เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 850 วิวัฒนาการของจิ้งจอกน้อย
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 850 วิวัฒนาการของจิ้งจอกน้อย
เมืองหลวงอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณสี่ชั่วโมง เมืองนั้นใหญ่โตและมีขอบเขตเทียนจุนอยู่ที่นั่นอย่างน้อยหมื่นคน ทั้งเมืองหลวงเองก็ยังถูกสร้างด้วยไม้เช่นกัน แต่ถึงกระนั้น มันก็ยังดูงดงามมาก ทั่วทั้งเมืองเต็มไปด้วยใบไม้สีเขียวชอุ่ม, ดอกไม้สดและต้นไม้โบราณมากมาย ทำให้รู้สึกเหมือนว่าพวกเขาเข้าไปในเมืองธิดาเทพขนาดใหญ่
เจียงอี้ไม่มีอารมณ์ที่จะชมทิวทัศน์ขณะที่เขาเดินตามทั่วป๋าฉินเข้าไปในห้องโถงใหญ่ใจกลางปราสาทขนาดใหญ่ทันที ข้างในนั้นมีอาณาเขตค่ายกลโบราณขนาดใหญ่อยู่ ผู้อาวุโสกว่าสิบคนรออยู่ข้างๆค่ายกลนั้น จากนั้นทั่วป๋าฉินก็พยักหน้าให้เจียงอี้และพูดว่า ข้าเพียงแค่ต้องการเลือดสดจากเจ้าหนูน้อยนี่
เจียงอี้นำราชวังจักรพรรดิออกมาและเคลื่อนย้ายจิ้งจอกน้อยออกมาด้วย จิ้งจอกน้อยหลับอยู่ตลอดเวลาและเจียงอี้ก็ให้ทั่วป๋าฉินรับจิ้งจอกน้อยไป
เปิดใช้งานค่ายกลบรรพบุรุษ!
ทั่วป๋าฉินตะโกนออกมาขณะที่ผู้อาวุโสทั้งหมดใช้พลังอสูรสีขาวในเวลาเดียวกัน ค่ายกลนั้นก็สว่างขึ้นมาซึ่งมันถูกสลักไปด้วยภาพจิ้งจอกวิญญาณ จิ้งจอกวิญญาณห้าหาง, หกหางทั้งหมดนั้นดูราวกับว่าพวกมันมีชีวิตและพวกมันต่างก็รีบพุ่งออกมาจากภาพจำลอง พวกมันร่ายรำกันอยู่เหนือห้องโถงและคำรามออกมาเงียบๆ ในพริบตาเดียว มีจิ้งจอกอย่างน้อยหลายพันตนและมีจิ้งจอกหกหางเกือบร้อยตน
ลึกลับนัก!
เจียงอี้ตกตะลึงอยู่เงียบๆ จิ้งจอกสวรรค์หกหางอาจไม่มีกลิ่นอายปรากฏอยู่ แต่ดวงตาที่เย็นยะเยือกของมันยังคงทำให้ใจของเจียงอี้สั่น หากจิ้งจอกสวรรค์เหล่านี้ยังมีชีวิตอยู่ พวกมันจะต้องเป็นจิ้งจอกสวรรค์ที่เป็นจักรพรรดิและเจ้าอสูรเป็นแน่ ทั่วป๋าฉินใช้มือข้างหนึ่งจับอุ้งเท้าจิ้งจอกน้อยไว้ขณะที่มืออีกข้างของนางเปล่งแก่นแท้พลังออกมา จากนั้นนางก็ค่อยๆวาดไปตามอุ้งเท้าของจิ้งจอกน้อยทำให้ขนจิ้งจอกหลุดออกมาไม่กี่เส้นขณะที่เลือดไม่กี่หยดหยดออกมาจากอุ้งเท้าของจิ้งจอกน้อย จากนั้นทั่วป๋าฉินก็หมุนเวียนแก่นแท้พลังและส่งหยดเลือดเหล่านั้นไปยังค่ายกล
บรึฟ!
ภาพจิ้งจอกในค่ายกลทั้งหมดสว่างขึ้นและเริ่มร่ายรำเร็วขึ้น จิ้งจอกหลายตนคำรามออกมาเงียบๆในขณะที่ขนของพวกเขาตั้งตรงและเปล่งอนุภาพอันทรงพลังของสัตว์อสูรและปล่อยกลิ่นอายออกมา
ทั่วป๋าฉินค่อยๆส่งจิ้งจอกน้อยให้เจียงอี้ จากนั้นนางก็หลับตาลงและมือของนางก็เปล่งประกายพลังอสูรขณะที่นางเตรียมจะเปิดใช้ค่ายกลนี้ โดยใช้มันตรวจจับหาแม่ของจิ้งจอกน้อย กลิ่นอายของจักรพรรดินีสัตว์อสูร
บรึฟ! และในขณะนั้นเอง…!
มีสิ่งประหลาดเกิดขึ้น จิ้งจอกน้อยที่หลับใหลมานานหลายปี จู่ๆก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาที่เหมือนไข่มุกของมันเลือนลางขณะที่ร่างของมันบินเข้าไปในอาณาเขตค่ายกลโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างจิ้งจอกห้าและหกหางทั้งหมดพากันบินเข้าไปในร่างของจิ้งจอกน้อยนั้น และเพียงชั่วพริบตา ภาพจิ้งจอกหลายสิบภาพก็พุ่งเข้าไปในร่างของจิ้งจอกน้อย!
แม่เจ้า เมล็ดพันธุ์วิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์กำลังจะหายไปจริงๆหรือ?
อ๊ะ? ทำไมเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้?
ท่านจักรพรรดิ เราต้องหยุดมันเดี๋ยวนี้ จิ้งจอกน้อยตนนี้กำลังกินเมล็ดวิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์!
จิ้งจอกน้อย หยุดกินเมล็ดวิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์นะ ไม่เช่นนั้นเราจะสังหารเจ้าอย่างไร้ปรานี!
… ผู้อาวุโสต่างพากันตกตะลึงและพวกเขาก็เริ่มโกรธเคืองขณะที่พวกเขาตะโกนออกมาอย่างดุเดือด ผู้อาวุโสไม่กี่คนกำลังเตรียมจะเคลื่อนไหว ตัวทั่วป๋าฉินเองก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจขณะที่นางหยุดทุกอย่างและตะโกนว่า ทุกคนอย่าขยับ จิ้งจอกน้อยตนนี้ต้องไม่ธรรมดา ถึงได้กินเมล็ดวิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์ได้ นางอาจมีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์อยู่ในสายเลือดของนางเล็กน้อย ไม่เช่นนั้น นางคงไม่สามารถกินเมล็ดวิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์ได้ สังเกตกันก่อนที่จะลงมือ!
นี่มัน…
เจียงอี้เองก็กังวลเช่นกันเนื่องจากการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันของจิ้งจอกน้อยทำให้เขากลัวจริงๆ เขามีสัมพันธ์ที่ดีกับนางและเขาสัญญากับจักรพรรดินีสัตว์อสูรไว้แล้วว่าจะดูแลนางอย่างดี และเมื่อทั่วป๋าฉินพูดเช่นนี้ เขาจึงไม่กล้าทำอะไรประมาทเลยและมองไปทางเทวาทมิฬและเชียนเชียน ดวงตาของเทวาทมิฬเป็นประกายในขณะที่เขามองเข้าไปใกล้ๆจิ้งจอกน้อยและพูดว่า ไม่ต้องกังวล ไม่มีสิ่งใดเกิดกับจิ้งจอกน้อยหรอก จริงๆแล้วมันถือเป็นโอกาสที่ดีด้วย
เชียนเชียนพยักหน้าและส่งข้อความ เจียงอี้ จิ้งจอกน้อยกำลังได้สิ่งที่ดีมาก เมล็ดวิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้น่าจะเป็นพลังงานอสูรลี้ลับที่ยอดฝีมือรุ่นก่อนของจิ้งจอกสวรรค์ทิ้งเอาไว้โดยใช้ความสามารถอันทรงพลัง หากจิ้งจอกน้อยดูดซับพลังนี้ได้ มันจะวิวัฒนาการได้ในเวลาอันสั้น และคราวนี้มันอาจจะพัฒนาเป็นจักรพรรดินีหรือพัฒนาไปถึง….เจ้าอสูรเลย!
เจ้าอสูร?
เจียงอี้กระพริบตาแต่เขายังคงมีสีหน้าย่ำแย่ เขาไม่ได้กังวลกับความแข็งแกร่งของจิ้งจอกน้อยตราบเท่าที่มันปลอดภัย
จิ้งจอกน้อยอยู่ในค่ายกล ดวงตาของมันก็เลือนราง ร่างกายของมันค่อยๆหมุนไปขณะที่ภาพของจิ้งจอกสวรรค์กำลังฝังเข้าไปในร่างของมัน
ไม่ถึงสิบนาทีต่อมา หลังจากที่ภาพจิ้งจอกเกือบพันภาพพุ่งเข้าไปในร่างจิ้งจอกน้อย จิ้งจอกน้อยก็หยุดนิ่งอยู่ในค่ายกลอย่างสงบ
จี๊ จี๊ จี๊!
ทันใดนั้นเอง จิ้งจอกน้อยก็ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดและดวงตาของมันก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ร่างเล็กๆของมันสั่นเทาอย่างรุนแรงขณะที่ดวงตาใสๆของมันมองไปรอบๆ หลังจากที่ได้เห็นเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋ ดวงตาของมันก็เปล่งประกายด้วยแสงสีขาวและข้อความก็ปรากฏขึ้นในใจของเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋
พี่ใหญ่ เสี่ยวเฟยอึดอัดนัก ช่วยข้าด้วย!
พี่ใหญ่เสี่ยวนู๋ ช่วยข้าที
บรึฟ! ร่างของเจียงอี้เต็มไปด้วยกลิ่นอายและต้องการช่วยเสี่ยวเฟยโดยไม่สนใจอะไร หลังชุดของเสี่ยวนู๋เองก็แผ่ปีกออกมาขณะที่กรงเล็บของนางก็ปรากฏออกมาด้วยขณะที่นางวิ่งไปทางเสี่ยวเฟยทันทีด้วยกลิ่นอายสังหารที่เต็มเปี่ยม
กลับมานี่!
ร่างของเทวาทมิฬสว่างวาบและมาปรากฏอยู่ที่ด้านหลังของเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋ด้วยความรวดเร็วและคว้าตัวพวกเขาไว้ จากนั้นเขาก็ตะโกนออกมาอย่างแข็งกร้าว อย่าขยับ ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าจะถูกค่ายกลสังหาร
หืม?
ดวงตาของเจียงเสี่ยวนู๋เป็นประกายด้วยแสงสีเขียวขณะที่กรงเล็บของนางกำลังจะฟันไปที่เทวาทมิฬอย่างไร้ปรานี นางไม่ได้สนใจอะไรมากเพราะนางเพียงแค่ต้องการช่วยเสี่ยวเฟย หากผู้ใดกล้าขัดขวางนาง นางจะสังหารผู้นั้นซะ เสี่ยวนู๋ หยุดนะ!
เจียงอี้ตกใจมาก หากเทวาทมิฬโกรธเคือง เขาก็สามารถดับเจียงเสี่ยวนู๋ด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวได้
กรงเล็บของเจียงเสี่ยวนู๋เข้าไปใกล้คอของเทวาทมิฬแล้ว แต่หลังจากที่ได้ยินเสียงของเจียงอี้ มันก็หยุดลงทันทีขณะที่ดวงตาของเทวาทมิฬเผนร่องรอยความเย้ยหยันขณะที่เขาพูดกับเสี่ยวนู๋ด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า หนูน้อย อารมณ์เจ้าค่อนข้างรุนแรงนักนะ? เจ้าเชื่อไหมว่าข้าสามารถสังหารเจ้าได้เพียงแค่มองเจ้าน่ะ?
ท่านเทวาทมิฬ สงบก่อนเถอะ เสี่ยวนู๋แค่ไม่รู้ความ!
เจียงอี้พูดอย่างขอโทษขอโพยขณะที่เชียนเชียนเองก็ไกล่เกลี่ยให้และพูดว่า ลุงทมิฬ ท่านน่าจะใจกว้างและอย่าใจแคบกับน้องเสี่ยวนู๋เลย
ฮึ่ม! เทวาทมิฬคำรามออกมาและถอนมือออกขณะที่เจียงอี้เองก็ดึงตัวเจียงเสี่ยวนู๋มาขณะที่เขากลัวว่านางจะทำอะไรบ้าบิ่นอีก ทั้งสองมองไปตรงกลางด้วยดวงตาที่สับสน
จี๊ จี๊….
จิ้งจอกน้อยยังคงร้องออกมาขณะที่กำลังทรมาน แต่ร่างของมันสว่างไสวด้วยแสงสีรุ้งขณะที่ร่างของมันใหญ่ขึ้น หางทั้งสามของมันก็แยกและเปิดตรงกลางออกมาขณะที่อีกหางค่อยๆโผล่ออกมาช้าๆ
สวรรค์!
เจ้าหนูนี่กำลังวิวัฒนาการ!
จิ้งจอกน้อยตนนี้อาจเป็นจิ้งจอกสวรรค์ในตำนานที่มีสายเลือดศักดิ์สิทธิ์หรือเปล่า? ไม่เช่นนั้น มันจะกินเมล็ดวิญญาณบรรพบุรุษศักดิ์สิทธิ์และวิวัฒนาการได้อย่างไร?
ผู้อาวุโสทุกคนเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกขณะที่พวกเขาพึมพำไม่หยุดขณะที่ดวงตาของทั่วป๋าฉินเองก็มีความตื่นเต้น นางโบกมือและตะโกนว่า ทุกคนเงียบก่อน และห้ามทำให้การวิวัฒนาการเกิดผลกระทบ!
ในเวลาเดียวกันนางก็มองไปยังจิ้งจอกน้อยด้วยดวงตาที่อ่อนโยนและพูดว่า เด็กน้อย ไม่ต้องกังวลไป เจ้าไม่ได้ตกอยู่ในอันตราย เจ้าแค่กำลังวิวัฒนาการ เราทุกคนเป็นสมาชิกเผ่าพันธุ์เจ้า เมื่อมีเราอยู่ใกล้ๆ เจ้าจะไม่เกิดอันตรายใดๆ หลังจากที่วิวัฒนาการแล้ว เราจะช่วยเจ้าตามหาแม่ของเจ้า ตกลงไหม?
เจียงอี้ยังคงส่งข้อความเสียงไปด้วย เสี่ยวเฟย อย่ากลัวไปและมีสมาธิกับการวิวัฒนาการนะ ตอนนี้เราอยู่ทวีปจิ้งจอกสวรรค์ และหลังจากเจ้าวิวัฒนาการเสร็จแล้ว เราจะไปหาท่านแม่ของเจ้าด้วยกัน
ใจที่หวาดกลัวของจิ้งจอกน้อยค่อยๆสงบลง เมื่อเจียงอี้และเจียงเสี่ยวนู๋ก็อยู่ที่นี่ด้วย มันจึงคลายกังวลไป จากนั้นมันก็หลับตาและเริ่มวิวัฒนาการขณะที่ใจเริ่มสงบ หางอีกหางโผล่ออกมาจากด้านหลังช้าๆ แล้วก็อีกหาง….ซึ่งมันทำให้ทั่วป๋าฉินและคนอื่นๆเริงร่า หางทั้งห้าหมายถึงความแข็งแกร่งขั้นจักรพรรดิสัตว์อสูร หากจิ้งจอกน้อยมีหางเพิ่มอีกหาง มันจะกลายเป็นเจ้าอสูรทันที
…