เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 394
บทที่ 394 เพราะว่าอิจฉา
หลวนจื่อเดินเข้าไปข้างหน้าด้วยความตื่นเต้น เพื่อเข้าใกล้จี้จิ่งเชิน และสังเกตท่าทางของเขาในระยะใกล้
จี้จิ่งเชินมองดูพวกเขา ด้วยท่าทีที่ห่างเหิน
“พวกคุณเป็นใคร?”
เมื่อได้ยินประโยคนี้ ทั้งสองคนก็อึ้งทันที
“ก็ฉัน หลวนจื่อไง” หลวนจื่อยื่นมือออกไปดึงหมินอันเกอขึ้นมาข้างหน้า
“ส่วนคนนี้หมินอันเกอ คุณจำไม่ได้แล้วเหรอ?”
“ผมรู้จักชื่อของพวกคุณ แต่ที่ผมถามพวกคุณคือพวกคุณมาทำอะไรที่นี่?”จี้จิ่งเชินพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
สายตาของเขามองอยู่ที่หมินอันเกอตั้งแต่แรก แต่ไม่รู้ว่าทำไม เขาจึงมีความรู้สึกไม่ถูกชะตากับหมินอันเกอตั้งแต่แรกเห็น
และยิ่งได้เห็นช่อดอกไม้ในมือของหมินอันเกอ เขาก็ยิ่งต้องหรี่ตาลง
ดอกกุหลาบสีขาว?
เอามาให้ใคร?
“ฉันให้พวกเขามาเองค่ะ”และในขณะนั้นเอง เสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ดังขึ้นมาจากข้างหลัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนถือจานผลไม้อยู่ในมือ ทันทีที่เธอเห็นพวกเขาสองคน ก็ยิ้มขึ้นมา
“ตกใจเหรอคะ? ขอโทษนะ จริงๆแล้วฉันควรบอกคุณตั้งแต่แรก”
เมื่อถึงตอนนี้หมินอันเกอจึงค่อยดึงสติกลับมาได้
“ไม่เป็นไร”
สายตาที่มีความหมายอะไรบางอย่างซ่อนอยู่ เลื่อนจากร่างของจี้จิ่งเชินไปยังร่างของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วนำดอกไม้ในมือส่งให้กับเธอ
“ผมไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินได้กลับมาอย่างปลอดภัยแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงได้นำของมาเยี่ยมเขาเล็กน้อย”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงยื่นมือไปรับดอกไม้มา แล้วนำมาใส่ในแจกันที่วางอยู่บนโต๊ะ
“ไม่เป็นไรค่ะ จริงๆแล้วฉันก็ไม่อยากให้คนภายนอกรู้เรื่องของจี้จิ่งเชินหรอกค่ะ ยังไงเรื่องของวันนี้ พวกคุณก็ห้ามบอกใครนะคะ ”
“อืม”
หมินอันเกอรู้ว่าตอนนี้ตระกูลเวินยังคงจ้องจะทำร้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินอยู่ และถ้าพวกเขารู้เข้าว่าจี้จิ่งเชินยังไม่ตาย ไม่รู้ว่าจะทำเรื่องเลวร้ายอะไรออกมา
เขาหันไปยิ้มให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยน มีแค่เขาเท่านั้นที่รู้ ว่าในตอนที่เขาได้เห็นจี้จิ่งเชิน ใจของเขาค่อยๆจมลงไป
แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน เขากลับไม่แสดงมันออกมา
“แค่จี้จิ่งเชินสามารถกลับมาได้อย่างปลอดภัยก็ดีมากแล้ว”
“จริงๆแล้ว ที่ฉันให้พวกคุณมาในวันนี้ ก็เพราะว่าฉันมีอีกเรื่องหนึ่งที่อยากให้พวกคุณช่วยหน่อยนะคะ”
ในขณะที่พูด เวินเที๋ยนเที๋ยนก็พาเขามาอยู่ข้างๆ และพูดด้วยเสียงที่เบาลงเล็กน้อย แล้วนำเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในช่วงนี้เล่าให้พวกเขาฟัง
เมื่อสักครู่ตอนหมินอันเกอได้ยินเสียงของจี้จิ่งเชิน เขาก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
แต่เมื่อได้ฟังสิ่งที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเล่าแล้ว จึงพูดขึ้นมาด้วยความตกใจ:“จำอะไรไม่ได้เลยอย่างนั้นเหรอ?”
“อืม และที่ฉันให้พวกคุณมา เพราะฉันคิดว่าถ้าจี้จิ่งเชินได้อยู่ร่วมกับคนที่เขาเคยรู้จักกันบ่อยๆ อาจจะช่วยเขาได้”
หมินอันเกอขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย แล้วหันหน้าไปมองทางจี้จิ่งเชินแวบหนึ่ง
พอหันไป สายตาก็ปะทะเข้ากับสายตาของเขาพอดี
ในสายตาของจี้จิ่งเชินนั้น มีความไม่เป็นมิตรอยู่ในนั้นด้วย
หมินอันเกอใจกระตุกขึ้นมาทันที แล้วถามขึ้นมา: “ขาของคุณ……”
“น่าจะถูกทับตอนไฟไหม้ครั้งที่แล้วค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนจำได้ขึ้นใจว่า ที่จี้จิ่งเชินได้รับบาดเจ็บแบบนี้ก็เพื่อที่จะช่วยเธอ
“เข้าใจแล้วครับ”
หมินอันเกอพยักหน้า
“ขอบคุณค่ะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มขึ้นมาด้วยความซาบซึ้งใจ
หมินอันเกอยื่นมือออกมา เพื่อวางลงบนหัวของเธอแบบที่เคยทำเป็นประจำ แต่เมื่อยื่นมือออกไปได้ครึ่งทาง ก็ต้องหยุดการกระทำลง
“ไม่เป็นไร”
เมื่อสองคนหันกลับ จึงได้เห็นว่าจี้จิ่งเชินกำลังมองมาที่พวกเขาอยู่
“เพราะฉะนั้นคุณจึงจำอะไรไม่ได้จริงๆใช่ไหม?”เมื่อหลวนจื่อได้ฟังคำพูดของเวินเที๋ยนเที๋ยน เธอจึงได้สังเกตจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วเล็กน้อยด้วยความรู้สึกไม่พอใจ กับท่าทางที่ดูผยองของเธอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงพูดขึ้นมา: “ฉันอยากให้พวกคุณมาช่วยฉันคิดหน่อย ว่าต้องทำยังไงเขาถึงจะจำได้ ฉัน……”
“ไม่รบกวนดีกว่าครับ”
อยู่ๆจี้จิ่งเชินก็พูดขัดขึ้นมา
“ผมไม่อยากเสียเวลากับพวกเขา”
พูดเสร็จ เขาก็ไม่ได้สนใจสายตาที่ดูตกใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน บังคับเก้าอี้รถเข็นแล้วหมุนตัวออกไปจากห้องรับแขก
บนใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเผยความรู้สึกผิดหวังขึ้นมา แล้วหันมายิ้มให้กับหมินอันเกอและหลวนจื่อ
“ขอโทษด้วยนะคะ วันนี้เขาน่าจะอารมณ์ไม่ดีเท่าไหร่ แต่ก่อนหน้านี้เขารับปากกับฉันแล้วว่าจะยอมร่วมมือกับฉันดีๆนะคะ”
“ไม่เป็นไรหรอก”
หมินอันเกอถอนสายตากลับมา
เมื่อสักครู่ที่จี้จิ่งเชินพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนว่าพวกเขา น่าจะหมายถึงเขาและหลวนจื่อแหละมั้ง?
จี้จิ่งเชินแค่ไม่ต้องการให้พวกเขาเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เพราะถ้าเป้าหมายถูกเปลี่ยนเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยนล่ะก็ สถานการณ์จะไม่เหมือนเดิมทันที
เมื่อหมินอันเกอนึกถึงสายตาเมื่อสักครู่ที่ดูไม่เป็นมิตรของจี้จิ่งเชิน ก็คิดว่าถึงแม้อีกฝ่ายจะความจำเสื่อม แต่ลักษณะนิสัยกลับยังคงเหมือนเดิม
“ในเมื่อเป็นแบบนี้ เรารอให้ผ่านไปสักสองสามวันก่อน แล้วค่อยมาใหม่ดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ พวกคุณอยู่ต่อได้นะคะ”
เธอหมุนตัวและนำเอกสารที่เตรียมเอาไว้ที่ห้องรับแขกออกมา และโบกไปมาอยู่ในมือ
“ก่อนหน้านี้ที่คุณเคยนำเงินมาลงทุนในงานของบริษัท ตอนนี้งานก็ได้เสร็จสิ้นไปแล้ว และงานที่ต้องติดตามก็เสร็จไปแล้วเหมือนกัน ฉันเลยอยากคุยรายละเอียดเรื่องเงินส่วนแบ่งกับคุณหน่อยค่ะ”
หมินอันเกออึ้งไปสักพัก ตอนแรกที่เขาขอร่วมลงทุนกับเธอ เพราะอยากให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรับเงินของเขาไปได้แบบสบายใจก็เท่านั้น และเขาก็ลืมเรื่องนี้ไปตั้งนานแล้วด้วย ไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะพูดขึ้นมาอีกครั้ง
เขากำลังจะปฏิเสธ แต่เมื่อเห็นท่าทีที่ดูจริงจังของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาจึงได้พยักหน้าไป
“ไม่คิดว่าจะได้ส่วนแบ่งเร็วขนาดนี้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มแล้วเปิดเอกสารในมือ “พอดีฉันได้เร่งให้พนักงานรีบทำนะค่ะ เพราะฉันไม่อยากให้ส่งผลต่องานของคุณ”
เมื่อเห็นว่าทั้งสองคนเริ่มยุ่งขึ้นมา หลวนจื่อก็ไม่ได้เดินเข้าไปหาพวกเขา แต่กลับหันหลังและเดินออกไปข้างนอก
ตอนแรกแค่อยากจะเดินเล่นสักพักในบริเวณบ้าน แต่ไม่คิดว่าเมื่อเดินผ่านสวนดอกไม้แล้ว ก็เจอเข้ากับร่างของจี้จิ่งเชิน
เขาไม่ได้ขึ้นไปข้างบน แต่กลับมานั่งอยู่ข้างหลังของปราสาท
“ใคร?”
เธอเพิ่งจะเดินเข้ามา จี้จิ่งเชินก็รีบหันหน้ามา
เมื่อเห็นว่าเป็นหลวนจื่อ สายตาที่ดูเดือดดาลของเขาก็หายไปทันที และหันหน้ากลับไปทางเดิม โดยไม่ได้สนใจเธอ
เมื่อหลวนจื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนไปของเขา เธอก็ทำปากยื่น แล้วเดินเข้าไปหา
“คุณจำอะไรไม่ได้จริงๆเหรอ?”
เธอยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ราวกับไม่อยากพลาดรายละเอียดบนใบหน้าของจี้จิ่งเชิน
“เที๋ยนเที๋ยนก็จำไม่ได้เหรอ? แล้วคุณชอบเธอไหม?”
“พูดเสียงดังน่ารำคาญ”
จี้จิ่งเชินขมวดคิ้วและพูดขัดเธอขึ้นมา
“เรื่องนี่ไม่เกี่ยวกับคุณ”
“ทำไมจะไม่เกี่ยวล่ะ?” เธอรีบพูดขึ้นมา: “ถ้าหากคุณไม่ได้ชอบเที๋ยนเที๋ยนแล้ว ฉันก็จะให้หมินอันเกอจีบเที๋ยนเที๋ยนใหม่อีกครั้งไง เมื่อถึงตอนนั้นฉัน……”
จี้จิ่งเชินสั่นไปทั้งตัว ม่านตาก็หดลงทันที รีบจับเสื้อของหลวนจื่อ และกระชากเธอเข้ามา
“คุณพูดอะไรนะ?”
หลวนจื่อมองด้วยความตกใจกับการกระทำที่กะทันหันของจี้จิ่งเชิน
“คุณ คุณจะทำอะไร? ฉันไม่ได้พูดผิดสักหน่อย”
“เกิดอะไรขึ้นระหว่างหมินอันเกอกับเวินเที๋ยนเที๋ยน?”
เขาเบิกตากว้าง ดวงตาราวกับถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำ ที่ค่อยๆมืดลง
หลวนจื่ออยากจะดึงเสื้อของตัวเองออก แต่อีกฝ่ายกลับจับแน่นไว้ราวกับแหนบเหล็ก
เธอจึงยอมแพ้ แล้วพูดขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ: “หมินอันเกอเขาชอบเวินเที๋ยนเที๋ยนมาตั้งนานแล้ว อย่าบอกนะว่าเรื่องนี้คุณก็ไม่รู้ ถึงแม้คนอื่นจะไม่พูด แต่คุณไม่เคยหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ตหรือยังไง?”
ก่อนหน้านี้มีข่าวซุบซิบเกี่ยวกับเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอเยอะจะตาย ขอแค่สนใจเมื่อไปค้นหาก็เจอแล้ว
จี้จิ่งเชินกำหมัดไว้แน่น และกัดฟันกรอด
หลวนจื่อมองเขาด้วยความกังวล
“คุณ ปล่อยฉันได้หรือยัง?”
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยินคำพูดของเธอ ก็ราวกับเพิ่งจะดึงสติกลับมาได้ แล้วยอมปล่อยเสื้อของเธอออก
“คุณนำเรื่องในอดีตของเวินเที๋ยนเที๋ยนและหมินอันเกอ เล่าให้ผมฟังให้หมด”