เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 356
บทที่ 356 ภรรยา
หิมะที่ตกหนัก ก็ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง เป็นกองลงที่พื้น
ข้างถนนนั้นมีกองหิมะกองหนึ่งที่มีสภาพดูแปลกๆไป และเป็นเพราะเมื่อครู่นี้ถูกเจียงหยู่เทียนเตะไปหนึ่งที หิมะที่อยู่ชั้นนอกนั้นก็กระจายออกมา ปรากฏให้เห็นขาข้างหนึ่ง
คนที่อยู่บนพื้นนั้นไม่ขยับ ไม่รู้ว่าตายแล้วหรือยังมีชีวิตอยู่
เจียงหยู่เทียนเดินเข้าไป แล้วใช้เท้าเขี่ยไปที่กองหิมะกองนั้นอีกครั้ง
หิมะที่กองอยู่นั้นกระจายออก ปรากฏให้เห็นถึงใบหน้าของคนที่ซ่อนอยู่ในกองหิมะนั้นขึ้นมา
ใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นเต็มไปด้วยฝุ่น แต่เจียงหยู่เทียนเห็นอวัยวะบนใบหน้าของคนคนนั้นแล้ว ทันใดนั้นเองเธอก็เบิกตาโตขึ้นมา รูม่านตาหดลงเป็นจุดดำๆเล็กๆ
เธอจ้องมองคนที่หลับตาสนิทสักพักหนึ่ง ถึงได้กล้าเดินเข้าไปใกล้
จี้จิ่งเชิน?
เขามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไรกัน?
อีกทั้งเห็นเสื้อผ้าที่ขาดหลุดลุ่ยของเขาแล้ว ราวกับว่าโดนไฟไหม้มาเมื่อครู่นี้ ใบหน้าก็เต็มไปด้วยฝุ่นอีกเช่นกัน
เธอหันกลับไปมองบ้านหลังที่ยังมีไฟลุกไหม้ทางด้านหลัง แล้วเดาบางอย่างออกมา
“ยังไม่ตายหรอกใช่ไหม?”
เธอเอ่ยพูดเสียงเบา ยกเท้าขึ้นมาพลางเหยียบไปที่ขาของจี้จิ่งเชิน แล้วกดลงไป
เห็นว่าอีกฝ่ายนั้นไม่ขยับ เจียงหยู่เทียนกัดฟัน แววตาปรากฏความเกลียดชังออกมา แล้วพยายามเตะเข้าที่ร่างของจี้จิ่งเชินสุดแรง
“ฉันจะเตะคุณให้ตาย! เตะให้ตายไปเลย! เป็นเพราะคุณ! ฉันถึงได้ตกมาอยู่ตรงจุดนี้!”
“ไปตายซะ!”
เธอเตะเขา โดนตรงช่วงไหล่บ้าง โดยตรงช่วงท้องบ้าง
รอบๆนี้ไม่มีใครอยู่เลยแม้แต่คนเดียว มีเพียงแค่เสียงเตะไปที่ร่างของจี้จิ่งเชินที่ดังขึ้นมาอย่างน่าอึดอัดนี้
ปึง! ปึง!
เป็นที่น่าตกตะลึงยิ่งนัก
เจียงหยู่เทียนเตะเขาอยู่พักหนึ่ง จนเหงื่อออกไปทั้งตัว
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ฟื้นขึ้นมาเลย
เธอยืนพักอยู่ตรงที่เดิม แล้วมองไปรอบๆ
ไฟไหม้ขนาดนี้ อีกไม่นานก็คงจะมีคนมา คงจะไม่ต้องอยู่แล้ว
เธอกัดฟันด้วยความเกลียดชัง มองจี้จิ่งเชินที่อยู่ที่พื้น ในใจมีแต่ความเกลียดชังทะลักออกมา
ตายไปเลยคงจะดีที่สุด!
เจียงหยู่เทียนยกขาขึ้น แล้วเตะไปที่ศีรษะของจี้จิ่งเชิน!
ได้ยินเพียงแค่เสียงดัง “ตึง!”ศีรษะของจี้จิ่งเชินก็ไปชนเข้ากับกำแพงด้านข้าง ส่งเสียงดังขึ้นมาอย่างน่าตกใจ
แต่เจียงหยู่เทียนกลับไม่สนใจ เธอกระชับเสื้อผ้าชุดบางๆที่อยู่บนร่างของตัวเอง
และกำลังจะเดินจากไปนั้น กลับได้ยินเสียงของคนกำลังพูดคุยกัน
เธอยืนตัวแข็งทื่ออยู่ตรงนั้นด้วยความตกใจ ไม่กล้าขยับไปไหน ได้ยินเสียงพูดที่อยู่ไปไม่ไกลจากตรงนี้
จี้จิ่งเชินที่ถูกเตะไปตรงมุมขยับตัวเล็กน้อย พลางขมวดคิ้วขึ้นมา
ความเจ็บปวดที่รุนแรงนี้ทำให้เขาฟื้นขึ้นมาจากอาการหมดสติ
เขาขยับนิ้ว ผ่านไปสักพักหนึ่ง จึงค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ
เพียงแค่การเคลื่อนไหวเพียงนิดเดียวก็ทำให้เขารู้สึกเจ็บจนแทบบ้า
สมองของเขานั้นราวกับถูกขุดขึ้นมาจากส่วนบนของหัวกะโหลกอย่างไรอย่างนั้น ทั่วทั้งร่างกายไม่มีส่วนใดเลยที่จะสามารถทนความเจ็บปวดนี้ได้
ความหนาวเหน็บประกอบกับความเจ็บปวดสาหัสจากการถูกไฟไหม้มานี้ ทำให้เขาส่งเสียงครางต่ำๆออกมาจากในลำคอ
เจียงหยู่เทียนที่ยืนอยู่ข้างกลับไม่ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวนี้
เธอได้ยินเสียงพูดคุยกันค่อยๆห่างออกไป จึงแทบจะรีบหันกลับเพื่อออกไปจากตรงนี้
แต่เธอเพิ่งจะก้าวเดินออกไปเพียงก้าวเดียวนั้น จู่ๆก็มีมือหนึ่งยืนมาจับอยู่ตรงข้อเท้าของเธอ!
“อ๊ะ!”
เจียงหยู่เทียนตกใจจนแทบจะกระโดดหนี พลางร้องออกมา แล้วรีบสะบัดเพื่อให้หลุดออกจากมือนั้นที่จับข้อเท้าของตัวเองเอาไว้
เธอหันกลับมามอง แล้วเจอเข้ากับดวงตาที่ลึกซึ้งแต่กลับไม่มีความรู้สึกใดๆของจี้จิ่งเชินเข้าพอดี ทันใดนั้นเองเธอรู้สึกตกใจกลัวเป็นอย่างมาก สีหน้าซีดเผือดไม่มีสีของเลือดเลยแม้แต่นิดเดียว
“ฉันไม่ได้ตั้งใจ! ไม่ใช่ฉันนะ!ฉันไม่ได้ทำ! คุณเป็นคนอื่น คุณไม่ต้องมาหาฉันนะ!”
เธอร้องไปพลางถอยหลังออกไป เป็นกังวลว่าจี้จิ่งเชินจะหาเรื่องเธอ แล้วจับตัวเธอไปขังเอาไว้อีก
เจียงหยู่เทียนตะโกนร้องไม่หยุด แต่จี้จิ่งเชินกลับนั่งอยู่ตรงที่เดิมตรงนั้นตลอด
เห็นว่าเขาไม่ได้เคลื่อนไหว เจียงหยู่เทียนจึงค่อยๆหันหลังกลับ คิดอยากจะฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีไป
แต่เพียงวิ่งไปแค่สองก้าวนั้น ทางด้านหลังก็มีเสียงที่ดูอ่อนแรงของจี้จิ่งเชินดังขึ้นอีกครั้ง
“อย่าไป……”
ถึงแม้ว่าในน้ำเสียงนี้จะไม่มีการคุกคามอยู่ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่จี้จิ่งเชินทำไว้ทั้งหมดก่อนหน้านี้แล้ว เจียงหยู่เทียนจึงหยุดชะงักลงด้วยความตกใจ เธอยืนอยู่ที่เดิมโดยที่ไม่กล้าขยับไปไหน
ผ่านไปสักพักหนึ่ง ทางด้านหลังก็ไม่มีเสียงจากคำพูดใดๆดังขึ้นมาอีก เธอถึงได้หันกลับไปมองด้วยความสงสัย แต่กลับเห็นว่าจี้จิ่งเชินจ้องมองเธออยู่ตลอด
ดวงตาคู่นั้น เย็นชา ห่างเหิน
จี้จิ่งเชินอดทนกับความเจ็บปวดที่ส่งผ่านมาทางศีรษะ ขมวดคิ้วขึ้นพลางมองพิจารณาเธออีกครั้ง
และหลังจากนั้นไม่นาน ในที่สุดเขาจึงได้เอ่ยขึ้น : “คุณเป็นใคร?”
เจียงหยู่เทียนได้ยินประโยคนี้แล้ว รู้สึกตกตะลึงไป แล้วมองเขาอย่างประหลาดใจ
แล้วสำรวจอาการที่แสดงออกมาทางใบหน้าเขาอย่างละเอียด
กลับพบว่าในดวงตาของเขานั้นไม่ได้มีอารมณ์ของการข่มขู่และความเกลียดชังอยู่เลย แต่กลับดูเย็นชาเป็นอย่างมาก ราวกับไม่รู้จักเธอจริงๆเสียอย่างนั้น
เจียงหยู่เทียนยืนอยู่ตรงที่เดิม เมื่อคิดอยู่พักนึงแล้วนั้น ถึงได้ค่อยๆผ่อนคลายลง
ในสถานการณ์ตอนนี้ จี้จิ่งเชินคงจะไม่มีจุดประสงค์ที่จะหลอกเธอได้
หากว่ากันเช่นนี้แล้ว นี่ก็เป็นเรื่องจริงอย่างนั้นหรือ?
“คุณไม่รู้จักฉันจริงๆหรือ?”
จี้จิ่งเชินนั่งอยู่ที่เดิม แล้วคิดอย่างละเอียด คิ้วขมวดเป็นปมเข้าหากัน
แต่คิดอยู่นาน กลับยังคงจับต้นสายปลายเหตุไม่ได้อยู่ดี
เขาส่ายหน้า “ขอโทษนะ เหมือนว่าผมลืมเรื่องสำคัญบางอย่างไปแล้ว”
เจียงหยู่เทียนได้ยินแล้ว จู่ๆใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมา
“จำไม่ได้แล้วหรือ?”
จี้จิ่งเชินมองเธอ ความเจ็บปวดที่ส่งผ่านมาไม่หยุดในหัวของเขา ทำให้เขาไม่สามารถคิดอะไรต่อไปได้อีก
“คุณเป็นใคร?”
รอยยิ้มบนใบหน้าของเจียงหยู่เทียนยิ่งดูสดใสยิ่งขึ้น
เธอก้มลงมา แล้วเอามือของตัวเองวางไว้บนหลังมือของจี้จิ่งเชิน แม้แต่ดวงตาของเธอก็มีรอยยิ้มแห่งความพอใจปรากฏออกมา
“ฉันก็เป็นภรรยาของคุณสิคะ”
ว่าแล้วเธอก็เอามือของตัวเองมาวางบนท้องที่ยื่นออกมา แล้วส่งยิ้มให้
“นี่คือลูกของเรา”
จี้จิ่งเชินรู้สึกตกตะลึง เขาเงยหน้าขึ้นมามองรอยยิ้มของเจียงหยู่เทียน แล้วมองมายังท้องที่ยื่นออกมาของเธอ แล้วขมวดคิ้วขึ้น
ในใจนั้นเหมือนกับมีเสียงหนึ่งที่กำลังบอกเขา ว่าเรื่องราวไม่ได้เป็นเช่นนี้
ผู้หญิงคนที่ดูจนมุมตรงหน้าเขาคนนี้ ในใจของเขานั้นกลับไม่รู้สึกหวั่นไหวเลยแม้แต่นิดเดียว หรือแม้กระทั่งรู้สึกรังเกียจสัมผัสของเธอเสียด้วยซ้ำ
ผู้หญิงคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขานั้นคือภรรยาของเขาจริงๆหรือ?
หิมะยังคงตกลงมาจากท้องฟ้าอย่างต่อเนื่อง แต่กลับไม่สามารถดับไฟที่กำลังลุกไหม้ของบ้านตระกูลจี้ได้เลย
ควันที่กำลังลอยโขมง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะได้รับคำสั่งของคนอื่นหรือเปล่า เพียงแต่เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ ไม่มีทีมดับเพลิงใดๆเข้ามาดับเพลิงเลย
ไฟลุกตลอดทั้งคืนเป็นเวลาหนึ่งวันเต็มๆ ถึงได้สงบลงในที่สุด
โครงสร้างทุกอย่างของบ้านหลังนี้ถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน อาคารที่งดงามในตอนนี้กลับทิ้งไว้เพียงแค่เถ้าถ่านสีดำ ไม้ที่ไหม้เกรียม และความรกร้างว่างเปล่านี้
เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตาขึ้นมา เพดานขาวสะอาดปรากฏขึ้นในสายตาของเธอ
ในหัวของเธอกลับมีแต่ความสับสนวุ่นวาย ความคิดว่างเปล่า และเชื่องช้าราวกับติดกาวเอาไว้อย่างไรอย่างนั้น
แต่ในวินาทีต่อมานั้น จู่ๆท่าทางของจี้จิ่งเชินก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเธอ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้างขึ้นมา แล้วกระโดดลงมาจากเตียง
“จี้จิ่งเชิน!”
สภาพที่บ้านตระกูลจี้ถูกห่อหุ้มไปด้วยเพลิงไหม้ ภาพที่คานหล่นลงมาจากทางด้านบน และฉากที่จี้จิ่งเชินถูกเปลวไฟกลืนกินไปเช่นนั้น…..
ภาพเหล่านี้ เสียงที่ดังสะเทือน ได้ระเบิดออกมาภายในหัวของเธอโดยที่ไม่ได้มีการบอกเตือนล่วงหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตาขึ้นมา รูม่านตากำลังหดตัวลง