เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 357
บทที่ 357 ช่วยเขาด้วย
“จี้จิ่งเชิน….จี้จิ่งเชินยังอยู่ในบ้านหลังนั้น!”
เธอรีบลุกขึ้นมาแล้วพุ่งตัวออกไปที่ประตู
และเมื่อเพิ่งจะเปิดประตูออกมานั้น นายทหารทั้งสองคนที่ยืนอยู่ทางด้านนอกก็ยื่นมือออกมาขวางเธอเอาไว้เสียก่อน
“คุณเวิน ตอนนี้คุณยังออกไปจากที่นี่ไม่ได้ครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยื่นมือออกไปเพื่อจะผลักพวกเขาออก แต่มือของทั้งสองคนนั้นกับแข็งราวกับเหล็ก
ไม่ว่าเธอดิ้นรนอย่างไร ก็ไม่สามารถทำให้สะเทือนได้เลย
“ให้ฉันออกไป!”
เธอเอ่ยตำหนิขึ้นมาเสียงสูง : “พวกคุณถอยไป! ได้ยินไหม!”
“จี้จิ่งเชินยังอยู่ในบ้านหลังนั้น ถ้าหากเขาเกิดเรื่องอะไรขึ้น ถ้าหากเขา……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยขึ้น แล้วสะอึกสะอื้นออกมา
เธอก้มหน้าลง สองมือปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้
วินาทีถัดไป เธอกลับเช็ดน้ำตาออกอย่างรุนแรง แล้วเงยหน้าขึ้น แววตามีความดุร้ายออกมา!
“ถ้าหากเกิดอะไรขึ้นกับเขา ฉันจะไม่ยอมปล่อยพวกคุณไปแน่!”
แววตาของเธอนั้นปรากฏออร่าที่น่าทึ่งออกมา แม้แต่นายทหารเก่าสองคนนั้น ยังรู้สึกอึ้งตามไปด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนฉวยโอกาสนี้พุ่งตัวออกไป แต่เพียงแค่ชั่วครู่เดียวก็ถูกจับตัวกลับมาอีกครั้ง
“คุณครับ อย่าทำให้พวกเราต้องลำบากใจเลยนะครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดิ้นรนไม่หยุด แต่กลับไม่สามารถต่อต้านนายทหารสองคนตรงหน้าได้เลย
เธอจึงถูกผลักกลับไป ถอยหลังไปไม่กี่ก้าว ก็ล้มลงที่พื้น
แล้วที่คิดอยากจะปีนขึ้นมาอีกนั้น เสียงดังปังของประตูห้อง ก็ถูกปิดลงอีกครั้ง
แกร๊ก เสียงล็อคจากทางด้านนอก
ทันใดนั้นเองสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนไปมาก เธอรีบลุกขึ้นมา แล้วไปดึงประตูลูกบิดอย่างต่อเนื่อง แต่กลับเปิดไม่ได้เลย
ประตูถูกเธอเขย่า ทำให้เกิดเสียงดัง
“ปล่อยฉันออกไป!”
“เปิดประตู!”
เธอตะโกนออกด่าว่าออกมา กัดฟัน ดวงตาทั้งสองข้างแดงก่ำ
เขย่าอยู่พักหนึ่ง แต่กลับไม่สามารถเปิดประตูที่ปิดสนิทนี้ออกมาได้เลย
การเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆหยุดลง ก้มหน้าลงด้วยความรู้สึกพังทลาย หน้าผากกดลงไปอยู่ตรงด้านหลังของประตู
“ให้ฉันออกไป…..ปล่อยฉันออกไป……”
“จี้จิ่งเชินจะทำอย่างไร?”
“ขอร้องพวกคุณล่ะ…..ช่วยเขาด้วย….”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยพูด พลางน้ำตาของเธอก็ไหลออกมาจากขอบตาอย่างต่อเนื่อง
แรงทั้งร่างกายของเธอนั้นราวกับว่าถูกสูบออกเสียจนหมด ขาทั้งสองข้างอ่อนแรง ล้มลงไปที่พื้น
“จี้จิ่งเชิน…..”
เธอหลับตาลง กอดเข่าตัวเอง และขดตัวอยู่เช่นนั้น ภาพเปลวไฟและจี้จิ่งเชินกลับครอบครองความคิดทั้งหมดของเธอเอาไว้แล้ว
“ช่วยเขาด้วย….ช่วยเขาด้วย…..”
ในห้องที่ว่างเปล่านี้ มีเพียงเสียงร้องไห้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงคนเดียวเท่านั้น
เสียงสะอื้นเบาๆ ที่ร้องขอครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับเป็นเหมือนเด็กที่กำลังถูกทิ้ง เสียใจ ผิดหวัง
แม้แต่อากาศภายในห้องราวกับค่อยๆตกตะกอนลงแล้วมองดูเธออย่างเงียบๆ
หน้าของเธอซุกอยู่ตรงหัวเข่า นึกถึงคำพูดของจี้จิ่งเชินที่เคยบอกเอาไว้ แล้วน้ำตาก็ไหลออกมาจากขอบตาไม่หยุด
ตอนที่จี้จิ่งเชินไปหาเธอที่ตระกูลหล่อน เขาเคยพูดเอาไว้ ว่าแม้แต่พระเจ้าก็ยังต้องฟังเขา
เนื่องจากความต้องการของเขา พระเจ้าจะไม่พรากเวินเที๋ยนเที๋ยนไป
“ถ้าหากพระเจ้ามีอยู่จริง…..”
เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนสั่นเทา
“ถ้าหากมีอยู่จริง ขอร้องนะคะ ช่วยจี้จิ่งเชินด้วย….ช่วยเขาด้วย…..”
เธอเอ่ยออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า จนในที่สุดก็อดที่จะส่งเสียงร้องไห้ออกมาไม่ได้
ภายในห้องที่เงียบสงัดนี้ แม้แต่เวลาก็ดูเหมือนจะถูกห้ามเอาไว้ด้วยเช่นกัน เหลือเพียงแค่เสียงร้องไห้ของเวินเที๋ยนเที๋ยนเพียงเท่านั้น
เป็นเวลานาน แต่กลับยังคงไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดๆ
เวลาผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ ในที่สุดห้องที่ปิดสนิทอยู่นี้ก็ได้ถูกเปิดออก
เสียงดังขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียงแล้วจึงขยับตัว ผ่านไปพักหนึ่งเธอถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองกลับมา แล้วเงยหน้าขึ้นมามอง
ผ้าม่านที่ดึงขึ้นไว้ภายในห้อง กับแสงสลัวๆ
และเมื่อประตูห้องเปิดออก แสงจากทางด้านนอกประตูก็สาดส่องเข้ามา
เวินฉี่ยืนถือไม้เท้าอยู่ตรงด้านหน้าประตู มองดูเวินเที๋ยนเที๋ยนที่นอนขดตัวอยู่ในตำแหน่งไกลๆ ดวงตาของเขาไม่มีความรู้สึกใดๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาด้วยเช่นกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเงยหน้าขึ้นมามองเขา เงียบไปสักพักหนึ่ง แล้วจึงพุ่งตัวเข้าไป
เธอเบิกตากว้าง สายตาเต็มไปด้วยความดุดัน รีบพุ่งตัวเข้าไป ผลักเวินฉี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูออกแล้ววิ่งออกไปทันที
นายทหารเก่าสองนายนั้นคิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะลงไม้ลงมือกับเวินฉี่ แต่กลับไม่คิดว่าเธอจะเพียงแค่วิ่งหนีไป
พวกเขาหันกลับมาเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ : “ท่านนายพลครับ ต้องจับตัวเธอกลับมาไหมครับ?”
เวินฉี่ส่ายหน้า พลางเอ่ยออกมาอย่างช้าๆ : “ให้เธอไปเถอะ เพราะถึงไปแล้ว ก็หาอะไรไม่เจออยู่ดี”
ว่าแล้ว เวินฉี่ก็หันหลังกลับออกไป มองดูทิศทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไป แล้วมุมปากก็ค่อยๆปรากฏรอยยิ้มออกมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนวิ่งออกมาจากตระกูลเวิน โดยไม่มีใครขัดขวางเธอ
เธอรู้สึกอกสั่นขวัญหาย หูของเธอมีเพียงแต่เสียงอื้ออึง แล้วตามมาด้วยลางสังหรณ์ที่ไม่ดีเท่าไรนัก แม้แต่ตอนที่เธอขึ้นรถ มือทั้งสองของเธอก็ยังคงสั่นเทาอยู่เล็กน้อย
คนขับรถเห็นว่าเธอไม่พูดอะไรออกมาเลยเช่นนี้แล้ว จึงเอ่ยถามขึ้น : “คุณจะไปไหนครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินเสียง จึงตกใจตื่นขึ้นมา แล้วหันกลับมาและในที่สุดสายตาของเธอถึงได้กลับมารวม ณ จุดๆหนึ่งได้อีกครั้ง
“ไป….ไปบ้านตระกูลจี้ค่ะ”
คนขับรถได้ยินแล้ว กลับดูอึ้งไปเล็กน้อย แล้วจึงเอ่ยขึ้น : “ที่นั่นไม่ใช่ว่าถูกเผาจนมอดไหม้ไปหมดแล้วหรือครับ? คุณยังจะไปอีกหรือ?”
จากที่เขาเพิ่งจะพูดเสร็จไปนั้น ร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยนจึงสั่นขึ้นมา แล้วกำมือแน่น
และน้ำเสียงของเธอจึงเปลี่ยนเป็นน้ำเสียงที่ดูแข็งขึ้นมา
“ฉันบอกแล้ว ว่าไปตระกูลจี้ไง!”
เธอหันไปมองในทันที ด้วยแววตาที่เยือกเย็นของเธอนั้น ทำให้คนขับรถรู้สึกตกใจขึ้นมา
คนขับรถจึงรีบพยักหน้าลง
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลย”
เขารีบเข้าเกียร์ รถจึงค่อยๆเคลื่อนที่ออกไป มุ่งหน้าไปยังบ้านตระกูลจี้
หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง ในที่สุดรถก็จอดลงตรงหน้าบ้านตระกูลจี้
จะว่าเป็นบ้านตระกูลจี้นั้น ก็คงจะมีเพียงแต่สิ่งแวดล้อมรอบๆที่เหมือนเดิมแค่เพียงเท่านั้น
สถานที่ตั้งของตระกูลจี้ในก่อนหน้านี้ ได้ถูกเพลิงไหม้เผาทำลายจนเสียหายกลายเป็นพื้นที่โล่งๆไปแล้ว หลงเหลือเพียงแค่ซากปรักหักพังที่มืดสนิทพวกนี้เพียงเท่านั้น
ตลอดทางเวินเที๋ยนเที๋ยนกำมือเอาไว้แน่น ปลายนิ้วจิกลงบนฝ่ายมือ ทิ้งเป็นรอยแผลแดงๆเอาไว้ แต่เธอกลับยังคงกำแน่นขึ้นกว่าเดิม
เมื่อรถจอดลงแล้วนั้น การเคลื่อนไหวอย่างแข็งทื่อของเธอหันมองออกไปยังซากปรักหักพังที่อยู่ทางนอกหน้าต่าง
เห็นเพียงแค่แวบเดียว จู่ๆในหัวของเธอก็ปรากฏภาพที่จี้จิ่งเชินโดนคานไม้ที่อยู่ทางด้านบนเพดานหล่นทับลอยขึ้นมา
เธอแสบจมูก ภาพเบื้องหน้าของเธอนั้นก็มัวขึ้นมา
น้ำตายังไม่ทันได้ไหลลงมา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยกมือขึ้นมาแล้วปาดน้ำตาที่อยู่ตรงหางตาออก แล้วเปิดประตูวิ่งออกไป
“จี้จิ่งเชิน–”
เวินเที๋ยนเที๋ยนตะโกนออกมาเสียงดัง
เสียงของเธอหมุนเวียนอยู่ในอากาศ กลายเป็นเสียงดังก้องตอบกลับมา แต่ก็ไม่มีใครตอบรับกลับมาเลย
เธอยังคงไม่หยุด เดินเข้าไปอย่างร้อนใจ
ที่ว่างเปล่าตรงหน้า ไม่สามารถบอกได้เลยว่าตรงตำแหน่งไหนคือห้องรับแขก ตรงไหนคือจุดที่จี้จิ่งเชินได้รับบาดเจ็บแล้วล้มลงไป
เธอก้มตัวลง แล้วเอาท่อนไม้ไหม้ๆนั้นย้ายไปไว้อีกทางหนึ่ง คุกเข่าลงเอาซากปรักหักพังออก เป็นการเคลื่อนไหวที่เร็วขึ้นจากเดิม!
ราวกับว่าเพียงเช่นนี้แล้วจะสามารถช่วยจี้จิ่งเชินออกมาได้อย่างไรอย่างนั้น
“จี้จิ่งเชิน ไม่ต้องกลัวนะ ฉันมาช่วยพี่แล้ว…..”
น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาของเธอหยดลงบนฝุ่นผงสีดำ และถูกห่อหุ้มกลายเป็นเม็ดหยดน้ำขึ้นมาอย่างรวดเร็ว
“ขอโทษนะคะ ฉันมาช้าไป ขอโทษนะ….”
“ต่อไปพี่จะด่าจะว่าฉันยังไงก็ได้ จะขังฉันเอาไว้ก็ได้ ฉันจะไม่หนี…..”
“จี้จิ่งเชิน……”
เธอพลิกซากปรักหักพังเหล่านั้นไม่หยุด แม้กระทั่งด้านบนนั้นยังคงอุ่นๆอยู่เสียด้วยซ้ำ
นิ้วขาวๆเรียวยาวของเธอเป็นแผลไหม้ตั้งแต่แรกแล้ว ตอนที่อยู่ตระกูลเวินนั้นไม่มีใครจัดการทำแผลให้เธอ
ตอนนี้ เปื้อนฝุ่นดำๆนี้อีกครั้ง หรือแม้กระทั่งเป็นแผลไหม้ขึ้นมาด้วย
แต่เธอกลับไม่ยอมหยุด
ไม่ยอมให้โอกาสใดๆหลุดมือไปแม้แต่นิดเดียว