ้านไม่ได้เป็นกลอุบายของตระกูลหนานกง
ผู้ดูแลบ้านสัญญาว่าจะซื้อคนเพิ่มอีกสามคนหากเฉียนว่านก้วนให้เวลาเขาอีกสักสองถึงสามเดือน พวกนั้นเป็นหน่วยลาดตระเวน, ผู้บัญชาการองครักษ์และผู้ดแลบ้านในลานของหนานกงฉี่หลิง และเมื่อสามคนนี้ร่วมมือกับพวกเขา พวกเขาก็จะช่วยแม่ของเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานได้ทุกเมื่อ
เจียงอี้ออกสู่สันโดษครั้งหนึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าเฉียนว่านก้วนและเฟิ่งหลวนจัดการทุกอย่างแล้ว เขาก็ไม่สนใจอะไรและเข้าสู่สันโดษอีกครั้ง ในหลายเดือนมานี้ เขาพยายามผสานรูปแบบเต๋าเป็นอย่างมาก
ส่วนเจียงเสี่ยวนู๋ก็เข้าสู่สันโดษ เจียงอี้เองก็ไม่มีเวลาดูแลนางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม นางปลอดภัยมากเมื่ออยู่ในราชวังจักรพรรดิและเขาจะสามารถพานางหนีไปด้วยได้ทุกเมื่อ ส่วนจ้านอู๋ซวงและหยุนเฟยก็อยู่ในราชวังจักรพรรดิเช่นกัน เมื่อเจียงอี้และกลุ่มของเขาจากไป มันจะไม่ปลอดภัยที่พวกเขาจะซ่อนตัวอยู่ที่เมือง ดังนั้นพวกเขาจึงต้องไปกับเจียงอี้
“สี่เดือน ยังเหลือเวลาอีกสี่เดือน หวังว่าทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี” เจียงอี้สูดหายใจเข้าลึกๆและเข้าสู่สันโดษต่อไป
….