เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 511
511 จดหมายท้าทาย
เวินเที๋ยนเที๋ยนตั้งตัวไม่ทันโดนถ่ายไว้แล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นได้ชัดว่าเมื่อกี๊จี้จิ่งเชินจงใจแกล้งเธอ เพื่อที่จะถ่ายภาพนั้นไว้
เธอโกรธมาก มองจี้จิ่งเชินด้วยความไม่พอใจ
หลังจากที่จี้จิ่งเชินตรวจเช็กรูปเมื่อกี๊แล้ว พอใจเป็นอย่างมาก
เขาที่แต่เดิมไม่เคยรักการถ่ายรูป
กลับดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนมาอีกรอบ เตรียมจะถ่ายอีกรูปหนึ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจเล็กน้อย
“เดี๋ยวก่อน……”
ยังไม่ทันพูดจบ กลับโดนจับคางไว้อีกครั้ง มุ่งไปข้างหน้า แล้วริมฝีปากทั้งสองคนชนกันอีกครั้ง
เสียงถ่ายรูปดังขึ้นเช่นเดิม รูปถูกถ่ายไว้อีกแล้ว
รูปหนึ่ง……
รูปหนึ่ง……
แล้วก็อีกรูปหนึ่ง……
ตอนเย็น
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังเปิดดูรูปในโทรศัพท์ของตัวเองยิ่งดูยิ่งแก้มแดง
“ยังพูดว่าตัวเองไม่ชอบถ่ายรูป ทั้งๆที่ถ่ายแล้วดูมีความสุขกว่าใครๆ!”
“แถมยังถ่ายไปเยอะขนาดนี้!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังบ่น ที่น่าเกลียดกว่านั้นก็คือ ท่าของทุกรูปกลับเป็นการจูบ!
แบบนี้แล้วเธอจะกล้าให้คนอื่นดูโทรศัพท์ของตัวเองได้อย่างไร ยังจำเป็นต้องเก็บไว้ให้ดีๆอีก!
แล้วก็ ก่อนที่จี้จิ่งเชินจะคืนโทรศัพท์ให้หล่อน ก็ยังบันทึกไว้ที่อื่นอีกด้วย เขาบอกว่าจะอัดออกมา……
ถ้าหากว่าพวกพ่อบ้านเห็น จะทำอย่างไร?
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินลงตึก เพิ่งถึงห้องรับแขก ก็ได้ยินเสียงทีวีที่ดังมาจากห้องรับแขก
“พวกเราสามารถเห็นได้ว่า แจกันทรงกลมชิ้นนี้มีมูลค่าไม่ใช่น้อย ผู้เชี่ยวชาญตัดสินแล้วว่า เป็นผลิตภัณฑ์สมัยราชวงศ์หมิง”
“ลวดลายบนแจกันมีความสวยงาม ฝีมือละเอียด แต่เสียดายที่ตอนรับมา บนแจกันมีรอยร้าวหลงเหลืออยู่นิดหน่อย”
“แต่ว่าตอนนี้พวกเราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่า รอยร้าวพวกนี้ได้หายไปอย่างไร้ร่องรอย! ต่อให้จะอยู่ในระยะใกล้ขนาดนี้ ก็ไม่สังเกตเห็นร่องรอยใดๆแม้แต่น้อย ทั้งหมดนี้ ก็ต้องขอบคุณนักบูรณะวัตถุโบราณของพวกเรา”
“ทุกคนทราบกันดี ว่านักบูรณะวัตถุโบราณเป็นงานประเภทที่หาได้ยากมากภายในประเทศ แทนที่จะถูกเรียกว่าคนทำงาน ผมอยากที่จะแทนพวกเขาว่าศิลปิน! ซ่อมแซมวัตถุโบราณที่พังเสียหายได้อย่างสวยงามไม่มีที่ติ ” ทำให้ชื่นชมมาก!
“แล้ววันนี้ ที่พวกเราจะแนะนำให้ทุกคนรู้จัก ก็คือนักบูรณะวัตถุโบราณที่ซ่อมแซมแจกันทรงกลมชิ้นนี้ หลีเจียเวย คุณหนูหลี!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินตามเสียงทีวีที่ได้ยินลงมา พอฟังถึงตรงนี้
พ่อบ้านกับแม่ครัวก็ดูรายการกันอยู่ที่ห้องรับแขก และบนหน้าจอทีวี กล้องหันไปที่ตัวของหลีเจียเวย
แล้วข้างตัวของนาง แจกันทรงกลมชิ้นนั้นดูคุ้นตามาก
นี่คือแจกันที่ก่อนหน้านั้นเฟิงหมิงให้เธอซ่อมแซม!
เพียงแค่ในตอนนั้นเมื่อหล่อนซ่อมแซมถึง80% รับรู้ว่าเจ้าของแจกันชิ้นนั้นคือเฟิงหมิง ก็ได้ถอยออกมา
คิดไม่ถึง ว่าเขากลับตามหลีเจียเวยมาจัดการต่อ
ในรายการหลีเจียเวยพูดจาฉะฉาน พูดถึงความยากลำบากที่ผ่านมาของตัวเองในการซ่อมแซมแจกัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งรู้ตอนนี้ ที่แท้หลังจากที่เฟิงหมิงเกิดเรื่อง ทรัพย์สินทั้งหมดของเขาก็ถูกยึด แจกันใบหนึ่งเพราะว่าเป็นของหายาก เลยถูกบริจาคไปยังพิพิธภัณฑ์แห่งชาติ
หลีเจียเวยถูกยกให้เป็นนักบูรณะแจกันชิ้นนี้ แล้วยอมรับการสัมภาษณ์
พ่อบ้านและแม่ครัวไม่ได้สังเกตเห็นถึงการมาของเวินเที๋ยนเที๋ยน กำลังวิพากษ์วิจารณ์กันถึงคนในหน้าจอทีวี
“คิดไม่ถึงว่านางเป็นคนซ่อมแซม ดูแล้วยังมีความสามารถอยู่ประมาณหนึ่ง”
ตอนนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนและหลีเจียเวยเกิดความขัดแย้งกันในรายการ คนทั่วทั้งปราสาทโบราณก็รู้ และก็ไม่ต้อนรับนางเป็นอย่างมาก
แต่ว่าคุณสมบัติประจำตัวเป็นเรื่องหนึ่ง ความสามารถก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ถ้าเป็นความเก่งของนาง พ่อบ้านก็คงจะไม่จงใจดูถูกดูแคลน
แม่ครัวพยักหน้าอยู่ข้างๆ แล้วพูดต่อ:“แต่ถ้าหากว่าเป็นคุณหนู เธอก็สามารถทำได้เหมือนกัน”
“มันก็แน่อยู่แล้ว คุณหนูของพวกเราเป็นถึงลูกศิษย์ที่ท่านเปิงสอนเองกับตัว จะแพ้ให้นางได้อย่างไร?”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าใกล้ ได้ยินบทสนทนาของพวกเขา ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ
ถ้าหากว่าทั้งสองคนรู้ว่า ที่จริงงานซ่อมแซมแจกันชิ้นนี้80%เป็นผลงานของหล่อน หลีเจียเวยเพียงแค่ทำงานปิดท้ายที่เหลือง่ายๆ จะคิดเช่นไร?
คิดแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ยังคงไม่พูดออกมา
แต่ว่ากลับเดินเข้าไป แล้วถามว่า:“พ่อบ้าน จี้จิ่งเชินล่ะ?”
พ่อบ้านได้ยินเสียง แล้วก็หันหน้าในทันใด เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ตกใจเล็กน้อย
“คุณหนู คุณลงมาทำไมครับ?”
เมื่อทั้งสองเห็นหล่อน ก็หันหน้าไปมองคนที่กำลังให้สัมภาษณ์อยู่ในตอนนี้ หลีเจียเวยที่สวยงามแบบไม่มีขีดจำกัด แล้วรีบปิดทีวีอย่างรวดเร็ว กลัวว่าจะไปกระตุ้นตัวเวินเที๋ยนเที๋ยน
สังเกตได้ถึงท่าทีของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนยกมือขึ้นห้าม
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่มาหาจี้จิ่งเชิน”
“คุณผู้ชายเพิ่งออกไปครับ น่าจะอยู่ในสวนด้านนอก” พ่อบ้านกล่าว
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า แล้วหันหลังเดินออกไป
“พวกคุณดูต่อเถอะ ไม่ต้องสนใจฉัน”
เมื่อเห็นเธอไปแล้ว พ่อบ้านขมวดคิ้ว แล้วเปิดทีวีอีกรอบ
แม่ครัวดึงตัวเขา
“คุณยังดูอีกเหรอ”
พ่อบ้านทำเหมือนไม่มีอะไร
“แน่นอน รู้เขารู้เรา ถึงจะสามารถรบร้อยครั้งชนะร้อยครั้งได้ ฉันต้องศึกษาหลีเจียเวยดีๆ ว่ามีปัญญาอะไร ที่จะเทียบคุณหนูเราได้?”
อีกด้านหนึ่ง เวินเที๋ยนเที๋ยนออกมาจากห้องรับแขก เดินไปยังด้านนอก
เพิ่งเดินมาสวนกุหลาบ ก็มองเห็นแผ่นหลังของจี้จิ่งเชิน
ตอนนี้ฤดูร้อนแล้ว ดอกกุหลาบภายในกำแพงของสวนกำลังเบ่งบาน ก่อนที่ความมืดกำลังจะพัดพากลิ่นหอมลอยออกไปไกล
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังดมกลิ่นหอมของดอกไม้ เห็นว่าวีลแชร์ของจี้จิ่งเชินวางอยู่ข้างๆ เขายืนขึ้นมาด้วยตัวเอง กำลังลองเดิน
เห็นภาพนี้ เธอเลยหยุดเดิน ไม่ได้เดินเข้าไปรบกวน แต่ว่ามองเขาอยู่ไกลๆ
เมื่อก่อนหมอจางเคยพูดว่า จี้จิ่งเชินให้ความร่วมมือในการฝึกการฟื้นฟูสมรรถภาพ การฟื้นฟูก็ดีมาก สามารถที่จะลองฝึกฝนที่บ้านเองได้ เพียงแค่ไม่สามารถเหนื่อยเกินไปได้
จี้จิ่งเชินปิดบังเธอ ก็คงกลัวว่าเธอจะเป็นห่วง?
เธอมองอยู่ไกลๆ รอจนร่างกายของจี้จิ่งเชินถึงขั้นสุดแล้ว ตรงหน้าผากมีเม็ดเหงื่อผุดออกมา จึงได้พูดขึ้น“จี้จิ่งเชิน”
ทันใดที่ได้ยินเสียงเธอ จี้จิ่งเชินก็กลับไปนั่งที่วีลแชร์อย่างรวดเร็ว ทำเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนใช้จังหวะนี้เดินออกมา ไม่ได้พูดถึงเรื่องที่เขาแอบฝึกฝนเมื่อกี๊แต่อย่างใด แต่ว่ายื่นมือไปเช็ดเหงื่อบนหน้าผากเขา
“สายแล้ว กลับกันเถอะ”
จี้จิ่งเชินพยักหน้า
ระหว่างทั้งสองกลายเป็นความความเข้าใจกันโดยปริยาย ไม่พูดหักหน้ากัน ต่างฝ่ายต่างเหลือที่ยืนให้กัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนและจี้จิ่งเชินกลับห้องรับแขกพร้อมกัน เพิ่งเข้าประตู เห็นว่าพ่อบ้านกับแม่ครัวยังคงนั่งอยู่บนโซฟา
สีหน้าไม่ดี ราวว่ากับกำลังโกรธ
ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกไม่เข้าใจ เมื่อกี๊ตอนหล่อนออกไป ทั้งสองดูดีใจมากไม่ใช่เหรอ?
“พวกคุณเป็นอะไร?เกิดเรื่องอะไรรึเปล่า?”
เมื่อทั้งสองได้ยินเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็หันหน้ามา แล้ววนมาขมวดคิ้ว
“คุณหนู……”
แม่ครัวพูดแค่นี้แล้วหยุด ตอนนี้ทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งแปลกใจมากขึ้น
“ตกลงว่าเรื่องอะไรกัน?”
ทั้งสองมองหน้ากัน
“รายการเมื่อกี๊ หลีเจียเวยพูดถึงคุณ”
ได้ยินชื่อนี้ สายตาของจี้จิ่งเชินก็มองมา
ทันใดนั้นเวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกไม่เข้าใจ
“พูดถึงฉัน หล่อนพูดอะไร?”
พ่อบ้านขมวดคิ้ว สีหน้ายิ่งไม่พอใจอย่างมาก
“ในตอนที่รายการใกล้จบ หลีเจียเวยพูดว่าคุณถนัดเรื่องซ่อมแซมเครื่องเคลือบดินเผา เลยส่งจดหมายท้าทายถึงคุณ”