เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 878 พวกเจ้าทั้งหมดไสหัวไปซะ
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 878 พวกเจ้าทั้งหมดไสหัวไปซะ
กองโจรในแดนเทียนชิงนั้นเลื่องชื่อเรื่องการใช้ชีวิตที่สำส่อน เด็กผู้หญิงที่กองโจรจับตัวไปมักจะมีจุดจบที่น่าสังเวช พวกเขาเคยชินกับการเป็นที่ปลดปล่อยของกองโจร, ถูกฝึกให้กลายเป็นของเคี้ยวเล่นและถูกวางยา สิ่งที่รอพวกเขาอยู่นั้นคือความตาย
“หญิงผู้นี้มีนิสัยที่แข็งแกร่งและมั่นคง!”
เจียงอี้มองถานไถชี่และหยักหน้าเงียบๆ คราวก่อนที่พวกเขาพบกองโจรในทะเลแห่งบาป นางก็หยิบมีดสั้นออกมาและพร้อมฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะอะไร นางก็กล้าที่จะตายซึ่งเท่านั้นมันก็น่าชื่นชมแล้ว
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
กองโจรหนึ่งแพ้การต่อสู้อย่างชัดเจน พวกเขาหนีไปทั่วทุกสารทิศด้วยความตื่นตระหนก ไม่มีผู้ใดกล้าอยู่รอบๆและมีเพียงไม่กี่คนที่ยังสู้กลับ ไม่มีใครคอยสอดส่องรอบๆ เพราะพวกเขาทั้งหมดต่างพากันหนีอย่างเดียว หลังจากที่ผู้คนนับพันบินผ่านไปโดยไม่สังเกตเห็นฝูงชนในหุบเขาเล็กๆ ซ่งจงและคนอื่นๆก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
กลิ่นอายของเจียงอี้หายไปอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ได้จำลองกลิ่นอายของขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดผ่านวิชาเทพพลางตาอีกต่อไป ไม่เช่นนั้น ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งจะรับรู้ถึงเขาอย่างง่ายดาย ทั้งกลุ่มนั้นรู้สึงโล่งใจ แต่เจียงอี้เคร่งขรึมมาก โจรที่หลบหนีจะไม่แผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา แต่โจรที่ไล่ล่าพวกเขามานั้นจะตรวจจับเผื่อมีคนซุ่มโจมตีอยู่
ตูม! ตูม! ตูม!
ขอบเขตเทียนจุนที่อยู่ด้านหลังยังคงต่อสู้กลับเรื่อยๆ ในระยะไกลๆ ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งมาและทำให้ท้องฟ้าขุ่นมัว อากาศเหนือท้องฟ้าแตกเป็นร่อง ใบไม้ปลิวไสวไปตามแรงลม แสงมากมายกระทบเข้ากับภูเขาและทำให้มันระเบิดออกมา เสียงระเบิดและหินถล่มยังคงสะท้อนอยู่เป็นเวลานาน จนในที่สุด ขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดที่วิ่งหนีก็บินผ่านกลุ่มพวกเขาไป เจียงอี้เริ่มประหม่า ส่วนซ่งจงและคนอื่นๆก็ประหม่าเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าของเจียงอี้ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนาให้รอดไปได้
และมันก็จริง…
ผู้คนยังคนบินผ่านพวกเขาไปและแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ผ่านพวกเขามาบางครั้ง และเมื่อผ่านไปเพียงสองนาที ก็มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์พัดผ่านมามากกว่าสิบสองสาย
“ฮู่ ฮู่….”
หลังจากนั้น ซ่งจงก็โล่งใจที่พบว่ากองโจรไม่ได้สนใจพวกเขาและยังคงไล่ตามเป้าหมายต่อไป เนื่องจากเหล่าคนที่อยู่ข้างหน้าค้นหาแล้ว พวกโจรที่ตามมาก็คงไม่น่าจะสอดส่องที่นี่อีกใช่ไหม?
มีโจรมากมายไล่ล่ามาซึ่งเร็วมากเช่นกัน แต่แน่นอนว่าแนวรบขยายออกไปยาวมาก ไม่เช่นนั้นเจียงอี้คงขอให้พวกเขาเลี่ยงกลุ่มนี้ไปแล้ว ในเวลาเพียงครู่เดียว ขอบเขตเทียนจุนที่แข็งแกร่งก็ได้ตรวจสอบพื้นที่ ส่วนพวกคนที่ตามหลังพวกเขาจะรีบพุ่งไปข้างหน้าทันที
ฮู ฮู!
เจียงอี้รออยู่ครู่หนึ่งและคาดว่าโจรส่วนใหญ่จะบินผ่านพวกเขาไปแล้ว ในที่สุดภาระอันหนักอึ้งของเขาก็โล่งแล้ว หากพวกเขาเปิดฉากต่อสู้กับโจรเหล่านี้ นอกจากการปล่อยอัสนีพิโรธและทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ทางเลือกเดียวของเขาคือวิชาหลีกสวรรค์ วิชาอื่นๆจะเผยตัวตนของเขา เว้นแต่ว่าเขาจะสังหารทุกคนไปจนสิ้น
เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสังหารคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
“หืม?”
ทันใดนั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์หนึ่งก็เคลื่อนผ่านเขาไป ซึ่งทำให้เขาสะดุ้ง และจากนั้น สิ่งที่ทำให้ใบหน้าของเจียงอี้มืดมนก็เกิดขึ้น โจรบนฟ้าตะโกนขึ้นมาว่า “หื้ม มีหญิงงามอันโอชะอยู่ด้านล่าง!” ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ทันใดนั้นเอง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์หลายสิบสายก็กวาดมาและทั้งหมดก็จับจ้องไปที่ถานไถชี่ เสียงเจาะอากาศเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว เจียงอี้สบถเงียบๆย่างไม่หยุดยั้ง หญิงงามมักเกิดปัญหา ความงามของถานไถชี่ทำให้มีปัญหาขึ้น ขอบเขตเทียนจุนกว่าสี่ร้อยคนบินมา และในหมู่พวกเขามีขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสองคน กองกำลังหลักเพิ่งจะผ่านพ้นไป และเมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้น กองกำลังหลักก็จะรับรู้อย่างแน่นอน
บรึฟ!
ซ่งจงและคนอื่นๆทั้งหมดเปิดโล่ศักดิ์สิทธิ์ อาวุธปรากฏขึ้นในมือของพวกเขาและพร้อมที่จะสู้ ดวงตาของถานไถชี่สั่นไหวอย่างสิ้นหวัง มีดสั้นที่อยู่ตรงหน้าอกของนางได้ตัดผ่านเสื้อผ้าของนางแล้วและนางพร้อมที่จะฆ่าตัวตายทุกเมื่อ
นางมองไปที่ลูกทั้งสองก่อนจะหันไปหาเจียงอี้และคุกเข่าอย่างรวดเร็ว นางอ้อนวอนว่า “ท่านใต้เท้าเสวี่ย โปรดพาลูกของข้าหนีไปเถอะเจ้าค่ะ หากมีชีวิตหลังความตายนี้ ข้าน้อยจะขอเป็นทาสรับใช้ท่านเพื่อชดใช้หนี้บุญคุณนี้!”
เจียงอี้ไม่ได้สนใจถานไถชี่และรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาควรจะสู้หรือถอยดี?
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้เพราะเขาไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะสังหารคนทั้งหมด ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย หากเขาหนี ซ่งจงและคนอื่นๆก็จะต้านกองกำลังได้ชั่วขณะหนึ่ง ถานไถชี่นั้นเป็นเป้าของเหล่ากองโจร เขามีโอกาสที่จะหนีไปและใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีเพื่อที่จะได้ไม่เปิดเผยตัวตนของตัวเองได้
ถานไถชี่รู้สึกกังวลเมื่อเห็นว่าเจียงอี้ไม่ได้ทำอะไร นางรีบก้มหัวลงกับพื้น คนของซ่งจงก็พุ่งไปข้างหน้า ยกเว้นอีกสามคน พวกเขามีสีหน้าที่บ้าบิ่นและพร้อมที่จะตายแล้ว
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
สาวใช้ทั้งหลายเองก็หยิบอาวุธออกมาด้วย พวกนางไม่ได้จะร่วมสู้แต่พวกนางกำลังจะฆ่าตัวตายแทน แม้ว่าผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกนางจะอยู่ขอบเขตจินกังและอีกสองคนเป็นขอบเขตเทียนจุนแล้ว แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพวกนางก็ยังคงอ่อนแอมาก และพวกนางก็คงจะถูกสังหารทันทีที่พุ่งตัวไปข้างหน้า
ปัง ปัง ปัง!
ถานไถชี่โขกหัวของนางต่อเรื่อยๆ และเมื่อเจียงอี้เห็นหน้าผากที่บวมแดงและลูกๆที่หมดสติของนาง ในที่สุด เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธนางได้ เขาลืมตาขึ้นมาและตะโกนว่า “ซ่งจงและคนอื่นๆ กลับมา!”
ฟรึ่บ!
เจียงอี้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลิ่นอายของเขาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเช่นกัน เขามองขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสองและกองโจรที่เหลือพร้อมกับพูดว่า “ไสหัวไปซะ!”
“ถอย!”
ซ่งจงและกลุ่มของเขาคุ้นเคยกับการทำตามคำสั่งของเจียงอี้ พวกเขาล่าถอยและกลับไปที่หุบเขาเมื่อเจียงอี้พูดออกมา แต่พวกเขาไม่ได้เข้าไปในหุบเขาแต่กลับยืนอยู่บนก้อนหินเหนือหุบเขายักษ์ พวกเขาจ้องมองไปที่เจียงอี้อย่างกระตือรือร้นและคาดหวังให้เขารุ่งโรจน์
“หืม?”
โจรที่บินลงมาจากฟ้าหยุดอยู่กลางอากาศกันหมด และมีโจรอีกมากมายที่อยู่แต่ไกลถูกกลิ่นอายของเจียงอี้ดึงดูดจึงทำให้คนอีกหลายร้อยคนบินมาทางเขา
“ฆ่า!”
เหล่ากองโจรตะลึงกับเสียงคำรามของเจียงอี้ชั่วขณะก่อนที่จะรู้สึกตัว และเมื่อขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสองคนตะโกนออกมาพร้อมกัน อาวุธในมือของพวกเขาก็เรืองรองด้วยแสงสีขาวและกำลังจะโจมตี
“ข้าจะพูดอีกครั้ง ไสหัวไปซะ!”
เจียงอี้ไม่ได้เริ่มสังหารทันที เขาแค่ตะโกนอย่างเฉยเมย “ไสหัวไปจากสายตาข้าในหนึ่งนาที ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าทิ้งให้หมด!”
บรึฟ!
ขณะที่เจียงอี้พูด กลิ่นอายของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาอยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดแล้ว และมันจะเกิดอะไรขึ้นหากกลิ่นอายนั้นยังคงพุ่งพล่านออกมาอีก?
โจรทั้งหมดหยุดการโจมตีที่พวกเขากำลังจะโจมตีออกมา ส่วนผู้ที่บินมาแต่ไกลเองก็หยุดลงเช่นกัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสยดสยองและความไม่เชื่อ พวกเขามองไปยังเจียงอี้ราวกับว่าเขาเป็นปีศาจที่เพิ่งเดินออกมาจากอเวจี
ใช่แล้ว!
เจียงอี้ใช้วิชาเทพพลางตาเพื่อจำลองกลิ่นอายของเหลยกูและทำให้กลิ่นอายตัวเองเป็นขอบเขตกึ่งเทพ กลิ่นอายของขอบเขตกึ่งเทพนั้นทรงพลังเกินไป มันทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก และในตอนนี้โจรเหล่านั้นก็กำลังประสบสิ่งที่เจียงอี้เคยเจอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับช้างดึกดำบรรพ์ในแดนลึกลับของเผ่าอีกาทองคำ มันทำให้หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความตาย
ฟรึ่บ!
โจรที่อยู่แต่ไกลหนีไปด้วยความหวาดผวา ส่วนโจรอีกหลายร้อยคนในบริเวณใกล้ๆตระหนักดีว่าเกิดอะไรขึ้นและหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่มีเจตนาที่จะสู้อีก ยอดฝีมือกึ่งเทพนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเหตุใดขอบเขตกึ่งเทพถึงได้มาปรากฏตัวที่ถิ่นทุรกันดารนี้ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าหากพวกเขาไม่หนีไปในตอนนี้ พวกเขาจะต้องตาย
“นี่….”
ซ่งจงและกลุ่มของเขาประหลาดใจมากจนไม่สามารถหุบปากลงได้ ถานไถชี่เองก็หน้าแดงไปด้วยความตื่นเต้น ร่างเล็กๆของนางสั่นไม่หยุดเช่นกันและเหมือนว่านางจะถึงจุดสุดยอดและกำลังจะระเบิดออกมา
“หญิงผู้นี้มีนิสัยที่แข็งแกร่งและมั่นคง!”
เจียงอี้มองถานไถชี่และหยักหน้าเงียบๆ คราวก่อนที่พวกเขาพบกองโจรในทะเลแห่งบาป นางก็หยิบมีดสั้นออกมาและพร้อมฆ่าตัวตาย ไม่ว่าจะอะไร นางก็กล้าที่จะตายซึ่งเท่านั้นมันก็น่าชื่นชมแล้ว
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
กองโจรหนึ่งแพ้การต่อสู้อย่างชัดเจน พวกเขาหนีไปทั่วทุกสารทิศด้วยความตื่นตระหนก ไม่มีผู้ใดกล้าอยู่รอบๆและมีเพียงไม่กี่คนที่ยังสู้กลับ ไม่มีใครคอยสอดส่องรอบๆ เพราะพวกเขาทั้งหมดต่างพากันหนีอย่างเดียว หลังจากที่ผู้คนนับพันบินผ่านไปโดยไม่สังเกตเห็นฝูงชนในหุบเขาเล็กๆ ซ่งจงและคนอื่นๆก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
กลิ่นอายของเจียงอี้หายไปอย่างสมบูรณ์ เขาไม่ได้จำลองกลิ่นอายของขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดผ่านวิชาเทพพลางตาอีกต่อไป ไม่เช่นนั้น ยอดฝีมือที่แข็งแกร่งจะรับรู้ถึงเขาอย่างง่ายดาย ทั้งกลุ่มนั้นรู้สึงโล่งใจ แต่เจียงอี้เคร่งขรึมมาก โจรที่หลบหนีจะไม่แผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขา แต่โจรที่ไล่ล่าพวกเขามานั้นจะตรวจจับเผื่อมีคนซุ่มโจมตีอยู่
ตูม! ตูม! ตูม!
ขอบเขตเทียนจุนที่อยู่ด้านหลังยังคงต่อสู้กลับเรื่อยๆ ในระยะไกลๆ ลำแสงจำนวนนับไม่ถ้วนพุ่งมาและทำให้ท้องฟ้าขุ่นมัว อากาศเหนือท้องฟ้าแตกเป็นร่อง ใบไม้ปลิวไสวไปตามแรงลม แสงมากมายกระทบเข้ากับภูเขาและทำให้มันระเบิดออกมา เสียงระเบิดและหินถล่มยังคงสะท้อนอยู่เป็นเวลานาน จนในที่สุด ขอบเขตเทียนจุนทั้งหมดที่วิ่งหนีก็บินผ่านกลุ่มพวกเขาไป เจียงอี้เริ่มประหม่า ส่วนซ่งจงและคนอื่นๆก็ประหม่าเช่นกัน เมื่อพวกเขาเห็นสีหน้าของเจียงอี้ แต่พวกเขาก็ทำอะไรไม่ได้นอกจากภาวนาให้รอดไปได้
และมันก็จริง…
ผู้คนยังคนบินผ่านพวกเขาไปและแผ่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ผ่านพวกเขามาบางครั้ง และเมื่อผ่านไปเพียงสองนาที ก็มีสัมผัสศักดิ์สิทธิ์พัดผ่านมามากกว่าสิบสองสาย
“ฮู่ ฮู่….”
หลังจากนั้น ซ่งจงก็โล่งใจที่พบว่ากองโจรไม่ได้สนใจพวกเขาและยังคงไล่ตามเป้าหมายต่อไป เนื่องจากเหล่าคนที่อยู่ข้างหน้าค้นหาแล้ว พวกโจรที่ตามมาก็คงไม่น่าจะสอดส่องที่นี่อีกใช่ไหม?
มีโจรมากมายไล่ล่ามาซึ่งเร็วมากเช่นกัน แต่แน่นอนว่าแนวรบขยายออกไปยาวมาก ไม่เช่นนั้นเจียงอี้คงขอให้พวกเขาเลี่ยงกลุ่มนี้ไปแล้ว ในเวลาเพียงครู่เดียว ขอบเขตเทียนจุนที่แข็งแกร่งก็ได้ตรวจสอบพื้นที่ ส่วนพวกคนที่ตามหลังพวกเขาจะรีบพุ่งไปข้างหน้าทันที
ฮู ฮู!
เจียงอี้รออยู่ครู่หนึ่งและคาดว่าโจรส่วนใหญ่จะบินผ่านพวกเขาไปแล้ว ในที่สุดภาระอันหนักอึ้งของเขาก็โล่งแล้ว หากพวกเขาเปิดฉากต่อสู้กับโจรเหล่านี้ นอกจากการปล่อยอัสนีพิโรธและทักษะเสียงสวรรค์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ทางเลือกเดียวของเขาคือวิชาหลีกสวรรค์ วิชาอื่นๆจะเผยตัวตนของเขา เว้นแต่ว่าเขาจะสังหารทุกคนไปจนสิ้น
เป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะสังหารคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
“หืม?”
ทันใดนั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์หนึ่งก็เคลื่อนผ่านเขาไป ซึ่งทำให้เขาสะดุ้ง และจากนั้น สิ่งที่ทำให้ใบหน้าของเจียงอี้มืดมนก็เกิดขึ้น โจรบนฟ้าตะโกนขึ้นมาว่า “หื้ม มีหญิงงามอันโอชะอยู่ด้านล่าง!” ฟรึ่บ! ฟรั่บ! ฟรึ่บ!
ทันใดนั้นเอง สัมผัสศักดิ์สิทธิ์หลายสิบสายก็กวาดมาและทั้งหมดก็จับจ้องไปที่ถานไถชี่ เสียงเจาะอากาศเข้ามาใกล้พวกเขาอย่างรวดเร็ว เจียงอี้สบถเงียบๆย่างไม่หยุดยั้ง หญิงงามมักเกิดปัญหา ความงามของถานไถชี่ทำให้มีปัญหาขึ้น ขอบเขตเทียนจุนกว่าสี่ร้อยคนบินมา และในหมู่พวกเขามีขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดสองคน กองกำลังหลักเพิ่งจะผ่านพ้นไป และเมื่อเกิดการต่อสู้ขึ้น กองกำลังหลักก็จะรับรู้อย่างแน่นอน
บรึฟ!
ซ่งจงและคนอื่นๆทั้งหมดเปิดโล่ศักดิ์สิทธิ์ อาวุธปรากฏขึ้นในมือของพวกเขาและพร้อมที่จะสู้ ดวงตาของถานไถชี่สั่นไหวอย่างสิ้นหวัง มีดสั้นที่อยู่ตรงหน้าอกของนางได้ตัดผ่านเสื้อผ้าของนางแล้วและนางพร้อมที่จะฆ่าตัวตายทุกเมื่อ
นางมองไปที่ลูกทั้งสองก่อนจะหันไปหาเจียงอี้และคุกเข่าอย่างรวดเร็ว นางอ้อนวอนว่า “ท่านใต้เท้าเสวี่ย โปรดพาลูกของข้าหนีไปเถอะเจ้าค่ะ หากมีชีวิตหลังความตายนี้ ข้าน้อยจะขอเป็นทาสรับใช้ท่านเพื่อชดใช้หนี้บุญคุณนี้!”
เจียงอี้ไม่ได้สนใจถานไถชี่และรู้สึกกังวลเล็กน้อย เขาควรจะสู้หรือถอยดี?
มันเป็นไปไม่ได้ที่จะสู้เพราะเขาไม่ได้แข็งแกร่งพอที่จะสังหารคนทั้งหมด ตัวตนของเขาจะถูกเปิดเผย หากเขาหนี ซ่งจงและคนอื่นๆก็จะต้านกองกำลังได้ชั่วขณะหนึ่ง ถานไถชี่นั้นเป็นเป้าของเหล่ากองโจร เขามีโอกาสที่จะหนีไปและใช้วิชาหลีกสวรรค์หนีเพื่อที่จะได้ไม่เปิดเผยตัวตนของตัวเองได้
ถานไถชี่รู้สึกกังวลเมื่อเห็นว่าเจียงอี้ไม่ได้ทำอะไร นางรีบก้มหัวลงกับพื้น คนของซ่งจงก็พุ่งไปข้างหน้า ยกเว้นอีกสามคน พวกเขามีสีหน้าที่บ้าบิ่นและพร้อมที่จะตายแล้ว
ฟรึ่บ! ฟรั่บ!
สาวใช้ทั้งหลายเองก็หยิบอาวุธออกมาด้วย พวกนางไม่ได้จะร่วมสู้แต่พวกนางกำลังจะฆ่าตัวตายแทน แม้ว่าผู้ที่อ่อนแอที่สุดในหมู่พวกนางจะอยู่ขอบเขตจินกังและอีกสองคนเป็นขอบเขตเทียนจุนแล้ว แต่ความแข็งแกร่งในการต่อสู้ของพวกนางก็ยังคงอ่อนแอมาก และพวกนางก็คงจะถูกสังหารทันทีที่พุ่งตัวไปข้างหน้า
ปัง ปัง ปัง!
ถานไถชี่โขกหัวของนางต่อเรื่อยๆ และเมื่อเจียงอี้เห็นหน้าผากที่บวมแดงและลูกๆที่หมดสติของนาง ในที่สุด เขาก็ไม่สามารถปฏิเสธนางได้ เขาลืมตาขึ้นมาและตะโกนว่า “ซ่งจงและคนอื่นๆ กลับมา!”
ฟรึ่บ!
เจียงอี้พุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า กลิ่นอายของเขาก็ค่อยๆเพิ่มขึ้นเช่นกัน เขามองขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสองและกองโจรที่เหลือพร้อมกับพูดว่า “ไสหัวไปซะ!”
“ถอย!”
ซ่งจงและกลุ่มของเขาคุ้นเคยกับการทำตามคำสั่งของเจียงอี้ พวกเขาล่าถอยและกลับไปที่หุบเขาเมื่อเจียงอี้พูดออกมา แต่พวกเขาไม่ได้เข้าไปในหุบเขาแต่กลับยืนอยู่บนก้อนหินเหนือหุบเขายักษ์ พวกเขาจ้องมองไปที่เจียงอี้อย่างกระตือรือร้นและคาดหวังให้เขารุ่งโรจน์
“หืม?”
โจรที่บินลงมาจากฟ้าหยุดอยู่กลางอากาศกันหมด และมีโจรอีกมากมายที่อยู่แต่ไกลถูกกลิ่นอายของเจียงอี้ดึงดูดจึงทำให้คนอีกหลายร้อยคนบินมาทางเขา
“ฆ่า!”
เหล่ากองโจรตะลึงกับเสียงคำรามของเจียงอี้ชั่วขณะก่อนที่จะรู้สึกตัว และเมื่อขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดทั้งสองคนตะโกนออกมาพร้อมกัน อาวุธในมือของพวกเขาก็เรืองรองด้วยแสงสีขาวและกำลังจะโจมตี
“ข้าจะพูดอีกครั้ง ไสหัวไปซะ!”
เจียงอี้ไม่ได้เริ่มสังหารทันที เขาแค่ตะโกนอย่างเฉยเมย “ไสหัวไปจากสายตาข้าในหนึ่งนาที ไม่เช่นนั้น ข้าจะฆ่าทิ้งให้หมด!”
บรึฟ!
ขณะที่เจียงอี้พูด กลิ่นอายของเขาก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขาอยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดแล้ว และมันจะเกิดอะไรขึ้นหากกลิ่นอายนั้นยังคงพุ่งพล่านออกมาอีก?
โจรทั้งหมดหยุดการโจมตีที่พวกเขากำลังจะโจมตีออกมา ส่วนผู้ที่บินมาแต่ไกลเองก็หยุดลงเช่นกัน ดวงตาของพวกเขาเต็มไปด้วยความสยดสยองและความไม่เชื่อ พวกเขามองไปยังเจียงอี้ราวกับว่าเขาเป็นปีศาจที่เพิ่งเดินออกมาจากอเวจี
ใช่แล้ว!
เจียงอี้ใช้วิชาเทพพลางตาเพื่อจำลองกลิ่นอายของเหลยกูและทำให้กลิ่นอายตัวเองเป็นขอบเขตกึ่งเทพ กลิ่นอายของขอบเขตกึ่งเทพนั้นทรงพลังเกินไป มันทำให้ผู้คนหายใจไม่ออก และในตอนนี้โจรเหล่านั้นก็กำลังประสบสิ่งที่เจียงอี้เคยเจอเมื่อต้องเผชิญหน้ากับช้างดึกดำบรรพ์ในแดนลึกลับของเผ่าอีกาทองคำ มันทำให้หัวใจของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความตาย
ฟรึ่บ!
โจรที่อยู่แต่ไกลหนีไปด้วยความหวาดผวา ส่วนโจรอีกหลายร้อยคนในบริเวณใกล้ๆตระหนักดีว่าเกิดอะไรขึ้นและหนีไปอย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่มีเจตนาที่จะสู้อีก ยอดฝีมือกึ่งเทพนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจมากที่สุดในโลกนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเหตุใดขอบเขตกึ่งเทพถึงได้มาปรากฏตัวที่ถิ่นทุรกันดารนี้ แต่พวกเขาก็รู้ดีว่าหากพวกเขาไม่หนีไปในตอนนี้ พวกเขาจะต้องตาย
“นี่….”
ซ่งจงและกลุ่มของเขาประหลาดใจมากจนไม่สามารถหุบปากลงได้ ถานไถชี่เองก็หน้าแดงไปด้วยความตื่นเต้น ร่างเล็กๆของนางสั่นไม่หยุดเช่นกันและเหมือนว่านางจะถึงจุดสุดยอดและกำลังจะระเบิดออกมา