เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 556 งานแถลงข่าว
บทที่ 556 งานแถลงข่าว
หมินอันเกอขมวดคิ้วขึ้น สีหน้าน่าเกลียดมาก
เขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะถูกอัดเสียงไว้
เงียบไปสักพัก ถึงเอ่ยปากพูดอย่างลำบากใจ: “นี่น่าจะถูกอัดไว้ตอนที่ผมไปหาหลวนจื่อเมื่อวาน”
“นายทำไมไม่ระวังตัวเลย!”
พี่เจี้ยนโมโหจนทุบโต๊ะดังปั้ง
“ตอนนี้คลิปเสียงนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วในเน็ตแล้ว จะเคลียร์ยังไง? บางทีวันนี้ งานพรีเซ็นเตอร์ที่นายเพิ่งรับมาอาจจะโทรมาขอให้ชดใช้ค่าเสียหายกับเราด้วย”
สีหน้าของหมินอันเกอก็ไม่น่าดูเหมือนกัน
“พวกเขาอยากจะฉีกสัญญาทิ้ง ก็ฉีกไปเลย”
“พูดได้น่าฟัง!” พี่เจี้ยนโมโหจนลืมตาโตๆ “นายเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าตั้งหลายแบรนด์ เมื่อก่อนเซ็นสัญญาไปตั้งเท่าไหร่แล้ว ถ้าทุกๆคนต่างก็มาขอเงินชดเชยค่าเสียหายเหมือนกัน เงินที่นายเก็บมาทั้งชีวิตก็ไม่พอชดใช้! แล้วยังมีละครและงานพรีเซ็นเตอร์อื่นๆอีกล่ะ สูญสิ้นทั้งหมด”
หมินอันเกอขมวดคิ้วอย่างไม่สบอารมณ์
“พวกเขาอยากจะทำอะไรก็ปล่อยให้เค้าทำไป”
พูดจบ เขาก็หันหลังไปทันที เสียงประตูดังปั้ง!
พี่เจี้ยนโมโหจนลืมตาโตๆ ยกมือขึ้นมาเคาะประตู
“อันเกอ หมินอันเกอ นายเปิดประตู!”
“ในเว็บนายจะตอบโต้ยังไง? ถ้ายอมรับไปแบบนี้จริงๆล่ะก็ อนาคตของนายต้องจบลงแน่ๆ!”
แต่ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรยังไง หมินอันเกอก็ไม่ยอมโต้ตอบอะไรเลย
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาอีกครั้ง พี่เจี้ยนเอาออกมาแล้วก็ดู เห็นเป็นบริษัทที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ให้โทรมา หัวใจของเขาเศร้าลงทันที
แต่ก็รีบตั้งสติกลับมาอย่างรวดเร็วและรับโทรศัพท์ จากนั้นหันหลังเดินออกไป
ในห้องนอน หมินอันเกอนอนอยู่บนเตียง ลืมตาโตๆแล้วจ้องมองดูเพดาน ปวดหัวจนจะระเบิด
แต่ไม่ว่าจะเจ็บขนาดไหน ในสมองของเขาก็มีแต่หน้าของหลวนจื่อตลอดเวลา
ในตาของเธอเต็มไปด้วยน้ำตา กำลังมองเขาอย่างสิ้นหวังและเสียใจ
–ตอนนี้คุณเข้าใจหรือยัง? หมินอันเกอ ฉันไม่ใช่แค่เด็กคนหนึ่งแล้ว
หมินอันเกอยกมือขึ้นมาแตะที่ริมฝีปาก
บนนั้นเหมือนยังมีความรู้สึกตอนที่หลวนจื่อเข้ามาจูบปากของเขา
บางครั้งเขาอาจจะคิดผิดมาโดยตลอด
หลวนจื่อไม่ใช่เด็กๆแล้ว
แต่ว่า……
ทำไมสุดท้ายถึงได้กลายเป็นแบบนี้?
ทำไมต้องมาบอกเขาด้วยการตอบแทนที่หนักหน่วงขนาดนี้?
หมินอันเกอเอาหลังมือมาปิดบนหน้า ในใจเหมือนถูกหินก้อนใหญ่ทับอยู่กลางใจ ทำให้เขาหายใจไม่ออก
พวกงานทั้งหลาย พรีเซ็นเตอร์ต่างๆ ในขณะนี้ไม่สามารถดึงดูดความสนใจของเขาได้เลยสักนิดเดียว
ในเวลานี้ ข่าวที่ไม่ดีเกี่ยวกับหมินอันเกอกำลังเผยแพร่ไปทั่วทุกที่แล้ว!
แค่คลิปเสียงนั้นก็สามารถทำให้คนสะเทือน แค่คนที่เคยรู้จักหมินอันเกอมาก่อน ได้ยินเสียงก็สามารถฟังออกว่าเจ้าของเสียงคือใคร
ตั้งแต่ตอนแรกที่คลิปเสียงถูกเผยแพร่ แฟนคลับทั้งหมดไม่อยากจะเชื่อ คิดอยากจะหาส่วนที่ทำคลิปเสียงปลอมนี้ขึ้น
แต่ว่าพวกเขาหาจนหมดแล้ว แต่กลับไม่มีความบกพร่องตรงไหนเลย
คลิปเสียงนี้อัดมาจากเสียงของหมินอันเกอจริงๆ อีกทั้งฟังแล้วเป็นของจริงแท้แน่นอน ไม่มีรอยตัดต่อใดๆเลย
หลังจากที่ได้รับความจริงนี้แล้ว แฟนคลับเสียใจและผิดหวังกันไม่น้อย กระทั่งจากแฟนคลับกลายเป็นเกลียด
ตลอดเวลาที่ผ่านมาหมินอันเกออยู่ในวงการด้วยสถานะชื่อเสียงที่เป็นชายหนุ่มในฝัน เรียบร้อย อ่อนโยน เป็นผู้ชายที่สมบูรณ์แบบ
แต่ว่าตอนนี้กลับมีข่าวด้านลบเช่นนี้
แต่เรื่องคลิปเสียงยังไม่ทันจบ ช่วงบ่ายในวันเดียวกัน ก็มีคนเผยแพร่รูปภาพออกมาอีก
เมื่อคืนหมินอันเกอเมาเหล้าในบาร์ แล้วลงมือชกต่อยคน มีเรื่องกันในร้าน
แค่ครู่เดียว รูปพวกนี้ก็ถูกเผยแพร่ไปทั่วแล้ว เต็มบ้านเต็มเมือง เต็มตาของทุกคน
โทรศัพท์ของบริษัทหมินอันเกอถูกโทรเข้าจนระเบิด แม้แต่พี่เจี้ยนก็ยุ่งจนไม่มีเวลาหายใจ
มีแต่คนโทรมาสอบถามเรื่องราวและบริษัทที่อยากจะยกเลิกสัญญา
แค่ในวันนั้น ก็มีสามบริษัทที่เป็นพรีเซ็นเตอร์อยู่ถูกเปลี่ยนออกหมด
คอมพิวเตอร์ ทีวี หนังสือพิมพ์ นิตยสาร มีแต่รายงานข่าวเกี่ยวกับเรื่องของหมินอันเกอทั้งหมด
หลวนจื่อปิดทีวี เดินไปที่ข้างหน้าต่าง
เพิ่งจะเปิดผ้าม่านออก ด้านนอกก็มีเสียงวุ่นวายดังขึ้น
ไฟแฟลชของกล้องส่องแสงสว่างตลอดเวลา ยังมีนักข่าวเอ่ยคำถามด้วย
หลวนจื่อรีบๆยื่นมือกลับมา เช้าวันนี้ ตอนที่เห็นนักข่าวเต็มไปหมด เธอก็รู้เลยว่าต้องเกิดเรื่องอย่างแน่นอน
แต่นึกไม่ถึง จะแย่ขนาดนี้
เคอเหยียนรุ่ยลงมาจากชั้นบน เห็นหลวนจื่อนั่งอยู่บนโซฟา ก้มหน้าประกบกับหัวเข่าอยู่
“หลวนจื่อ คุณเป็นไรไหม?”
เขาเดินเข้าไปและเอาเสื้อแขนยาวคุมให้เธอบนไหล่
“ไม่ต้องห่วง ฉันแจ้งรปภ.ไว้แล้ว รอให้พวกเขาไล่คนออกไปก่อน เราก็ย้ายบ้านกันเลย อยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้แล้ว”
หลวนจื่อเงยหน้าขึ้นมามองหน้าของเคอเหยียนรุ่ย
ในสมอง นึกถึงภาพที่ข่าวเผยแพร่ออกมาในทีวีตลอดเวลา
เรื่องครั้งนี้ ถ้าไม่ทำการชี้แจงใดๆเลย หมินอันเกอต้องแย่แน่ๆ
ในฐานะที่เป็นบุคคลสาธารณะ น้ำสามารถทำให้เรือลอยได้ก็สามารถทำให้เรือล่มได้ ขาดแฟนคลับไป การเป็นดาราของหมินอันเกอต้องหมดอนาคตอย่างแน่นอน
หมินอันเกอเกิดมาเพื่ออยู่ใต้แสงไฟ เขาเกิดมาเพื่อเป็นดารา
ไม่มีใครแทนที่เขาได้
ถึงแม้ว่าจะเดินมาถึงจุดนี้ เธอก็ไม่อยากเห็นหมินอันเกอเป็นทุกข์แบบนี้ต่อไปอีก
เธอมองเคอเหยียนรุ่ย ลังเลอยู่พักหนึ่ง จึงคิดตัดสินใจ
“พี่เคอ คุณช่วยฉันเรื่องหนึ่งได้ไหม?”
“เรื่องอะไร? คุณบอกมาเลย ถ้าผมช่วยคุณได้”
หลวนจื่อเอามือวางบนหน้าท้องที่ยืดออกมา พูดอย่างแน่วแน่: “ช่วยฉันเปิดแถลงข่าว ฉันจะออกไปชี้แจงข่าวเรื่องนี้” เคอเหยียนรุ่ยมองเธอด้วยความไม่เข้าใจ
“ชี้แจง? แต่ว่าความจริงมันก็คือ…..” เห็นแววตาของหลวนจื่อแล้ว เขาขมวดคิ้วถาม: “คุณคิดจะทำอะไร?”
“พ่อของลูกไม่ใช่หมินอันเกอ เป็นเขาไม่ได้”
เคอเหยียนรุ่ยตะลึง
เงียบไปสักพัก ในที่สุดก็พยักหน้า
“ผมเข้าใจแล้ว”
เช้าวันที่สอง หมินอันเกอยังตกอยู่ในอันตรายเหมือนเดิม
ในเวลานี้พอดี หลวนจื่อเปิดตัวอย่างกะทันหัน
ในงานแถลงข่าว ได้เชิญนักข่าวทั่วเมืองมาให้หมด
ห้องประชุมขนาดใหญ่มีนักข่าวนั่งเต็มไปหมด มีเสียงซุบซิบดังไปทั่ว
คนพวกนี้ต่างพากันมาเพราะเรื่องของหมินอันเกอและหลวนจื่อโดยเฉพาะ นักข่าวบางส่วนถึงกับได้ตั้งกล้องไว้เรียบร้อยแล้ว เพื่อที่จะเผยแพร่ข่าวในงานแถลงข่าวได้อย่างรวดเร็ว
ในสายตาของทุกๆคน ต่างคิดว่าเรื่องของหลวนจื่อและหมินอันเกอ เป็นเรื่องจริงทั้งหมดแล้ว
ถึงแม้ไม่รู้ว่าทำไมหลวนจื่อต้องออกมาอย่างกะทันหัน อีกทั้งยังเปิดการแถลงข่าวใหญ่ขนาดนี้
แต่สำหรับนักข่าวแล้ว ไม่ว่าเธอจะพูดอะไร ต้องได้รับความสนใจจากนักข่าวทุกคนในวันนี้
รอประมาณครึ่งชั่วโมง ในที่สุดหลวนจื่อก็เดินออกมาจากด้านหลังเวที
พอเธอเดินออกมาปุ๊บ ทุกคนในห้องประชุมต่างเงียบกันหมด
จากนั้น กล้องเล็กกล้องใหญ่ของนักข่าวก็ตั้งขึ้นมาส่องเธอเต็มไปหมด
แสงไฟแอลอีดี เสียงชัตเตอร์ ดังทั่วทั้งห้องประชุม
ถ้าไม่มีบอดี้การ์ดคอยขวางไว้ นักข่าวพวกนั้นต้องพุ่งขึ้นไปแล้วแน่ๆ
หลวนจื่อแต่งตัวธรรมดา กางเกงยีนส์และเสื้อไหมพรมยาว แต่งหน้าอ่อนๆ ทุกคนต่างมองเห็นท้องที่ยืดออกมาของเธอได้ชัด
ข่าวลือเรื่องท้องยิ่งมั่นใจว่าเป็นจริงแน่นอน
ในขณะนั้น ทุกคนต่างเดาอยู่ในใจ
หรือว่าหลวนจื่อออกมาครั้งนี้ เพื่อที่จะฟ้องร้องหมิ่นอันเกอหรือเปล่า?
หรือเพื่อที่จะบังคับให้แต่งงานด้วย?