เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 1069 ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ
กับเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ อาจารย์และบุคลากรที่เกี่ยวข้องขององค์กรระหว่างประเทศจำนวนมาก ต่างก็ได้ดูการถ่ายทอดสด และมีอารมณ์โกรธกับพฤติกรรมของพวกเขา
หลังจากที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงทุกอย่างแล้ว ต่างก็วิเคราะห์พิจารณาบทลงโทษอย่างเร่งด่วน
อาจารย์ฉู่มองดูจางลัยยี่ที่อยู่ตรงหน้า พูดอย่างเย็นชาว่า:“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ไม่ว่าจะเป็นแวดวงบูรพาวัตถุโบราณในประเทศ หรือต่างประเทศ จะลบชื่อของพวกคุณออก! และเพิกถอนใบรับรองการบูรพาวัตถุโบราณของพวกคุณ ห้ามไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับสายงานนี้อีกต่อไป ”
เมื่อจางลัยยี่ได้ยินคำพูดนี้ ก็ซวนเซ ถอยหลังไปหลายก้าว แล้วทรุดลงกับพื้น ใบหน้าซีดเผือด
พังหมดแล้ว !
เขาทำมันพังหมดแล้ว
เดิมที่คิดว่าใช้โอกาสในการแข่งขันครั้งนี้ เขาจะสามารถนั่งตำแหน่งภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติได้ ไม่คิดว่าจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้
สูญเสียหมดทุกสิ่งทุกอย่างที่มี ชีวิตเขาจบสิ้นแล้ว
นิวมั้นที่อยู่ข้างๆเห็นผลลัพธ์ของจางลัยยี่ ในใจก็ยิ่งหวาดกลัว
เขารีบเข้าไปหาปรมาจารย์จอห์น แล้วคว้าตัวเขาเอาไว้
“ปรมาจารย์จอห์น ทุกอย่างผมทำเพื่อทีมชาติของเรา และก็ทำเพื่อคุณด้วย คุณยืนอยู่ข้างผมใช่ไหม ?”
หากเขามีโอกาสกลับเข้าไปในประเทศ เขาก็สามารถฟื้นตัวลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งแน่นอน……
ในขณะที่เขากำลังคิดนั้น ปรมาจารย์จอห์นที่เคร่งขรึมก็ขมวดคิ้ว หันไปมองเขาแวบหนึ่ง
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่คุณทำมันขึ้นเอง ก็ต้องถูกลงโทษ! แม้สถานทูตและเจ้าหน้าที่จะแจ้งแล้วว่าจะไม่เข้าร่วมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ และฉันเองก็จะไม่เข้ามายุ่งด้วยเช่นกัน รอให้เรื่องทางนี้จบ คุณกลับไปประเทศ คงจะมีการพิจารณาตัดสินโทษรอคุณอยู่ ”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าซีดเผือดของนิวมั้นก็แย่หนักลงไปอีก
ในตอนนี้เองจี้จิ่งเชินก็ปริปากพูด :“นี่เป็นบทลงโทษของแวดวงบูรพาวัตถุโบราณ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันจะยอมรับมันหรอกนะ ”
เมื่อจางลัยยี่กับนิวมั้นได้ยินประโยคนี้ ก็หันไปมองเขาด้วยความหวาดกลัว
สิ่งที่ทำให้พวกเขารู้สึกกลัวจริงๆ คือจี้จิ่งเชินคนที่อยู่ตรงนี้ต่างหาก
แม้ว่าองค์กรบูรพาวัตถุโบราณ เต็มที่ก็คือขับไล่พวกเขาออกจากสายงานนี้ แต่จี้จิ่งเชินไม่คิดแบบนั้น
เขาสามารถติดต่อกับทางสถานทูตได้โดยตรง ใช้อำนาจตัวเองบังคับให้พวกเขาปล่อยผ่านเรื่องของนิวมั้นได้ ชายผู้ที่มีอำนาจคนนี้ น่ากลัวกว่าที่พวกเขาคิดเอาไว้ !
ใบหน้าของจี้จิ่งเชินไม่ได้แสดงอาการอะไร ดวงตามองไม่ออกถึงความทุกข์หรือสุข แต่บรรยากาศรอบตัวช่างน่าสะพรึงกลัว
รังสีความน่ากลัวแผ่ขยายจากก้นบึ้งของหัวใจ
จี้จิ่งเชินเดินไปข้างหน้าสองก้าว ยืนอยู่ตรงหน้าของคนทั้งสอง กดเสียงต่ำ
“กลัวอะไร ? ตอนนี้มีคนอยู่กันเยอะขนาดนี้ กลัวว่าฉันจะฆ่าพวกคุณเหรอ ?”
“แม้ว่า ตอนนี้ฉันจะอยากทำแบบนี้มากก็ตาม”
คนทั้งสองร่างสั่นสะท้านด้วยความตกใจไปตามๆกัน
จี้จิ่งเชินเหลือบมองพวกเขาแวบหนึ่ง และสั่งว่า:“ฉันจะใช้วิธีง่ายๆที่ทุกคนต่างก็ยอมรับได้ ให้พวกคุณต้องเสียใจทีหลัง พาพวกเขาไปได้แล้ว”
ทันทีที่พูดจบ ก็มีคนเดินเข้ามาจากทางด้านข้างทันที
นิวมั้นหันกลับไปมอง ก็พบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามนาย
พวกเขาเข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่ ? ทำไมถึงไม่รู้เรื่องเลย
จี้จิ่งเชินหันมามอง สายตาเย็นชาจ้องมองไปที่พวกเขา พูดอย่างเย็นชาว่า :“สมรู้ร่วมคิด วางแผนกันแก้กติกาการแข่งขัน ให้ร้ายและหมิ่นประมาทผู้อื่น เรื่องต่อจากนี้ พวกคุณก็ไปคุยกันต่อในคุกเองก็แล้วกัน ”
คุก ?
ทั้งสองคนหน้าซีดทันที พวกเขาก็เพียงแค่ยัดเงินให้กับพนักงานในเกมการแข่งขันแค่ไม่กี่คน และเล่นตุกติกอีกนิดหน่อย ไม่ถึงขั้นต้องจับเข้าคุกเลยด้วยซ้ำ!
แต่ตำรวจก็เดินเข้ามา แล้วใส่กุญแจมือเขาทั้งสองคนทันที
“วางใจเถอะ เราจะตรวจสอบอย่างละเอียด”
พูดจบ ก็พาคนทั้งสองเดินออกไป
ระหว่างที่เดินไปก็พูดเสียงเบาไปด้วยว่า:“อีกอย่างคุณจี้เองก็สั่งกำชับเอาไว้เป็นพิเศษ บอกว่าให้พวกคุณอยู่ในนั้นสักปีสองปี ยอมรับการเปลี่ยนแปลงก็พอ ”
เมื่อทั้งสองคนได้ยินคำพูดนี้ ขาก็อ่อนแรง จนแทบยืนไม่ไหว
ตำรวจทั้งสองนำตัวเขาไปแล้วโยนขึ้นรถ ออกเดินทางไปยังสถานี
“ควรเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว !”
นักข่าวต่างมองดูคนทั้งสองถูกพาตัวไป ต่างกำหมัดแน่นอย่างตื่นเต้น
“คนที่เป็นอันตรายต่อส่วนรวมแบบนี้ ก็สมควรที่จะได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด ถึงจะเข้าใจความยากลำบากของคนอื่น ไม่อย่างนั้นก็ชอบใช้วิธีสกปรกเพื่อให้ได้ชัยชนะมา ”
พอมาคิดได้ว่าพวกเขาเกือบจะตกหลุมพราง และทำให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ในอันตราย ทุกคนต่างก็รู้สึกผิดเป็นอย่างมาก
หันมองไปยังเวินเที๋ยนเที๋ยน แล้วก้มโค้ง กล่าวขอโทษ :“ขอโทษด้วย มันเป็นความผิดของพวกเรา ที่เกือบเข้าใจคุณผิด”
“ไม่เป็นไร พวกนี้ล้วนเป็นชั้นเชิงของพวกเขา ก่อนหน้านั้นฉันเองก็พอรู้มาบ้าง ควรแจ้งเตือนทุกคนถึงจะถูก”เวินเที๋ยนเที๋ยนกล่าว
นักข่าวต่างก็พากันพยักหน้า
“ฉันก็ว่า ก่อนหน้านั้นเคยดูถ่ายทอดสดการแข่งขันของคุณ เราก็มองเห็นถึงความสามารถ คิดอยู่ว่าคุณจะโกงการแข่งขันได้ยังไง ? ”
นักข่าวต่างก็พูดคุยกันขึ้นมา
“ทุกคนเงียบเสียงก่อน”
ในตอนนี้อาจารย์ฉู่ยกมือขึ้น “วันนี้ที่ฉันมาที่นี่ยังมีอีกเรื่องที่จะประกาศแจ้งให้ทราบ ”
ทุกคนต่างหันกลับไปมองด้วยความประหลาดใจ
อาจารย์ฉู่พูดต่อไปว่า:“วันนี้ที่ฉันมามีภารกิจอยู่สองเรื่อง นอกจากจะแจ้งเรื่องผลการตัดสินความผิดของนิวมั้นกับจางลัยยี่แล้ว ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง เป็นรางวัลที่จะมอบให้กับเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วย ”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
อาจารย์ฉู่ยกยิ้ม น้ำเสียงจริงจังขึ้นมาทันที
“การแข่งขันครั้งก่อนหน้านั้นคุณแสดงผลงานออกมาได้ยอดเยี่ยมมาก เกินความคาดหมายของทุกคน แม้ว่าก่อนหน้านั้นจะมอบใบประกาศเกียรติคุณและใบรับรองให้ไปแล้ว แต่ทุกคนต่างก็รู้สึกว่ายังติดหนี้รางวัลที่แท้จริงกับคุณอยู่ ”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย
“สามารถเข้าร่วมการแข่งขันนี้ได้ และได้ร่วมแข่งขันกับทุกคน ก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สุดแล้ว”
อาจารย์ฉู่กล่าวว่า :“รางวัลนี้เป็นรางวัลพิเศษสำหรับคุณ แต่จะถือว่าเป็นรางวัลก็ไม่ได้เลยซะทีเดียว เป็นเพียงแค่สิ่งที่บางคนร้องขอแต่กลับไม่ได้ และสำหรับบางคน กลับเป็นภาระมากกว่า”
เมื่อเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟังคำอธิบายของเขา ก็รู้สึกงุนงงมากขึ้นไปอีก
“มันคืออะไรกันแน่?”
อาจารย์ฉู่ยิ้มแล้วกล่าวว่า:“ เมื่อสี่เดือนก่อน ภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติปลดเกษียณ และตำแหน่งภัณฑารักษ์ก็ว่างอยู่ ด้วยเหตุนี้ จางลัยยี่ถึงได้ราวกับผีมาดลใจ ถูกนิวมั้นกับคนอื่นชักจูง จนทำเรื่องแบบนี้ขึ้น นอกจากตำแหน่งภัณฑารักษ์แล้ว ทุกคนต่างก็มีความคิดเห็นเป็นของตัวเอง เพราะฉะนั้นจึงยังไม่สามารถเลือกผู้ที่เหมาะสมมารับตำแหน่งนี้”
“แต่ว่า หลังจากที่ทุกคนได้เห็นการแข่งขันของคุณ ต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า คุณเป็นคนที่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้ที่สุด ”
ทันทีที่พูดมาถึงตรงนี้ นักข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างก็โห่ร้องออกมา แล้วมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างคาดหวัง
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกใจตาเบิกกว้าง
รอยยิ้มบนใบหน้าของอาจารย์ฉู่ก็ชัดเจนยิ่งขึ้น
“ใช่ มันต้องแบบนี้ เราคิดว่า ให้คุณมารับตำแหน่งภัณฑารักษ์ของพิพิธภัณฑสถานแห่งชาตินั่น เหมาะสมที่สุด”
“ฉัน?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกประหม่า แล้วบิดหมุนไปที่มุมกระโปรง
“ฉันมีความสามารถพอที่จะรับตำแหน่งนี้เหรอคะ ?”