เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 504
บทที่ 504 จากฉันไปแล้ว เธอจะต้องมีชีวิตต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้โง่อย่างถึงที่สุดแล้ว
“จี้จิ่งเชิน นายกำลังพูดเพ้ออะไรอยู่……”
เธอเพิ่งจะเปิดปาก หัวคิ้วก็ได้ยับย่นขึ้นแล้ว
เพราะว่าเธอพบว่ามุมสายตาของตัวเองได้ยกสูงขึ้นช้าๆ จากนั้นก็ได้ถลึงตาโตด้วยความประหลาดใจ และได้คว้าจับเสื้อผ้าของจี้จิ่งเชินเอาไว้แน่น
“เธอกำลังทำอะไร?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนก้มหัวไปมองด้วยความตื่นตระหนกจนทำอะไรไม่ถูก คาดไม่ถึงว่าจิ่งเชินจะยืนขึ้นมาแล้ว!
“นายบ้าไปแล้ว!”
เดิมทีขาคู่ของจี้จิ่งเชินก็ไม่สามารถเดินได้!
คิดไม่ถึงว่าเพิ่งจะเปิดปากพูด จี้จิ่งเชินก็ได้ก้มหัวในทันทีทันใด ริมฝีปากได้แขวนไปอยู่ที่เธอตรงๆแล้ว
สัมผัสเบาๆครู่หนึ่ง ก็ได้ถอนตัวกลับมาแล้ว
“ฉันเคยพูดว่า หากว่าพูดอีกฉันก็จะจูบเธอ”
พูดเสร็จ เขาก็ได้อุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนเดินไปทางด้านนอก ฝีก้าวแม้ว่าจะมีความสับสนอยู่บ้าง แต่กลับเด็ดเดี่ยวมั่นคงอย่างไม่สามารถเปรียบได้
จงหลีกับบอดี้การ์ดกี่คนที่ยืนอยู่ตรงด้านนอก เมื่อกี้ตอนที่เห็นถึงจี้จิ่งเชินพุ่งเข้าไป ทุกคนก็ล้วนคิดว่าเขาบ้าไปแล้ว
ตอนที่กำลังต้องการพุ่งเข้าไป กลับเห็นถึงจี้จิ่งเชินยืนขึ้นมาแล้ว!
ทุกคนที่ได้พบก็ได้ส่งเสียงตะโกนด้วยความตกใจออกมาในเวลาเดียวกัน และได้เบิ่งตาโตด้วยความไม่กล้าที่จะเชื่อ
ขาคู่ของจี้จิ่งเชิน เดินได้แล้ว?
เมื่อตระหนักถึงจุดนี้ คนกี่คนก็ได้มองไปทางขาคู่ของเธอในเวลาเดียวกัน
ไม่!
ไม่ใช่!
ขาคู่นั้นกำลังสั่นเบาๆ! หลังจากนั้นคือกำลังที่เข้มแข็งเกรียงไกรนั้นที่ทรุดเสื่อม และอาจจะล้มลงไปได้ทุกเวลา
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้หยุด
อีกทั้งเปลวไฟด้านหลังยังคงแผดเผาไม่หยุด ถ้าหากว่าถ่วงเวลาล่าไปนาทีครึ่ง ก็อาจจะระเบิดได้อยู่ทุกเวลา!
จี้จิ่งเชินอุ้มเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ และยังได้เพิ่มความเร็วขึ้นอีก!
ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวส่งมาจากทางด้านหลัง ก็ได้กระโดดไปทางด้านหน้าในเวลาเดียวกัน!
ทั้งสองคนได้ล้มอยู่บนพื้นในเวลาเดียวกัน ในช่วงเวลาที่วิกฤติอันตรายมาก จี้จิ่งเชินยื่นมือยาวๆออกไปนำเวินเที๋ยนเที๋ยนจับยึดเข้าสู่ในอ้อมอก มือข้างหนึ่งเกี่ยวหัวของเธอเอาไว้ นำเอาเธอนั้นมาปกป้องอยู่ที่หน้าอกของตัวเอง
พวกเราเพิ่งจะแยกจากกัน ไม่นานนักรถก็ได้พลิกคว่ำส่งเสียงดังครืนเสียงหนึ่งออกมา ระเบิดแล้ว!
คลื่นความร้อนค่อยๆเข้ามา บีบให้บอดี้การ์ดกี่คนรอบด้านถอยไป
จงหลีมีการตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว และได้เร่งรีบติดตามขึ้นไปแล้ว
“ประธานจี้ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”
จี้จิ่งเชินได้นั่งขึ้นมา เพียงแต่มีสีหน้าที่ขาวซีด ไม่มีร่องรอยของสีเลือดเลยแม้แต่น้อย
ขาคู่ของเขายังสั่นระริกไว้อย่างเบาบาง แต่กลับไม่มีเวลาที่จะมาคำนึงถึง เพียงแค่ก้มหัวตรวจดูสถานการณ์ของคนในอ้อมกอดไว้
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้สลบเข้าไปอย่างถึงที่สุดแล้ว
เขาตรวจสอบรอบหนึ่งอย่างระมัดระวัง เพื่อยืนยันว่าไม่ได้รับบาดเจ็บ ถึงได้โล่งไปแล้วฟอดหนึ่ง หัวคิ้วที่คดเคี้ยวซ้อนกันเป็นจีบก็ได้ผ่อนคลายช้าๆ
จนถึงตอนนี้ บอดี้การ์ดกี่คนก็ยังไม่มีการตอบสนองเข้ามา
ภาพวาดเมื่อกี้ที่จี้จิ่งเชินได้ยืนขึ้นมา ได้กลายเป็นการซัดสาดกระทบกระเทือนทางจิตใจที่ยิ่งใหญ่อยู่ในหัวของพวกเขาแล้ว
ผ่านไปแล้วสองนาที คนกี่คนถึงได้มีสติกลับมาอย่างรวดเร็ว และได้พุ่งไปอยู่ด้านข้างของจี้จิ่งเชินแล้ว
“ประธานจี้ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณเวินล่ะ?”
จี้จิ่งเชินส่ายหัวไปมาไม่ได้ตอบกลับ และคือได้หันหัวมองไปทางถนนบนภูเขาอีกด้านหนึ่ง
เวลานี้ รถที่เฟิงหมิงกับบอดี้การ์ดสองคนขับก็ได้หนีลอยนวลไป และร่องรอยก็หายไปโดยสิ้นเชิง
ในดวงตาที่ลึกซึ้งของจี้จิ่งเชินได้มีแสงมืดมิดกะพริบผ่านไปกี่ที และได้ค่อยๆจมดิ่งตกสู่ระดับต่ำสุด ลูกตาดำได้เปลี่ยนไปจนยิ่งดำขมับมากขึ้น
ดีมาก คนกี่คนนี้ได้กวนโมโหเขาอย่างถึงที่สุดแล้ว
เขาได้อุ้มคนในอ้อมอกไว้แน่น
ลงมือกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็คือลงมือกับท้องฟ้าของเขาแล้ว
ในเวลาเดียวกันกับเวลานี้ รถตำรวจกี่คันก็ได้รีบเร่งเข้ามาแล้ว และได้จอดลงตรงหน้าจี้จิ่งเชิน
เหยียนเจิ้งได้เดินลงมาจากบนรถ และได้มองเห็นจี้จิ่งเชินในเวลานี้ สายตาทั้งหมดก็ได้สังเกตไปอยู่บนตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างละเอียด
สีหน้าของจี้จิ่งเชินไม่ดี และได้คุมเชิงด้วยกันกับเขาไว้
หากว่าไม่ใช่เพราะตำรวจพวกนี้แทรกเข้ามาก่อกวนเรื่องอย่างกะทันหัน ก็จะไม่กลายเป็นเช่นนี้
เพราะว่าพวกเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เกือบจะได้พบกับอันตรายแล้ว!
หากรู้ว่าวันนี้จะเป็นเช่นนี้ ตอนนั้นเขาก็จะไม่เอาข่าวคราวของเฟิงหมิงบอกกับพวกเขา
“หลังจากนี้เรื่องของฉันกับเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ยังคงหวังว่าคุณตำรวจเหยียนจะไม่แทรกเข้าร่วมด้วยความหวังดี” จี้จิ่งเชินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
เหยียนเจิ้งไม่ได้โต้ตอบ
แท้ที่จริงความปลอดภัยของเวินเที๋ยนเที๋ยนกับการตามจับเฟิงหมิง เขาก็ได้ลำเอียงต้องการจะนำเฟิงหมิงจับกุมกลับมาเพื่อดำเนินคดีจริงๆ
ฆ่าคนมากมายเช่นนั้น แน่นอนว่าจะไม่สามารถให้เขาลอยนวลอยู่นอกเหนือกฎหมายต่อไปได้!
แต่ว่าเขาก็ไม่ได้มีความหมายที่จะคิดตั้งใจทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้นับบาดเจ็บ
แต่ตอนนี้ก็แม้ว่าอธิบาย ฝ่ายตรงข้ามก็ไม่ฟังเข้าไป
เขามองดูทั้งสองคนที่อยู่บนพื้นในเวลานี้ คิ้วก็ได้ยกขมวดขึ้น จากนั้นก็ได้กำชับตำรวจที่อยู่ทางด้านหลัง
“ส่งคนติดตามต่อไป เอาคนจับกลับมา สั่งประกาศจับก็สามารถประกาศคำสั่งได้แล้ว”
“ครับ”
ตำรวจกี่คนได้เคลื่อนไหวขึ้นมาด้วยความรวดเร็ว และได้ลุกฮือขึ้นมาพร้อมแยกย้ายหายกันไป
สีหน้าของจี้จิ่งเชินไม่เบิกบาน และได้มองพวกเขาจากไปด้วยความมืดครึ้ม ในที่สุดนี่ถึงได้พาเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นรถแล้ว และได้มุ่งหน้าไปโรงพยาบาลโดยตรง
จี้จิ่งเชินล่ะ?
ขาของเขาไม่เป็นไรใช่ไหม?
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบด้านอย่างร้อนรน ยังไม่ได้รอมองคนตรงหน้าให้ชัดเจนมือก็ได้ถูกจับไว้แล้ว
“ฉันไม่เป็นไร”
เหมือนกับว่าก็สามารถเดาความคิดในใจของเธอออกมาได้ตั้งนานแล้ว และได้พูดตอบ
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินคำพูดนี้จึงได้หันหัวไปมอง ทันทีหลังจากนั้นก็ได้เห็นถึงใบหน้าของจี้จิ่งเชินแล้ว
ท่าทีของเขาเมื่อมองขึ้นไปแล้วก็ดีไปมากแล้ว แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่วางใจ และได้มองต่อไปทางด้านล่าง มองไปทางขาคู่ของเขาแล้ว ยังได้ยื่นมือไปลูบแล้วลูบอีก
“นายไม่เป็นไร?”
จี้จิ่งเชินหัวเราะขึ้นมาแล้ว ยังมีอารมณ์พูดยั่วเย้า: “ต้องการให้ฉันถอดกางเกงแล้วตรวจสอบไหม?”
เมื่อก่อนในเวลานี้เวินเที๋ยนเที๋ยนก็จะปฏิเสธอย่างหน้าแดง
แต่ว่าครั้งนี้ เธอกลับพูดอย่างยืนหยัด: “ต้องการ”
เธอกังวล
ครั้งที่แล้วท่าทางหลังจากที่จี้จิ่งเชินยืนขึ้นมาก็ได้ตกตะลึงมากจนเกินไป เลือดสดพวกนั้นยังคงปรากฏอยู่ในหัวไม่หยุด
ครั้งที่แล้วเป็นเพราะว่าเธอ และครั้งนี้ก็เป็นเพราะว่าเธอ
ทุกครั้งก็ล้วนคือเธอ
เธอยิ่งคิดก็ยิ่งโทษตัวเอง
เวลานี้จี้จิ่งเชินกลับได้ยื่นมือมาดึงลากเธอไว้
“คิดอะไรล่ะ? ฉันไม่เป็นไรจริงๆ ไม่เชื่อเธอดู”
ตอนที่พูดเขาก็ได้ดึงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามา วางอยู่บนขาคู่ของตัวเอง ทำให้เธอรู้สึกถึงกล้ามเนื้อที่มัดแน่นกับขาทั้งสองข้างที่อยู่ภายใต้ผ้า
“เธอดู ไม่เป็นไรใช่ไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ตรวจสอบรอบหนึ่งอย่างละเอียดแล้ว ในที่สุดถึงได้วางใจ
จี้จิ่งเชินกลับพูด: “คนที่สมควรจะกังวลจริงๆ เป็นตัวเธอเองถึงจะถูก”
เมื่อพูดเสร็จเขาก็ได้ยกมือไปสัมผัสแล้วสัมผัสอีกบนบาดแผลตรงหน้าผากของเวินเที๋ยนเที๋ยน
“ตอนไหนที่เธอถึงจะสามารถดูแลตัวเองได้ ไม่ให้ฉันเป็นห่วง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ชะงักงัน
ก่อนหน้านี้จี้จิ่งเชินได้เคยเตือน เมื่อพบกับอันตรายใดๆจะต้องไปให้เขาช่วยเหลือ อีกทั้งจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมากต่อเวินฉี่
แต่คิดไม่ถึงว่าเธอระมัดระวังเป็นพิเศษแล้วยังคงได้เหยียบเข้าสู่ในหลุมพรางที่เขาตั้งใจวางแผนเป็นพิเศษ
ไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเอง ยังได้พัวพันไปถึงคนอื่นแล้ว
“เพียงแต่ว่าแบบนี้ก็ดี”
หัวข้อสนทนาของจี้จิ่งเชินได้เปลี่ยนอย่างกะทันหัน และได้เปิดปากพูด
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยกหัวมองเข้ามาอย่างไม่เข้าใจ
ในสายตาของจี้จิ่งเชินได้ย้อมไปด้วยรอยยิ้มจางๆ จากนั้นก็ได้พูดต่อ: “หลังจากนี้ฉันก็สามารถเป็นที่รู้จักคล้อยตามเหตุผลในการนำเธอมาเก็บไว้ข้างตัวฉันได้แล้ว”
“ผู้หญิงโง่คนนี้ เมื่อจากฉันไปแล้ว เธอจะต้องมีชีวิตต่อไปไม่ได้อย่างแน่นอน จะต้องอยู่ภายใต้การปกป้องของฉัน ถึงจะสามารถมีชีวิตอยู่อย่างดีๆได้”
ในสายตาของจี้จิ่งเชินเต็มไปด้วยความรักและเอ็นดูมากจนเกินไป
นี่เหมือนคำพูดอะไร?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งจะต้องการโต้แย้ง ก็ได้นึกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในกี่วันนี้ขึ้นมาได้ และก็ได้นำคำพูดในปากกลืนกลับไปแล้ว
จากนั้นก็ได้พยักหน้าไปมา และทำได้เพียงเห็นด้วย