เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 437
บทที่ 437 ไม่เคยจากไปไหน
สองมือของจี้จิ่งเชินสั่นเล็กน้อย
ถ้าเป็นไปได้ เขาก็ไม่อยากแสดงด้านอ่อนแอของตัวเองออกไปให้เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นหรอก
การหยิ่งในเกียรติของเขา ความทระนงของเขา แม้แต่ตัวเขาเองยังรับสภาพของตัวเองตอนนี้ไม่ได้เลย
ต่อให้คนบนโลกทั้งหมดจะเห็นด้านอ่อนแอของเขา เขาก็ยังหวังว่าในสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนตัวเองจะยังคงไม่เคยเปลี่ยนไป
ถ้าเป็นไปได้ เขาก็อยากดูแลปกป้องเวินเที๋ยนเที๋ยนไปตลอดชีวิต
ต่อให้สภาพจิตใจย่ำแย่ถึงขนาดนี้ เขาก็ไม่กล้าให้เวินเที๋ยนเที๋ยนรับรู้
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นใบหน้าด้านข้างของเขา ในใจก็เต็มไปด้วยความตกตะลึง
นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นจี้จิ่งเชินอ่อนแอถึงขนาดนี้
ในภาพความทรงจำของเขา ต่อให้จี้จิ่งเชินเผชิญหน้ากับปัญหาหรือความอันตรายที่ยากลำบาก เขาก็ไม่เคยแสดงสีหน้าหรืออารมณ์ออกมาแบบนี้เลยสักครั้ง
เหมือนกับกษัตริย์ผู้กล้าหาญ เขาชี้แนะประเทศ เขาปกครองใต้ล้า
แต่หลังจากที่ผู้คนจากไป เขากลับทำได้เพียงเลียรักษาบาดแผลอย่างโดดเดี่ยว
ด้านนึงรักษาบาดแผล อีกด้านยอมทุ่มเทอย่างเต็มใจ
ต่อให้เป็นอสูรกายที่รูปลักษณ์น่าเกลียด ที่แอบหลบอยู่ด้านหลังเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างดื้อรั้น
ตอนนี้ จี้จิ่งเชินเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น
แต่ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขากลับไม่ธรรมดา
“ จี้จิ่งเชิน…… ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้นเบาๆ “ ฉันไม่เคย…… ”
“ ไม่ต้องพูดแล้ว! ”
ยังไม่รอให้เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดจบ อยู่ๆจี้จิ่งเชินก็พูดเสียงสูงขัดจังหวะเธอ
เขาพูดกับตัวเอง แต่ไม่หันไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ อีกสักครู่ผมจะส่งคุณกลับไปที่บ้านหล่อน ต่อไปคุณอยู่ที่นั่น ไม่นานคุณนายหล่อนก็คงจะ…… ”
ฉึบ!
ยังพูดไม่ทันจบ อยู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนก็กระโจนเข้ามาอย่างกะทันหัน
น้ำเสียงของจี้จิ่งเชินถูกขัดจังหวะ ถูกเธอชนจนเซไปด้านหลัง จนทำให้แผ่นหลังของเขาปะทะเข้ากับเบาะรถ
เขาเพิ่งจะเงยหน้าขึ้นมา กลับเห็นใบหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนขยับเข้ามาใกล้
เธอหลับตาลงเล็กน้อย ขนตางอนสั่นนิดหน่อย ทำให้ดูเหมือนไม่สบายใจกับมีความตื่นเต้น
แต่มือของเธอกลับจับไว้อยู่ที่ไหล่ของจี้จิ่งเชินอย่างมั่นคง ไม่ให้เขาได้ขยับตัวไปไหน
จี้จิ่งเชินตะลึงไปทันที สติปัญญาบอกเขาว่าให้ผลักเวินเที๋ยนเที๋ยนออก แต่เห็นใบหน้าที่มุ่งมั่นของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้า เขากลับลังเลใจเล็กน้อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับตัวเขาขึ้นมา และประทับลงไปบนริมฝีปากของจี้จิ่งเชิน เพื่อปิดกั้นคำพูดต่อไปของเขา
คล้ายกับนี่เป็นการจู่โจมครั้งแรกของคนที่อยู่ตรงหน้า สามารถพูดได้ว่านี่เป็นจูบที่ร้อนแรงเลยทีเดียว
มือของเธอกำลังสั่น แม้แต่กลีบปากก็สั่นด้วยเช่นกัน แต่กลับงัดริมฝีปากของจี้จิ่งเชินให้เปิดออกได้
จี้จิ่งเชินสามารถรับรู้ได้ว่ามือของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่กดทับอยู่ที่ไหล่ของตัวเองนั้น เป็นเพราะตื่นเต้น จึงทำให้รู้สึกร้อนนิดหน่อย
เขาลังเลใจไปสักครู่ ไม่ได้ต่อต้านอะไร
จิตใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนมุ่งมั่น เธอนึกย้อนกลับไปถึงการกระทำที่จี้จิ่งเชินเคยทำกับเธอในอดีต ทุกเรื่อง ทุกอย่าง
จี้จิ่งเชินพิงเก้าอี้อย่างผู้ถูกกระทำ ในความระมัดระวัง หญิงสาวได้เผยให้เห็นความดื้อรั้นที่น่าสงสารออกมา
เขาอยากจะยื่นมือออกไปเกี่ยวเอวของเธอ และจูบตอบเธออย่างดูดดื่ม
แต่มือของเขาทำได้เพียงวางไว้ข้างตัว และกำมือจนกลายเป็นกำปั้นเท่านั้น
แต่ยิ่งจี้จิ่งเชินไม่เคลื่อนไหวอะไร เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยิ่งร้อนใจ
เธอดึงความสามารถของตัวเองออกมาจนหมด แต่ฝ่ายนั้นกลับไม่ตอบสนองอะไรกลับมาเลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนจับไหล่ของจี้จิ่งเชินไว้แน่น ทั้งตัวของเธอแนบอยู่บนตัวของเขา
แต่ในตอนนี้ อยู่ๆก็รับรู้ถึงความร้อนที่ผิดปกติ
เวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักไป วินาทีต่อมาก็เข้าใจได้ทันที
รอจนรู้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร ตัวของเธอก็แข็งทื่อไปทันที แม้แต่การกระทำก็ยังต้องหยุดลง
เธอลืมตาขึ้น แก้มใสเป็นสีแดง ในตามีแสงของหยดน้ำ
“ จี้จิ่งเชิน คุณ……อันนั้น…… ”
ร่างของจี้จิ่งเชินรัดกันแน่น เขากัดฟันเล็กน้อย จอนเลยลงไปจนถึงขากรรไกรเกิดเป็นเส้นขึ้นอย่างชัดเจน
“ ลงไป ”
น้ำเสียงหนักแน่นปะปนไปด้วยเสียงที่แหบ
ได้ฟังแล้งยิ่งชวนให้คนหน้าแดงมากกว่าเดิม
สองมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนพยุงไหล่ของเขาไว้ เพิ่งจะลุกออกมาได้นิดหน่อย สองขาก็อ่อนปวกเปียกจนไร้เรี่ยวแรง และล้มกลับไปอีกครั้ง
“ อือ…… ”
ในตาของเธอมีแสงของหยดน้ำ หน้าแดงมากยิ่งขึ้น
สองขาไร้เรี่ยวแรงจนยืนไม่ได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนลำบากใจจนไม่กล้ามองจี้จิ่งเชิน เธอพยายามลุกขึ้นยืนอยู่หลายครั้ง แต่ไม่ว่าจะพยายามสักกี่ครั้ง ก็เป็นอันต้องล้มเหลวทุกครั้ง
เชื่องช้า แม้แต่เธอก็รู้สึกร้อนขึ้นมาบ้างแล้ว จนทำให้เม็ดเหงื่อผุดขึ้นมาบนหน้าผาก
“ ฉัน……ขาของฉันไม่มีแรง…… ”
เธอพูดบ่น
น้ำเสียงเล็กเหมือนลูกแมว
กล้ามเนื้อภายใต้เสื้อสูทของจี้จิ่งเชินรัดกันแน่น คล้ายกับสามารถระเบิดออกมาได้ทุกเวลา
เขาจ้องลำคอของเวินเที๋ยนเที๋ยน ข้างบนเกิดเป็นริ้วรอยสีชมพูขึ้นบางๆ ผมลอนยาวพัดผ่านนิ้วมือ และกำลังยุแหย่ประสาทของเขาอย่างไม่หยุดหย่อน
ตาคมค่อยๆหรี่ลงเล็กน้อย บดบังความรู้สึกที่กำลังปะทุออกมา
“ ผู้หญิงโง่ ”
เขาพูดตำหนิเบาๆ อยู่ๆก็ยื่นมือออกไปเกี่ยวเอวของเวินเที๋ยนเที๋ยน และกอดเธอมาวางบนเก้าอี้ข้างๆ
พอวางเธอเสร็จแล้ว เขาก็ไม่ได้ละออกไปไหน
สองมือใหญ่ที่ร้อนระอุลูบเอวของเธอเบาๆ เหมือนที่เขาเคยทำในอดีต และกำลังลาดตระเวนอยู่ตรงช่วงล่างตลอด
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยหลังไปนิดหน่อย ตัวของเธอค่อยๆร้อนขึ้น
ดวงตาของจี้จิ่งเชินแดงขึ้นนิดหน่อย สายตานั้นเหมือนอยากจะกลืนเวินเที๋ยนเที๋ยนลงไปในท้องสักเดี๋ยวนั้น
แต่วินาทีต่อมา อยู่ๆจี้จิ่งเชินก็ถอยไปด้านหลัง มือที่วางอยู่บนตัวของเธอก็ได้เก็บเข้าที่เดิมอย่างรวดเร็ว ไม่มีความอาลัยอาวรณ์เลยสักนิดเดียว
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหนักใจ ในสายตาที่กำลังก้มหน้าเผยความผิดหวังขึ้น
“ ถ้าเป็นคนอื่นคงไม่ปล่อยคุณไปง่ายๆแบบนี้ ” จี้จิ่งเชินพูดขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนกัดริมฝีปากล่างแน่น
“ ฉันแค่อยากให้คุณฟังฉันพูดให้จบ…… ”
เธอรู้สึกเสียใจ แม้แต่ตัวของเธอเองก็ยังไม่คิดว่า สุดท้ายมันจะกลายเป็นแบบนี้
“ ฉันไม่เคยดูถูกคุณ และก็ไม่เคยคิดอยากจะไปจากคุณ คุณอย่าไล่ฉันไปเลยนะ ”
จี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น ก็หันกลับไป ตั้งใจไม่มองเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาขมวดคิ้ว
“ ผมจะไม่เจอคุณอีก ”
“ งั้นก็ให้ฉันไปหาคุณสิ ” เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดขึ้น
จี้จิ่งเชินหันกลับมาอย่างตกตะลึง กลับเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนส่งยิ้มให้
“ เมื่อก่อนเป็นคุณที่ช่วยเหลือฉัน ครั้งนี้ ฉันจะไม่หันกลับไป ฉันจะไล่ตามคุณเอง ”
เธอยื่นมือออกไปจูงมือของจี้จิ่งเชิน
“ แต่ต้องขอร้องคุณ ครั้งนี้วิ่งให้ช้าๆหน่อย อย่าทิ้งฉันไว้ด้านหลัง ”
จี้จิ่งเชินชะงักไป เขามองตาของเวินเที๋ยนเที๋ยน
วินาทีต่อมา กลับแกะมือออกจากมือของเธอเบาๆ
“ ผมไม่ ”
เขาหวังให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไปจากเขา และหาคนที่ดีกว่า ไม่ใช่เขา
แต่ไม่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่เสียใจ เธอก้มหน้าหัวเราะนิดหน่อย
“ งั้นฉันจะออกแรงวิ่ง เพื่อจะได้ตามคุณทัน ”
เธอพูดอย่างแน่วแน่ ไม่ลดละเลยสักนิด
จี้จิ่งเชินกลับขมวดคิ้ว กำลังจะพูดกล่อมเธอ แต่รถก็ได้หยุดลงเสียก่อน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเปิดประตูรถ ไม่รอให้จี้จิ่งเชินได้พูดอะไร เธอก็ลงไปจากรถเสียก่อน
เธอยืนอยู่นอกรถ โค้งตัวเล็กน้อย และโบกมือให้จี้จิ่งเชินที่อยู่ในรถ
“ เตรียมตัวให้ดีนะ จี้จิ่งเชิน ฉันจะยืนอยู่ข้างกายคุณให้ได้ ”
จี้จิ่งเชินพูดไม่ออก
ประตูรถปิดลงอีกครั้ง เขาถึงค่อยเก็บสายตาของตัวเองลง และเอนตัวพิงเบาะเก้าอี้
“ ไล่ตามฉัน? ”
เขาฝืนยิ้มเล็กน้อย
เขาไม่เคยจากไปไหนอยู่แล้วนี่นา…