เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 366
บทที่ 366 ทุกคนชอบคุณมากเลยนะ
“ทุกคนคะ”
จนเมื่อเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนดังขึ้น พวกเขาตื่นขึ้นมาจากภวังค์ของความตกใจ แล้วหันมามองเวินเที๋ยนเที๋ยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่บนเวที แล้วเธอก็ยิ้มมุมปากเล็กน้อย จนดวงตาเป็นตาสระอิ
“ดิฉันดีใจมากนะคะที่ทุกคนเป็นห่วงความก้าวหน้าของบริษัทเอ็มไอกรุ้ปและปราสาทขนาดนี้ หวังว่าในวันข้างหน้าพวกเราจะได้ร่วมงานด้วยกันนะคะ”
เมื่อทุกคนได้ยินประโยคนี้ ก็รู้สึกผิดขึ้นมาทันที
ใครจะไม่รู้ ว่าวันนี้พวกเขามาเพื่อจะเอาเปรียบ แต่ไม่คิดว่าเรื่องราวจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
เมื่อเห็นท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ดูเป็นมิตรและใจดี ก็มีหลายคนอดไม่ได้ที่จะเช็ดเหงื่อที่ไหลผลักออกมาตรงหน้าผาก
“นี้……นี้เป็นเรื่องที่พวกเราควรจะต้องทำอยู่แล้วครับ บริษัทเอ็มไอกรุ้ปภายใต้การบริหารของคุณเวิน จะต้องพลิกวิกฤตเป็นโอกาส เปลี่ยนเรื่องร้ายเป็นเรื่องดีได้แน่นอนครับ”
“ใช่ครับ ใช่ครับ ผมก็พูดตั้งแต่แรกแล้ว ว่าธุรกิจที่ใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางเกิดปัญหาขึ้นแน่นอน”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดของพวกเขา เธอก็ยิ้มเล็กน้อย และพูดขึ้นมา: “แล้วที่ทุกท่านยังไม่ยอมกลับ นี่คือต้องการจะซื้ออะไรอีกหรือเปล่าคะ?”
ร่างของทุกคนสั่นขึ้นมาทันที ทั้งๆที่บนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม และน้ำเสียงก็ฟังดูอ่อนโยน แต่ไม่รู้ว่าทำไม กลับรู้สึกว่ามีอะไรซ่อนอยู่ จนทำให้พวกเขาไม่กล้าชะล่าใจ
พวกเขาจึงรีบส่ายหน้า แล้วรีบหมุนตัวออกไป
เมื่อรอจนทุกคนเดินออกไปหมดแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงค่อยๆหุบรอยยิ้มบนใบหน้าของเธอลง
เธอหันกลับไป สายตาในตอนนี้เปลี่ยนเป็นเย็นชามากขึ้น แล้วมองไปยังร่างของพิธีกรคนนั้น
“ต่อไป อย่าให้ฉันได้ยินว่าทรัพย์สินภายใต้ชื่อของจี้จิ่งเชินถูกนำออกมาขายอีกเป็นอันขาด”
ขาทั้งสองข้างของพิธีกรอ่อนลงทันที และจึงรีบพยักหน้า
“แน่นอนครับ แน่นอน คุณวางใจได้เลยครับ”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเก็บเอกสารสัญญาที่อยู่บนโต๊ะเสร็จแล้ว เธอก็หมุนตัว และค่อยๆเดินออกไป
เมื่อเดินออกมาจากสถานที่ที่ทำการประมูลแล้ว จงหลีที่ยืนอยู่ข้างรถ เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเดินมา เขาก็ยื่นมือไปเปิดประตูให้กับเธอ
“คุณเวินครับ ดูเหมือนทุกอย่างจะราบรื่นนะครับ”
“อืม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าเล็กน้อย และถือเอกสารในมือไว้แน่น
จงหลีที่นั่งอยู่ข้างหน้า มองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยกระจกมองหลัง ก็เห็นว่าสายตาของเธอดูลอยๆ เหมือนกับจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว
“คุณเวินครับ คุณจะเข้าบริษัทหรือเปล่าครับ?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา และมองไปที่จงหลี สายตาค่อยๆโฟกัสขึ้นมา
นิ่งอยู่สักพัก จึงค่อยพูดขึ้นมา: “ไปปราสาทดีกว่า”
หลังจากห่างหายไปหลายวัน สุดท้ายหนังสือประกาศที่ปิดไว้ข้างนอกปราสาทก็ถูกดึงออก แต่ว่าภายในปราสาทก็ยังคงเงียบเหงา
กองหิมะหนาๆในช่วงฤดูหนาวถูกละลายจนหมด เหลือไว้แค่เพียงใบไม้ที่เหี่ยวเฉาและสวนดอกไม้ที่ว่างเปล่า
เมื่อเดินเข้าไปแล้ว กลับให้ความรู้สึกหนาวเย็นมากกว่าข้างนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่หน้าประตู แล้วเงยหน้ามองปราสาททั้งหลัง
ภาพที่ปรากฏข้างหน้าราวกับภาพในครั้งแรกที่เธอตื่นขึ้นมาในปราสาท
ในตอนนั้นเธอพยายามหาทุกวิถีทางเพื่อจะออกไปจากที่นี้ให้ได้ แต่ว่าตอนนี้ เธอกลับทำทุกวิถีทาง เพื่อที่จะรักษาที่นี่ไว้
พ่อบ้าน แม่ครัว คนขับรถ และคนสวน ที่เคยพักอยู่ในปราสาทก็ไม่มีใครอยู่แล้ว จึงทำให้ข้างในมันดูเงียบจนน่ากลัว
เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่สักพัก สุดท้ายก็ยังไม่มีความกล้าที่จะเดินเข้าไป
“จงหลี คุณไปหาคนมาทำความสะอาดปราสาทใหม่อีกครั้งหน่อย”
เมื่อจงหลีได้ยิน จึงถามขึ้นมา: “คุณเวิน จะมาพักอยู่ที่นี่เหรอครับ?”
“อืม”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหมุนตัวไป แล้วมองดูลานบ้านที่รกร้าง
“ที่นี่มีของทุกอย่างครบ ไม่จำเป็นต้องกลับตระกูลเวินแล้ว ฉันจะเข้ามาพักที่นี่ตั้งแต่วันนี้ เพราะถ้าจี้จิ่งเชินกลับมา ที่แรกที่เขาจะมาก็คงเป็นที่ปราสาท?”
เมื่อเธอเห็นว่ากำแพงดอกไม้ในบ้านกลายเป็นกิ่งก้านที่เหี่ยวเฉาแล้ว ก็ยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
จงหลีหันหน้าไป และมองหน้าด้านข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยน ด้วยความอึ้ง
“จงหลี?”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้ยินคำตอบจากจงหลี จึงหันกลับไป
จงหลีจึงรีบดึงสติกลับมา
“ครับคุณเวิน งั้นคุณเวินไปเดินเล่นก่อนได้เลยนะครับ เดี๋ยวผมจะสั่งให้คนมาทำความสะอาดให้ครับ”
“ไม่เป็นไร”เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดปฏิเสธขึ้นมา:“ฉันก็จะทำความสะอาดกับพวกเขาด้วย”
จงหลีขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย และยังอยากจะพูดเตือน แต่เมื่อเห็นว่าบนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้นเปื้อนยิ้ม ก็เลือกที่จะไม่พูดออกไป
เมื่อรอจนจงหลีออกไปแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเข้าไปดูข้างในปราสาทหนึ่งรอบ และหาเก้าอี้มาหนึ่งตัว แล้วนั่งอยู่ตรงระเบียง มองบรรยากาศข้างนอกที่ดูทรุดโทรมและเงียบเหงา
พื้นดินที่แห้งผาก ใบไม้ที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง และยอดไม้ที่ถูกหิมะทับไว้
ภาพที่อยู่ข้าหน้าของเธอช่างดูเยือกเย็น แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่า สวนดอกไม้แห่งนี้สวยได้แค่ไหม
เพราะว่าเธอเคยเห็นมากับตาของเธอเอง เคยได้สัมผัสและเคยรักมาก่อน
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนค่อยๆหลับตาลง ก็ราวกับว่าจี้จิ่งเชินมาปรากฏอยู่ต่อหน้าของเธออีกครั้ง มีน้ำเสียงที่กระตือรือร้นของพ่อบ้าน แล้วยังมีน้ำเสียงที่สนิทสนมของแม่ครัวอีก
“คุณเวิน”
มีเสียงๆหนึ่งดังขึ้นมาข้างหลังของเธอ เป็นน้ำเสียงที่เหมือนกำลังร้องไห้
น้ำเสียงนั้นราวกับเสียงที่อยู่ในความทรงจำของเธอ แต่มันกลับชัดเจนขึ้นเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงเปิดตาขึ้นมา ข้างหลังของเธอก็มีเสียงเรียกดังขึ้นมาอีก
“คุณเวิน พวกเรากลับมาแล้วครับ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้าไป ก็เห็นว่าจงหลีได้กลับมาแล้ว
และข้างหลังของเขา ก็มีพ่อบ้านที่มีสีหน้าเป็นห่วง มีแม่ครัวที่ดูอบอุ่น แล้วก็ยังมีคนที่ไม่ค่อยชอบพูดชอบยิ้มอย่างคนขับรถยืนอยู่ด้วย……
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองพวกเขาด้วยความตกใจ
ก่อนหน้านี้จงหลีเล่าว่า ตั้งแต่จี้จิ่งเชินเห็นว่ามีปัญหาเกิดขึ้นที่บริษัท ก็ได้เลิกจ้างพวกเขาทุกคนทันที
พ่อบ้านนั้นกลับไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา ส่วนแม่ครัวกับคนขับรถก็หางานใหม่ทำได้แล้ว……
“ทำไม่พวกคุณ……”
จงหลีพูดขึ้น:“ตอนที่ผมออกไปหาคน ก็เจอเข้ากับพวกเขาพอดี”
“คุณเวิน”
พ่อบ้านเดินขึ้นมาหนึ่งก้าว ยิ้มออกมา แล้วพูด:“ผมกลับไปพักผ่อนไม่กี่วัน แต่ในใจกลับรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป พอคิดไปคิดมา ก็คิดว่าอาชีพพ่อบ้านนี่แหละครับที่เหมาะสมกับผมมากที่สุด”
แม่ครัวที่ยืนอยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาต่อ
“เมื่อได้ยินว่าคุณเวินกลับมาแล้ว ป้าเลยกลัวว่าคุณเวินจะไม่ชินกับอาหารที่คนอื่นทำให้ เมื่อคิดว่าคุณจี้ก็ไม่อยู่แล้ว และถ้าคุณเวินไม่ได้กินข้าวดีๆ จะทำยังไง?”
เธอรู้สึกเหมือนมีอะไรขึ้นมาจุกตรงคอ แล้วน้ำตาก็เริ่มคลอเบ้า
“คุณจี้เคยกำชับป้าไว้ ว่าให้ป้าดูแลอาหารการกินของคุณเวินดีๆ อย่าทำให้สุขภาพของคุณเวินเสีย ป้าจำได้เสมอค่ะ”
ในขณะที่แม่ครัวพูด เธอก็ก้มหน้าและเช็ดน้ำตาไปด้วย
คนสวนที่อยู่ข้างหลังของเธอก็พูดขึ้นมาอีก:“กำแพงดอกไม้ในลานบ้านพวกนี้ยังสามารถมีชีวิตต่อไปได้นะครับ คุณเวิน ขอให้ผมอยู่ต่อด้วยนะครับ”
“คุณเวิน……”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองคนที่อยู่ข้างหน้าของเธอ แล้วรู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมา
จงหลีเดินเข้ามาสองสามก้าว จนเดินมายืนข้างๆของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก้มหน้าแล้วมองไหล่บางของเธอ ยกมือขึ้นเพื่อจะวางบนไหล่ของเธอ
ลังเลอยู่สักพัก แต่สุดท้ายก็ดึงมือกลับมา
“คุณเวินครับ พวกเขาก็เหมือนกับผม อยากจะรอคุณจี้กลับมาไปพร้อมกับคุณ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหน้า อารมณ์ที่อัดอั้นไว้ในใจถูกปลดปล่อยออกมาทันที
จริงๆแล้วไม่ได้มีแค่เธอที่รอการกลับมาของจี้จิ่งเชิน ข้างหน้าของเธอยังมีคนอีกมากมายที่มีความมุ่งมาดเหมือนกับเธอ
“อืม”
เธอพยักหน้า และเพราะกลัวพวกเขาจะไม่ได้ยินเสียงของเธอ เธอจึงรีบเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมา แล้วเงยหน้าขึ้น
“ขอบคุณทุกคนที่กลับมานะ เมื่อจี้จิ่งเชินกลับมา เขาต้องดีใจแน่เลย”
เมื่อพ่อบ้านได้ยิน ก็ยิ้มและพูดล้อขึ้นมา:“ถ้าคุณจี้กลับมาแล้วได้เจอกับพวกเรา ตามนิสัยของคุณจี้แล้ว จะไม่ยอมพูดออกมาแน่นอน แต่พวกเราก็รู้ครับ”
แม่ครัวพยักหน้าแบบเห็นด้วย
“คุณจี้แค่อาจจะไม่รู้จะพูดยังไงต่างหาก ก็เหมือนกับครั้งที่แล้วที่กินโจ๊กที่คุณเวินทำให้ ทั้งๆที่กินจนหมดถ้วยแล้ว แต่ก็ยังพูดว่าไม่อร่อยอีก ”
เมื่อทุกคนได้ฟัง ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา แล้วต่างคนก็ต่างพูดขึ้นมาคนละคำสองคำ ทั้งหมดก็เป็นเรื่องสนุกๆที่เกี่ยวกับจี้จิ่งเชิน
ถ้าปกติมีจี้จิ่งเชินอยู่ มีเหรอที่พวกเขาจะกล้าพูดแบบนี้
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้เห็นพวกเขา ก็ยิ้มตามพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้
ปราสาทที่เงียบสนิท ค่อยๆมีเสียงหัวเราะขึ้นมา คึกคักขึ้นมา แม้แต่ความเยือกเย็นที่มีอยู่ก่อนหน้านี้ ราวกับถูกพัดหายไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองดูพวกเขา ในใจก็ค่อยๆรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
จี้จิ่งเชิน คุณรีบๆกลับมานะ
ดูเหมือน ทุกคนจะชอบคุณมากเลยนะ