เมียหวานของประธานเย็นชา - ตอนที่ 516
บทที่ 516 เตรียมมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ
คนแก่บุกเข้ามาโดยตรง ราวกับเข้ามาในพื้นที่ที่ไม่มีคน แล้วยังเรียกชื่อท่านเปิงอย่างเสียงดัง
“ท่านเปิง ท่านอยู่ตรงไหนเหรอ?รีบออกมา!”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นรูปร่างเขาชัดเจน เบิกตาโตอย่างประหลาดใจ
“ท่าน……ท่านอาจารย์?”
เธอมองคนที่เดินเข้ามาจากด้านนอกตอนนี้ด้วยความแปลกใจ
คนตรงหน้านี้ เธอไม่มีทางจำผิด
ถ้าจะนับขึ้นมา เขาก็คือหนึ่งในอาจารย์ของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ตอนนั้นเพื่อช่วยจี้จิ่งเชินเก็บปราสาทโบราณไว้ เขาเคยรับปากเว่ยเอ๋อ จะช่วยเขาซ่อมแซมสร้อยคอโลหะเส้นหนึ่งที่จักรพรรดินีประทานให้
เขาก็อยู่ภายใต้การชี้แนะของอาจารย์ท่านนี้ ถึงได้สำเร็จอย่างราบรื่น
เพราะว่าประสบการณ์ในครั้งนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงสนใจในวัตถุโบราณประเภทโลหะ ยอมรับการเรียนรู้ที่เป็นระบบ ตอนนี้เริ่มจะเกิดผลแล้ว
ท่านอาจารย์สีหน้ารีบร้อน เดินตรงมาทางท่านเปิง เมื่อได้ยินเสียงของเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วหันหน้ามองไปยังเธอ
ผ่านไปสักพัก ถึงนึกขึ้นได้
“เธอ……คือเวินเที๋ยนเที๋ยน?ฉันจำได้แล้ว”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ท่านอาจารย์ ท่านยังสบายดีมั้ย?”
“ไม่ดี!”
คิดไม่ถึงว่าท่านอาจารย์กลับพูดแบบไม่พอใจ ต่อด้วยพูดเสียงดังใส่ท่านเปิง:“ท่านเปิง มีอีกเรื่องหนึ่งต้องให้นายช่วยอีกแล้ว”
ท่านเปิงจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจ
“อะไรท่านเปิง คือท่านเปิง?ลูกศิษย์ฉันยังอยู่นี่นะ!”
ท่านอาจารย์กลับไม่เห็นด้วย
“นายกับฉันคบกันมากี่ปีแล้ว? เรียกนายคำหนึ่งว่าท่านเปิง นายยังไม่เต็มใจ?อย่าพูดเรื่องไร้สาระ ฉันมีเรื่องให้นายช่วยหน่อย”
ตอนนั้นนิสัยของเพื่อนเก่าที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ ท่านเปิงก็หมดหนทาง
“เรื่องอะไร?นายพูด นอกจากซ่อมแซมเครื่องเคลือบดินเผา อย่าอื่นนฉันไม่ทำแล้ว”
“ก็หานายให้ช่วยซ่อมแซมเครื่องเคลือบดินเผาไง! เรื่องนี้มีแค่นายที่ทำได้!“
พูดแล้ว เขาก็รีบร้อนเข้ามาใกล้ แล้วพูดอย่างตื่นเต้น:“พิพิธภัณฑ์ซานซิงดวนนายรู้มั้ย?”
“ไร้สาระ ในแวดวงของวัตถุโบราณใครจะไม่รู้?”
“แล้วนายรู้ ว่าพิพิธภัณฑ์ซานซิงดวนขุดเจาะพื้นที่ใหม่แล้วเมื่อเร็วๆนี้?นักวิจัยขุดลงไปตรงพื้นฐานเดิม10เมตร เจอห้องเก็บศพใหม่!”
อารมณ์ของท่านอาจารย์เต็มไปด้วยความตื่นเต้น
“เจอต้นทองสัมฤทธิ์ต้นหนึ่งอยู่ด้านใน เพียงแต่เสียดาย ในขณะที่กำลังขุดเจาะ นักวิจัยไม่ระวังเลยทำให้ดินชั้นบนถล่มลงมา ต้นทองสัมฤทธิ์ถูกทับจนเสียหาย”
“ทองสัมฤทธิ์?นั่นไม่ใช่งานถนัดของนายเหรอ?มาหาฉันทำไม?” ท่านเปิงกำลังนั่งจิบชาที่พื้น ไม่เห็นด้วย
แต่ท่านอาจารย์ตรงหน้ากลับใจร้อนจนหัวขาว:“เกี่ยวข้องกับนายแน่นอน ผลิตภัณฑ์ที่คล้องไว้บนทองสัมฤทธิ์ต้นนั้น เป็นเครื่องเคลือบดินเผาทั้งหมด ก็โดนทับจนแตกตาม ก็รอให้นายไปซ่อมเนี่ย!”
พูดแล้ว เขายิ่งรีบร้อนเพิ่มขึ้น แล้วดึงท่านเปิงไว้ จะพาท่านไป
“ไม่ได้ ไม่ได้ นายต้องรีบมาเร็วๆ ฉันก็เตรียมตัวเกษียณแล้ว รอเสร็จสิ้นการซ่อมแซมครั้งสุดท้ายนี้ ฉันก็เกษียณ”
“นี่เป็นเส้นทางวิเศษที่พบยากมากๆ เพิ่งขุดเจาะออกมาก็ถูกตัดสินให้เป็นวัตถุโบราณชั้นหนึ่งของประเทศ ถ้านายสามารถซ่อมได้ ชื่อเสียงหลังจากนี้ต้องอยู่สูงมากกว่าตอนนี้แน่นอน!“
ได้ยินคำนี้ ท่านเปิงใจเต้นเล็กน้อย
“นายเอารูปให้ฉันดูหน่อย”
ท่านอาจารย์รีบร้อนยื่นรูปภาพที่เตรียมมาให้ไป
ท่านเปิงรับมา แล้วมองอย่างละเอียด กลางคิ้วกลับขมวดแน่นเข้าไปอีก
“อันนี้……”
ท่าทางของเขามีความลำบากใจเล็กน้อย ท่านอาจารย์พูดอย่างระวัง:“เป็นอะไร?มีอะไรที่ไม่ถูกรึเปล่า?”
ท่านเปิงมองต้นทองสัมฤทธิ์ที่อยู่ในภาพ
“นี่ก็ไม่นับว่าเป็นเครื่องเคลือบดินเผานี่ น่าจะเป็นทางด้านโลหะนะ?”
ฟังแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินขึ้นไปดูด้วยความแปลกใจ เห็นว่าไม่ใช่
ต้นทองสัมฤทธิ์โบราณที่อยู่ในภาพนั้นเหมือนต้นฉบับที่เต็มไปด้วยความสวยงาม ใบไม้ทุกใบก็ทำมาจากเครื่องเคลือบดินเผา เครื่องเคลือบดินเผากับโลหะทองสัมฤทธิ์เชื่อมต่อขึ้นมา แขวนไว้บนต้นไม้
แล้วใบไม้พวกนั้นที่ทำจากแผ่นเคลือบดินเผาเล็กมาก ยังใหญ่ไม่เท่าฝ่ามือเลย
แผ่นเคลือบดินเผาแบบนี้ เมื่อมองไป อย่างน้อยก็มีห้าร้อยใบ!
มีบางส่วนที่หล่นลงมาจากเครื่องทองสัมฤทธิ์ บางส่วนกลับกลายเป็นเศษชิ้นส่วนแล้ว รวมอยู่ด้วยกันพร้อมกับเครื่องทองสัมฤทธิ์
เป็นขอบเขตของเครื่องเคลือบดินเผา และเป็นขอบเขตของเครื่องทองสัมฤทธิ์
เมื่อเห็นอาการลังเลของท่านเปิง ท่านอาจารย์พูดแบบไม่พอใจว่า:“นายอย่าบอกว่าทำไม่ได้ ในโลกนี้นอกจากนายยังมีใครสามารถทำให้เสร็จได้อีก?”
แต่ว่าท่านเปิงก็มีความกังวลของตัวเองเหมือนกัน
“นี่น่าจะเป็นขอบเขตของเครื่องทองสัมฤทธิ์ พวกนี้พื้นฐานแล้วฉันไม่เข้าใจเลย”
ได้ยินคำพูดเขา ท่านอาจารย์ก็ขมวดคิ้วขึ้นมา
“นายไม่เป็น?แต่ตอนนี้จะทำอย่างไร? นี่เป็นวัตถุโบราณชั้นหนึ่งของประเทศ จำเป็นต้องซ่อมแซมออกมา อีกหน่อยยังต้องเอาไปแสดงที่เมืองนอก”
ท่านเปิงก็กังวล
“ถ้าหากสามารถหานักบูรณะที่ชำนาญทั้งเครื่องโลหะและเครื่องเคลือบดินเผามาได้ แน่นอนว่าจะต้องเปลืองแรงน้อยแต่ได้ผลงานมาก……”
คิดแล้ว เขาไม่รู้ว่านึกถึงใครขึ้นมา กระโดดขึ้นมาทันที
“ตรงหน้าก็มีอีกคนไม่ใช่เหรอ?”
ทั้งสองมองตาพร้อมกัน ต่อมา ท่านอาจารย์ก็รู้สึกตัวขึ้นมา แล้วเบิกตาโต
ทั้งสองหันหน้ามาพร้อมกัน มองมายังเวินเที๋ยนเที๋ยน
ที่จริงเวินเที๋ยนเที๋ยนยังมองรูปภาพในมืออยู่ แต่รู้สึกได้ถึงบรรยากาศที่แปลกประหลาดอย่างกะทันหัน เมื่อหันหน้ามา ทันใดนั้นก็ถูกสายตาของพวกเขาทำให้ตกใจจนต้องถอยไปก้าวหนึ่ง
“เป็นอะไร?”
“มีความรู้เกี่ยวกับเครื่องเคลือบดินเผาแล้ว ก็มีความเข้าใจในเครื่องทองสำริด สาวน้อย คนคนนี้ก็คือคุณไม่ใช่เหรอ?ภารกิจอันนี้มันเหมือนมีมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ!เธอไม่ไป ใครจะไป?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว เบิกตาโต ชี้ที่ตัวเอง
“ฉัน?”
นั่นมันเป็นวัตถุโบราณชั้นหนึ่งของประเทศ!
เวินเที๋ยนเที๋ยนเพิ่งเข้าสังคม นักบูรณะวัตถุโบราณส่วนมากก็ต้องใช้เวลาห้าปีขึ้นไป ถึงจะสำเร็จการฝึกงาน เธอยังคงไม่พอ
มองออกว่าหล่อนเป็นกังวล ท่านเปิงโบกมือแล้วพูดว่า:“วัตถุโบราณชั้นหนึ่งของประเทศกับวัตถุโบราณธรรมดามันก็เหมือนกัน เพียงแต่ว่าตอนซ่อมแซมต้องระวังหน่อยก็แค่นั้น”
เขาพูดเสียงต่ำ แล้วบ่นเสียงเบา
“ถ้าหากว่าทำผิดเพราะไม่ระวัง ก็มีโอกาสที่จะได้ไปกินข้าวในคุก……”
พูดไปคำหนึ่ง เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนตึงเครียดขึ้นมาอีก ยิ้มแล้วพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว:“แน่นอน ว่าคุณไม่มีทางที่จะเกิดเรื่องแบบนี้ วางใจเถอะ”
“ใช่หรือไม่?” เขาหันหน้าแล้วมองไปทางท่านอาจารย์ แล้วส่งสายตาให้
ท่านอาจารย์ก็พยักหน้า
“แน่นอนสิ!พวกเราเป็นประชาธิปไตยที่สุดและเป็นที่ที่มีมนุษยธรรมที่สุด ไม่มีทางเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแน่นอน”
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับยังคงมีความลังเลเล็กน้อย
ท่านเปิงพูดขอร้องต่อ:“คุณวางใจเถอะ ก่อนหน้านี้หลีเจียเวยเรียกร้องให้คุณซ่อมแซมวัตถุโบราณชิ้นหนึ่งภายในสองวันไม่ใช่เหรอ ให้ดีเกินแจกันทรงกลมชิ้นนั้นเหรอ?ตรงหน้านี้ก็คือโอกาสดีอย่างหนึ่ง!”
“แต่ว่าซ่อมแซมพวกนี้ให้เสร็จสิ้นภายในสามวัน ยากมาก”
“ไม่ยากสักนิด!”
กลัวว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ตกลง ท่านอาจารย์พูดขึ้นอย่างรวดเร็ว:“ความจริงส่วนหลักของต้นทองสัมฤทธิ์และส่วนใหญ่ในการซ่อมแซมทองสัมฤทธิ์ พวกเราได้ทำเสร็จแล้ว ที่เหลือก็คือการซ่อมแซมเครื่องเคลือบดินเผา ถ้าหากว่ารีบเร่งงาน ก็สามารถเสร็จสิ้นแน่นอน”
เพิ่งพูดจบ เขาก็รู้สึกว่าตัวเองโอ้อวดมากไป แล้วลูบจมูก
ช่างเถอะ ขอร้องให้เวินเที๋ยนเที๋ยนมาได้แล้วค่อยว่ากัน
เวินเที๋ยนเที๋ยนฟังแล้ว ครุ่นคิดอยู่นาน จึงได้พยักหน้าในที่สุด
เขาก็อยากจะดูว่า วัตถุโบราณชั้นหนึ่งของประเทศหน้าตาเป็นแบบไหน
“ฉันเต็มใจที่จะลอง”