เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 832 เจียงอี้ ครั้งนี้เจ้าถลำลึกไปแล้ว
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 832 เจียงอี้ ครั้งนี้เจ้าถลำลึกไปแล้ว
วันนี้เป็นวันแต่งงานของเฉียนว่านก้วน และในคืนนี้ บรรดานายน้อยและคุณหนูที่มีชื่อเสียงในเกาะเทพประทานต่างก็อยู่ที่นี่ เหล่านายน้อยและคุณหนูรุ่นเยาว์ของตระกูลเล็กๆเองก็ไม่กล้าเอะอะเสียงดังเพราะพวกเขากลัวว่าจะสร้างความขุ่นเคืองซึ่งจะทำให้ตระกูลซือถูและเฉียนว่านก้วนไม่มีความสุขเมื่อพวกเขาพูดอะไรผิดไป
แม้แต่หวงฝูเทาเทียนเองก็ยังระงับความโกรธของตัวเองลง ไม่เช่นนั้นหากเขาทำตามอารมณ์ของเขา เขาคงจะลงมือไปแล้ว แต่ก็ยังมีคนกล้าสร้างปัญหาขึ้นในค่ำคืนนี้ มันคงจะไม่เป็นอะไรหากมันเป็นเพียงปัญหาเล็กน้อย แต่เขากลับเผานายน้อยและคุณหนูนับไม่ถ้วนทั้งเป็น และเหนือสิ่งอื่นใดหนึ่งในพวกเขาได้ยึดเหลยฉีเหยียนเป็นตัวประกันไว้ ที่สำคัญที่สุดคือมีเลือดออกมาด้วย!
ปัง! ปัง! ปัง! อ๊ากก อ๊ากก อ๊ากก!
นายน้อยและคุณหนูที่ด้อยพลังจำนวนมากถูกทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์โจมตีขณะที่พวกเขาจับหัวและเกลือกกลิ้งอยู่ที่พื้น บางคนไม่สามารถทนต่อความร้อนเช่นนี้ได้และหนีไปอย่างร้อนรน โชคดีที่เจียงอี้บินขึ้นไปค่อนข้างสูงและเปลวเพลิงอัสนีก็สาดออกมาเพียงครั้งเดียวก่อนที่มันจะถูกเรียกกลับไป โชคดีที่องครักษ์ขอบเขตเทียนจุนของตระกูลทุกตระกูลออกมาป้องกันความร้อนในทันที ไม่เช่นนั้น พวกเขามากมายคงถูกเผาทั้งเป็น
ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ผู้คนนับไม่ถ้วนทะยานขึ้นไปบนฟ้าพร้อมกลิ่นอายสังหารที่เพ่งเล็งไปที่เจียงอี้ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนจำนวนมากจะโจมตีและกำจัดเจียงอี้อย่างแน่นอนหากว่าเขายังกล้าปล่อยเปลวเพลิงอัสนีอีก
ฉากนั้นวุ่นวายและโกลาหลมาก แต่ต่อมามันก็เริ่มเงียบสงัด
พวกเขามากมายมองไปที่เจียงอี้ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยเกราะเมฆาอัคคีขณะที่เขาลอยอยู่กลางอากาศและมองไปที่เหลยฉีเหยียนผู้ที่ถูกคว้าคอเอาไว้กลางอากาศ พวกเขามองไปยังดวงตาสีเขียวที่เยือกเย็นของเจียงเสี่ยวนู๋และมือที่เจาะทะลวงเข้าไปที่หน้าอกของเหลยฉีเหยียน และความคิดหนึ่งก็ผุดขึ้นในใจของพวกเขาทันที
เจียงอี้เป็นบ้าไปแล้ว!
ทำไมเขาจะลงมือในงานเลี้ยงมื้อค่ำของงานแต่งเฉียนว่านก้วนหากเขาไม่ได้บ้าไปแล้ว? หากเขาไม่บ้า เหตุใดเขาจึงจะเผาคนทั้งเป็น? แล้วหากเขาไม่บ้า เขาจะจับเหลยฉีเหยียนหรือ? และเกือบจะสังหารเหลยฉีเหยียนแล้วด้วย?
สีหน้าขององครักษ์ตระกูลเหลยซีดเผือดทันที สายตาที่มองไปยังเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋นั้นเต็มไปด้วยความอัปยศและเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารที่ไม่สามารถปกปิดไว้ได้ พวกเขาทั้งคู่แข็งแกร่งมากและอยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด แต่ทว่า…เหลยฉีเหยียนกลับถูกเจียงเสี่ยวนู๋จับตัวต่อหน้าต่อตาพวกเขา มันเป็นการดูถูกพวกเขาอย่างใหญ่หลวง!
ทั้งคู่มองไปที่เจียงเสี่ยวนู๋ด้วยความประหลาดใจเช่นกัน ความเร็วของผู้หญิงนางนี้เร็วมากจริงๆ ทั้งสองคนคิดว่าคงไม่มีใครกล้าทำอะไรในค่ำคืนนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงประมาทไป และเมื่อเจียงอี้ทะยานขึ้นไปบนฟ้าและโจมตี มันก็ดึงดูดความสนใจของพวกเขาทั้งคู่ไป แต่ทั้งคู่คงตอบสนองได้อย่างแน่นอนหากความเร็วของเจียงเสี่ยวนู๋ไม่เร็วมากพอ
ซือถูอีเสี้ยวเองก็มึนงงขณะที่หวงฝูเทาเทียนยิ้มอย่างขมขื่น เขาคาดเดาได้ว่ากำลังจะเกิดอะไรบางอย่างขึ้น แต่เขาไม่ได้หวังว่าเจียงอี้จะลงมือไวและเด็ดขาดเช่นนี้
ผู้ที่สงบที่สุดในที่เกิดเหตุนี้คือองค์หญิงเชียนเชียนแห่งเผ่าปีศาจ นางไม่แม้แต่จะยืนขึ้น แต่ชายชุดเกราะสีดำที่แข็งแกร่งและน่ากลัวยืนอยู่ข้างหลังนางเงียบๆ ซึ่งนั่นคือเจ้าอสูรแห่งเผ่าปีศาจ ใต้เท้าเทวาทมิฬ
นายน้อยและคุณหนูทั้งหมดไปอยู่ข้างๆองครักษ์ของตระกูล จากนั้นทุกคนก็มารวมตัวกันข้างๆหน้าผาเพื่อเตรียมหลบหนีทุกเมื่อ ผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนหลายร้อยคนจากตระกูลซือถูเองก็บินขึ้นมาเช่นกัน สายตาของพวกเขาสั่นไหวและหลายๆคนส่งข้อความถึงกันเพราะพวกเขาไม่รู้จะทำเช่นไรดี
เจียงอี้ เจ้าบ้าไปแล้วหรอ? ปล่อยนายน้อยของเราซะ แล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า ไม่เช่นนั้น แม้แต่สวรรค์ก็ช่วยเจ้าไม่ได้!
หนึ่งในองครักษ์ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดของตระกูลเหลยทำลายความเงียบลงไป ส่วนซือถูอีเสี้ยวเองก็ยิ้มอย่างขมขื่นเช่นกัน เจียงอี้ ทุกอย่างนั้นคุยกันได้ แม้ว่าเหลยฉีเหยียนจะทำตัวล้ำเส้นไปในวันนี้ แต่เจ้าก็ไม่ควรจะลงมือ หากเจ้าหยุดเรื่องนี้ไว้ตอนนี้ ข้าเชื่อว่าท่านลุงเหลยจะให้อภัยเจ้า
ความหมายที่อยู่เบื้องหลังซือถูอีเสี้ยวนั้นชัดเจนมาก ตระกูลซือถูจะปกป้องเจียงอี้ไม่ได้อีกต่อไปหากเขายังทำเรื่องนี้ และเมื่อเหลยฉีเหยียนตกตายไป ก็ไม่มีผู้ใดหยุดเหลยถิงเวยได้แม้ว่าเขาจะลงมืออย่างเปิดเผย
เจียงอี้สงบมาก เขาเย็นชาและเคร่งขรึมขณะที่พูดอย่างไม่แยแสว่า อย่าขยับ หากใครกล้าลงมือ เสี่ยวนู๋ เจ้าสังหารเหลยฉีเหยียนได้ทันที!
เจ้าค่ะ นายน้อย!
เสียงเย็นชาของเจียงเสี่ยวนู๋สะท้อนออกมา ดวงตาที่เย็นเยียบของนางทำให้ทุกคนใจสั่น ไม่มีผู้ใดกล้าสงสัยในความตั้งใจที่จะฆ่าของเจียงเสี่ยวนู๋เลย
เฉียนว่านก้วนยิ้มอย่างขมขื่น เขากอดซือถูอีเนี่ยนที่สั่นเทาเพราะความตกใจ ตัวเขาเองก็คิดไว้ว่าเจียงอี้คงลงมือเลย หากเขาเป็นเจียงอี้ เขาก็คงจะลงมือในตอนนี้แหละ
เพราะว่า….แผนการล้มเหลว!
ไม่มีข่าวคราวใดๆจากเมืองเทพประทานเลย มันจึงเหลือเพียงสองผลลัพธ์ หนึ่งคือลูกน้องทรยศเขา สองคือพวกนั้นตกตายไปหมดเลย! ซึ่งผู้ใต้บัญชาทั้งหมดนี้เป็นทาสวิญญาณและไม่เคยกล้าขัดคำสั่งของเขา มันจึงมีข้อสรุปเดียวคือพวกเขาทั้งหมดตกตายลง!
วันนี้เหลยฉีเหยียนทำตัวแปลกมาก!
แม้ว่าเขาจะเมา เขาก็จะไม่แสดงท่าทีหยาบคายในงานแต่งของเฉียนว่านก้วน นอกจากนี้ เขาจะไม่พูดจาที่ไร้การยับยั้งเหล่านั้นออกมาหลังจากที่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานเดือดดาล นายน้อยทั้งหมดจากตระกูลใหญ่นั้นมีไหวพริบมาก ไม่ว่าพวกเขาจะโกรธเพียงใด พวกเขาก็จะไม่พูดเรื่องเช่นนั้นออกมา
มีอะไรผิดไป?
ทำไมไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆจากขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสิบเลย? พวกเขาจะตายโดยไร้ร่องรอยและข่าวใดๆได้อย่างไร? เหตุใดเหลยฉีเหยียนถึงทำตัวแปลกๆ? เฉียนว่านก้วนและเจียงอี้เดาเรื่องนี้ด้วยปัญญาของพวกเขาได้ง่ายๆ!
แผนการของพวกเขาถูกเปิดโปง ตระกูลเหลยและตระกูลหนานกงวางกับดักสังหารพวกเขาทั้งสิบคนและเหลยฉีเหยียนรู้เรื่องนี้ทั้งหมด ดังนั้นเขาจึงกล้าทำตัวไร้ยางอายในวันนี้ เหตุผลที่เขาทำแบบนั้นอาจเป็นเพราะเขาต้องการกระตุ้นความโกรธของเจียงอี้ แต่เขาไม่ได้คาดไว้ว่าเจียงอี้จะตัดสินใจเด็ดขาดและไม่คิดว่าเสี่ยวนู๋จะมีความเร็วขนาดนั้น
ไม่ว่าปัญหาคืออะไร เจียงอี้ก็ระบุได้อย่างหนึ่งว่าตระกูลเหลยและตระกูลหนานกงต้องการกำจัดเขาในคืนนี้ ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะลงมือก่อนและจับเหลยฉีเหยียน และทุกคนจะมีโอกาสได้หลบหนีด้วยเครื่องรางอารักขา ในกรณีที่แย่ที่สุด…..พวกเขาก็แค่ตายด้วยกัน!
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวาน มานี่!
เจียงอี้ตะโกนด้วยเสียงเย็นชาและหนักแน่น ในขณะเดียวกันเขาก็กวาดตาไปมองเฉียนว่านก้วน ด้านเฉียนว่านก้วนเองก็พาซือถูอีเนี่ยนบินขึ้นไปบนฟ้าทันที ในขณะเดียวกัน ซือถูอีเนี่ยนก็ถามด้วยความตื่นตระหนกว่า ว่านก้วน เจ้ากำลังจะทำอะไรน่ะ? อีเนี่ยน เจ้ายังจำสิ่งที่ข้าบอกเจ้าในคืนที่เราหมั้นกันได้ไหม? เฉียนว่านก้วนยิ้มเล็กน้อย ส่วนฝ่ายหลังก็สั่นเทาเล็กน้อยขณะที่ดวงตาของนางสั่นไหว นางกัดฟันแน่นและไม่พูดอะไรออกมาขณะที่ตามเฉียนว่านก้วนบินไปทางเจียงอี้
เจียงอี้ ว่านก้วน พวกเจ้าจะทำอะไรกัน?
ซือถูอีเสี้ยวตื่นตระหนกมาก ทันใดนั้นเอง เจียงเสี่ยวนู๋ก็นำเจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานมาและบินไปทางเจียงอี้ขณะที่ถือเหลยฉีเหยียนมาด้วย เสียงอันเยือกเย็นของนางทำให้ทุกคนนิ่งทันที ทุกคน อย่าขยับ ไม่เช่นนั้น เหลยฉีเหยียนจะต้องตาย!
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานไม่เข้าใจเรื่องราวมากมาย แต่ตอนที่เจียงเสี่ยวนู๋คว้าตัวนางไปก่อนที่จะบินขึ้นไป บางเรื่องก็กระจ่างขึ้นมาทันที จากนั้นนางก็กรีดร้องออกมาด้วยความกลัว เจียงอี้ เจ้าบ้าไปแล้วหรอ….?
เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานใจเย็นก่อน ข้าจะช่วยแม่ของเจ้า เชื่อข้าและอย่าขัดขืนเลย ไม่เช่นนั้น…พวกเราจะตายกันหมด!
ราชวังจักรพรรดิปรากฏขึ้นในมือของเจียงอี้ขณะที่เขาพาเฉียนว่านก้วนและซือถูอีเนี่ยนเข้าไป ในตอนแรก เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานก็ต่อต้านเป็นอย่างมาก แต่นางก็ไม่กล้าขัดขืนอีกต่อไปเมื่อได้ยินประโยคที่เจียงอี้ส่งมา ทำให้นางเข้าไปในราชวังจักรพรรดิอย่างเชื่อฟัง
เจียงอี้ เจ้าคนทรยศ หากเจ้ากล้าแตะต้องลูกชายข้า วันนี้เจ้าจะต้องตายอย่างไม่มีการละเว้น!
เสียงคำรามที่เดือดดาลดังก้องมาจากเมืองเทพประทานขณะที่เจ๊ใหญ่กระพรวนกังวานถูกย้ายเข้าไปในราชวังจักรพรรดิ เงาจำนวนนับไม่ถ้วนเผยกลิ่นอายที่รุนแรงออกมา ดูเหมือนว่ายอดฝีมือทั้งหมดในเมืองจะมาที่นี่ ผู้ที่อยู่ด้านหน้าคือเหลยถิงเวย, หนานกงหยุนยี่, ลู่หลีและผู้อาวุโสจากสิบสามตระกูลอื่นๆอีกมากมาย บรึฟ!
ห้วงมิติที่ห่างจากเจียงอี้ไปหลายร้อยเมตรผันผวนและผู้คนนับไม่ถ้วนเดินออกมา ซือถูอ้าวได้นำผู้เชี่ยวชาญขอบเขตเทียนจุนห้าพันคนมาที่นี่ ข้างๆเขาคือซือถูนู่ที่ยืนอยู่เหนือท้องฟ้าอย่างหยิ่งผยอง
ซือถูอ้าวมองไปที่เหลยถิงเวยและคนอื่นๆก่อนจะถอนหายใจยาวๆ เจียงอี้ ครั้งนี้เจ้าถลำลึกไปแล้ว…