เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 465
บทที่ 465 กล้าพูดดีเหมือนกันนิ
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่พูดอะไร เวินฉี่ก็พูดอีกครั้งว่า “หลายวันมานี้เธอกับเขาก็เข้ากันได้ดีนิ พวกเราก็เลยอาศัยตีเหล็กตอนร้อนๆ แล้วเตรียมงานเลี้ยงหมั้นให้เธอ เธอยังมีอะไรไม่พอใจอีกหรอ”
“งานเลี้ยงหมั้นงั้นหรอ? งานเลี้ยงหมั้นที่แม้แต่ตัวหนูเองยังไม่รู้น่ะหรอ? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนหัวเราะอย่างเยาะเย้ย
สีหน้าของเวินฉี่จมดิ่งลงอย่างรวดเร็ว แล้วก็ดุด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“ตอนนี้เธอต้องกลับไปที่งานเลี้ยงเดี๋ยวนี้! พวกคนด้านนอกต่างก็มาเพราะเธอ วันนี้ต่อให้เธอไม่อยาก ก็จำเป็นต้องหมั้น! ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น ร่างกายของเธอก็สั่นเล็กน้อยด้วยความโกรธ
“หนูเคยรับปากว่าจะเจอกับเฟิงหมิง แต่ว่าไม่เคยรับปากว่าจะแต่งงานกับเขา! คนพวกนั้นคุณเป็นคนเรียกมาเอง ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับหนู! จะจัดการยังไง มันก็เป็นเรื่องของคุณ! งานเลี้ยงหมั้นวันนี้ ไม่ว่าจะพูดยังไงหนูก็ไม่เข้าร่วมหรอก”
“เธอพูดบ้าอะไรของเธอ! ”
เวินฉี่มองหน้าเธอด้วยความโมโห พอเห็นว่าสายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ ก็เปลี่ยนเป็นทำเสียงฮึดฮัดอย่างเย็นชา
“ก็ได้ ต่อให้เธอไม่ไป แต่ว่างานเลี้ยงหมั้นก็จะถูกจัดขึ้นตามกำหนด งานแต่งงานของเธอกับเฟิงหมิง ได้ถูกตัดสินแล้ว! ”
ตอนแรก ที่เขาเตรียมจะจัดงานเลี้ยงหมั้นโดยที่ไม่บอกเวินเที๋ยนเที๋ยนนั้น ก็ได้เตรียมคิดถึงผลลัพธ์นี้ไว้แล้ว
ต่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่เข้าร่วมแล้วยังไงล่ะ?
แค่ต้องส่งทั้งสองคนเข้าโบสถ์ไป จดทะเบียนสมรส พวกเขาก็ถือว่าเป็นสามีภรรยาเหมือนกัน!
เมื่อก่อนก็มีเวินหงหยู้ที่ขัดขืนคำสั่งของเขา ไปคบกับผู้หญิงคนนั้นจากตระกูลหล่อนโดยไม่ได้รับอนุญาต เขาสุดจะทนแล้ว
ส่วนตอนนี้ก็เวินเที๋ยนเที๋ยน จะเลียนแบบตามพ่อของเธอยังงั้นหรอ?
ฝันไปเถอะ!
เวินฉี่ตัดสินใจแล้ว ว่าต้องให้เวินเที๋ยนเที๋ยนแต่งงานให้ได้!
แต่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับต่อต้านอย่างสุดกำลัง
“หรือว่านี่คุณต้องการยึดชีวิตของทุกคนไว้ในกำมือของตัวเองงั้นหรอ? คนในตระกูลเวินมีตั้งหลายคน มีใครคนไหนที่มีความสุขเพราะการจับคู่แต่งงานของคุณบ้างมั้ย? ”
ถึงแม้ว่าเวินหงหยู้จะต่อต้านอย่างแข็งขัน ไม่ยอมถูกจับแต่งาน แต่ว่าก็รอมา20ปีเต็ม ถึงได้คบหากับคุณนายหล่อน
ความขมขื่นแบบนี้ ไม่มีใครสามารถเข้าใจได้หรอก
เวินหงไห่กับเหยาเย้นแต่งงานกับที่เขาต้องการจริงๆ แต่ว่าหลังจากแต่งไปแล้วถึงแม้ว่าจะดูปรองดองแต่ว่าที่จริงแล้วก็แตกแยกกัน เป็นสามีภรรยาที่เคารพซึ่งกันและกันมาก แต่ว่าไม่มีความรู้สึกอะไรต่อกันเลย
นี่ก็คือการเกี่ยวดองสมรสกันของตระกูลเวิน!
เวินฉี่กลับพูดจาอย่างสมเหตุสมผลและเป็นธรรมชาติ “แน่นอน! ตระกูลเวินหลายๆ รุ่นก็อาศัยการเกี่ยวดองสมรสกัน ก็เลยค่อยๆ มั่นคงขึ้นเรื่อยๆ ในฐานะที่เธอเป็นคนของตระกูลเวิน แน่นอนว่าก็ต้องมีภาระหน้าที่ที่ต้องทำแบบนี้! ”
“รีบกลับไปร่วมงานเดี๋ยวนี้! ”
หลังจากพูดจบ เขาก็หยิบโทรศัพท์ที่วางไว้บนโต๊ะ แล้วก็โทรหาสายภายใน
และบอดี้การ์ดและเวินหงไห่ที่รออยู่ด้านนอกตลอดก็เดินเข้ามา
เหมือนกับว่าเวินหงไห่จะคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะมาปะทะกำแพงที่นี่ ใบหน้าเผยให้เห็นรอยยิ้มที่พอใจ
แตกต่างจากเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างชัดเจน
เขาเดินเข้ามา
“เวินเที๋ยนเที๋ยน ไปตอนนี้เถอะ อย่ามาเสียเวลาตรงนี้เลย พิธีหมั้นใกล้จะเริ่มขึ้นแล้วนะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ยอมขยับ จ้องไปที่เวินฉี่
“ฉันไปไม่ได้”
เวินหงไห่ไม่ได้โน้มน้าวอะไรต่อ แล้วก็ส่งสายตาไปให้บอดี้การ์ดสองคนที่อยู่ด้านข้าง
ทั้งสองคนก้าวขึ้นมาด้านหน้าอย่างว่องไว แล้วก็พยุงเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ทั้งด้านซ้ายและขวา พร้อมกับเดินออกไปข้างนอก จนมาถึงที่ห้องโถง
“ปล่อยฉันนะ! ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขัดขืนไม่หยุด แต่ว่าก็ไม่สามารถสู้กับบอดี้การ์ดที่แข็งแรงทั้งสองคนนี้ได้เลย
พวกเขาเดินมาถึงห้องโถง แขกทุกคนไม่แม้แต่ทันสังเกตเห็นด้วยซ้ำว่ามีอะไรผิดปกติไป
ต่อให้มีคนรู้สึกได้ถึงความไม่ลงรอยกัน แต่ว่าก็ไม่มีใครพูดอะไร ทำเป็นไม่เห็นไป
ในช่วงเวลานั้น ทั้งห้องโถง พอเวินเที๋ยนเที๋ยนปรากฏตัวขึ้น คาดไม่ถึงว่ายังจะสร้างบรรยากาศที่คึกคักและปีติยินดีได้
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกลากตัวมาตรงกลางห้องโถง เธอพยายามดิ้นรนไม่หยุด แต่ว่าก็ยังต้องรับคำอวยพรจากแขก
“คุณเวิน ยินดีด้วยจริงๆ นะครับ”
“ใช่ ดูท่าแล้วอีกไม่กี่วันก็น่าจะได้มาเยี่ยมเยียนที่บ้านคุณอีก แล้วดื่มเหล้ามงคลของคุณ”
ผู้ชายวัยกลางคนสองคนถือแก้วเหล้าแล้วเดินเข้ามา แสดงความยินดีกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ว่าสีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่แสดงความปีติยินดีเลย ดูแย่ซะมากกว่าอีก
“ฉันไม่มีวันแต่งงานกับเฟิงหมิงหรอกค่ะ”
ทั้งสองคนนั้นอึ้งไป แล้วก็มองไปที่เวินหงไห่อย่างไม่เข้าใจ
เวินหงไห่ไม่ได้แสดงสีหน้าอะไร แล้วก็แสดงรอยยิ้มเชิงขอโทษเล็กน้อย
“ขอโทษด้วยครับ เที๋ยนเที๋ยนเพราะว่าช่วงนี้สิ่งดีๆ กำลังจะใกล้เข้ามา ก็เลยมึนหัวนิดหน่อย เด็กผู้หญิงก็ขี้อายแบบนี้แหละ ทุกคนต่อกันได้เลยครับ”
หลังจากพูดจบ เขาก็จับเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แล้วก็ดึงเธอไปด้านหลัง
ลดเสียงลง แล้วตำหนิที่ข้างหูของเธออย่างไม่พอใจ
“วันนี้มีแต่คนใหญ่คนโตมาร่วมงาน เธอห้ามทำให้ฉันขายหน้า! อะไรควรพูดไม่ควรพูด ตัวเธอเองก็น่าจะรู้ดีอยู่แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเขาดึง เกือบจะล้มลง หลังจากยืนได้อย่างมั่นคงแล้ว ก็สะบัดมือของเขาออก
“พวกคุณเป็นคนจัดงานหมั้นนี้ลับหลังหนู บังคับให้หนูแต่งงาน พวกคุณยังหวังว่าหนูจะให้ความร่วมมืออีกหรอ? ”
“ไม่มีวัน! ยังไงหนูก็ไม่มีวันยอมถูกพวกคุณบงการได้หรอก”
พอเวินหงไห่ได้ยินดังนั้น กลับหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น
“จะทำนิสัยแย่ๆ ยังงั้นหรอ? ต่อให้เธอไม่ยอม แล้วจะทำอะไรได้? บ้านตระกูลเวินทั้งด้านในและด้านนอกก็เป็นคนของพวกเราทั้งนั้น ถ้าเกิดว่าเธอไม่ทำงานหมั้นนี้ให้สำเร็จ ก็อย่าหวังว่าจะได้ออกจากบ้านตระกูลเวินไปได้แม้แต่ก้าวเดียว! ”
“ตอนนี้จะมีใครมาช่วยเธอได้อีก? จี้จิ่งเชินงั้นหรอ? อย่าคิดเลย แม้แต่เขาอยู่ที่ไหนเธอยังไม่รู้เลย! กว่าเขาจะกลับมา ป่านนั้นเธอก็แต่งงานไปแล้ว”
สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนไปทันที
ดูท่าว่าพวกเขาไปสืบมาเรียบร้อยแล้วว่าช่วงนี้จี้จิ่งเชินไม่อยู่ ก็เลยตัดสินใจลงมือ เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงไม่ให้เขารู้
“พวกคุณมันต่ำทราม!
เวินเที๋ยนเที๋ยนโกรธมาก แต่เวินหงไห่กลับยิ้มอย่างเย็นชา
“ตอนนี้เธอต้องเชื่อฟังคำสั่งของพวกเรา รอให้เฟิงหมิงมา แล้วก็ขอดื่มเหล้ากับเขา”
“เธอต้องเข้าใจให้ชัดนะ ว่าตอนนี้ใครก็ช่วยเธอไม่ได้”
ตอนที่กำลังพูดอยู่นั้น ในห้องจัดเลี้ยงก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น คนจำนวนไม่น้อยก็ล้อมเข้าไป บางทีก็มีเสียงถกกันเบาๆ ”
เวินหงไห่มองไปทางด้านนั้น แล้วก็หันหน้ามาเตือนเวินเที๋ยนเที๋ยน “ฉันแนะนำว่าเธออย่าเล่นอะไรตุกติก เฟิงหมิงน่าจะใกล้มาถึงแล้ว วันนี้ในที่นี้ แม้แต่แมลงวันตัวเดียวก็บินออกไปไม่ได้”
มือของเวินเที๋ยนเที๋ยนกำชายกระโปรงแน่น ใบหน้าเริ่มซีดขึ้นเรื่อยๆ รู้สึกทั้งตื่นตระหนกและวิตกกังวล หัวใจจมลงสู่ก้นบึ้
หรือว่าวันนี้เธอจำเป็นต้องเอาแต่จ้องมองดูตัวเองเข้าร่วมพิธีหมั้นกับเฟิงหมิงโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลยจริงๆหรอ?
เวินหงไห่พูดถูก ต่อให้เธอมีความสามารถออกไปจากที่นี่ได้จริงๆ ดูจากนิสัยของพวกเขาแล้ว แน่นอนว่าพวกเขาต้องไม่หยุดอยู่แค่นี้แน่นอน
ต่อให้เธอไม่ได้เข้าร่วม แต่งานหมั้นก็จะจัดขึ้นตามปกติ
การเคลื่อนไหวที่ประตูดังขึ้นเรื่อยๆ
“คุณชายรองของตระกูลเวิน กล้าพูดเหมือนกันนิ”
จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่ง ดังขึ้นมาจากกลุ่มฝูงชน
ถึงแม้ว่าเสียงนี้จะไม่ได้ดังมาก แต่ว่ามันก็เพียงพอที่จะดังลอดผ่านทางฝูงชน แล้วก็มาถึงหูของเวินเที๋ยนเที๋ยนและเวินหงไห่
พอเสียงนี้ดังขึ้นมา ทั้งงานก็เงียบลงในทันที
ฝูงชนค่อยๆ แยกทางออก
ตรงทางเข้างาน จี้จิ่งเชินนั่งอยู่บนรถเข็น ค่อยๆ ก้าวมาด้านหน้า เข้ามาหาเวินเที๋ยนเที๋ยน
แสงส่องหักเหจากโคมไฟคริสตัล ปกคลุมไปทั่วทั้งห้องโถง และก็สาดส่องมายังร่างกายของจี้จิ่งเชิน เหมือนกับว่าทำให้เขาดูมีออร่ามากยิ่งขึ้น
เขาค่อยๆ ขยับเข้ามาจากฝั่งตรงข้ามช้าๆ ถึงแม้ว่าจะนั่งรถเข็น แต่ว่าร่างกายของเขายังดูเต็มไปด้วยพลังอำนาจ