เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 487
ทที่ 487 ไม่ได้เจอกันตั้งนาน
งานซ่อมแซมแจกันจะว่าใหญ่ก็ไม่ใหญ่ จะว่าเล็กก็ไม่เล็ก เวลาที่สามารถทำได้ก็น้อยมาก มีเพียงเวลาที่จี้จิ่งเชินฝึกฝนถึงจะทำไปพร้อมกันได้
การซ่อมแซมผ่านไปอย่างช้าๆ ผ่านไปหนึ่งอาทิตย์เต็มๆ ในที่สุดรอยร้าวบางส่วนก็ซ่อมแซมเสร็จสิ้น
ขาทั้งสองข้างของจี้จิ่งเชินก็เริ่มดีขึ้นทีละน้อย หลังจากที่หมอจางตรวจเสร็จ เดิมโอกาสที่จะฟื้นตัวกลับมาเป็นปกติมีแค่ระดับนึง ตอนนี้กลับเลยครึ่งไปแล้ว
เพียงแค่ยืนหยัดต่อไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ใช้เวลาแค่ครึ่งปีก็จะสามารถเริ่มเดินเองได้
เมื่อถึงคราวที่งานซ่อมแซมของเวินเที๋ยนเที๋ยนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์ ท่านจางที่เมื่อก่อนไม่เต็มใจที่จะพูดถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับแจกัน อยู่ๆ กลับเสนอขึ้นมาว่า ฝ่ายตรงข้ามต้องการที่จะพบกับหล่อน
“ก่อนหน้านี้คุณอยากรู้มาตลอดไม่ใช่เหรอว่าฝ่ายตรงข้ามคือใคร?ตอนนี้ถือเป็นโอกาสที่ดี พรุ่งนี้รอฉันถึงที่นั่นก่อน คุณค่อยตามไป ทางที่ดีอย่าไปคนเดียว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำนี้ ยิ่งไม่เข้าใจใหญ่
“เพราะอะไร?”
ท่านจางกลับไม่ยินดีที่จะอธิบาย กล่าวเพียงว่า: “รอให้ถึงเวลานั้น คุณก็จะรู้เอง วางใจได้ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนวางโทรศัพท์ ในใจก็ยังคงไม่เข้าใจแต่ว่าหันหน้ามองไปยังแจกันที่วางไว้ในห้องผู้ป่วย ซ่อมแซมไปแล้ว80% บางปัญหาที่พบเจอในระหว่างการซ่อมแซม แน่นอนว่าต้องการปรึกษากับบุคคลนั้นก่อน งานที่ต้องทำต่อถึงจะมีความชัดเจน
เพราะแบบนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้ตกลงในที่สุด
วันถัดมา หลังจากเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่เป็นเพื่อนจี้จิ่งเชินฝึกฝนเสร็จ จึงได้มาถึงสถานที่ที่นัดกันไว้
มาถึงร้านกาแฟอย่างตรงเวลา กลับพบว่าท่านจางยังมาไม่ถึง
หล่อนมองเข้าไปภายในรอบหนึ่ง ไม่เจอคนที่รู้จัก แล้วนึกถึงเรื่องที่ท่านจางกำชับเมื่อวาน ถอยออกไป หยิบโทรศัพท์ออกมากำลังจะโทรหาเขา
“เที๋ยนเที๋ยน”
เสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่งดังออกมาจากด้านหลังหล่อนอย่างกะทันหัน
“ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
ได้ยินคำพูดนี้ การเคลื่อนไหวของเวินเที๋ยนเที๋ยนหยุดลงในทันใด ตัวแข็งขึ้นมาทันที
เสียงนี้ หล่อนไม่มีทางจำผิด!
คือเฟิงหมิง!
เพียงแค่ได้ฟังเสียง ก็สามารถทำให้หล่อนรู้สึกกลัว
แต่ว่า เขามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร?
รู้แบบนี้ หล่อนยอมมาสาย ก็จะหลีกเลี่ยงเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้หันหลัง แต่ว่ารีบเร่งก้าวเท้าออกก้าวหนึ่ง เตรียมตัวจากไป
“รอก่อน!”
แขนถูกดึงไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนโดนบีบให้หยุดลงมา ขมวดคิ้ว
“ปล่อย”
เฟิงหมิงกลับทำเป็นไม่ได้ยิน
“คิดไม่ถึงว่าเราได้เจอกันอีกแล้ว” มีรอยยิ้มอยู่ในน้ำเสียงของเขา แต่กลับทำให้คนกลัวจนตัวสั่น
“แต่ว่า ฉันไม่ได้มาเจอนาย ปล่อย! ฉันยังมีธุระเรื่องอื่นที่ต้องทำ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนดิ้นรนอยู่ แต่กลับไม่สามารถขัดขืนแรงเขาได้
“คุณมาที่นี่เพราะแจกันทรงกลมชิ้นนั้น?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินดังนั้น การเคลื่อนไหวหยุดลงชะงัก หันหลังกลับมาในที่สุด
เข้าใจขึ้นมาในทันที
“นายก็คือเจ้าของเครื่องเคลือบดินเผาชิ้นนั้น?”
“ถูกต้อง”
เฟิงหมิงยิ้มช้าๆ “เพื่อเจอหน้าคุณสักครั้ง ถึงขั้นต้องใช้ความพยายามไปไม่น้อยเลยทีเดียว”
เพียงเพราะจะให้ท่านจางเอาของชิ้นนั้นไปส่ง เขาต้องเสียผลประโยชน์ให้ไม่ใช่น้อยๆ ถึงขั้นต้องเอาของโบราณที่สะสมไว้ออกมา
ตอนนี้ดูแล้ว ช่างคุ้มค่าจริงๆ
แค่เพียงไม่ได้เจอกันแค่ระยะเวลาสั้นๆ ในสมองเขาก็เริ่มมีรูปร่างของหล่อนโผล่ออกมา
ผู้หญิงคนนี้ดูเหมือนจะมีเวทมนตร์พิเศษ
ทำให้คนอยากเข้าใกล้
ในระยะเวลานี้ เขาได้คิดชัดเจนที่สุดแล้ว
เขาจำเป็นต้องได้เวินเที๋ยนเที๋ยน ถ้าหากไม่สามารถเป็นคนเคียงข้างของตัวเองได้ งั้นทำไมไม่ทำให้หล่อนเป็นงานศิลปะชิ้นนึงที่สวยงามที่สุดในโลกนี้
เพียงแค่คิดถึงภาพนั้น ยังทำให้เขาตัวสั่น
ในขณะที่กำลังคิด แววตาของเขายิ่งบ้าคลั่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนถอยหลังไปก้าวหนึ่งด้วยความกลัวสะบัดมือของเขาออกทันใด
“ถ้ารู้แต่แรกว่าของชิ้นนั้นเป็นของนาย ฉันไม่มีทางที่จะยอมรับไว้ นายไปเชิญคนอื่นมาซ่อมแซมก็แล้วกัน งานที่ต้องทำต่อฉันไม่ทำแล้ว”
มิน่าหล่อนถึงรู้สึกว่าแปลกมากที่ได้งานชิ้นนี้มา ที่แท้เฟิงหมิงก็วางแผนมาตั้งนานแล้ว
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหลังเพื่อจะไป กลับโดนเฟิงหมิงจับไว้อีกรอบ
“คุณรู้ งานชิ้นนี้จะเป็นของใครไปไม่ได้นอกจากคุณ”
“ช่างบูรณะที่โดดเด่นกว่าฉันมีอยู่มากมาย คนระดับนาย ต่อให้หาใครคนใด อีกฝ่ายก็จะไม่มีทางปฏิเสธ”
หล่อนไม่อยากที่จะมีการติดต่อใดๆ กับชายผู้น่ากลัวคนนี้อีก!
แต่ว่าอีกฝ่ายกลับไม่เต็มใจปล่อยมือ จับหล่อนไว้แน่น
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังดิ้นรน แต่กลับไม่มีทางที่จะหลุดพ้น มองไปรอบๆ ด้วยความตื่นตระหนก
หล่อนจำได้ เหมือนว่ามีบอดี้การ์ดบางส่วนของจี้จิ่งเชินที่ถูกจัดไว้ข้างตัวหล่อน
ไหนคน?
“คุณหาใครอยู่?”
สังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของหล่อน เฟิงหมิงถามขึ้นมา
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจเต้น ยิ่งกลัวมากขึ้น
“นายทำอะไรลงไป?”
“ผมบอกแล้ว เพื่อเจอกับคุณ แน่นอนว่าต้องเตรียมการมาเล็กน้อย จะให้คนอื่นมารบกวนไม่ได้โดยเฉพาะพวกแมลงตัวน้อยพวกนั้นของจี้จิ่งเชิน”
บอดี้การ์ดพวกนั้น?
“นายทำอะไรกับพวกเขา?”
“อย่ากังวล ผมแค่ให้พวกเขาได้พักผ่อนดีๆ สักพักหนึ่ง มีหลายพันวิธีที่จะให้พวกเขาออกไป”
ในใจเวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สึกกลัวมากขึ้น ดิ้นรนอย่างรุนแรง “เฟิงหมิง นายปล่อยเถอะ! ฉันเตือนนายให้ไปมอบตัวดีกว่า อย่าทำแบบนี้ต่อไปอีกเลย”
“ไม่ นี่ผมกำลังช่วยเหลือพวกคุณอยู่”
เฟิงหมิงใช้แรงดึงนิดหน่อย แล้วกล่าวว่า: “คนเลวที่สมควรได้รับการลงโทษพวกนั้น ผมจะจัดการทั้งหมด คุณแค่ยังไม่เข้าใจ”
น้ำเสียงของเขาผิดหวังเล็กน้อย
“ผมจะรอให้คุณเข้าใจ คุณจะต้องเห็นด้วยกับผมแน่นอน”
เฟิงหมิงดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้แน่น มือสัมผัสใบหน้าของหล่อนเบาๆ
กลับทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งรู้สึกกลัว ราวกับตัวเองอยู่ถ้ำน้ำแข็ง
“พวกคุณทำอะไรกัน?”
ในเวลานี้ กลับมีเสียงหนึ่งดังมาจากด้านหลัง เวินเที๋ยนเที๋ยนหันหน้ามาอย่างรวดเร็ว ท่านจางที่มาช้ายืนมองอยู่ไม่ไกล
หล่อนเหวี่ยงเฟิงหมิงออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วถอยหลังไปหลายก้าว ยืนอยู่หลังท่านจาง อยู่ให้ห่างจากเฟิงหมิง
ท่านจางมาสายไปหน่อย มองดูทั้งสองคน ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“สาวน้อย พวกคุณเจอกันแล้ว?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว พูดเสียงต่ำ: “ท่านจาง ก่อนหน้านี้ท่านไม่เคยบอกฉัน เจ้าของแจกันใบนั้นก็คือเฟิงหมิง?”
เมื่อพูดถึงสิ่งนี้ ทันใดนั้นท่านจางมีความเคอะเขินเล็กน้อย
“แบบนี้ฉันก็โดนบีบจนไม่มีทางเลือกแล้วใช่มั้ย?พูดได้ว่าคุณจะไม่ เฟิงหมิงบอกว่าครั้งก่อนได้ล่วงเกินคุณ ถึงได้ตามหาคุณให้ช่วย เพื่อแก้ไขความเข้าใจผิด ฉันถึงได้คิดวิธีนี้ขึ้นมา “
“สาวน้อย คุณอย่าโกรธเลยนะ”
“ฉันรู้ว่าก่อนหน้านี้ระหว่างพวกคุณมีความเข้าใจผิด แต่ว่าในพิธีหมั้นครั้งนั้น ตัวเฟิงหมิงเองก็ไม่รู้ ไม่ใช่ความผิดของเขา”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยังคงขมวดคิ้ว กล่าวแบบยืนหยัด: “อย่างไรก็ตาม ฉันไม่อาจจะรับงานนี้ต่อไปได้อีก งานซ่อมแซมของแจกันชิ้นนั้นเสร็จไปแล้วกว่าครึ่ง ที่เหลือเชิญคนอื่นมาทำให้เสร็จเถอะ ฉันไม่อาจทำต่อไปได้แล้ว”
“สาวน้อย คุณอย่าใจร้อนสิ”
ทันใดนั้นท่านจางมีความลำบากใจนิดหน่อย แจกันก็ใกล้จะซ่อมแซมเสร็จแล้ว งานปิดท้ายที่เหลือสุดท้ายนี้ถ้าเปลี่ยนคน ผู้บูรณะสมบัติล้ำค่าชิ้นนี้ก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง
ถึงเวลานั้น มันจะยิ่งดีต่อคนที่รับงานต่อหล่อน?
เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับพยักหน้าแบบชัดเจนมาก
“ฉันตัดสินใจแล้ว”
สุดท้ายท่านจางก็ทำได้แค่พยักหน้า
“ในเมื่อเป็นการตัดสินใจของคุณ งั้นก็ตามนี้แล้วกัน