เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 341
บทที่ 341 ถูกจับได้แล้ว
พ่อบ้านช่วยห่มผ้าให้กับจี้จิ่งเชินที่ยังคงนอนหลับอยู่บนเตียง
จากนั้นก็หันมาปรึกษากับจงหลี ” ช่วงนี้ก็ให้คุณจี้พักผ่อนในโรงพยาบาลไปก่อนชั่วคราว ทางเรื่องคุณเวินก็ให้ดำเนินการตรวจสอบต่อ ไป ไม่ว่ายังไงสุขภาพร่างกายของคุณจี้ก็สำคัญที่สุดในตอนนี้ ”
เขาหันกลับไปมองจี้จิ่งเชิน และพูดต่อ ” คุณเวินอยู่กับตระกูลเวิน คงไม่น่าจะมีอันตรายอะไรเกิดขึ้น ”
จงหลีพยักหน้า
” ช่วงนี้ฉันคงจะต้องอยู่ช่วยที่บริษัท แต่สิ่งที่ฉันกังวลก็คือหากยาหมดฤทธิ์แล้วประธานจี้เกิดตื่นขึ้นมา และยืนยันที่จะออกไปเราจะทำยังไง? ”
พ่อบ้านยังคงกังวลเกี่ยวกับปัญหานี้
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พลางกัดฟันและตัดสินใจ
” ใช้โอกาสที่คุณจี้ยังไม่ได้สติตอนนี้ รีบพาเขาไปตรวจร่างกาย เมื่อผลตรวจออกมา เราค่อยหารือเรื่องการรับมือ ”
” ถ้าหากมีอันตรายจริงๆ ยังไงฉันก็จะไม่ปล่อยให้คุณจี้ต้องเสี่ยงอีก ”
” ครับ ”
จงหลีก็พยักหน้า และมุ่งหน้าตรงไปยังบริษัท
พ่อบ้านอยู่ในห้องผู้ป่วยเพื่อดูแลจี้จิ่งเชิน เขาหันกลับไปถามหมอจาง ” ทางที่ดีคุณควรภาวนาให้คุณจี้ไม่เป็นอะไรมาก ไม่อย่างนั้น ค่าใช้จ่ายตอนนั้นคงไม่ใช่สิ่งที่คุณสามารถจ่ายได้ ”
หมอจางพยักหน้าอย่างรวดเร็วด้วยความตกใจ
” ผมจะให้พวกเขาไปเตรียมเครื่องมือสำหรับการตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ”
หลังพูดจบ เขาก็เดินตรงออกไปข้างนอกโดยไม่กล้าหยุดแม้แต่ก้าวเดียว
พยาบาลที่ติดตามเขาอยู่ข้างหลังเดินช้าๆ และมองดูสถานการณ์ในห้องตอนนี้อย่างเป็นกังวล
เมื่อหมอจางหันกลับไปและเห็นว่าเธอยังไม่เดินตามมา จึงตำหนิด้วยเสียงต่ำ ”
มัวมองอะไรน่ะ?รีบไปเตรียมพร้อมให้พวกเขา และตรวจสอบให้คุณจี้ก่อน ”
พยาบาลสะดุ้งด้วยเสียงของเขา เธอรีบหยักหน้าและเดินออกไป
ออกไปได้ไม่กี่ก้าว เธอก็ถูกคนที่แต่งตัวเหมือนพยาบาลขวางเอาไว้
คนคนนั้นมองไปที่ห้องของจี้จิ่งเชินอย่างสงสัย และถามขึ้น ” ได้ยินมาว่าประธานบริษัทเอ็มไอกรุ้ปนอนอยู่ในห้องผู้ป่วยพิเศษ มันเรื่องจริงเหรอ? ”
พยาบาลมองไปยังคนคนนั้น และรู้สึกว่าเธอดูคุ้นๆ ราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน
เธอลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่เมื่อเห็นอีกฝ่ายสวมชุดพยาบาลเหมือนกันกับตัวเอง เธอจึงตอบไป ” ใช่แล้ว ฉันเพิ่งออกมาจากข้างในนั้น ”
เมื่อพยาบาลคนนั้นได้ยินคำตอบ เธอก็มองเธออย่างมีความหวัง
” ฉันอยากเห็นประธานบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ได้ยินมาว่าเขาทั้งหล่อทั้งรวย มันเรื่องจริงเหรอ?แล้วเขาป่วยได้ยังไงล่ะ? ”
พยาบาลส่ายหน้า
” ฉันก็ไม่แน่ใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น ราวกับว่าเขาเป็นบ้า ”
” เป็นบ้า?เกิดอะไรขึ้น? ”
พยาบาลโน้มตัวมา และพูดเสียงเบา” ใช่แล้ว?เมื่อกี้หมอจางยังฉีดยากล่อมประสาทให้กับเขาเลย และดูเหมือนว่ายังจะต้องพาเขาไปตรวจสมอง…… ”
เธอพูดด้วยความระมัดระวัง และเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองต้องทำอะไร เธอจึงรีบพูด ” โอ้ ฉันยังมีเรื่องต้องไปทำ ไว้คุยกันครั้งหน้านะ ”
หลังพูดจบเธอก็รีบร้อนเข้าลิฟต์ไป
พยาบาลคนนั้นยืนอยู่กับที่ และมองเธอจากไป เธอจึงหันกลับไปมองห้องผู้ป่วยของจี้จิ่งเชิน
เธอเดินเข้ามา และยืนเงียบๆอยู่ที่ประตูหลัง พลางมองจี้จิ่งเชินผ่านกระจกห้องผู้ป่วย
เมื่อเห็นจี้จิ่งเชินนอนอยู่ข้างใน เธอก็มีสีหน้าที่สงสัยขึ้นมา
หลังจากนั้นไม่นาน เจอจึงหันกลับและเดินจากไป
เมื่อเดินไปถึงจุดที่ไม่มีคน เธอจึงได้กดหมายเลขโทรออก
หลังจากเสียงตู๊ดก็มีคนรับสาย
” ใช่ จี้จิ่งเชินอยู่ในโรงพยาบาลจริงๆ ฟังจากพยาบาลแล้ว ดูเหมือนว่าเขาจะมีปัญหาทางจิตและเป็นบ้า ”
” โอเค ฉันจะคอยสังเกตต่อไป และจะแจ้งให้ทราบหากมีอะไรเกิดขึ้น ”
เธอวางสายหลังพูดตามหน้าที่เสร็จ เมื่อเห็นว่าไม่มีใครอยู่แถวนั้น เธอจึงเก็บโทรศัพท์และเดินไปอีกทาง
เวินหงไห่เพิ่งวางสายจากโรงพยาบาล เขาขมวดคิ้วและไตร่ตรองอยู่ครู่หนึ่ง
เขาหันกลับมา และพูดกับเวินฉี่ที่นั่งอยู่หลังโต๊ะทำงาน ” จี้จิ่งเชินอยู่ในโรงพยาบาล แต่ไม่รู้สาเหตุ ราวกับว่าเขามีปัญหาทางจิต ”
” ทางจิตเหรอ? ”
เวินฉี่เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และพูดอย่างช้าๆ ” จี้จิ่งเชินมีอาการป่วยทางจิตมาก่อนอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ”
เวินหงไห่หยักหน้า
” ใช่ แต่ก็รักษาหายแล้วไม่ใช่เหรอ? ”
หลังจากเวินฉี่คิดอยู่พักหนึ่ง เขาก็ยิ้มพลางเอ่ย ” บางทีอาจจะยังรักษาไม่หายขาด ให้คนตรวจสอบต่อไป หาจุดบกพร่องของเขา ”
ทั้งสองกำลังปรึกษาหารือกัน ทันใดนั้นประตูห้องทำงานก็ถูกเปิดออก เป็นเหยาเย้นที่เดินเข้ามาพร้อมกับถ้วยชาสองใบ
เธอก้มหน้า และวางถ้วยชาลงบนโต๊ะทำงาน
ดูเหมือนเวินฉี่จะไม่ได้ระวัง เขาหยิบชาบนโต๊ะขึ้นมาจิบ
พลางพูดอย่างสงสัย ” ดูเหมือนว่าจี้จิ่งเชินคนนี้จะยังซ่อนความลับไว้มากมาย ”
เดิมทีเหยาเย้นกำลังจะออกไป แต่เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ เธอจึงเงยหน้าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว และก็รีบก้มหน้าลงไปอย่างรวดเร็ว
มันเป็นเวลาสั้นๆเพียงแค่เสี้ยววินาที แต่เวินหงไห่กลับเห็นมันพอดี
เขาเลิกคิ้วครุ่นคิดครู่หนึ่ง และถามออกไปตรงๆ ” ได้ยินมาว่าเธอออกไปเมื่อบ่ายวานนี้ เธอออกไปทำอะไร? ”
เมื่อได้ยินประโยคนี้หัวใจเธอก็กระวนกระวายมากยิ่งขึ้น เธอไม่กล้าเงยหน้าขึ้นไปมอง มือทั้งสองมีอาการสั่นเล็กน้อย
” ฉันแค่ออกไปข้างนอก…… ”
” รู้แล้วว่าออกไป แต่ออกไปทำอะไรล่ะ? ”
” ฉัน……ฉัน…… ”
เหยาเย้นยังคงลังเล เธอไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี
ถ้าเวินหงไห่รู้ว่าเธอออกไปช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนตามหาจี้จิ่งเชิน เขาจะต้องฆ่าเธอแน่ๆ……
เหยาเย้นไม่กล้าปริปาก แต่เวินหงไห่มองออก เขาตรงเข้าไปคว้าตัวเธอ
” ทำไมไม่กล้าพูด?เธอไปทำอะไรมา?พูด! ”
เหยาเย้นถูกเขากระชากเล็กน้อย และถูกบังคับให้เงยหน้าขึ้นมาด้วยสายตาครุมเครือมากขึ้น
ทันทีที่เธอสัมผัสกับท่าทีที่ดุร้ายของเวินหงไห่ ใบหน้าของเธอก็ขาวซีดด้วยความตกใจทันที เธอรีบร้อนหลับตาลงอย่างรวดเร็ว
” ฉัน……ฉันไปหาจี้จิ่งเชิน…… ”
ภายในห้องเงียบลงชั่วขณะ แม้แต่เวินฉี่ก็หยุดการเคลื่อนไหว และหันไปมองยังเหยาเย้น
” เธอไปหาเขาทำไม? ”
เดิมทีเหยาเย้นก็กลัวพ่อลูกตระกูลเวินอยู่แล้ว โดยเฉพาะคนที่ฉลาดล้ำลึกอย่างเวินฉี่
ทันทีที่เขาเอ่ยปาก เหยาเย้นก็ตกใจกลัวจนตัวสั่น และไม่กล้าที่จะปิดปังอะไรอีก
เธอหลับตาแน่น และพูดทุกอย่างออกมาหมด
” เป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ที่ให้ฉันไปช่วยเธอตามหาจี้จิ่งเชิน เธอให้ฉันบอกบางอย่างกับจี้จิ่งเชิน ”
” มันคืออะไร? ”
“ดูเหมือนยาที่จี้จิ่งเชินกินเข้าไปจะมีปัญหา……เธอให้ฉันไปบอกกับจี้จิ่งเชิน ว่าไม่ให้เขากินยานั่นอีก ”
เมื่อเวินฉี่ได้ยินเช่นนั้น จึงหันไปมองหน้ากับเวินหงไห่
เวินหงไห่ไปกระชากมือของเหยาเย้นทันที จนเกือบจะดึงเธอขึ้นมา
” ยาของเขามีปัญหาอะไร? ”
เหยาเย้นส่ายหน้า
” เรื่องนี้เธอไม่ได้บอกฉัน ฉันไม่รู้…… ”
แต่เวินหงไห่ไม่เชื่อ
เขาตะคอกอย่างโหดร้าย ” เป็นไปไม่ได้!เธอช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนทำสิ่งต่างๆมามากขนาดนี้ เป็นไปไม่ได้ที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่บอก เธอรู้แน่!พูด! ”
” ไม่……. ”
เหยาเย้นส่ายหน้า และกำลังจะแก้ต่าง แต่ทันใดนั้นเธอก็นึกถึงบทสนทนาที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเคยพูดกับเธอในห้องนอนได้
เธอรีบบอกไป ” เหมือนจะเป็นยาต้องห้ามชนิดหนึ่ง!เป็นยาที่จี้จิ่งเชินกินมันมาตลอด และสามารถรักษาอาการป่วยทางจิตได้ แต่มันอาจจะทำให้เส้นประสาทสมองถูกทำลายได้ เวินเที๋ยนเที๋ยนคงจะไม่อยากให้จี้จิ่งเชินใช้ยาต่อไป…… “