เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven - บทที่ 922 ทางเดินศักดิ์สิทธิ์โบราณ
- Home
- เพลิงพิโรธสวรรค์ Fury towards the burning heaven
- บทที่ 922 ทางเดินศักดิ์สิทธิ์โบราณ
เสียเฟยและหวู่นี่ไม่ได้มาถึงเพียงแค่สองคน เจี้ยนอู๋อิงและถูหลงก็มาที่นี่เช่นกัน พวกเขาให้ผู้ใต้บัญชารออยู่ด้านนอกโถงขณะที่พวกเขาเข้ามาในโถงด้วยตัวเอง ลูกหลานเก้าตระกูลจักรพรรดิล้วนมีความภาคภูมิและมีจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ฝังลึกเข้าไปในกระดูก เมื่อเสียเฟยกล้าที่จะเดินผ่านเส้นทางศักดิ์สิทธิ์โบราณด้วยตัวเอง แล้วคนอื่นๆจะไม่ทำตามได้อย่างไร?
ตระกูลต่างๆมีบันทึกระบุว่ายิ่งมีคนอยู่ในเส้นทางศักดิ์สิทธิ์โบราณมากเท่าใด แรงโน้มถ่วงจะยิ่งเพิ่มขึ้นเท่านั้น และเมื่อนายน้อยหลายคนออกคำสั่งมาแล้ว คนของพวกเขาจึงไม่กล้าเคลื่อนไหว
อาคมด้านนอกแปลกมากเพราะมันจะจงใจนำทางผู้คนที่อยากเข้ามายังเส้นทางศักดิ์สิทธิ์โบราณให้ไปในเส้นทางต่างกัน และพวกเขาก็ไม่ได้สังเกตเห็นเจียงอี้ที่โถงทางเดินซ้ายสุดด้วย
เอ๊ะ?
พวกเขาไม่เห็นจริงๆ แต่สมาชิกตระกูลของพวกเขาเห็นเจียงอี้ มีหลายคนยืนอยู่ด้านนอก และหนึ่งในนั้นอุทานออกมาว่า นายน้อยเฟย มีคนอยู่ที่ทางเดินซ้ายสุดขอรับ! เราจะสังหารเขาไหม?
ใครกัน? ทำไมเราไม่เคยเห็นเขามาก่อน มันไม่ใช่สมาชิกเก้าตระกูลจักรพรรดิ! แล้วมันเข้ามาในอารามศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง?
ฆ่ามัน!
กลุ่มคนเหล่านั้นตกอยู่ในความโกลาหล พวกเขาไม่เคยเห็นเจียงอี้มาก่อนและความลับของอารามศักดิ์สิทธิ์นั้นรู้กันในหมู่เก้าตระกูลจักรพรรดิและตระกูลขุนนางสมัยโบราณ แต่เจียงอี้เป็นใบหน้าที่พวกเขาไม่คุ้นเคยแต่กลับเข้ามายังสถานที่แห่งนี้ได้ ซึ่งมันก็มีความประหลาดในตัวมันเองอยู่แล้ว
จีทิงยวี่มองเห็นเจียงอี้จากที่ไกลๆและดวงตาของนางก็เผยความเย็นชาออกมา เจียงอี้เข้าไปได้หนึ่งในสามส่วนของเส้นทางแล้วและหากเขาคลานผ่านเส้นทางศักดิ์สิทธิ์โบราณไปได้ก่อน สิ่งประดิษฐ์ทั้งหมดข้างในนั้นอาจถูกเขาเอาไปได้
อะ..อะไรนะ? ฆ่า…มัน!
เสียงของเสียเฟยสะท้อนออกมาและคำพูดส่วนหลังทั้งหมดก็กรองออกมาจากซอกปากของเขา เสียเฟย, หวู่นี่และคนอื่นๆก็คลานมาด้วย แต่ร่างกายและการฝึกฝนของเขาแข็งแกร่งกว่าเจียงอี้ พวกเขาจึงเร็วกว่าเจียงอี้เล็กน้อย
จะไม่มีผู้ใดลงมือทั้งนั้น!
เสียงที่ไพเราะดังมาจากหยิ่นรั่วปิง นางจ้องมองทุกคนแต่ไกลและพูดว่า นั่นเป็นสมาชิกตระกูลหยิ่นของเรา หากพวกเจ้ากล้าก็ลองแตะต้องเขาสิ
เอ่อ…
ทุกคนไม่กล้าเคลื่อนไหว เนื่องจากหยิ่นรั่วปิงพูดเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยเห็นเจียงอี้มาก่อนและรู้สึกสงสัย แต่พวกเขาก็ไม่กล้าทำอะไรอย่างประมาทในตอนนี้
บึฟ!
มีแสงสว่างสีขาวส่องประกายขึ้นและร่างทั้งแปดร่างก็ถูกย้ายเข้ามา หยิ่นรั่วปิงชำเลืองมองและยิ้มออกมาในทันที พี่ใหญ่อีฉาน, เสี่ยวหย่า, พี่ชีเจี้ยน, พี่ชิ่ง ข้าดีใจที่ทุกคนยังสบายดีอยู่
ในที่สุดเราก็มาถึงราชวังราชันเวหาแล้ว!
อีฉานพยักหน้าให้หยิ่นรั่วปิงและมองไปข้างหน้าด้วยดวงตาที่เร่าร้อน ร่างของนางเปล่งประกายสายฟ้าขณะที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว นางเดินอย่างมั่นคงและดูเหมือนจะรู้จักราชวังราชันเวหานี้เป็นอย่างดี
สายฟ้าบนร่างของนางจะกระทบกับก้อนอิฐด้านหน้าเป็นบางครั้ง มันจึงทำให้นางระบุได้ง่ายๆว่าอิฐก้อนนั้นมีอาคมยับยั้งหรือไม่ ในเวลาเพียงสิบห้านาที นางก็มาถึงโถงทางเดินแล้วและนางก็ก้าวต่อไป
ตูม!
แรงโน้มถ่วงกดทับลงบนร่างของนางอย่างเลี่ยงไม่ได้ แต่ทุกคนก็ประหลาดใจเมื่อ…อีฉานไม่ได้ถูกกดลงไป ขาของนางสั่นเทาและร่างอันบอบบางของนางก็ด้วย แต่นางไม่ได้ล้มลงไปกับพื้น นางค่อยๆก้าวไปข้างหน้าอย่างช้าๆ ความเร็วของนางไม่ได้ช้ากว่าเสียเฟยและคนอื่นๆ แต่กลับเร็วกว่าเล็กน้อย
ในอีกด้านหนึ่ง หลิงชีเจี้ยนให้คนคอยปกป้องหลิงชือหย่าก่อนจะเดินเข้าไปอย่างรวดเร็ว เขาไม่ได้รุดหน้าไปอย่างอีฉานและคลานไปเหมือนกับเสียเฟยและคนอื่นๆ หลังจากที่หลิงชีเจี้ยนเข้าไปในทางเดิน ห้องโถงด้านนอกก็สว่างขึ้นมา เยี่ยอิงนำคนสิบกว่าคนเข้ามาในราชวังราชันเวหา และหลังจากที่ดูสถานการณ์ เยี่ยอิงและนายน้อยตระกูลสือก็รีบเดินเข้าไป
ส่วนหยิ่นรั่วปิงไม่ได้เข้าไปเพราะนางไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนอีฉาน หากนางเดินไปในนั้น นางจะต้องคลานอย่างแน่นอน นางเป็นสตรีที่มีชื่อเสียงและเมื่อคลานลงไปมันจะเผยหน้าอกของนางให้คนอื่นได้เห็นซึ่งมันเป็นสิ่งที่นางไม่สามารถทำได้
มีคนอยู่ที่นี่มากมาย ไม่ใช่เพราะหยิ่นรั่วปิงหลอกเจียงอี้ แต่ในประวัติศาสตร์ของเก้าตระกูลจักรพรรดินั้นมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เข้ามายังราชวังราชันเวหาได้ แต่ท้ายที่สุดแล้ว คนเหล่านั้นก็ไม่มีเวลามากพอที่จะผ่านเรื่องนี้ไปได้
คนที่เข้ามายังราชวังราชันเวหาเหล่านี้ได้จะต้องซาบซึ้งในตัวเจียงอี้จริงๆ!
การที่จะมาถึงราชวังราชันเวหาได้นั้น ทุกคนต้องผ่านโถงลมดารามาก่อนและมันอันตรายที่สุดในบรรดาโถงอื่นๆ ซึ่งเจียงอี้เพิ่งดูดซับลมดาราทั้งหมดในห้องโถงลมดาราได้ จึงทำให้ทุกคนผ่านเข้ามายังราชวังราชันเวหาได้
หยิ่นรั่วปิงเองก็ผ่านโถงลมดารามาเช่นกัน แต่ที่นางมาทีหลังเพราะนางเดินผ่านโถงมาเพียงโถงเดียวก่อนหน้านี้ นางจึงยังไม่ถูกย้ายมายังราชวังราชันเวหาอย่างเจียงอี้ แต่นางต้องผ่านโถงอีกสี่โถงก่อนที่จะมาถึงที่นี่ได้ในที่สุด
สิ่งประดิษฐ์โบราณ ข้าสงสัยจังว่าไป๋อีจะได้รับสิ่งประดิษฐ์โบราณของแม่ทัพโบราณในตำนานมาได้หรือไม่
หยิ่นรั่วปิงมองไปยังแผ่นหลังที่คลุมเครือจากระยะไกลขณะที่ดวงตาของนางเป็นประกาย นางไม่มีโอกาสได้สิ่งประดิษฐ์โบราณ แต่หากเจียงอี้ได้มันมา นางก็จะยินดีเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน เพราะในใจของนาง เจียงอี้ถูกกำหนดให้มาเป็นสมาชิกตระกูลหยิ่นแล้ว
มันจะเป็นเรื่องยากของเก้าตระกูลจักรพรรดิที่จะรับสมัครรุ่นเยาว์ที่มีสถานะธรรมดาหรือเปล่า? นางมั่นใจว่าจะไม่มีผู้ใดในผืนปฐพีนี้ที่จะต้านทานการเย้ายวนของเผ่านารีหอมหวนได้หรอกใช่ไหม?
ฮู ฮู!
เจียงอี้กำลังอยู่ในช่วงที่ยากลำบากเนื่องจากเขารู้สึกเจ็บปวดไปทั้งร่าง ศอกและหัวเข่าของเขามีเลือดออกจากการเสียดสีและทิ้งรอยเลือดเอาไว้เบื้องหลัง การป้องกันของเกราะเหล็กทมิฬนั้นแข็งแกร่ง แต่มันไม่สามารถต้านแรงเสียดสีได้
เนื่องจากสูญเสียเลือดและพลังไป ความเร็วของเจียงอี้จึงลดลงอย่างเลี่ยงไม่ได้ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้โดยรวมของเขาทรงพลังแต่ขอบเขตพลังไม่ได้สูงนักและเป็นเพียงขอบเขตเทียนจุนขั้นที่สามขณะที่ร่างกายของเขาอยู่ที่ขอบเขตเทียนจุนขั้นที่ห้า ส่วนเสียเฟยอยู่ขอบเขตเทียนจุนขั้นสูงสุดและอีฉานก็น่าจะพอกัน ส่วนนายน้อยคนอื่นๆก็เป็นขอบเขตเทียนจุนระดับสูงกันทั้งนั้น
เมื่อเวลาค่อยๆผ่านไป เหลือเวลาอีกเพียงสองชั่วโมงก่อนที่จะถูกย้ายออกไป เมื่อเจียงอี้คลานไปได้มากกว่าครึ่งทางแล้ว เสียเฟยก็ตามทันและแซงหน้าเขาไปแล้ว ส่วนเจี้ยนอู๋อิงเป็นเพียงขอบเขตเทียนจุนระดับสูง แต่ความเร็วของเขานั้นเร็วมากและตามเจียงอี้ทันเช่นกัน
ส่วนอีฉานบ้าบิ่นมากเพราะนางอยู่หลังเจียงอี้เพียงเล็กน้อย แต่นางก็ยังคงยืนอยู่ตลอดทาง ร่างของนางเปียกโชกไปด้วยเหงื่อจึงทำให้เผยส่วนเว้าของเรือนร่างและมันทำให้เกิดความเร่าร้อนในดวงตาของทุกคนมากมาย ด้านหลังคือถูหลงและหวู่นี่ ส่วนหลิงชีเจี้ยนช้ากว่าเล็กน้อยและนายน้อยตระกูลสือกับเยี่ยอิงนั้นเข้ามาที่นี่ช้า จึงถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
สิบห้านาที…….สามสิบนาที!
ดวงตาของหยิ่นรั่วปิงเผยร่องรอยความเศร้าเพราะไม่เพียงแต่เสียเฟยและอีฉานที่นำหน้าเจียงอี้ได้ แม้แต่เจี้ยนอู๋อิงและหวู่นี่ก็แซงหน้าเขาไปไม่น้อย นางคิดว่าเมื่อเจียงอี้เข้าไปในห้องโถงด้านในได้แล้ว คงไม่เหลืออะไรอยู่แล้ว
ไป๋อี เจ้าดูดซับลมดาราในโถงลมดาราได้ แต่ดูเหมือนว่าเสียเฟยและคนอื่นๆจะเป็นคนที่ได้ประโยชน์จากมัน พี่ใหญ่อีฉานพยายามเข้า และเอาสิ่งประดิษฐ์โบราณทั้งหมดมา อย่าให้ไอ้สารเลวเสียเฟยได้อะไรไป!
หยิ่นรั่วปิงพึมพำเบาๆ นางไม่ได้หวังกับเจียงอี้อีกต่อไปขณะที่เขาเริ่มช้าลงมากขึ้น อาจเป็นไปได้ด้วยซ้ำว่าเมื่อเข้าผ่านเส้นทางศักดิ์สิทธิ์โบราณไปได้ เขาจะถูกย้ายร่างออกไปทันที
ที่เส้นทางเดินต่างๆ จอมยุทธรุ่นเยาว์ของตระกูลต่างๆก็ยืนอยู่ตรงนั้น แต่พวกเขาไม่ได้ตามนายน้อยของพวกเขาเข้าไปในนั้นและมันก็ขึ้นอยู่กับโชคของนายน้อยแล้วว่าจะได้สิ่งประดิษฐ์โบราณมาหรือไม่
ฮ่าฮ่าฮ่า นายน้อยเฟยผ่านไปได้แล้ว!
สิบห้านาทีต่อมา คนของตระกูลเสียหัวเราะออกมา จากนั้นดวงตาของพี่ชิ่งก็เป็นประกายพร้อมๆกันและอุทานว่า คุณหนูอีเข้าไปได้แล้ว!
หยิ่นรั่วปิงมองไปยังเจียงอี้และเห็นว่าเขายังอยู่ห่างไปอีกสามร้อยเมตร แต่มันเหลือเวลาอีกไม่ถึงสี่สิบห้านาที นางหัวเราะออกมาอย่างขมขื่นและพูดว่า ไป๋อีไม่มีหวังแล้ว เตรียมถูกเคลื่อนย้ายออกไปเถอะ