เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 493
บทที่ 493 ความกลัวเข้าโจมตี
เนื่องจากคำสั่งของจี้จิ่งเชิน ชั่วระยะเวลาหนึ่งทั้งสนามบินและท่าเรือทั้งหมดในเมืองหลวงจึงหยุดทำงาน
ผู้โดยสารไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น แต่หลังจากดูเที่ยวบินอื่นก็พบสถานการณ์เดียวกัน
บางคนบอกว่าเป็นเพราะสภาพอากาศ บางคนบอกว่าเป็นเพราะความล่าช้าชั่วคราว เหตุผลแตกต่างกัน แต่มีจุดประสงค์เดียวกันคือ หยุดทำการ!
ทุกคนต่างตื่นตระหนกและรออย่างใจจดใจจ่อที่สนามบิน
ในเวลานี้ ก็พบเห็นคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งเข้ามาราวกับกำลังมองหาใครบางคน
เห็นภาพนี้แล้วทุกคนยิ่งกลัวยิ่งตื่นตระหนก ภายนอกสนามบินมีรถที่ดูธรรมดามากจอดอยู่
ชายร่างสูงหลายคนตรวจสอบสถานการณ์จากสนามบินและรีบออกไปขึ้นรถ
ภายในรถ เฟิงหมิงและเวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งอยู่ที่เบาะหลัง
“เป็นไงบ้าง?” เฟิงหมิงถาม
“ด้านในเต็มไปด้วยผู้คน แม้แต่เที่ยวบินก็ยังหยุดบิน มีคนกำลังมองหาคนในนั้น และท่าเรือที่นั่นก็หยุดทำการลงครับ”
เฟิงหมิงขมวดคิ้ว ไม่คาดคิดว่าจี้จิ่งเชินจะเริ่มเคลื่อนไหวได้เร็วขนาดนี้ ซึ่งเกินความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง
“ต้องรอนานขนาดไหน ถึงกลับมาบินได้ตามปกติ?”
“แม้แต่บริษัทสายการบินก็ไม่ชัดเจน ตอนนี้คนข้างในค้นหาทั่วสนามบินแล้ว ต่อไปพวกเขาก็คงจะออกมาหาข้างนอกอย่างแน่นอน คุณชายเฟิงพวกเราจะทำอย่างไรดี?”
เฟิงหมิงหันศีรษะกลับไปดู เวินเที๋ยนเที๋ยนพิงไหล่ของเขาอย่างหมดสติ
เขาเอื้อมมือไปดึงผมยาวขึ้นมาทัดหูของเธอไว้ที่ด้านหลังศีรษะ
“เครื่องบินไม่สามารถออกเดินทางได้ งั้นกลับกันก่อน” เขาสั่งด้วยน้ำเสียงทุ้ม
บอดี้การ์ดหลายคนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว และออกรถจากสนามบิน
เมื่อได้รับคำสั่งจากจี้จิ่งเชิน ให้บอดี้การ์ดก่อเรื่องวุ่นวายที่ท่าเรือและสนามบินทุกแห่ง จี้จิ่งเชินก็มายังตระกูลเวิน
เขามองออกไปยังประตูคฤหาสน์ตระกูลเวินที่อยู่ตรงหน้าเขา ใบหน้าของเขาไม่ยินดีและไม่รู้สึกดีขึ้นเลย
ถ้ารู้ว่าเวินฉี่จะไม่ยอมแพ้ขนาดนี้ แต่ไม่คาดคิดว่าจะกล้าได้ขนาดนี้
เพื่อร่วมมือกับตระกูลเฟิง คาดไม่ถึงเลยว่าจะขายเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นสินค้าสินค้าหนึ่งได้
บางทีสำหรับเขาแล้ว คุณค่าเดียวของเวินเที๋ยนเที๋ยนมีเพียงสิ่งนี้?
ออกจากรถ จี้จิ่งเชินก็รีบตรงเข้าไป
ทหารสองสามคนที่ยืนอยู่ที่ประตูก็รีบเดินมาข้างหน้าโดยที่ยังถือปืนอยู่ในมือ
“คุณจี้ กรุณาหยุดด้วยครับ”
ท่าทางของจี้จิ่งเชินไม่หยุด ใบหน้าของเขาก็ไม่แสดงสีหน้าใดๆ
บอดี้การ์ดหลายคนที่อยู่ด้านหลังของเขาก็รีบออกไปและเผชิญหน้ากับทหารหลายคนที่อยู่ต่อหน้าพวกเขา
ใช้ประโยชน์จากช่องว่างนี้ จี้จิ่งเชินก็รีบตรงเข้าไปที่ประตูของตระกูลเวิน
“เสียงดังยังกับอะไร?”
เพิ่งมาถึงห้องนั่งเล่น แต่ก็มีเสียงดังมาจากทิศทางของชั้นสอง
จี้จิ่งเชินมองไปและเห็นเวินฉี่ยืนอยู่บนขั้นบันไดมองลงมาที่เขา
เห็นว่าเป็นจี้จิ่งเชิน เขาก็หัวเราะเยาะอีกครั้ง
“ที่แท้ก็เป็นจี้จิ่งเชินนั้นเอง คุณกำลังทำอะไรอยู่? วันนี้ฉันไม่ได้ยินว่าคุณกำลังจะมา”
พูดจบ สายตาของเขาก็กวาดไปที่ประตูและเห็นบอดี้การ์ดหลายคนกำลังยืนคุมเชิงกัน ก็เกิดความมืดก่อตัวขึ้นในดวงตาของเขา
“ไม่คิดว่า คุณจะบุกเข้ามา? คิดว่าตระกูลเวินของพวกเราเป็นสถานที่อะไร?”
“เวินเที๋ยนเที๋ยนล่ะ?”
จี้จิ่งเชินขี้เกียจเกินกว่าจะโต้เถียงกับเขาและกล่าวว่า “คุณส่งเขาไปที่ไหน? คุณทำข้อตกลงอะไรกับเฟิงหมิง?”
“คุณมาที่นี่เพื่อหาคน?”
เวินฉี่แสร้งทำเป็นโง่ “คุณคงไม่ใช่ว่ามาผิดที่หรอกนะ? เวินเที๋ยนเที๋ยนตัวติดอยู่กับคุณทั้งวันไม่ใช่เหรอ? ถามฉัน? ถามตัวเองดีกว่าไหม?”
เสียงดังในห้องนั่งเล่นทำให้คนอื่นๆ ในตระกูลเวินที่เหลือออกมา
จี้จิ่งเชินเหลือบมองและเห็นเหยาเย้นปรากฏตัวบนบันไดชั้นสอง
เขาพูดกับเวินฉี่อย่างเรียบเฉย “คนของฉันเห็นว่าคุณส่งเวินเที๋ยนเที๋ยนไปให้กับตระกูลเฟิง เรื่องนี้ว่ายังไง?”
“คนของฉัน คุณแน่ใจเหรอ?”
ในใจของเวินฉี่ลุกลี้ลุกลน ไม่คาดคิดว่าการกระทำของตัวเองจะถูกคนของจี้จิ่งเชินเห็น
คิ้วของเขาย่นเล็กน้อยและไม่รู้ว่าจี้จิ่งเชินแทรกคนของตัวเองเพื่อเป็นหูเป็นตาไว้สถานที่ไหน
ในใจครุ่นคิด แต่ใบหน้าไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้น งั้นคุณไม่ไปหาที่ตระกูลเฟิง แต่มาที่นี่หาฉันทำไม?”
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินขรึมลงอีกครั้ง ดำเหมือนตอตะโก
ตอนนี้เวลาทุกนาทีทุกวินาทีที่กำลังผ่านไป เขาไม่มีเวลาที่จะอ้อมค้อมกับเวินฉี่มากนัก
เพียงแค่คิดว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังถูกเฟิงหมิงพาขึ้นเครื่องบิน เขาก็ไม่สามารถที่จะระงับความโกรธของเขาได้
“เวินฉี่ คุณต้องการผมประโยชน์จากเวินเที๋ยนเที๋ยนเท่าไหร่คุณถึงจะพอใจ? เธอไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคุณเลย ตอนนี้โครงการสองสามโครงการ คุณกลับขายเธอให้กับเฟิงหมิง คุณรู้ไหมว่าเฟิงหมิงเป็นคนแบบไหน ไม่กลัวที่จะผลักเธอลงไปในกองไฟหรือไง?”
“กองไฟ?”
เวินฉี่เอ่ยอย่างแผ่วเบา “ตราบใดที่เวินเที๋ยนเที๋ยนแต่งงานออกไป ฉันไม่สนว่าเธอจะแต่งงานกับใคร ตราบใดที่มันสามารถสร้างประโยชน์ให้กับตระกูลเวิน นี่ก็คือมูลค่าของเธอ”
“สิ่งนี้ ทุกคนในตระกูลเวินต่างก็รู้ดี ในฐานะลูกหลานของตระกูลเวิน เธอก็ควรที่จะตระหนักถึงสิ่งนี้! ไม่ใช่เพียงเพราะเห็นแก่ความรักแล้วละทิ้งวงศ์ตระกูล ถึงขั้นเข้าข้างคนอื่นและมาต่อต้านพวกเราแทน!”
จี้จิ่งเชินได้ยินคำพูดนั้น ความโกรธในใจของเขาพุ่งออกมา บิดเบียดริมฝีปากของเขา อดที่จะพุ่งขึ้นไปและชกเวินฉี่สักหมัดแรงๆ!
“คุณไม่สมควรที่จะเป็นปู่ของเวินเที๋ยนเที๋ยน! มีพ่ออย่างคุณ ไม่น่าแปลกใจเลยที่เวินหงหยู้เลือกที่จะจากไป”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ร่างกายของเวินฉี่ก็สั่นอย่าแรง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธ
“จี้จิ่งเชิน! ฉันให้ทั้งชีวิตของคุณไม่พบกับเวินเที๋ยนเที๋ยนอีกตลอดชีวิต”
จี้จิ่งเชินไม่ได้หันกลับไปมอง แต่กลับบังคับหันรถเข็นออกไป
หลังจากรอให้จี้จิ่งเชินจากไป เวินฉี่ไม่เพียงไม่สามารถยับยั้งความโกรธของเขาได้และเขายังหันกลับมาด้วยความอารมณ์ที่โกรธมากกว่าเดิม
ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วราวกับว่าจะมองทะลุเข้าไปในหัวใจของผู้คน
เขาโมโหมาก โบกไม้เท้าและตะโกนว่า
“ไปสืบมา!”
“เป็นใครที่เปิดเผยข่าวของเวินเที๋ยนเที๋ยนให้กับจี้จิ่งเชิน และหาคนคนนั้นออกมาให้ฉันให้ได้!”
เหยาเย้นที่ยืนอยู่ด้านข้าง ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา ตัวสั่นและก้มศีรษะลง
ในขณะที่คนอื่น ๆ ไม่ได้ให้ความสนใจ ก็หันหลังกลับไปที่ห้องอย่างเงียบ ๆ
สองชั่วโมงต่อมา สนามบินและท่าเรือทุกแห่งเริ่มเปิดให้บริการอีกครั้ง
คนที่จี้จิ่งเชินสั่งงานออกไป ก็กลับมารายงาน
“พวกเราตรวจสอบแขกทั้งหมดแล้ว และเราไม่เห็นคุณหนูเวินและเฟิงหมิงเลยครับ”
“ดีมาก”
ความรู้สึกกระวนกระวายใจครั้งนี้ของจี้จิ่งเชินผ่อนคลายลงเล็กน้อย
เห็นอย่างนี้ เฟิงหมิงไม่ได้พาเวินเที๋ยนเที๋ยน ออกไป
“ตามหาให้ฉันต่อไป แม้ว่าจะหาให้ทั่วทุกซอกทุกมุมของเมืองหลวง ก็ต้องพาคนกลับมาให้ได้!”
ในเวลานี้อีกด้านหนึ่ง ในที่สุดเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตื่นขึ้นจากอาการสลบ
เธอกะพริบตาและสิ่งที่เข้ามาในสายตาของเธอก็คือเพดานไม้
อาการปวดตุบๆ ที่คอ ทำให้เธอนึกถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องหนังสือของเวินฉี่ก่อนหน้านี้
“ที่นี่คือที่ไหน?”
เธอลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบ ๆ
เป็นเวลาเย็นแล้ว แสงที่ส่องออกมาจากในห้องดูมืดมิด เหมือนจะมองเห็นคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าต่างแต่ก็เห็นแค่โครงร่าง
“คุณเป็นใคร?”
คนนั้นหันกลับมา
“ในที่สุดคุณก็ตื่นขึ้นมา”
เสียงที่ดังออกมาจากความมืด ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนลืมตาขึ้นมา ม่านตาขยายขึ้นเล็กน้อย
กลัวและในใจแทบจะบ้าคลั่ง!