เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 508
บทที่ 508 เป็นฉันที่ผิดไปแล้ว
ในโรงพยาบาลH.K
ก่อนหน้านี้สองวัน โรงพยาบาลแห่งนี้ก็ได้ถูกตำรวจยึดเพื่อนำมาใช้
ต่อหน้าสาธารณะ ที่นี่ก็คือโรงพยาบาลที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาหลังจากที่ได้รับบาดเจ็บ
เพื่อรับประกันได้ว่าจะสามารถจับเฟิงหมิงได้ จึงได้ปลอมเป็นพยาบาล ซุกซ่อนอยู่ทุกมุมในโรงพยาบาล
ตำรวจจำนวนมากก็ล้วนไม่เข้าใจ ทำไมเหยียนเจิ้งก็แน่ใจเช่นนี้ ขอเพียงส่งข่าวแบบนี้ออกไป เฟิงหมิงก็จะรีบมา
ตอนนั้นเป็นเขาที่บีบบังคับข่มขู่ให้เวินเที๋ยนเที๋ยนหนีไป จะเพื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนนำตัวเองกระโดดเข้าขุมนรกได้ยังไงกัน?
“ไม่รู้จริงๆว่าคุณตำรวจเหยียนคิดยังไง” ตำรวจคนหนึ่งที่ปลอมตัวเป็นผู้ป่วยได้พูดบ่นโทษเบาๆ
อีกคนหนึ่งที่ได้ใส่เสื้อคลุมสีขาวไว้ กำลังตรวจสุขภาพให้เขา แต่กลับไม่ส่งเสียงใดๆและได้สังเกตสถานการณ์รอบด้าน
“ในเมื่อเป็นคำสั่งของคุณตำรวจเหยียน นายก็ฟังให้ดีๆก็ได้แล้ว จะไม่มีผิด”
“ฉันรู้ แต่ว่าก็รอมาสองวันแล้ว……”
ตอนคนนั้นกำลังพูด สายตาก็ได้กวาดผ่านไปอยู่บนทางเดิน จากนั้นก็ได้หยุดลงมาแล้วในทันทีทันใด
ทางเดินทางด้านนั้น ผู้ชายคนหนึ่งที่ได้สวมชุดออกกำลังกายสบายๆสีดำ และใส่หมวกแก๊ปได้เดินเข้ามาแล้ว
รูปร่างสูงใหญ่ แม้ว่าจะสวมใส่ได้อย่างธรรมดาเรียบง่าย แต่ก็ยังคงเป็นที่สะดุดตาเป็นอย่างมาก
การระมัดระวังของตำรวจได้เงียบสงบลงมา และรอคอยไว้
จนถึงบัดนี้ฝ่ายตรงข้ามคือเหมือนกับมีเป้าหมายตั้งนานแล้ว และได้เดินตรงดิ่งหันไปทางห้องไอซียู
รูปร่างนั้น!
เขานึกถึงข้อมูลที่ก่อนหน้านี้ได้รับได้ และได้ถลึงตาโต จากนั้นก็ได้ใช้แรงตีแล้วตีอีกไปที่คนข้างตัว
“ดู! ใช่เขาไหม?”
หลังจากที่เฟิงหมิงตื่นขึ้นมา ก็ได้พบว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยู่ข้างตัวแล้ว
จากคำพูดในปากของบอดี้การ์ด ถึงได้รู้ถึงเรื่องราวตั้งแต่ต้นจนจบ
ภายใต้สถานการณ์เช่นนั้น การมีชีวิตรอดกลับมาของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็อาจจะมีระดับที่น้อยมาก
ก็อยู่ในเวลานี่ เขาได้ยินถึงข่าวคราวหนึ่งอย่างกะทันหันแล้ว
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ตาย!
แม้ว่าจะถูกส่งเข้าโรงพยาบาล แต่กลับมีอันตรายตั้งแต่เช้าจนค่ำ
เมื่อเฟิงหมิงได้ยิน ในชั่วขณะก็ได้ลุกยืนขึ้นมาแล้ว เตรียมตัวที่จะไปยังโรงพยาบาล
“คุณชาย คุณใจเย็นสักหน่อย พวกนี้เป็นไปได้อย่างมากว่าจะเป็นเพียงแผนการของตำรวจ! อย่าตกหลุมพราง!”
“ไม่ผิด ฉันติดไฟลุกขึ้นมาด้วยตาตัวเอง ยังได้ยินเสียงระเบิดแล้ว เธอไม่สามารถมีชีวิตต่อได้”
บอดี้การ์ดพูดโน้มน้าวใจ และแน่นอนว่าเฟิงหมิงชัดเจน
แต่หากว่านี่เป็นจริง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ได้ป่วยหนักมากกำลังจะตายจริงๆ
เขาก็อยากเข้าไปดูๆ
บอดี้การ์ดขวางกั้นเขาไม่ได้ ไม่ช้าเฟิงหมิงก็ได้เตรียมพร้อมเสร็จแล้ว และมาถึงโรงพยาบาล HK
เวลาไม่มาก เขาได้มาถามข่าวตรงหน้าเคาเตอร์ และก็ได้เห็นข้อมูลของเวินเที๋ยนเที๋ยนจริงๆ
เขาก็ยิ่งเพิ่มความแน่ใจในความจริงของข่าวแล้ว จากนั้นก็ได้ทะลุผ่านกลุ่มคน รีบเร่งเดินไปทางห้องไอซียู
กระแสคนที่หลั่งไหลโดยรอบได้ค่อยๆเปลี่ยนเป็นน้อยลง เฟิงหมิงกดแล้วกดอีกไปที่ขอบหมวกรอบด้าน และได้เงยหัวเล็กน้อย เพื่อตรวจสอบหมายเลขห้องผู้ป่วยไปแล้วรอบหนึ่ง
ก็คือที่นี่แล้ว
เขายกมือ เตรียมผลักประตูออก
“เฟิงหมิง!”
เสียงหนึ่งได้ส่งเข้ามาจากทางเดินอีกด้านหนึ่งอย่างกะทันหัน
ในชั่วพริบตาการเคลื่อนของเฟิงหมิงได้หยุดลงมาแล้ว
เสียงนี้ เขาได้ยินไม่ผิด
แต่หากว่าเธออยู่ที่นี่ เช่นนั้นก็หมายถึง……
เฟิงหมิงหันหัวเข้าไปมองไปตามทิศทางที่มีเสียงส่งมา
เมื่อเงยหัวก็ได้เห็นถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ตอนนี้ได้ยืนอยู่ตรงทางเดินอีกด้านหนึ่ง
ดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะรีบมาถึง และได้ยืนแสงสะท้อนกลับสวนทางอยู่ที่นั่น
จี้จิ่งเชินยืนอยู่ข้างตัวเธอ และได้จูงมือของเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ ด้วยท่าทีที่เป็นผู้ปกป้อง และมีสายตาที่ไม่เป็นมิตรได้มองเข้ามา
แต่ในสายตาของเฟิงหมิงในเวลานี้ได้เหลือเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนแค่คนเดียว
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคนมี100เมตร แต่เขากลับมองเห็นถึงแก้มบนหน้าที่แดงของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้อย่างชัดเจน
เธอคือวิ่งเข้ามา
ตระหนักถึงจุดนี้ เชือกในใจที่ตึงแน่นของเฟิงหมิงก็ได้ผ่อนคลายลงมาแล้วไปชั่วขณะ
ความระแวงทุกอย่างอยู่ในเวลานี้ก็ได้เปลี่ยนไปจนไม่สำคัญอีกแล้ว
ในชั่วพริบตานี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจคำพูดในอดีตของเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วอย่างกะทันหัน
เขาปฏิบัติเช่นนี้ต่อเวินเที๋ยนเที๋ยน คนในครอบครัวที่ถูกทำร้ายพวกนั้น ก็คือมีอารมณ์เช่นเดียวกันใช่ไหม?
ความทรงจำค่อยๆลอยออกมาบนผิวน้ำ
เขาจำได้ว่าตอนเด็ก พ่อเพราะว่าแม่มีชู้ ตอนที่ได้สงสัยฐานะจริงของเขา จึงได้ลงมือตีเขาหนักมาก
เป็นแม่ที่นำเขาโอบกอดเข้าไปในอ้อมอก และได้ซุกซ่อนอยู่ภายใต้ร่างกาย ขวางกั้นกำปั้นที่ทุบตีขาที่ถีบเตะพวกนั้น
พวกนี้เขาลืมได้ยังไงแล้ว?
บนใบหน้าของเฟิงหมิงได้มีการฝืนยิ้มปรากฏออกมาแล้ว
หรือว่าเขาก็ผิดมาโดยตลอด?
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดถูก เขาผิดแล้ว ผิดมากผิดมากเป็นพิเศษ
ก้อนหินที่ได้กดทับอยู่ในใจก็ได้ถูกย้ายออกไป ในชั่วพริบตาก็ได้โล่งทะลุปรุโปร่ง
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงหมิงได้เปลี่ยนเป็นจริงใจไปแล้วกี่ส่วน โดยไม่เหมือนกับรอยยิ้มที่เย็นชากับรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบบนงานเลี้ยงของเมื่อก่อน แต่คือได้ผ่อนคลายและส่งออกมาจากภายใต้จิตใจ
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้เห็นแล้ว ก็ได้งุนงงเล็กน้อย
เฟิงหมิงที่อยู่ไกลออกไปได้ก้าวเท้าโตๆเดินเข้ามาแล้ว
“เที๋ยนเที๋ยน……”
ฝีเท้าที่กระชั้นถี่ของเขา ดูเหมือนว่าคิดต้องการนำความคิดภายในจิตใจตัวเองบอกกับเวินเที๋ยนเที๋ยน
เฟิงหมิงยื่นมือออกมา
“ฉัน……”
เพิ่งจะเปิดปาก
ปัง!
เสียงปืนที่ดังกังวานได้ฉีกออกอยู่ในอากาศ!
บรรยากาศในชั่วพริบตาได้แข็งตัว
บนสีหน้าท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้แข็งทื่อไม่กระดิกกระเดี้ย ฝีเท้าที่ได้ก้าวอย่างรวดเร็วของเฟิงหมิงที่อยู่ไม่ไกลได้หยุดลง และได้กวัดแกว่งสั่นไหวไปสองที
หน้าอกได้ถูกลูกกระสุนทะลุผ่าน เลือดสดได้ไหลจ๊อกๆออกมา
บนใบหน้าของเขาได้มีท่าทางตื่นตกใจปรากฎออกมา จากนั้นก็ใช้มือกดไปอยู่บนบาดแผล และคิดต้องการที่จะเคลื่อนที่ต่อไปอีกอย่างยากลำบาก
เขาต้องการเดินไปถึงข้างตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่ว่าตำรวจที่ดักซุ่มอยู่รอบด้านกลับคิดว่าเขายังคิดที่จะต่อต้านสู้ตาย
ปัง!
ปัง!
เสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันสองครั้งสามครั้ง
ร่างกายของเฟิงหมิงได้สั่นไหวรุนแรงไปแล้วครู่หนึ่ง และได้ล้มโครมเสียงหนึ่งไปอยู่บนพื้น
ทุกอย่างนี้เกิดขึ้นเร็วเกินไป มากจนกระทั่งเวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่ได้มีปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมา
“เฟิงหมิง!”
เธอวิ่งเข้าไปอย่างร้อนรน
เฟิงหมิงนอนอยู่ในกองเลือด มือคู่ได้กดอยู่ตรงบาดแผลของหน้าอก แต่กลับไม่สามารถห้ามเลือดสดที่ไหลออกมาได้
สีหน้าของเขาได้ขาวซีดเพราะว่าเสียเลือดกับความเจ็บปวด เป็นการเปรียบเทียบความชัดเจนของสีกับเลือดที่แดงสด
และสายตาของเขา ก็ได้มองเวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ตลอด
“ยังดีที่เธอไม่เป็นไร”
เขาเปิดปากพูดอย่างยากลำบาก และได้สำลักเลือดสดออกมาคำหนึ่ง
ในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยับย่น และมีความรู้สึกยากที่จะรับได้อยู่ในใจ
“เฟิงหมิง นาย……”
แต่เฟิงหมิงกลับได้คว้าจับมือของเธอเอาไว้
“ฉันต้องการเข้ามอบตัว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ชะงักงันไปแล้วครู่หนึ่ง เห็นถึงบนใบหน้าของเขามีรอยยิ้ม ในหัวใจก็ได้รู้สึกโศกเศร้าและทุกข์ทน
ตำรวจที่ซ่อนตัวอยู่รอบด้านก็ได้เดินออกมา ปืนที่อยู่ในมือก็ยังคงได้เล็งไปยังคนที่บนพื้น
“เฟิงหมิงบอกว่าเขาต้องการมอบตัว!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยกน้ำเสียงขึ้นสูง ช่วยเฟิงหมิงพูด
ตำรวจกี่คนได้จ้องมองซึ่งกันและกัน แต่กลับไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็ได้หยั่งเชิงเข้าใกล้
รอยยิ้มบนใบหน้าของเฟิงหมิงได้ยิ่งลึกขึ้นแล้วบ้าง เวลานี้กลับเห็นถึงจี้จิ่งเชินที่ได้ยืนอยู่ข้างตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนมาโดยตลอด
สายตาของเขาได้มืดสลัวลงมา และได้ไอออกมาเสียงหนึ่ง
“มีเพื่อนคนนี้อย่างนาย ดีจริงๆ”
ตอนที่พูดเขาก็ได้เงยหัวขึ้นมองไปทางจี้จิ่งเชิน
“ดูแลเธอให้ดี”
เมื่อพูดจบร่างกายของเขาก็ได้สั่นระริกอีกครั้งไปแล้วครู่หนึ่ง แสงสว่างในสายตาก็ได้ค่อยๆสลายหายไปทีละน้อยทีละน้อย
“เป็นฉัน……ผิดไปแล้ว……”
เขาได้พูดเสียงเบาๆ และได้ปิดตาลงช้าๆ
มือที่ได้ถือเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ก็ได้ตกลงมาแล้ว
หัวใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกหนัก มองมือที่ตกลงมาชนกับพื้นของเขาเอาไว้
ฝ่ามือของตัวเองยังเปียกชื้นไปด้วยเลือดสีแดงสด และเฟิงหมิงตรงหน้าก็ได้สูญเสียลมหายใจไปจนถึงที่สุดแล้ว
ตำรวจได้พุ่งขึ้นมา ตรวจสอบลมหายใจของเฟิงหมิง
“ยืนยันว่าผู้ต้องสงสัยได้เสียชีวิต”
ตำรวจกี่คนได้เคลื่อนไหวกันเป็นกลุ่มขึ้นมา นำเวินเที๋ยนเที๋ยนผลักออก จากนั้นก็ได้เริ่มจัดการศพบนพื้นของเฟิงหมิง
เวินเที๋ยนเที๋ยนโซซัดโซเซไปแล้วครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ชนเข้าไปในอ้อมอกของคนหนึ่ง
และได้เงยหัวขึ้น