เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 853 ข้ากำลังฝันไปหรือเปล่า
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 853 ข้ากำลังฝันไปหรือเปล่า
เมื่อจักรพรรดิจิ้งจอกทมิฬออกคำสั่ง หญิงร่างท้วมทั้งสองที่อยู่ข้างๆเขาก็พุ่งใส่เขาทั้งสองข้างทันที พวกเขากลายเป็นร่างสามเหลี่ยม และผู้หญิงทั้งสองกับจักรพรรดิจิ้งจอกทมิฬก็เปล่งประกายด้วยแสงสีดำ ดูเหมือนว่าพวกเขากำลังตั้งค่ายกลบางอย่างขึ้นมา
ฮึ่ม!
เทวาทมิฬกวาดมองพวกเขาอย่างเย็นชาและไม่ได้สนใจพวกเขาพร้อมกับปล่อยหางมังกรซึ่งพุ่งปะทะเข้ากับค่ายกลใหญ่ที่อยู่บนเขาห่างออกไป เสียงสะเทือนดังก้องไปทั่ว ม่านพลังที่อยู่รอบๆเขาสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงก่อนที่จะถูกเปิดออก ราวกับเปลือกไข่ที่แตก แต่กระนั้นค่ายกลใหญ่นี้ก็ค่อนข้างแข็งแกร่งและไม่ได้ทลายลง
เชียนเชียน เจียงอี้ ไปช่วยคน ทั่วป๋าฉินกับข้าจะสังหารสามคนนี้ ส่วนผู้อาวุโสที่เหลือคอยคุ้มกันเชียนเชียนและเจียงอี้!
เมื่อเทวาทมิฬพูดจบ เขาก็บินไปยังจุดที่สามคนอยู่ ส่วนทั่วป๋าฉินก็ดูมีความสุขมาก นางรีบพุ่งขึ้นไปบนฟ้า ร่างของเชียนเชียนเปล่งประกายสีเขียวก่อนที่โล่สีเขียวจะปรากฏอยู่รอบๆตัวนาง ผมสีเขียวของนางกระพือและนางก็เหวี่ยงแส้สีเขียวที่อยู่ในมือไปยังจิ้งจอกทมิฬที่เหลืออยู่ด้านหน้า
บรึฟ!
ราชวังจักรพรรดิปรากฏขึ้นในมือของเจียงอี้และเขาก็นำจิ้งจอกน้อยเข้าไป จากนั้นเขาก็กลายเป็นดั่งวายุพัดไปด้านหน้า เกราะเมฆาอัคคีและโล่ศักดิ์สิทธิ์ปรากฏขึ้นรอบตัวเขาและดาบมังกรเพลิงและดาบอ่อนก็ปรากฎขึ้น ดวงตาของเขาแดงก่ำราวกับเลือด จากนั้น เจตจำนงสังหารก็ถูกปล่อยออกมา
เจียงอี้กวัดแกว่งดาบทั้งสองเล่มพร้อมกัน เสียงอันน่าสะพรึงนั้นกลายเป็นคลื่นเสียงที่แผ่ไปด้านหน้า เขาปล่อยทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา แต่เขาจำกัดพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ไม่เช่นนั้น เชียนเชียนและผู้อาวุโสเองก็คงจะไม่สามารถต้านมันได้
วู่ วู่!
เสียงวิญญาณที่น่าสยดสยองปรากฏขึ้น ในบรรดาจิ้งจอกทมิฬที่ยังเหลืออยู่หลายร้อยคน มีหลายคนที่บิดตัวอยู่บนฟ้าด้วยความเจ็บปวด มีเพียงขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดเท่านั้นที่ยังคงต้านเสียงนี้ได้ แต่พวกเขาก็รู้สึกแย่เหมือนกับคนอื่นๆ พวกเขาต้องการจู่โจมเป็นอย่างมาก แต่ดวงจิตของพวกเขาก็ถูกทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์โจมตีอย่างต่อเนื่องและเจตจำนงสังหารทำให้พวกเขาไม่สามารถโจมตีได้
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
เมื่อเชียนเชียนเห็นคลื่นเสียงแผ่กระจายออกมาราวกับระลอกคลื่น นางก็หยุดตัวเองอย่างรวดเร็วและไม่กล้าเข้าไปในบริเวณนั้น แส้นุ่มๆในมือของนางตวัดกวัดแกว่งไปเรื่อยๆโดยมีแสงสีเขียวส่องประกายอยู่ มันพุ่งไปข้างหน้าราวกับอสรพิษและรัดคอจิ้งจอกทมิฬขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดไว้ได้อย่างง่ายดาย จากนั้นนางก็เหวี่ยงแส้เบาๆ ซึ่งหัวของจิ้งจอกทมิฬก็หลุดออกจากร่างไปอย่างง่ายๆ แส้นุ่มๆนี้คมกริบราวกับสมบัติเชื่อมดวงจิตของมนุษย์
ตูม! ตูม! ตูม!
เหนือเก้าสวรรค์ เมฆได้เคลื่อนตัวและลมพัดผ่านมา จากนั้นสายฟ้าก็ฟาดลงมาจากเก้าสวรรค์ ซึ่งเป้าของพวกมันทั้งหมดพุ่งลงมายังจิ้งจอกทมิฬขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด จิ้งจอกทมิฬหลายตนตระหนักได้แค่ตอนก่อนที่พวกเขาจะถูกโจมตีและถูกห้อมล้อมด้วยหมอกครึ้ม อย่างไรก็ตาม สายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็ตัดผ่านหมอกและโจมตีพวกเขาทันที จากนั้นร่างของจิ้งจอกทมิฬก็ถูกแผดเผาไป แม้ว่าพวกเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่พวกเขาก็บาดเจ็บสาหัส
ซื่อ ซื่อ….
ก่อนที่ผู้อาวุโสจิ้งจอกขาวทั้งสิบจะเริ่มโจมตี เขาก็เห็นเชียนเชียนและเจียงอี้สังหารจิ้งจอกทมิฬขั้นสูงสุดหลายคนในชั่วพริบตาพวกเขาทั้งหมดจึงอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง พวกเขาคิดว่าทั้งสองเพียงแค่มีภูมิหลังที่พิเศษและอ่อนแอ แต่พวกเขาไม่คาดคิดว่าทั้งสองจะป่าเถื่อนกว่าพวกเขาเสียอีก ผู้อาวุโสทั้งสิบจึงหยุดโจมตีและเพียงแค่ยืนอยู่ข้างหลังเจียงอี้และเชียนเชียนเป็นสองแถวเพื่อคอยคุ้มกันพวกเขา
ตูม! ตูม! ตูม!
เหนือท้องฟ้า, เทวาทมิฬ, ทั่วป๋าฉินและจักรพรรดิจิ้งจอกทมิฬทั้งสามก็เริ่มสู้กันเช่นกัน ซึ่งมันน่ากลัวยิ่งกว่า ตอนที่เจียงอี้และคนอื่นๆได้ยินเสียงระเบิดและมองกลับไป สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไป
ไม่มีร่องรอยของห้าปรมาจารย์เหล่านั้นเลย สิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นคือห้วงอากาศแตกออกเป็นเสี่ยงๆและถูกฉีกเป็นชิ้นๆ การโจมตีอันน่าสะพรึงนั้นพุ่งมายังพวกเขาราวกับคลื่นที่โหมกระหน่ำซึ่งทำให้ทุกคนตกลงไป
ปัง! ปัง! ปัง!
เจียงอี้และเชียนเชียนถูกกระแทกไปยังภูเขา โล่ของพวกเขาพังทลายพร้อมกัน แต่เชียนเชียนสวมชุดเกราะมรกตที่งดงามอยู่ภายในซึ่งมันมีอักขระที่ส่องประกาย เห็นได้ชัดว่ามันเป็นสมบัติเชื่อมดวงจิต เจียงอี้ยังมีเกราะเมฆาอัคคีที่คอยปกป้องเขา ดังนั้นจึงไม่มีผู้ใดได้รับบาดเจ็บเลย
ฟรึ่บ!
พวกเขาไม่ได้สนใจการต่อสู้บนท้องฟ้าอีกต่อไป เจียงอี้ไม่แม้แต่จะมองไปที่นั่น เขาจะต้องช่วยจักรพรรดินีสัตว์อสูรให้ได้เร็วที่สุด หากมีอะไรผิดพลาด เขาก็จะใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีไป การต่อสู้ระหว่างเจ้าอสูรน่ากลัวเกินไป ซึ่งไม่มีทางที่คนระดับอย่างพวกเขาจะเข้าไปมีส่วนร่วมได้
วู่ วู่..
หลังจากที่เจียงอี้บินออกมาจากภูเขา สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาก็พบเจอจิ้งจอกทมิฬขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดอีกแปดตนที่เหลือและเขาก็ปล่อยเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์ออกมา ต่อจากนั้นเขาก็ปล่อยอัสนีพิโรธออกมาด้วยโดยไม่สนใจว่าเขาจะถูกผลกระทบในร่างกายหรือไม่ ความสำคัญของเขาในตอนนี้คือการฆ่า
ฆ่า!
เชียนเชียนเองก็พุ่งมาจากเขาอีกลูกเช่นกัน แส้สีเขียวของนางพุ่งไปข้างหน้าซึ่งทำให้ขอบเขตเทียนจุนจำนวนมากที่บินออกมาต่างถูกแส้ของนางตัดคอก่อนที่หัวของพวกเขาจะตกลงไปที่พื้น สมบัตินี้ทรงพลังอย่างน่าสะพรึง
ตูม! ตูม! ตูม!
สายฟ้าฟาดลงมาซึ่งมันสร้างบาดแผลให้ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดที่เหลืออยู่ เจียงอี้ตะโกนใส่ผู้อาวุโสจิ้งจอกขาวที่อยู่ข้างหลังเขา สังหารจิ้งจอกทมิฬที่เหลืออยู่ทั้งหมด เชียนเชียน คุ้มกันข้า ข้าจะทำลายค่ายกล!
ได้เลย!
ผู้อาวุโสสิบตนกลายเป็นแสงสีขาวสิบสายและบินไปด้านหน้า พวกเขาทั้งหมดล้วนเป็นขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุด ซึ่งมันง่ายมากที่พวกเขาจะสังหารขอบเขตเทียนจุนระดับต่ำไม่กี่คน ส่วนเชียนเชียนก็บินไปอยู่ใกล้ๆเจียงอี้เพื่อกันไม่ให้ผู้ใดมาโจมตีเขา
จี๊! จี๊!
เจียงอี้ไม่ได้ปล่อยทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้วและพุ่งเป้ามาใช้อัสนีพิโรธแทน ซึ่งมันได้ปะทะค่ายกลด้านหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ค่ายกลใหญ่นี้ใกล้จะแตกสลายอยู่แล้วหลังจากถูกเทวาทมิฬโจมตีไป เมื่อมีการโจมตีของอัสนีพิโรธอย่างไม่หยุดยั้งของเจียงอี้ มันก็เกิดรอยแตกร้าวมากขึ้นซึ่งมันจะระเบิดตอนไหนก็ได้
ตูม! ตูม! ตูม!
ที่เหนือท้องฟ้า เสียงระเบิดนั้นดังขึ้นอย่างไม่สิ้นสุดและห้วงอากาศก็แตกออก หางมังกรของเทวาทมิฬส่องประกายเป็นครั้งคราว ส่วนทั่วป๋าฉินก็ปล่อยคลื่นแสงสีขาวออกมาปะทะกับแสงสีดำจากจักรพรรดิจิ้งจอกทมิฬทั้งสามครั้งแล้วครั้งเล่า คลื่นที่น่าสยดสยองทำให้ภูเขาสั่นสะเทือน บางครั้งก็มีกระแสแสงพุ่งลงมายังภูเขาเบื้องล่าง ทำให้ภูเขาสูงหลายร้อยเมตรแตกเป็นเสี่ยงๆ ดิน, ควันและหินปกคลุมไปทั่วภูเขา
ฮึ่ม มีน้ำยาแค่นี้เอง?
เสียงเย็นชาของเทวาทมิฬดังขึ้นมา เหล่าพวกขอบเขตเทียนจุนที่อยู่ด้านล่างมองไม่เห็นด้วยซ้ำ เขาเร็วมากๆ แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากที่พวกเขาได้ยินเสียงเทวาทมิฬ จักรพรรดินีจิ้งจอกทมิฬตนหนึ่งก็ถูกหางมังกรฟาดกระแทกเข้าไปกับภูเขา ในขณะที่ภูเขานั้นทลายลงเป็นเถ้าถ่าน โพรงลึกกว้างจนไม่เห็นก้นหลุมกว่าสามร้อยเมตรปรากฏขึ้นมาและจักรพรรดินีที่ถูกกระแทกไปที่ภูเขานี้ก็ตกลงไปในหลุมนั้น
อ๊าก…. เฮยจี ข้าจะฆ่าพวกเจ้าทุกคน!
เสียงคำรามดังขึ้นซึ่งมันเต็มไปด้วยความโกรธและความกังวล เห็นได้ชัดว่าจักรพรรดินีถูกสังหารไปหรือไม่ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส จากนั้นทั่วป๋าฉินก็เย้ยหยันว่า เฮยหู เผ่าจิ้งจอกทมิฬของเจ้าทำเรื่องไร้คุณธรรมมามากมาย ในวันนี้เป็นวันที่พวกเจ้าทั้งสามจะต้องตาย!
เสียงของเทวาทมิฬดังขึ้นอีกครั้ง ระดับเจ้า แม้ว่าพวกเจ้าจะหาตัวช่วยมาเพิ่มอีก ข้าก็จะทุบเจ้าจนสลายไป มดจะกล้ามาเขย่าฟ้าได้อย่างไร?!
ตูม!
ณ ใจกลางเขาที่อยู่ห่างไกลออกไป ในที่สุดค่ายกลนั้นก็แตกสลายลง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเจียงอี้ก็กวาดไปข้างในนั้นทันที ในไม่ช้าเขาก็ค้นพบร่างที่คุ้นเคยอยู่ในเหมือง เมื่อกวาดมองไปในนั้น เขาก็ดูอัปลักษณ์มากในทันที
มีสายแร่ด้านล่างที่มีเหมืองและทาสมากมายนับไม่ถ้วน พวกเขาเหล่านั้นล้วนเป็นเหล่าขอบเขตเทียนจุนปกติที่มีร่างเป็นมนุษย์ ในนั้นน้อยกว่าครึ่งหนึ่งเป็นจิ้งจอกขาวและจิ้งจอกฟ้า แกนอสูรของคนงานในเหมืองทั้งหมดตายสนิท เห็นได้ชัดว่าพวกเขาพิการในการบ่มเพาะพลังแล้ว ขนของเหล่าจิ้งจอกขาวและจิ้งจอกฟ้าลอกออกมาจากผิวหนังและมีอาการบาดเจ็บมากมายตามร่างกาย ส่วนเหล่าขอบเขตเทียนจุนก็ไม่มีชิ้นดีและเต็มไปด้วยรอยแผลเป็น ดวงตาของพวกเขาอึมครึมและไม่มีชีวิตชีวาเลย
จักรพรรดินีสัตว์อสูรก็เป็นหนึ่งในนั้น นางไม่มีราศีเหมือนก่อนอีกต่อไปและกลับกลายเป็นหญิงชราแทน ร่างกายและใบหน้าของนางก็เต็มไปด้วยแผลเป็นที่น่าเกลียด ขาข้างหนึ่งของนางเดินกะเผลกอยู่บนพื้นซึ่งเปื้อนไปด้วยเลือด นางมองไปที่กลางอากาศด้วยดวงตาที่สับสน
เมื่อเห็นเช่นนี้ เจียงอี้ก็สะอื้นไห้และร้องออกมา จักรพรรดินีสัตว์อสูร ข้าเจียงอี้เอง!
จักรพรรดินีสัตว์อสูรดูสับสนยิ่งขึ้นและนางจ้องเจียงอี้ด้วยความสับสนชั่วขณะก่อนที่ดวงตาของนางจะวูบวาบในทันใด นางสั่นเทาด้วยความไม่เชื่อและในที่สุดนางก็พูดออกมา จะ…เจียงอี้? เจ้าคือ..เจียงอี้….จากทวีปเทียนชิงจริงๆหรือ? นี่ข้ากำลังฝันไปหรือเปล่า?