เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 466
บทที่ 466 ผู้หญิงของฉัน
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินซีดลงเล็กน้อย แต่ว่าสายตาเต็มไปด้วยเกียรติและพลังอำนาจ มากพอที่จะทำให้คนอื่นใจสั่น
สายตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนจับจ้องไปที่เขา ไม่ละสายตาไปที่อื่น
ก็ได้แต่มองเขาอยู่แบบนี้ มองเขาขยับเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ
บรรยากาศรอบตัวเหมือนจะหยุดนิ่ง หัวใจที่ไม่สงบนิ่งก็ถูกปลอบโยน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขา รู้สึกเหมือนว่าผ่านไปหมื่นปี
ครั้งนี้ จี้จิ่งเชินไม่หลบสายตาเธออีกต่อ แล้วก็จ้องมองไปที่เธอโดยตรง
พอแน่ใจว่าร่างกายของเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรนั้น สีหน้าของเขาก็ดูผ่อนคลายลง สายตาก็ค่อยๆ อบอุ่นขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แต่กลับทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนใจเต้น เธอรู้สึกอย่างเลือนรางว่าจิ่งเชินเปลี่ยนไปจากเมื่อก่อนเล็กน้อย
เวินหงไห่ที่อยู่ด้านข้างมองไปที่เขา สีหน้าเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก
“จี้จิ่งเชิน? นายมาที่นี่ได้ยังไง? ”
“ได้ยินมาว่าวันนี้ตระกูลเวินมีงานมงคล แน่นอนว่าผมก็ต้องมาดูหน่อย ยิ่งอย่าบอกว่า……”
จี้จิ่งเชินพูด พลางมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน อย่างมีความหมายลึกซึ้ง “แถมยังเป็นเรื่องมงคลเกี่ยวกับเที๋ยนเที๋ยนอีกด้วย”
สีหน้าของเวินหงไห่แย่ยิ่งกว่าเดิม
เดิมทีจะอาศัยช่วงเวลาสองอาทิตย์ที่จี้จิ่งเชินไม่อยู่ จัดงานเลี้ยงหมั้นและงานแต่งงานของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับเฟิงหมิงให้เสร็จอย่างรวดเร็ว
แต่ว่าไม่คิดเลย ว่าเขาจะมาที่นี่!
นี่มันเรื่องอะไรกัน?
หรือว่าข่าวกรองผิดงั้นหรอ?
เขาคิดอยู่ในใจ แต่ว่าสีหน้ายังคงนิ่งเฉย
เขายิ้มแล้วพูดว่า “ประธานจี้ก็มาร่วมอวยพรให้พวกเขาด้วยงั้นหรอครับ? อีกไม่กี่วัน คุณก็มาร่วมงานแต่งของทั้งสองคนนี้ด้วยสิครับ”
“งานแต่งงั้นหรอ?
สายตาของจี้จิ่งเชินเปลี่ยนเป็นคมกริบในทันที
“ผมเคยพูดตอนไหน ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนแต่งงานกับคนอื่นได้? ”
พอประโยคนี้ดังขึ้น ทุกคนที่อยู่ในที่นั้นก็เงียบลงทันที ไม่มีใครกล้าพูดอะไร
สีหน้าของเวินหงไห่เปลี่ยนไปอีกครั้ง ผ่านไปนาน สุดท้ายถึงได้พูดออกมา แทบไม่สามารถฝืนยิ้มได้อีกต่อไปแล้ว
“ประธานจี้ นี่มันหมายความว่ายังไงกันครับ? คนของตระกูลเวินของพวกเรา อยากจะแต่งงานกับใคร แล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วยหรอครับ? ”
ริมฝีปากของจี้จิ่งเชินยกขึ้นเล็กน้อย แสร้งยิ้ม หลังที่ออกมาจากทั่วตัวของเขาเปลี่ยนไปในทันที
“ถ้ายังงั้นผมก็อยากจะดูหน่อย ว่าใครกล้าแต่งงานกับผู้หญิงของผม! ”
พอพูดจบ เขาก็หันหน้า และก็กวาดตามองไปยังแขกทุกคน
เหมือนกับใบมีดคม เต็มไปด้วยพลังทำลายล้าง
คนๆหนึ่งสามารถหยุดคนเป็นหมื่นได้!
ไม่มีเสียงใดๆ
คนที่อยู่ ณ สถานที่นั้นทุกคนต่างก็รู้สึกใจสั่น ทุกคนยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิมไม่มีใครกล้าพูดอะไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นผู้หญิงของจี้จิ่งเชิน
เรื่องนี้ ได้ถูกประทับตรามาเมื่อนานมาแล้ว ใครก็แตะต้องไม่ได้
ห้ามแตะ เพราะถ้าแตะ เท่ากับตาย!
การที่จู่ๆ ตระกูลเวินจัดงานหมั้นให้เวินเที๋ยนเที๋ยน ตอนแรกทุกคนต่างก็ไม่เข้าใจ ที่มาร่วม ก็เพราะว่าอยากจะมาดูการละครที่ดี
ไม่คิดเลยว่าจี้จิ่งเชินจะปรากฏตัวขึ้นจริงๆ พอเขาพูดขึ้นมา แน่นอนว่าต้องไม่มีใครกล้าโต้เถียง
เวินหงไห่เม้มปากแน่น รู้สึกโกรธ แต่ว่าพลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างกายของจี้จิ่งเชินทำให้เขาไม่กล้าพูดอะไร จี้จิ่งเชินในตอนนี้ ไม่สามารถเทียบกับตอนแรกได้อีกแล้ว พลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างกายเขา แม้แต่ตัวเขาเองยังต้องถอยหนี
เขาได้แต่มองนิ่งๆ มองดูจี้จิ่งเชินมาหยุดอยู่ตรงหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วก็ยื่นมือไปจับเธอไว้
“ยัยโง่ ยังลังเลที่จะกลับบ้านอยู่อีกหรอ? ”
จี้จิ่งเชินพูดอย่างอ่อนโยนและเอาอกเอาใจ
ใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนสั่น สัมผัสได้ถึงการที่จี้จิ่งเชินจับมือของเธอ สัมผัสได้ถึงสายตาแน่วแน่ของฝ่ายตรงข้ามที่จ้องมองมาที่เธอ
ภายในพริบตาเดียว เหมือนกับว่าเธออยากจะร้องไห้
ถึงแม้ว่าจะพยายามอดไว้สุดชีวิต แต่ว่าพอจะพูดออกมา เสียงก็สะอื้น
“ก็นายนั่นแหละ ที่ไล่ฉัน”
“ฉันเป็นคนเลว”
จี้จิ่งเชินพูดออกมาทันที
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยน จับมือเธอแน่นกว่าเดิม
“ฉันเป็นคนเลวเอง เที๋ยนเที๋ยน ฉันเคยบอกแล้ว ว่าฉันเป็นคนเลว”
“ขอโทษ ที่มารับเธอกลับบ้านจนป่านนี้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกะพริบตา พยายามฝืนเก็บความเศร้าไป ก้าวขึ้นไปข้างหน้าสองก้าว เข้าไปใกล้จี้จิ่งเชินมากขึ้น
“โชคดีที่ตอนนี้ยังถือว่าไม่สายเกินไป”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคลียิ้มออกมา แล้วน้ำตาก็หยดออกมาทันที หล่นลงบนหลังมือของจี้จิ่งเชิน
จี้จิ่งเชินรู้สึกปวดใจ ส่วนหนึ่งในหัวใจที่ได้ขาดหายไป ในตอนนี้มันถูกเติมเต็มแล้ว
“นี่พวกเธอจะไปแล้วงั้นหรอ? ”
ทั้งสองคนพึ่งจะเดินออกไปได้หนึ่งก้าว ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลัง
ฝูงชนมองไปทางนั้น ตรงขั้นบันได ไม่รู้ว่าเวินฉี่ปรากฏตัวขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ค้ำไม้เท้าแล้วค่อยๆ เดินลงมา
เขาหยุดที่บันไดสองขั้นสุดท้าย วางมือทั้งสองข้างบนไม้เท้า แล้วก็มองไปที่จี้จิ่งเชินที่อยู่ตรงหน้าเขาอย่างเงียบสงบ
“ประธานจี้รีบตามมาที่นี่ แล้วทำไมจะไปเร็วขนาดนั้นล่ะ? งานเลี้ยงพึ่งเริ่มขึ้นเองนะ”
จี้จิ่งเชินได้ยินดังนั้น ก็หันหน้ากลับไปมอง ก็เห็นเวินฉี่ที่พลังอำนาจที่แผ่ออกมาจากร่างกายไม่แพ้กับนายพลเลย
“ขอโทษด้วยนะครับ งานเลี้ยงวันนี้คงต้องจบลงแค่นี้”
เวินฉี่พยายามกดความโกรธแล้ว แล้วก็ค่อยๆ ก้าวขึ้นไปข้างหน้า
“ถ้าคุณอยากจะกลับน่ะได้ แต่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่ได้ วันนี้เธอเป็นตัวเอกของงานเลี้ยงนี้ งานเลี้ยงหมั้นจะไม่มีว่าที่เจ้าสาวได้ยังไง? เป็นไปไม่ได้หรอก”
“ว่าที่เจ้าสาว? ”
จี้จิ่งเชินหัวเราะออกมาเบาๆ “เวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นภรรยาของผม จะเข้าโบสถ์กับคนอื่นได้ยังไงกัน? ท่านปู่เวินเลอะเลือนไปแล้วรึเปล่าครับ? ”
“ตลอดชีวิตของจี้จิ่งเชิน จะมีเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นภรรยาแค่คนเดียวเท่านั้น และเธอ ก็จะมีผมเป็นผู้ชายเพียงคนเดียวของเธอเท่านั้น”
หลังจากพูดจบ เขาก็ดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ แล้วก็ยื่นมือไปโอบเอวของเธอไว้ ทำให้เธอกลายเป็นของเขา
แสดงความเป็นเจ้าของและสิทธิ์ในตัวเธอ
และพูดอีกว่า “ในเมื่อเป็นคนของผม ผมก็จะพาเธอไปเดี๋ยวนี้”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันหน้าไปอีกครั้ง แล้วก็พาเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินออกไปด้านนอก
ใบหน้าของเวินฉี่บิดเบี้ยวอย่างรุนแรง อารมณ์พุ่งขึ้นทันที ก้าวขึ้นมาด้านหน้าทันที แล้วก็เอาไม้เท้าเคาะพื้นอย่างรุนแรง เสียงดัง “ปัง” ทำให้คนอื่นตกใจ
“กล้าหรอ! ปล่อยเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ที่นี่เดี๋ยวนี้! ”
“เวินเที๋ยนเที๋ยน ถ้าเธอไป แล้วงานเลี้ยงหมั้นวันนี้จะทำยังไง? ”
จี้จิ่งเชินไม่ได้หยุด ลากเวินเที๋ยนเที๋ยนออกไปด้านนอกต่อ แม้แต่หน้ายังไม่หันกลับมามองเลย
“ในเมื่อท่านปู่เวินเป็นคนจัดการงานหมั้นครั้งนี้ขึ้นมาเอง ก็น่าจะหาคนที่เหมาะสมได้ งานหมั้นที่ไม่มีคน เมื่อก่อนพวกคุณก็เคยทำมาแล้วไม่ใช่หรอ? ”
หลังจากพูดจบ แขกรอบข้างก็เริ่มกระซิบกระซาบขึ้นมา
ถึงว่าเมื่อกี้สีหน้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนดูแปลกๆ ถามอะไรเธอ เธอก็ไม่แน่ใจ
ที่แท้ก็คืองานหมั้นในครั้งนี้แม้แต่ตัวเอกเองก็ยังไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ!
“นี่มันคือการบีบบังคับให้ทำยังงั้นหรอ? นี่มันถือว่าเป็นงานหมั้นแบบไหนกัน?
ทุกคนมีสีหน้าหลากหลาย แต่รู้สึกว่าการกระทำแบบนี้ของตระกูลเวินช่างไร้ยางอายจริงๆ
ต่อให้มันเป็นเรื่องจริง ต่อให้จะใช้เวินเที๋ยนเที๋ยนเพื่อให้ได้เกี่ยวดองกับตระกูลเฟิง ก็ไม่จำเป็นต้องทำถึงขั้นนี้เลยไม่ใช่หรอ?
“นี่มันต่างอะไรจากการขายลูกสาวตัวเอง? ”
“ขายลูกสาวอะไรกัน ลูกชายพวกเขาก็เคยขายมาแล้วเหมือนกันไม่ใช่หรอ? ยิ่งอย่าพูดถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนเลย ดูสิว่าคนในตระกูลเวินมีคนไหนที่ไม่ถูกจับคลุมถุงชนบ้าง? ทั้งหมดนี้มันก็แค่เพื่อทำให้กิจการของตระกูลเวินมั่นคงขึ้นเท่านั้น”
“โหดร้ายมากจริงๆ ”
ถึงแม้ว่าทุกคนจะเห็นแก่ตระกูลเวินกับสถานะของท่านปู่เวิน ก็เลยไม่กล้าพูดอย่างชัดเจน ได้แต่แอบพูดลับๆ แต่ก็ค่อยๆ เผยให้เห็นความเหยียดหยามที่มีต่อตระกูลเวิน
เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินไม่สนใจเสียงกระซิบกระซาบของแขกรอบๆ พวกเขาออกมาจากตระกูลเวินในทันที