เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 374
บทที่ 374 พบกัน
ตอนพลบค่ำ รถเก๋งสีดำมาหยุดที่หน้าประตูร้านอาหารTHALIA
คนขับรถลงมาเปิดประตู เวินเที๋ยนเที๋ยนที่สวมใส่ชุดสีดำทั้งตัวก็เดินลงมา
เธอแต่งตัวมิดชิดมาก กระโปรงทรงเอเลยเข่าสีดำ ผมยาวสีเกาลัดดัดเป็นลอนเล็กน้อยและพาดอยู่ด้านหลัง ถึงขนาดทำให้เธอดูค่อนข้างสุขุม
พ่อบ้านลงไปก่อนแล้ว เขายืนอยู่ข้างรถ และส่งเสื้อคลุมบางๆในมือให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ คุณหนูครับ พวกเราจะรออยู่ที่ด้านนอกนะครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้ว่าพ่อบ้านเป็นห่วง จึงไม่ได้พูดปฏิเสธ เธอทำแค่พยักหน้าและพูดขึ้น: “ พวกคุณหาที่นั่งพักก่อนเถอะค่ะ ”
พ่อบ้านยืนตัวตรงอยู่ที่ข้างรถ มองเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจงหลีเดินเข้าไปในร้านอาหารด้วยกัน ในตาปรากฏความเป็นกังวลขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้ายากที่จะเชื่อมโยงกับหญิงสาวขี้ขลาดที่โผล่มาที่ปราสาทเก่าในตอนนั้นได้อีก เวลากับเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นในอดีต ทำให้เธอเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว
แต่การเติบโตนี้กลับทำให้คนรู้สึกปวดใจ
เขาเงยหน้ามองท้องฟ้าสีดำอย่างอดไม่ได้
ถ้าคุณผู้ชายอยู่คงจะยิ่งรู้สึกปวดใจมากกว่านี้?
สถานที่ที่นัดกับบริษัทจีนเซิน อยู่ที่ชั้นหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ ไม่นานก็เห็นชายหนุ่มที่นั่งอยู่ที่ตำแหน่งนั้น
ฝ่ายตรงข้ามสวมใส่ชุดสูทสีเทา ผมสั้นชี้โด่เด่ รูปร่างดูธรรมดามาก
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้ามา เขาก็ลุกขึ้นยืน และเผยรอยยิ้มขึ้น
“ คุณเวินครับ สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็นจริงๆนะครับ ”
เขายื่นมือออกมาจับมือกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ไม่เหมือนที่คาดการณ์เอาไว้ ฝ่ายตรงข้ามดูเป็นกันเองมาก ไม่เหมือนคนที่มีแผนสูงเลยสักนิดเดียว
จงหลียืนอยู่ข้างๆ เขาสังเกตรูปลักษณ์ของฝ่ายตรงข้ามเงียบๆ และทำการระวังตัวอยู่ตลอด
ชายหนุ่มชื่อว่าต่งไห่พอนั่งลงก็เริ่มพูดพาเวินเที๋ยนเที๋ยนออกนอกเรื่อง คล้ายกับทิ้งโครงการที่จะทำร่วมกันเมื่อครั้งก่อนออกไปไกล และยากที่จะเชื่อมโยงกับผู้รับผิดชอบของ บริษัทจีนเซิน ที่เสนอเงื่อนไขแบบเผด็จการเมื่อครั้งก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนช่วยฟังคำพูดจิปาถะของเขา แต่กลับรู้สึกไม่ค่อยเป็นตัวของตัวเอง
เหมือนมีคนกำลังมองเธออยู่
สายตานั้นโผล่มาและหายไปอยู่ตลอด จึงทำให้เธอเกิดความรู้สึกสงสัยอย่างอดไม่ได้
“ ……คุณเวินครับ? คุณว่าเป็นไงบ้างครับ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบดึงสติกลับมาอย่างรวดเร็ว สายตาไปหยุดอยู่บนตัวต่งไห่ที่หน้าแดง และดูเหมือนกำลังตื่นเต้น
“ อะไรหรอคะ? ”
“ ผมบอกว่าเนื้อเทนเดอร์ลอยน์ของที่นี่ขึ้นชื่อมาก คุณลองหน่อยไหม? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบเผยรอยยิ้มอ่อนขึ้นทันที
“ ได้ค่ะ ”
เธอตอบกลับไปอย่างเหม่อลอย กลับรู้สึกว่าสายตาที่มาหยุดอยู่ที่ด้านหลังเมื่อสักครู่ได้หายไปอีกแล้ว
กำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อย คล้ายกับว่าจงหลีรอไม่ไหวแล้ว เขาจึงพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึม
“ คุณต่งครับ ผู้จัดการหยางบอกจุดประสงค์ของเราให้คุณทราบแล้ว ความคิดเห็นของคุณล่ะครับ? ”
ต่งไห่ได้ฟังดังนั้น ก็กลอกตาเล็กน้อย เขายิ้มและพูดอธิบายคร่าวๆ: “ ทานอาหารก่อนค่อยคุยกันนะครับ ”
พูดเสร็จ ก็หันกลับไปพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนต่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังแล้ว กลับรู้สึกว่าเขากำลังพูดเกลี้ยกล่อม ผ่านไปสักพักจึงไม่ตอบอะไรอีก
จงหลีไม่พอใจที่ฝ่ายตรงข้ามละเลยตัวเอง เขาขมวดคิ้ว และพูดด้วยน้ำเสียงที่ไม่พอใจ
“ คุณต่ง เรามาที่นี่ ไม่ได้มาฟังคุณพูดไร้สาระนะครับ ”
ต่งไห่พูดไปได้ครึ่งนึงก็ถูกจงหลีขัดจัวหวะเสียก่อน สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปทันที
จงหลีอยากพูดต่อ แต่กลับถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนห้ามไว้เสียก่อน
“ ไม่เป็นไรจงหลี เราทานอาหารก่อนก็ได้ ”
ต่งไห่ถึงค่อยพอใจ และยิ้มออกมา
จงหลีเม้มริมฝีปาก ยังรู้สึกโมโหอยู่ แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไร
บนโต๊ะอาหาร มีเพียงต่งไห่ที่กำลังพูดคุย และชอบกางแขนสองข้างอยู่บ่อยครั้ง ดูเหมือนกำลังตื่นเต้น
ตอนที่สเต็กเนื้อมาเสิร์ฟ พนักงานถึงกับต้องย้ายทิศทางไปมา เพื่อหลบหลีกการกระทำของเขา
ดูเหมือนต่งไห่ยังไม่รู้ว่าตัวเองได้ก่อความวุ่นวายให้คนรอบข้าง เขายังพูดโม้ไปเรื่อยอย่างตื่นเต้น ไม่รู้ว่าไปได้ยินคำเหล่านั้นมาจากไหนกันแน่
เขากางแขนออกอย่างตื่นเต้น กลับไม่ระวังจนทำให้มือไปโดนบนตัวของพนักงาน
ทำให้พนักงานยืนไม่นิ่ง จนเอนไปกระแทกกับโต๊ะอาหารในที่สุด
แก้วไวน์ที่อยู่บนโต๊ะสั่นไปมา ของเหลวสีแดงก็กระเด็นออกมาข้างนอกทันที และกระเด็นไปใส่บนชุดของเวินเที๋ยนเที๋ยน
วินาทีแรกจงหลีก็ได้ดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนออกมา แต่กระโปรงก็ยังถูกของเหลวกระเด็นใส่อยู่ดี
เขาโมโหจนตาแดง และได้หันไปพูดตำหนิต่งไห่: “ คุณทำอะไร! ”
ต่งไห่ก็ตกใจเหมือนกัน เขาเก็บรอยยิ้มบนใบหน้า และจะเดินเข้ามาช่วย
“ ขอโทษครับ ขอโทษครับ ”
เพิ่งจะได้ยื่นมือออกไป กลับถูกจงหลีตบมือให้ร่วงเสียก่อน
เสียงใสดังขึ้น ทำให้ต่งไห่รู้สึกเก้อเขินไปชั่วขณะ
เขาลูบจมูกไปมา นำความโมโหไประบายใส่พนักงานคนนั้น ชี้มาที่เธอและทำการต่อว่าพนักงาน
เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้กระดาษชำระเช็ดคราบไวน์ที่ติดอยู่บนกระโปรง และพูดขึ้น: “ ฉันไม่เป็นไรค่ะ อย่าไปโทษเขาเลย ”
เธอกำลังพูด กลับรับรู้ถึงสายตาที่อยู่ด้านหลังได้ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ต่งไห่กำลังโต้เถียงกับพนักงาน เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบหันหัวกลับไปอย่างรวดเร็ว และมองไปทางที่สายตานั้นส่งมา
ในมุมมืดของร้านอาหาร สามารถมองเห็นคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นได้อย่างเลือนราง แต่กลับมองเห็นเพียงภาพเลือนราง แม้แต่ลักษณะกับรูปร่างของฝ่ายตรงข้ามก็มองเห็นไม่ชัด
ครั้งนี้ ต่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมองมา ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่หลบสายตากลับไป แต่กลับมองเธอตอบ
ที่น่าแปลกก็คือ คล้ายกับเป็นสายตาที่ค่อนข้างไม่มีมารยาท กลับทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้สึกรังเกียจ
เธอกำลังมองอย่างสงสัย อยู่ๆต่งไห่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามก็เรียกเธออย่างกะทันหัน
“ คุณเวินครับ ขอโทษจริงๆนะครับ งั้นมื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเองครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเก็บสายตากลับมา และพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “ ไม่เป็นไรค่ะ เรามาพูดเรื่องโครงการกันดีกว่า ”
ฝ่ายตรงข้ามรู้ว่าตัวเองผ่านด่านนี้ไปไม่ได้แล้ว จึงพูดขึ้นมา: “ ขอโทษครับ โครงการนี้เราทำขึ้นมาอย่างเหน็ดเหนื่อย และหวังว่าจะได้ทำร่วมกันกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ถ้าเปลี่ยนเป็นคนอื่น…… ”
ต่งไห่ยิ้มเล็กน้อย เขาได้แสดงการปฏิเสธออกมาแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างเข้าใจ และพูดขึ้น: “ เรื่องนี้ ฉันจะกลับไปพิจารณาอีกครั้ง ”
ทานอาหารเสร็จ เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังออกไปจากร้าน เธอเงยหน้ามองไปที่มุมร้านอาหาร กลับพบว่าคนที่นั่งอยู่ตรงนั้นเมื่อสักครู่ไม่อยู่แล้ว
เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย และรู้สึกหดหู่ในใจนิดหน่อย
ต่งไห่เดินตามพวกเขาออกมา เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจงหลีขึ้นรถไปแล้ว
ยืนอยู่สักพัก ถึงค่อยเดินไปทางอื่น
อ้อมมาที่หัวมุมถนน มีรถเก๋งสีดำจอดอยู่ที่ทางแยกอีกฝั่ง
ต่งไห่เดินไปที่ข้างรถ กระจกรถถึงค่อยๆเลื่อนลงมาอย่างช้าๆ
เขาก้มหน้าเล็กน้อย และพูดกับคนในรถ: “ ที่คุณให้ผมทำ ผมได้พูดไปแล้วครับ ”
คนในรถหันกลับมา ใบหน้าคมที่เหมือนใบมีดหลบซ่อนอยู่ในเงามืด โผล่ออกมาแค่ขากรรไกรที่แหลมคมเท่านั้น
น้ำเสียงของเขาหนักแน่น ผสมไปด้วยความหงุดหงิด
“ ฉันไม่ได้ให้นายทำชุดของเธอสกปรก และก็ไม่ได้ให้นายจับมือของเธอ ”
ต่งไห่ชะงักไปเล็กน้อย เมื่อวานผู้ชายคนนี้มาหาเขา ให้เขาปลอมเป็นผู้รับผิดชอบของ บริษัทจีนเซินจำกัด เขาก็แค่ทำงานเพื่อเอาเงินเฉยๆ
วันนี้เห็นรูปลักษณ์ของเขาดีมาก อีกทั้งยังมาทานอาหารที่ร้านอาหารระดับสูงของเมืองหลวงอีกด้วย อาจทำให้ลืมเราไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ไม่คิดว่าการกระทำเล็กๆน้อยๆของตัวเองจะถูกเขาเห็นได้
“ ขอโทษครับ ”
เผชิญหน้ากับผู้ชายคนนี้ เขากลับไม่กล้าทำแบบลวกๆเลย
“ อย่าให้มีครั้งหน้าอีก ”
คนในรถพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และส่งซองจดหมายมาให้เขา
“ เอาไปแค่นี้ก่อน ต่อไปนายยังต้องเข้ามาอีกหลายครั้ง ”
ต่งไห่รีบรับซองจดหมายมาอย่างรวดเร็ว และเปิดดูอย่างรอไม่ไหวแล้ว เปิดเสร็จ ในตาของเขาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
“ ไม่มีปัญหา ตอนไหนก็ได้ครับ ”
พูดเสร็จ กระจกรถก็ค่อยๆเลื่อนขึ้น
รถเก๋งสีดำค่อยๆเคลื่อนออกไป ผ่านเขตชุมชนมาได้สักพัก คนบนรถก็ไถลรถเข็นลงมา และเปลี่ยนไปนั่งรถแท็กซี่อีกคัน ถึงได้กลับมาที่ชุมชนเล็กๆที่ตัวเองพักอาศัยอยู่