เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 859 กล้วยไม้เขี้ยวเพลิง
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 859 กล้วยไม้เขี้ยวเพลิง
มีสมบัติมากมายในปฐพีนี้และมีสมบัติมากมายที่ทำให้คนเปลี่ยนรูปลักษณ์ภายนอกได้ เช่น ยาแปลงกายเพื่อการเปลี่ยนรูปลักษณ์, หน้ากากร้อยหน้า, หินลวงตา อย่างไรก็ตาม ดวงจิตของผู้คนนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้เนื่องจากมันเป็นดวงจิตที่อยู่ข้างใน ไม่ว่าคนเหล่านั้นจะเปลี่ยนรูปร่างไปมากเพียงใด แต่มันก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเปลี่ยนดวงจิตใช่ไหมล่ะ?
นั่นจึงเป็นสาเหตุที่นักโหราศาสตร์เป็นที่นิยมมากในทวีปจักรพรรดิบูรพา นักโหราศาสตร์ติดตามศัตรูทุกประเภทได้ซึ่งช่วยให้ตระกูลใหญ่โจมตีคนเหล่านั้นได้ ยอดฝีมือในทวีปจักรพรรดิบูรพาจึงไม่เคยกล้ายั่วยุตระกูลใหญ่ๆที่มีนักโหราศาสตร์เลย
หากเจียงอี้เปลี่ยนกลิ่นอายดวงจิตและรูปลักษณ์ของเขาได้ เสียเฟยจะไม่รู้จักเขาแม้ว่าเขาจะยืนอยู่ข้างๆ หรือแม้แต่เจียงอี้สังหารเสียเฟย เขาก็ใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีไปและเปลี่ยนรูปลักษณ์และกลิ่นอายดวงจิตได้ทันทีขณะที่ตระกูลเสียทำได้เพียงมองดูอย่างไร้หนทาง มันคงเป็นไปไม่ได้ที่ตระกูลเสียจะสังหารคนสุ่มสี่สุ่มห้าใช่ไหมล่ะ?
ความสามารถที่จะหนีได้ตามปรารถนา, ความสามารถที่จะซ่อนตัวได้ตามปรารถนา และความสามารถในการสังหารได้ตามปรารถนา!
เมื่อเจียงอี้คิดเรื่องนี้ ร่างกายของเขาก็สั่นสะท้าน หากเขาเข้าถึงวิชาเทพพลางตาได้ จะมีที่ใดในโลกนี้ที่เขาไม่สามารถไปได้บ้าง? ไม่ว่าเก้าตระกูลจักรพรรดิจะเก่งกาจเพียงใด แต่พวกเขาจะทำอะไรเขาได้? เขาจะหาทางหาข้อมูลของซูรั่วเสวี่ยแล้วหาทุกทางเพื่อช่วยนาง เขายังเดินทางไปตามทวีปจักรพรรดิบูรพาและตามหาข้อมูลของอีเพียวเพียวและหยูเวินได้ด้วย
ใช่แล้ว……
เมื่อนึกถึงอีเพียวเพียวและหยูเวิน เจียงอี้ก็หายใจสองเฮือกและบังคับให้ตัวเองสงบสติ จากนั้นเขาก็มองเอ๋าหลูและถามว่า ผู้อาวุโส ท่านช่วยข้าตามหาหญิงที่มีนามว่าอีเพียวเพียวและผู้เชี่ยวชาญชื่อหยูเวินได้หรือไม่? บุคคลสองคนนี้น่าจะเป็นสมาชิกตระกูลใหญ่จากทวีปจักรพรรดิบูรพา
ทะเลลึกไร้สิ้นสุดและทวีปจักรพรรดิบูรพาอยู่คนละฝ่ายกันและพวกเขายังคอยป้องกันและกันการโจมตีของกันและกันด้วย เจียงอี้เดาว่าทะเลลึกไร้สิ้นสุดนั้นมีเผ่าพันธุ์ที่ลึกลับมากมาย พวกเขาจะต้องมีหน่วยสอดแนมที่ซ่อนอยู่ในทวีปจักรพรรดิบูรพาเพื่อหาข้อมูลแน่ ยิ่งกว่านั้นคือ ข้อมูลที่พวกเขามีน่าจะแม่นยำกว่าเผ่าเทพประทานร้อยเท่าพันเท่า
ง่ายมาก!
เอ๋าหลูตะโกนออกมาอย่างไม่ลังเล อัญเชิญจักรพรรดิแห่งเงาเข้ามา
ชิ้ง!
มีลมเล็กน้อยขณะที่เจ้าอสูรที่สวมเกราะสีเขียวปรากฏตัวขึ้นในห้องโถง เจียงอี้ไม่รู้ว่าเขาเข้ามาได้อย่างไร เขาแทบไม่รู้สึกถึงคลื่นพลังใดๆจากห้วงอากาศเลย
เอ๋าหลูจ้องไปยังจักรพรรดิแห่งเงาและถามว่า เจ้ารู้จักหญิงที่มีนามว่าอีเพียวเพียวในทวีปจักรพรรดิบูรพาหรือไม่? และอีกคนมีนามว่าหยูเวิน เจียงอี้บอกว่าพวกเขามาจากตระกูลใหญ่
จักรพรรดิเงามีรูปลักษณ์ที่ไม่ธรรมดาและไม่มีใครจะมองเขาได้ทันในรอบที่สองหากว่าพวกเขาให้จักรพรรดิเงาไปอยู่ในหมู่ผู้คน เขานิ่งไปครู่หนึ่งแล้วป้องมือพร้อมพูดว่า องค์จักรพรรดิ ข้าขอเวลาหนึ่งชั่วโมงเพื่อไปเรียบเรียงข้อมูลก่อนขอรับ
ไปเถอะ!
หลังจากเอ๋าหลูโบกมือ ร่างของจักรพรรดิเงาก็หายไปราวกับสายลมอีกครั้ง ซึ่งเจียงอี้มองไม่เห็นแม้แต่เงาใดๆขณะที่จักรพรรดิเงาหายตัวไป เขารู้สึกวิตกเพราะเขาไม่รู้ว่าจักรพรรดิเงาจะตรวจสอบอะไรได้หรือไม่
เจ้าหนู อย่ากังวลไป
เอ๋าหลูพูดอย่างภาคภูมิว่า เผ่าพันธุ์ของจักรพรรดิเงาเข้ามาและจากไปโดยไม่มีแม้เงาหรือร่องรอยใดๆ และพวกเขาไม่ได้เป็นหนึ่งในหน่วยสอดแนมที่ดีที่สุดในแดนเทียนชิง แต่เป็นเผ่าที่ดีที่สุดอย่างแท้จริง พวกเขามีบันทึกของสมาชิกทวีปจักรพรรดิบูรพาทั้งหมด หากสองคนนี้มีตัวตนอยู่จริง เขาจะหาทั้งสองคนนั้นเจออย่างแน่นอน
ยอดมากเลยขอรับ!
เจียงอี้พยักหน้าเหมือนลูกไก่ จากนั้นคิ้วของเอ๋าหลูก็เลิกขึ้นขณะที่เขาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า เจ้าหนู เกี่ยวกับเรื่องก่อนหน้านี้ เจ้าตกลงไหม? หากเจ้าไม่ตกลง ข้าจะไม่ช่วยเจ้าตามหาคนที่เจ้ากำลังตามหาอยู่
แน่นอน!
เจียงอี้กัดฟันและพยักหน้า ผู้อาวุโส หากข้าเปลี่ยนกลิ่นอายดวงจิตได้จริง ข้าจะเดินทางไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพา และข้าจะทำอย่างสุดความสามารถเพื่อให้ได้ราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับมา ข้าจะทำให้มั่นใจด้วยว่า….จะทำลายและคว่ำทวีปจักรพรรดิบูรพาซะ
ก็ดี!
เอ๋าหลูหัวเราะอย่างเต็มที่และพูดว่า เจ้าสงบจิตใจตัวเองได้ เมื่อถึงเวลานั้น พวกหุ่นเชิดมนุษย์เหล่านั้นที่อยู่ในอำนาจของเผ่าพันธุ์อสูรของเราทั้งหมดจะให้เจ้านำไปใช้ได้ แต่แน่นอนว่า…เจ้าห้ามแตะต้องหน่วยสอดแนมและสมาชิกเผ่าพันธุ์ปีศาจและอสูรที่ซ่อนอยู่ในทวีปจักรพรรดิบูรพา ไม่เช่นนั้น เก้าตระกูลจักรพรรดิจะกวาดล้างเรา และยิ่งไปกว่านั้น หากเจ้าระดมพลสมาชิกเผ่าพันธุ์เรา เจ้าจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของมนุษย์ มนุษย์นั้นขัดแย้งกันเองได้ แต่ต้องไม่สมรู้ร่วมคิดกับเผ่าพันธุ์อสูร นั่นคือกฎของทวีปจักรพรรดิบูรพา
ขอบคุณผู้อาวุโส
เจียงอี้คำนับขณะที่ดวงตาของเขากระพริบไปมา ขณะที่เขานึกถึงเจียงเสี่ยวนู๋ได้และถามอีกครั้งว่า ผู้อาวุโส ท่านเคยได้ยินเกี่ยวกับเผ่าพันธุ์ขนนกสีหมึกบ้างหรือไม่ขอรับ? นั่นเป็นเผ่าพันธุ์ของน้องสาวข้า ตอนที่เผ่าพันธุ์ของพวกเขาไม่แปลงกาย พวกเขาจะไม่มีความแข็งแกร่งในการต่อสู้เลย แต่เมื่อแปลงกาย พวกเขาจะมีความแข็งแกร่งขึ้นมาก ตอนนี้วิชาศาสตร์ศักดิ์สิทธิ์ขนนกสีหมึกของนางมาถึงระดับสองขั้นสูงสุดแล้ว และความแข็งแกร่งของนางก็มาถึงขอบเขตเทียนจุนแล้ว แต่น่าเสียดายที่นางไม่มีวิธีที่จะฝึกฝนขั้นที่สามเลย
มีเผ่าพันธุ์ลึกลับเช่นนี้ด้วย?
เอ๋าหลูประหลาดใจเล็กน้อยขณะที่เขาส่ายหัวและพูดว่า ทวีปจักรพรรดิบูรพามีเผ่าพันธุ์พิเศษมากมาย แต่ข้าไม่เคยได้ยินเผ่าพันธุ์ขนนกสีหมึกมาก่อน เมื่อจักรพรรดิเงากลับมา เจ้าค่อยถามเขาก็ได้ ข้าอยู่ในราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับมากว่าเจ็ดแสนปี แดนเทียนชิงคงมีอะไรเปลี่ยนไปมากมายนัก ขอรับ!
เจียงอี้ตอบกลับและตั้งตารอจักรพรรดิเงากลับมา และเขาตั้งตารอมากเสียจนแม้แต่การหายใจก็ยังแปรเปลี่ยนไป เอ๋าหลูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้นอีกครั้งว่า เจ้าหนู ข้ามีบางอย่างที่ต้องการจะขอความช่วยเหลือ มันเป็นเรื่องของเชียนเชียน
เชียนเชียน?
เจียงอี้ขมวดคิ้วและยืนขึ้นเพื่อถามว่า เกิดอะไรขึ้นกับเชียนเชียน? ผู้อาวุโสโปรดบอกข้ามาเลย
ร่างกายของเอ๋าหลูมีร่องรอยของกลิ่นอายสังหารแผ่ออกมาอย่างกะทันหันซึ่งทำให้ห้องโถงทั้งห้องนิ่งสงัดไป เขาถอนหายใจเล็กน้อยและพูดว่า เผ่าพันธุ์เต่าทมิฬของเรามีอายุยืนยาวมากและมีความสามารถในการป้องกันที่แกร่งกล้า เราแทบจะถือว่าเป็นอมตะในทะเลลึกไร้สิ้นสุดแห่งนี้ ดังนั้นเผ่าพันธุ์เต่าทมิฬจึงเป็นหนึ่งในเผ่าที่มีอำนาจมากที่สุดในบรรดาเผ่าพันธุ์อสูรและปีศาจ ย้อนไปเมื่อตอนที่เผ่าพันธุ์มนุษย์และปีศาจก่อสงครามกัน เผ่าพันธุ์อสูรประสบภัยพิบัติครั้งใหญ่ ซึ่งเผ่าพันธุ์เรามากมายถูกสังหารไปทำให้กำลังของเราลดน้อยลงไปมากและข้าก็ถูกจักรพรรดิลี้ลับจองจำ!
ข้าเป็นผู้ปกครองเผด็จการตลอดการปกครองของข้า ซึ่งมันทำให้หลายๆเผ่าไม่พอใจ และเมื่อข้าถูกจองจำ เผ่าพันธุ์เต่าทมิฬของเราก็ถูกเผ่าพันธุ์อื่นกวาดล้างไปและเกือบจะสูญพันธุ์ เหลือเพียงเชื้อสายของพ่อเชียนเชียนที่พากันไปซ่อนตัวอยู่ในถ้ำน้ำแข็งทางเหนือของทะเลลึกไร้สิ้นสุด แต่น่าเสียดาย….ก่อนที่ข้าจะหนีออกมาได้ พวกเขาก็ถูกค้นพบ และเมื่อข้ากลับมา พวกเขาก็เกือบจะถูกกำจัดไปแล้ว มีเพียงเชียนเชียนเท่านั้นที่รอดชีวิตมาได้หลังจากที่พ่อของนางคุ้มครองนางเอาไว้ อย่างไรก็ตาม ดวงจิตของเชียนเชียนถูกพิษร้ายแรงเข้าและหากนางไม่กินสมุนไพรวิญญาณบางชนิด นางจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่เกินสิบปี เอ่อ..
เจียงอี้จ้องอย่างว่างเปล่าขณะที่เขาไม่ได้คาดคิดว่าชีวิตของเชียนเชียนจะน่าเวทนาเช่นนี้ แต่เขาก็รู้สึกแปลกเล็กน้อย ด้วยความสามารถของเอ๋าหลูนั้น หากเผ่าพันธุ์อสูรและปีศาจนับล้านหาสมุนไพรไม่เจอ แล้วเจียงอี้จะทำได้หรือ?
เอ๋าหลูเห็นความสงสัยในดวงตาของเจียงอี้ ขณะที่เขาถอนหายใจเฮือกใหญ่และพูดว่า ข้ามีส่วนประกอบที่สามารถปรับแต่งยาที่สามารถแก้พิษทุกชนิดได้ และส่วนประกอบนี้นั้นได้จากราชวังจักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์ลี้ลับ มันต้องใช้สมุนไพรวิญญาณสิบชนิดในการปรับแต่งยานี้ขึ้นมาและข้าได้มาเก้าชนิดแล้ว ข้าขาดแค่เพียงกล้วยไม้เขี้ยวเพลิง
กล้วยไม้เขี้ยวเพลิงนี้พบได้เฉพาะซากปรักหักพังสลายบาป ซึ่งมันอยู่ใกล้เมืองจักรพรรดิอรหัง เผ่าของเราไม่สามารถเข้าไปในซากปรักหักพังสลายบาปได้และเมืองจักรพรรดิอรหังก็ควบคุมพื้นที่นั้นอย่างเข้มงวด หลังจากที่เจ้าเข้าสู่ทวีปจักรพรรดิบูรพาแล้ว เจ้าหาทางไปยังเมืองจักรพรรดิอรหังที แต่แน่นอนว่า…เราเองก็จะหาทางทุกทางด้วยเพราะชีวิตของเชียนเชียนนั้นขึ้นอยู่กับกล้วยไม้เขี้ยวเพลิงนี้!
เมืองจักรพรรดิอรหัง?
หญิงสาวผมสีม่วงที่มีรูปลักษณ์ที่โดดเด่นปรากฏขึ้นในใจของเจียงอี้ ผ่านมากี่ปีแล้ว เขาสงสัยว่าอีฉานจะยังจำเขาได้ไหม? นางจะแต่งงานกับใครไปหรือยัง?
ก็ได้!
หลังจากที่นิ่งไปชั่วขณะ เจียงอี้ก็ป้องมือของเขาและพูดว่า ผู้อาวุโส หากข้าไปยังทวีปจักรพรรดิบูรพาได้ ข้าจะหาทางไปยังเมืองจักรพรรดิอรหังและไปหากล้วยไม้เขี้ยวเพลิงมาเพื่อรักษาเชียนเชียนให้ได้อย่างแน่นอน