เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 473
บทที่ 473 เธอไม่ได้มาที่นี่
หมอจางเดินตามไปอย่างไม่ยอมแพ้
“ คุณจี้ เดี๋ยวครับ ”
เขาตะโกนเรียก แต่ทำได้เพียงมองรถเคลื่อนออกไปจากทางแยกเท่านั้น
พวกพยาบาลพูดขึ้นอย่างเป็นกังวล: “ หมอจางคะ ตอนนี้ควรทำยังไงดีคะ? ”
“ จะทำยังไงได้ล่ะ? รีบไปเตรียมยาแก้ปวดกับเครื่องผ่าตัดสะสิ หลังจากที่คุณจี้กลับมา เราจะทำการตรวจทันที เขาออกไปครั้งนี้ การดำเนินงานเมื่อครั้งก่อนอาจต้องสูญเปล่าสะแล้ว! ”
เขาพูดอย่างโมโห พอคิดอีกที ถึงอย่างไรถึงตอนนั้นคนที่เจ็บก็คือตัวจี้จิ่งเชินเอง อีกไม่นานเขาก็รู้แล้วล่ะ!
ตอนนี้ จี้จิ่งเชินไม่สนใจตัวเอง ใจทั้งใจล้วนถูกเวินเที๋ยนเที๋ยนเติมเต็มแล้ว
เขากับพวกบอดี้การ์ดมาถึงนอกตัวบ้านที่ตั้งอยู่ในเมือง
ตระกูลเฟิง ที่ตั้งอยู่ใกล้เขตทหารยังคงรักษานิสัยที่เข้มงวดของวงการการเมืองไว้อยู่ ตรงประตูทางเข้ามีบอดี้การ์ดยืนอยู่สองสามคน
บอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ตรงประตูทางเข้าเห็นพวกเขากลับมา กำลังจะเข้ามาห้ามปราม แต่พอพวกมันเห็นจี้จิ่งเชินที่ยืนอยู่ตรงหน้าสุด สีหน้าของพวกมันก็เปลี่ยนไปทันที
แม้แต่น้ำเสียงก็เปลี่ยนเป็นระมัดระวังขึ้นเล็กน้อย
“ คุณจี้ครับ คุณมีธุระอะไรหรือเปล่าครับ? ”
“ ฉันมารับภรรยาของฉันกลับบ้าน ” จี้จิ่งเชินพูดออกไปตรงๆ
สายตาของเขาไปหยุดอยู่ที่คฤหาสน์ที่ตั้งอยู่ด้านหลังพวกบอดี้การ์ด พลังของเขาเต็มเปี่ยม
พวกบอดี้การ์ดสบตากันเล็กน้อย สายตาของพวกเขามีความลังเล
คิดอยู่สักครู่ ถึงพูดขึ้น: “ คุณจี้รอสักครู่ครับ พวกผมจะไปแจ้งคุณชายน้อยให้ครับ ”
พูดจบ บอดี้การ์ดเตรียมหมุนตัวเดินไปด้านหลัง จี้จิ่งเชินกลับควบคุมรถเข็น และทำการเคลื่อนตัวมาด้านหน้า
“ ไม่ต้อง ฉันจะเข้าไปถามเขาเอง ”
พูดจบ เขาก็ควบคุมรถเข็นเข้ามาในคฤหาสน์อย่างรวดเร็ว
พวกบอดี้การ์ดลุกลี้ลุกลนทันที และรีบตามมา
“ คุณจี้ครับ กรุณาอย่าบุ่มบ่ามเข้ามาครับ ”
แต่พวกเขายังไม่ได้เข้ามา ก็ถูกพวกบอดี้การ์ดที่อยู่ข้างกายจี้จิ่งเชินขวางเอาไว้ก่อน ทั้งสองฝ่ายเกิดการคุมเชิงกัน
จี้จิ่งเชินผลักประตูใหญ่เข้าไปในห้องโถง
เขามองดูโดยรอบ และกำลังจะทำการหาต่อ อยู่ๆก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังมาจากบนบันได
“ คุณจี้ มีเรื่องอะไรถึงทำให้คุณร้อนใจขนาดนี้ได้ล่ะ? ”
จี้จิ่งเชินหันกลับมา และมองไปทางที่เสียงดังขึ้น
บนบันได เห็นเพียงเฟิงหมิงกำลังเดินลงมาจากบันไดอย่างช้าๆ
เสื้อคลุมของชุดสูทบนตัวถูกถอดออกแล้ว เผยให้เห็นเสื้อเชิ้ตสีขาวที่อยู่ด้านในกับเสื้อกั๊กสีเทาเข้ม
เขาเดินลงบันได และทำการจัดแขนเสื้อไปด้วย สีหน้าของเขาประดับรอยยิ้มที่เหมาะสม
จี้จิ่งเชินเห็นเขา สายตาของเขาก็กวาดมองด้านหลังของเฟิงหมิงพอไม่เห็นเงาของเวินเที๋ยนเที๋ยน เขาถึงเก็บสายตาลง
“ เที๋ยนเที๋ยนล่ะ? ”
“ คุณหาเวินเที๋ยนเที๋ยน? ”
เฟิงหมิงมีสีหน้าตกใจ: “ เธอไม่ได้มาที่นี่ คุณหาเธอ ทำไมมาหาที่นี่ล่ะ? ”
จี้จิ่งเชินมองเขาด้วยสายตาเยือกเย็น
“ วันนี้ตอนกลางวันเวินเที๋ยนเที๋ยนมาที่นี่ จนถึงตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ออกไป คุณยังกล้าพูดว่าเธอไม่ได้อยู่ที่นี่อีกงั้นหรอ? ”
“ มันน่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดอะไรหรือเปล่า? ”
เฟิงหมิงส่ายหน้า “ วันนี้ผมนัดเวินเที๋ยนเที๋ยนมาปรึกษาธุระที่นี่ก็จริง แต่ผมก็กำลังรอเธออยู่เหมือนกัน บอดี้การ์ดของคุณจำผิดคนหรือเปล่า? ”
เขาเงยหน้ามองพวกบอดี้การ์ด หลังจากนั้นก็โบกมือนิดหน่อย แล้วก็มีหญิงสาววัยรุ่นเดินออกมาจากข้างกายของเขา
เธอแต่งกายด้วยชุดที่เหมือนกับของเวินเที๋ยนเที๋ยน แม้แต่ผมก็ยังเป็นสีน้ำตาลแดง และทำลอนนิดหน่อยเช่นกัน ถ้ามองจากด้านหลัง ทั้งสองคนเหมือนกันทุกอย่าง
เฟิงหมิงพูดยิ้มๆ: “ คนนี้คือพนักงานชั่วคราว พวกนายเห็นเงาด้านหลังของคนคนนี้ แล้วจำผิดไปเองหรือเปล่า? ”
จี้จิ่งเชินทำการสังเกตคนตรงหน้าอย่างละเอียด หลังจากนั้นเขาก็หันไปมองพวกบอดี้การ์ด
บอดี้การ์ดต่างพากันลังเล
พวกเขาได้รับคำสั่งให้ไปคุ้มครองเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ห้ามให้เวินเที๋ยนเที๋ยนสังเกตเห็นจึงต้องทำการรักษาระยะห่าง
ตอนนั้น พวกเขาเห็นแค่ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปในคฤหาสน์อยู่ไกลๆเท่านั้น ยังมีเงาด้านหลังอีกเงาหนึ่ง ตอนนี้พวกเขาแยกไม่ออกว่าเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน หรือพนักงานชั่วคราวตรงหน้ากันแน่
สีหน้าของพวกบอดี้การ์ดลังเลขึ้นเฟิงหมิงยิ้มอย่างได้ใจมากกว่าเดิม
“ ก็แค่การเข้าใจผิดเท่านั้นเอง ถ้าคุณอยากหาเวินเที๋ยนเที๋ยน อันที่จริงง่ายมาก เมื่อวานเธอพูดว่าจะไปหาคุณ ตอนนี้ แค่คุณโผล่มา เธอก็คงจะโผล่มาแล้ว แต่อาจจะไม่ใช่ในคฤหาสน์ของผมแน่นอน ”
“ คุณจี้ คุณกลับไปเถอะ ”
เขายื่นมือออกมา บ่นบอกให้จี้จิ่งเชินออกไปจากที่นี่
แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ขยับไปไหน
สายตาของเขาแหลมคมมากกว่าเดิม
“ ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว ให้ผมเยี่ยมชมคฤหาสน์แห่งนี้หน่อยได้ไหม? ”
เขาไม่เชื่อว่าพวกบอดี้การ์ดจะดูผิด อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นล่ะ?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งหายไปจากในคฤหาสน์แห่งนี้เฟิงหมิงก็พาคนที่มีเงาด้านหลังเหมือนกับเวินเที๋ยนเที๋ยนทุกอย่างมาที่นี่ คล้ายกับว่าเรื่องทั้งหมดได้ถูกวางแผนไว้ก่อนแล้ว
ได้ยินคำขอของจี้จิ่งเชิน สายตาของเฟิงหมิงก็สั่นไหวนิดหน่อย ในสายตาของเขามีอะไรเคลื่อนหายไป
ผ่านไปสักพัก เขาถึงพยักหน้าขึ้นลง
“ ได้สิ ”
พูดจบ เขาก็เอียงตัวให้จี้จิ่งเชินเดินมาด้านหน้า และมองรถเข็นของจี้จิ่งเชินไปด้วย
และพูดขึ้นอย่างลำบากใจ: “ แต่ต้องขออภัยด้วย ในคฤหาสน์ของผมไม่ได้ติดตั้งสไลด์เดอร์ที่ใช้สำหรับเคลื่อนย้ายรถเข็น ถ้าคุณต้องการขึ้นไปด้านบน อาจจะลำบากนิดหน่อย ”
ถึงแม้ว่าสีหน้าของเขาจะมีรอยยิ้ม แต่ทุกคำพูดของเขาล้วนทิ่มแทงจุดเจ็บปวดของจี้จิ่งเชิน
ถึงแม้ว่าสองขาของจี้จิ่งเชินจะไม่สามารถเดินได้ และนี่เป็นเรื่องที่ทุกคนทราบ แต่น้อยครั้งมากที่จะมีคนมาพูดต่อหน้าเขา เพื่อเป็นการคำนึงถึงศักดิ์ศรีของทั้งสองฝ่าย
เหมือนที่เฟิงหมิงพูด นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้
พวกบอดี้การ์ดที่ยืนอยู่ด้านหลังได้ฟัง สีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปนิดหน่อย และแสดงให้เห็นว่ากำลังไม่พอใจ
มีเพียงสายตาของจี้จิ่งเชินที่นิ่งสงบ
เฟิงหมิงรู้ว่าอะไรควรไม่ควรมาโดยตลอด เขาถนัดด้านการเข้าสังคม และช่างสังเกตคำพูดกับสีหน้าขอคนอื่น เขาจะไม่พูดคำที่ไร้มารยาทออกมาอย่างแน่นอน
ตอนนี้กลับพูดเหน็บแนมจี้จิ่งเชินอย่างไม่สนใจ ก็แค่อยากให้เขาออกไปจากที่นี่เองไม่ใช่หรอ?
มีจุดประสงค์อะไรกันแน่ เปิดเผยออกมาให้หมด!
คิดมาถึงตรงนี้ ความตั้งใจของจี้จิ่งเชินก็ยิ่งแน่วแน่
“ ไม่เป็นไร ”
เขายกมือขวางพวกบอดี้การ์ดที่มีสีหน้าไม่พอใจ และพูดขึ้น: “ ถ้าอยากไป ไม่ว่าจะยังไงก็ต้องไปให้ได้ ”
พูดจบ พวกบอดี้การ์ดก็เดินขึ้นมาด้านหน้า ยกจี้จิ่งเชินขึ้นมา และพาเขาเดินขึ้นบันไดไปที่ชั้นสอง
เฟิงหมิงมองพวกเขา หลังจากนั้นก็หรี่ตาลงเล็กน้อย
ต่อให้จี้จิ่งเชินขึ้นไปตรวจสอบจริงๆ แล้วจะทำอะไรได้ล่ะ?
ที่แห่งนั้น เขาหาไม่เจออย่างแน่นอน
รอให้จี้จิ่งเชินกลับไปแล้ว เขาค่อยย้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนไปซ่อนที่อื่น
รอให้สถานการณ์ผ่านไปก่อน เขาจะพูดกล่อมให้เธอรังสรรค์ศิลปะที่สวยที่สุดในโลกกับเขา
เฟิงหมิงคิดอย่างภาคภูมิใจ มุมปากของเขาค่อยๆยกยิ้มขึ้นนิดหน่อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนถูกเฟิงหมิงจับไว้ได้แล้ว
ห้องห้องนี้ดูเหมือนห้องนอน แต่แคบมาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนขึ้น หัวของเธอเกือบชนกับผนังห้อง เธอต้องก้มตัวถึงจะเดินไปด้านหน้าได้
ถึงแม้ว่าจะเตี้ย แต่ห้องห้องนี้กลับมีทุกอย่าง
เตียง โต๊ะ เก้าอี้……
ถึงแม้ว่านกกระจอกจะเล็ก แต่อวัยวะภายในทั้งห้ากลับมีครบ
อีกทั้งดูเหมือนที่นี่จะมีร่องรอยของการอยู่อาศัยของคนด้วยเช่นกัน
อีกด้านของห้องมีหน้าต่าง เวินเที๋ยนเที๋ยนรีบวิ่งเข้าไป เธอดึงผ้าม่านออก กลับพบว่าหน้าต่างถูกล็อคอย่างแน่นหนา
เธอก้มหน้ามองไปด้านล่าง ที่นี่คือชั้นสี่!
ถ้าไม่ระวังแล้วพลาดตกลงไป ก็อาจจะบาดเจ็บสาหัสได้เลย
เวินเที๋ยนเที๋ยนดึงกุญแจที่ล็อคอยู่ด้านบน เธอหันกลับไปยกเก้าอี้ที่วางอยู่ที่พื้น และออกแรงทุบลงไปบนกุญแจที่ล็อค!
ปัง! เกิดเป็นเสียงดังขึ้น มือสองข้างของเวินเที๋ยนเที๋ยนสั่นสะเทือนจนรู้สึกเจ็บ แต่กุญแจที่ล็อคอยู่ด้านบนกลับแข็งแรงมั่นคงเหมือนเดิม