เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 456
บทที่ 456 แผนการเกี่ยวดอง
ตอนที่ทุกคนกำลังฮึกเหิมกับคำสารภาพรักของเวินเที๋ยนเที๋ยน
คืนวันนั้น เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับมาถึงบ้านตระกูลเวิน ก็ถูกเรียกให้ไปที่ห้องหนังสือของเวินฉี่
ถึงแม้ว่าช่วงนี้เธอจะพักอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลเวินตลอด แต่เธอกลับไม่ได้ติดต่อกับคนในตระกูลเวินสักเท่าไหร่
ตอนนั้น ที่เธอตัดสินใจอยู่ต่อ ไม่ไปบ้านตระกูลหล่อน ก็เพราะคิดว่าถ้าตัวเองอยู่ที่นี่ บางทีอาจจะสามารถช่วยจี้จิ่งเชินหาหลักฐานที่เกี่ยวกับเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนั้นได้บ้าง
ตอนที่เหยาเย้นมาบอกความต้องการของเวินฉี่ เวินเที๋ยนเที๋ยนลังเลอยู่สักครู่ ไม่นานเธอก็ตอบรับ หมุนตัวเดินออกจากห้องนอน และเดินมาถึงห้องหนังสือของเวินฉี่
เปิดประตูเข้าไป ก็เห็นเวินฉี่กับเวินหงไห่อยู่ด้านใน เหมือนกำลังตั้งใจรอเธออยู่ และเหมือนพวกเขาได้วางแผนไว้ล่วงหน้าแล้ว
“ เรียกฉันมาพบมีธุระอะไรหรือเปล่า? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนที่ตำแหน่งใกล้กับประตู มีการเว้นระยะห่างนิดหน่อย
พอเธอพูด เวินหงไห่ก็ขมวดคิ้วทันที
“ ไม่มีคนสอนวิธีพูดกับเธอหรือยังไง? นี่มันน้ำเสียงอะไรกัน? เห็นพวกฉันแล้วไม่ทักสักคำ จะพูดขึ้นมาแบบนี้เลยก็ได้หรอ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆออกมา เธอพูดขานรับ: “ ไม่มีค่ะ ”
สายตาของเธอเฉียบคมขึ้นเล็กน้อย และได้ใช้สายตาที่แฝงไปด้วยความหมายมองไปที่พวกเขา
เวินหงไห่กัดฟันทันที
“ เธอกำลังโทษพวกฉัน? ”
เขากำลังพูด เวินฉี่ที่นั่งอยู่อีกฝั่งกลับพูดขึ้น: “ ช่างเถอะ ตลอดหลายปีมานี้ เที๋ยนเที๋ยนเธอพักอาศัยอยู่ข้างนอก จึงไม่มีคนสอนเรื่องมารยาทให้กับเธอ โทษเธอไม่ได้หรอก ”
เขาพูดแทนเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างผิดปกติ กลับทำให้คนรู้สึกไม่สบายใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย
“ ตกลงว่ามีธุระอะไร? ถ้าไม่มีอะไร ฉันขอตัวก่อน ”
“ มีแน่นอน ”
เธอกำลังจะหมุนตัว เวินฉี่ก็ได้พูดขึ้น: “ พรุ่งนี้เธอต้องไปพบคนของตระกูลเฟิง ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
“ ตระกูลเฟิง? ”
เวินฉี่พยักหน้า เขายืนขึ้น และเดินมาด้านหน้านิดหน่อย
“ ตระกูลเฟิงกับตระกูลเวินของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ถึงแม้ว่าคนคุมหาเสือรุ่นก่อนของตระกูลเฟิงจะเสียชีวิตไปแล้วเมื่อสองสามปีก่อน แต่ความสัมพันธ์ของทางตระกูลจะขาดกันไม่ได้อย่างเด็ดขาด พรุ่งนี้ เธอต้องพบกับเฟิงหมิง ซึ่งเป็นลูกชายคนเดียวของพวกเขา ส่วนสถานที่ทานอาหาร เราได้นัดหมายให้พวกเธอเรียบร้อยแล้ว ”
เวินหงไห่มองเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มๆ ในสายตาของเขาแฝงความหมายอื่นไว้อยู่ในนั้น
“ เดิมที ตระกูลเวินกับตระกูลเฟิงก็มีความเกี่ยวดองกันอยู่แล้ว คิดไปคิดมา ตอนนี้พวกเธอก็โตพอ จึงถึงเวลาแล้วล่ะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟัง สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนไปทันที
“ พวกคุณจะให้ฉันแต่งงานกับตระกูลเฟิง? ไม่มีทาง ฉันจะไม่ไปเด็ดขาด ”
ชั่วพริบตาเดียว สีหน้าของเวินฉี่ก็เคร่งขรึมขึ้นทันที
“ ฉันมาบอกให้เธอทราบ ไม่ใช่มาถามความคิดเห็นเธอ พรุ่งนี้เธอต้องไป ไม่อยากไปก็ต้องไป! ”
“ เป็นถึงลูกสาวของตระกูลเวิน เธอก็ควรจะมีความสำนึกตัวนี้! ”
ก็จริงนั่นแหละ
ตระกูลเวิน เริ่มตั้งแต่รุ่นก่อนมา การแต่งงานของทุกคนล้วนถูกเวินฉี่กำไว้ในมือ
เรื่องการแต่งงานของเวินหงไห่กับเหยาเย้นเขาก็จัดการด้วยตัวของเขาเอง ถ้าเวินหงไห่ไม่ได้รักคุณนายหล่อน ตอนนี้ก็คงจะแต่งงานกับลูกสาวของตระกูลที่สืบเชื้อสายร่วมกันสักตระกูลไปแล้ว
สำหรับตระกูลเวิน ความเกี่ยวดองมักจะมีอยู่ทั่วไป
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ทำตามคำสั่งของเขาเด็ดขาด จะไม่แต่งงานกับคนที่ไม่รู้จักเด็ดขาด!
หัวคิ้วของเธอขมวดเข้าหากันแน่น และเธอก็ได้พูดขึ้นอย่างเด็ดเดี่ยว: “ ฉันไม่ไปค่ะ ”
สีหน้าของเวินฉี่ไม่ค่อยสู้ดีนัก เขาพูดขึ้นเสียงหนักแน่น: “ ตระกูลเฟิงก็เกิดมาในตระกูลทหาร ถึงแม้จะเทียบไม่เท่ากับตระกูลเวิน แต่ในวงการการเมืองตระกูลเฟิงก็มีตำแหน่งของตัวเองที่เราไม่สามารถสวมรอยแทนได้เหมือนกัน ”
“ ยิ่งไปกว่านั้น ตอนนี้พวกเขาได้ลาจากวงการการเมือง และเปลี่ยนทิศทางมาด้านการค้าแล้ว แถมยังได้รับผลสำเร็จจำนวนไม่น้อยอีกต่างหาก ด้านนี้จึงเป็นจุดอ่อนของตระกูลเวินของเรา ถ้าสองตระกูลเกี่ยวดองกัน ต่อไปก็จะช่วยให้ตระกูลเวินพัฒนาไปได้ดียิ่งกว่าเดิม ”
เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา
นี่ก็คือสาเหตุที่เวินฉี่ต้องการให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ที่นี่ต่อ
ถึงแม้ว่าเวินหงไห่จะไม่สามารถทำตามที่เขาหวังไว้ ที่จะให้ไปแต่งงานกับตระกูลอื่น แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็สามารถกลายเป็นตัวช่วยของตระกูลได้เหมือนกัน
เพียงแค่เธอแต่งออกไป ก็จะเหมือนน้ำที่สาดออกไปยังไงล่ะ
มีผลประโยชน์มากมาย แถมยังไม่เสียหายอะไร
“ ถ้าเธอไม่ไป พรุ่งนี้ฉันจะให้คนมาลักพาตัว และพาตัวเธอไปจนได้แหละ ” เขาพูดขึ้น
“ ถึงแม้ว่า ตระกูลเฟิงจะเทียบไม่เท่ากับตระกูลเวิน แต่ก็ดูถูกไม่ได้ ”
เวินฉี่พูดไปด้วย และมองเวินเที๋ยนเที๋ยนไปด้วย: “ เธอคงไม่ได้โหยหาถึงจี้จิ่งเชินอยู่ใช่ไหม? ดูสิว่าเธอได้ทำเรื่องเลวร้ายอะไรลงไป? ”
เขานึกถึงวิดีโอที่ได้ดูเมื่อวาน ก็รู้สึกไม่พอใจ
“ ไม่คิดว่าผู้หญิงคนนึงจะทำเรื่องแบบนี้ลงได้ อยากให้คนอื่นหัวเราะเยาะหรอ? ศักดิ์ศรีของตระกูลเวินถูกเธอทำลายไปจนหมดสิ้นแล้ว! เธอยังไม่รีบไปจัดเก็บมันอีก ไปพบคนของตระกูลเฟิงซะ ทางที่ดีคือแต่งงานให้เร็วที่สุด จะได้ไม่ตกเป็นขี้ปากของคนอื่น! ”
“ ไม่มีทาง ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนปฏิเสธอย่างเด็ดขาด: “ เรื่องของฉัน ฉันจัดการเอง หรือคิดว่าตอนนี้ฉันอาศัยอยู่ที่นี่ แล้วจะสามารถควบคุมทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของฉันได้? ”
สีหน้าของคนสองคนที่อยู่ตรงหน้ายิ่งดูไม่ได้ขึ้นไปอีก
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้หยุดพูด เธอกลับพูดต่ออย่างเด็ดเดี่ยว: “ ไม่มีทาง พ่อแม่ของฉันไม่ได้ถูกคุณควบคุม ฉันจะไม่ทรยศตัวเองไปตลอดชีวิตเพื่อสิ่งที่คุณเรียกมันว่าประโยชน์ของตระกูลอย่างเด็ดขาด! ”
เธอยืนขึ้น และยืดหลังตรง
“ และฉันไม่รู้สึกขายหน้าต่อพฤติกรรมของฉัน ส่วนจี้จิ่งเชิน เขา…… ”
ไม่รู้ว่านึกอะไรออก น้ำเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ค่อยๆหยุดลงช้าๆ และเธอก็ค่อยๆตกอยู่ในความคิดของตัวเอง
แต่เวินฉี่ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามกลับรู้สึกโกรธมากกว่าเดิม เพราะคำพูดของเธอเมื่อสักครู่
เขาพูดขึ้นเสียงดัง น้ำเสียงของเขาเหมือนเสียงฟ้าร้อง
“ บนตัวของเธอมีเลือดของตระกูลเวินไหลเวียนอยู่ เธอเป็นคนของตระกูลเวิน! ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ยอมรับแม่ของเธอคนนั้น แต่ในเมื่อเธอเป็นคนของตระกูลเวิน ก็ต้องมีความรับผิดชอบ! มีหน้าที่ทุ่มเทเพื่อตระกูล! ”
“ ถึงเวลา ฉันจะไป…… ”
ยังไม่รอให้เวินฉี่พูดจบ อยู่ๆเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับคิดอะไรได้ และเธอก็เงยหน้าขึ้นมา
“ ฉันตกลง ”
ได้ยินคำพูดอย่างกะทันหัน เวินฉี่ก็ชะงักไปทันที และเขาก็ไม่ได้ตอบสนองกลับมาอยู่สักครู่
เมื่อสักครู่ เวินเที๋ยนเที๋ยนยังปฏิเสธอย่างเด็ดขาดอยู่เลย เพียงแค่เวลาไม่กี่วินาที ทำไมอยู่ๆเธอก็ยอมตกลงล่ะ?
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างสงสัย กลับเห็นเธอมีสีหน้าเด็ดเดี่ยว เขาถึงได้โล่งใจขึ้น
น้ำเสียงของเขาก็อ่อนโยนลง และเขาก็ได้พูดใหม่: “ เธอคิดได้ก็ดี ที่ฉันให้เธอแต่งงานด้วย คือคนคุมหางเสือของตระกูลเฟิงในตอนนี้ เธอไม่เสียหายอะไรหรอก ”
“ ฉันทราบแล้วค่ะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดตอบรับ ถึงขนาดพูดถามขึ้นอย่างฉุกละหุก: “ ฉันต้องไปพบเขาตอนไหน? ที่ไหน? ”
เห็นเธอมีท่าทีเร่งรีบแบบนี้ เวินฉี่จึงหันไปสบตากับเวินหงไห่อย่างสงสัย
หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้น: “ ถึงพรุ่งนี้ เธอก็รู้แล้ว กลับไปเตรียมตัวให้ดีๆเถอะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า และพูดรับปาก: “ พรุ่งนี้ฉันจะไปให้ตรงเวลา ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันขอตัวก่อน ”
พวกเขาทั้งสองคนยิ่งไม่เข้าใจขึ้นไปอีก
“ ทำไมอยู่ๆหล่อนถึงเปลี่ยนท่าทีไปได้ล่ะ? หรือว่าหล่อนจะคิดได้จริงๆ หรือไม่อยากพัวพันกับจี้จิ่งเชินต่อแล้ว? ”
มองเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกจากห้องหนังสือด้วยใบหน้าเบิกบานที่ดูเหมือนกำลังคาดหวังอะไรบางอย่าง เวินหงไห่กลับพูดขึ้นอย่างไม่วางใจ: “ ท่านพ่อ ท่านเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนมีท่าทีแบบนี้ เธอจะไม่มีอะไรใช่ไหม? ”
เวินฉี่เก็บสายตาลง และทำการไตร่ตรองสักครู่
“ ให้คนตามดูหล่อน ดูให้ละเอียด อย่าให้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ”
“ ในเมื่อหล่อนรับปากแล้ว รอให้เจอหน้ากันก่อน วันถัดไปก็จะสามารถเตรียมงานแต่งงานได้แล้ว แต่งงานเร็ว ฉันถึงจะสบายใจ ”
“ ครับ ท่านพ่อ ”