เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 569 แต่งงานกับผมนะ
บทที่ 569 แต่งงานกับผมนะ
จี้จิ่งเชินมองเธอ
“ ตื่นแล้วหรอ? ”
“ ฉันนอนไปนานแค่ไหน? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนขยับตัวนิดหน่อย เธอมองไปบนท้องฟ้า คล้ายกับว่ายังคงเป็นตอนกลางคืน
“ ไม่ถึงสามชั่วโมง ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขยี้ตาเล็กน้อย “ ที่นี่ที่ไหน? ”
หันไปมองรอบๆ ถึงแม้ว่าจะยังเป็นตอนกลางคืน แต่บริเวณรอบๆล้วนถูกไฟสว่างไสวตกแต่งประดับประดา ทำให้สามารถมองเห็นสภาพแวดล้อมบริเวณรอบๆได้อย่างชัดเจน
ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่บนถนนที่มีร่มไม้ปกคลุม บริเวณรอบๆเป็นป่าไม้เขียวชอุ่ม
และตรงสุดทางของถนนเส้นนี้ คล้ายกับว่ามีคฤหาสน์สีขาวที่สวยงามอยู่หนึ่งหลัง
“ ที่นี่คือที่ไหน? ” เวินเที๋ยนเที๋ยนถามขึ้นอย่างอดไม่ได้
“ เกาะขนาดเล็กที่ผมมอบให้คุณ ” จี้จิ่งเชินพูดขึ้น
“ อะไรนะ? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนคิดว่าตัวเองฟังผิด เธอหันไปมองเขาอย่างตะลึง
จี้จิ่งเชินจึงพูดอธิบาย: “ นี่เป็นเกาะขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนมหาสมุทรแปซิฟิก และเป็นของขวัญที่ผมมอบให้คุณ เดิมที ซื้อตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว แต่ตอนนั้นยังเป็นเกาะล้างอยู่ ผมจึงใช้เวลาหนึ่งปีเพื่อให้คนมาสร้างบ้านกับติดตั้งพวกอุปกรณ์ต่างๆ ”
เขาเดินไปด้านใน และพูดไปด้วย: “ เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่ในเขตทะเลหลวง ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยใหญ่มาก แต่ทั้งเกาะล้วนเป็นของคุณ แถมยังไม่ถูกควบคุมโดยประเทศใดๆอีกด้วย และนี่คือแดนสุขาวดีของคุณทั้งหมด ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกระพริบตาปริบๆ เธอไม่คิดว่าจี้จิ่งเชินจะให้หมู่เกาะเป็นของขวัญกับเธอ
เธอมองไปรอบๆอย่างดีใจ เมื่อก่อนตอนอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เธอไม่เคยมีโอกาสได้ไปเที่ยวต่างประเทศ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมีหมู่เกาะเป็นของตัวเองเลย
นี่เป็นสิ่งที่แม้แต่ฝันก็ยังคิดไม่ถึง
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนมีท่าทางดีใจ จี้จิ่งเชินก็ยิ้มออกมาบางๆ
เพียงแค่เวินเที๋ยนเที๋ยนชอบ ทั้งหมดนี้ก็คุ้มค่าแล้วล่ะ เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกาะเกาะนี้มีราคาสูง และค่าบำรุงรักษาที่ชวนให้คนตกใจขนาดไหน
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆ เธอมีความรู้สึกสงสัยนิดหน่อย
“ งั้นก็หมายความว่าบนเกาะนี้มีแค่เราสองคนใช่ไหม? ”
“ ใช่ ผมเพิ่งทำงานของบริษัทเสร็จก่อนล่วงหน้า สองวันหลังจากนี้เราก็สามารถอยู่ที่นี่ได้เลย ”
มิน่าช่วงนี้จี้จิ่งเชินมักจะยุ่งอยู่เสมอ ที่แท้ก็เพราะอยากทำงานให้เสร็จก่อนล่วงหน้า เพื่อจะได้มาอยู่กับเธอนี่เอง
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองไปรอบๆอย่างสงสัย หลังจากนั้นเธอก็ถูกจี้จิ่งเชินอุ้ม และพาเดินเข้าไปในคฤหาสน์
เพิ่งเปิดประตู เธอก็อดไม่ได้ที่จะส่งเสียงร้องขึ้นอย่างตกใจ
เธอเห็นว่าบนพื้นตั้งแต่หน้าประตูเข้าไปมีลูกโป่งสีชมพูวางอยู่เต็มไปหมด ไม่ใช่แค่บนพื้น แม้แต่บนโต๊ะ บนโซฟาก็เช่นกัน บนเพดานห้องก็ยังมีลูกโป่งลอยอยู่จำนวนไม่น้อยอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองอย่างดีใจ แต่จี้จิ่งเชินกลับไม่ได้ฟัง เขาอุ้มเธออยู่อย่างนั้น และพาเธอเดินผ่านห้องรับแขกออกไปทางด้านนอก
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองซ้ายมองขวา มองยังไงก็มองไม่หมด
รอจนเธอตอบสนองกลับมาได้แล้ว ถึงพบว่าจี้จิ่งเชินได้พาเธอเดินผ่านดาดฟ้าของคฤหาสน์ และออกมาด้านนอกแล้ว
ด้านหน้าคือมหาสมุทรสีครามเข้มที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ไม่คิดว่าบนหาดทรายที่กว้างขวางจะมีแสงไฟด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองอย่างละเอียด ก็พบว่าบนหาดทรายที่กว้างขวางมีเทียนไขรูปหัวใจวางอยู่เต็มไปหมด
ไม่รู้ว่าเทียนเหล่านั้นถูกจุดขึ้นตอนไหน บริเวณที่มองไปถึง บนชายหาดล้วนเต็มไปด้วยเทียนรูปหัวใจ
แสงเทียนแวววาวเหมือนแสงดาว จุดเดียวที่ไม่มีเทียนวางอยู่ก็คือตรงที่เป็นรูปทรงรูปหัวใจ
จี้จิ่งเชินอุ้มเธอ และพาเธอเดินผ่านเทียนเหล่านั้น เขาพาเธอเดินไปด้านหน้า จนกระทั่งเดินมาถึงตรงกลางหัวใจดวงนั้น
ตั้งแต่มาถึงบนเกาะนี้ จิตใจของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่สามารถใช้คำว่าตกใจมาบรรยายได้อีกเลย
เธอมองไปรอบๆอย่างตะลึง และไม่รู้ว่าตอนนี้ตัวเองควรมองไปตรงไหนดี ทุกที่มีเซอร์ไพรส์ และความงดงามที่ทำให้คนตกตะลึง
เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงกับลืมไปแล้วว่าตัวเองถูกจี้จิ่งเชินอุ้มมาตลอดทาง
จนกระทั่งสองขาของเธอยืนลงบนหาดทราย เธอถึงจะรู้สึกตัว
เธอหมุนตัวไปรอบๆอยู่กับที่ เพื่อมองเทียนที่กำลังจุดไฟทั้งหมด
ตอนที่หันกลับมามองจี้จิ่งเชินอีกครั้ง กลับเห็นเขากำลังคุกเข่าอยู่ต่อหน้าเธอ ไม่รู้ว่าเขาถือดอกลิลลี่สีขาวไว้ในมือตอนไหน มันหมายความว่ามีความสุขตลอดไป!
เขาคุกเข่าข้างนึงต่อหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยน หลังจากนั้นก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อย และสบตากับเวินเที๋ยนเที๋ยน เหมือนอัศวินที่กำลังแสดงความรักต่อเจ้าหญิงที่ตนรัก
บริเวณรอบๆเงียบลงทันที
วิวทะเลที่งดงาม การประดับเทียนมากมายที่ละลานตา คฤหาสน์ที่สวยงาม ก็เทียบกับเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ตรงหน้าตอนนี้ไม่ได้
สายตาของจี้จิ่งเชินจับจ้องอยู่บนตัวเธอ ไม่ขยับไปไหนสักพัก
เขาแอบสูดหายใจนิดหน่อย ตอนนี้เขารู้สึกตื่นเต้นมาก
เขามองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ตรงหน้า หลังจากนั้นก็พูดขึ้นช้าๆ: “ ผมเคยทำผิดมามากมาย ผมเคยเกลียดคนจำนวนมาก ”
“ ตลอดยี่สิบกว่าปีมานี้ เพื่อบรรลุเป้าหมาย เพื่อแก้แค้น ผมสามารถทำทุกวิถีทาง พูดได้ว่าผมเย็นชา แถมยังไร้ความรู้สึก ผมทำงานโดยไม่เคยคำนึงต่อความรู้สึกของคนอื่น ผมตัวคนเดียว ต่อให้ตาย ผมก็ไม่สนใจ ”
“ ผมคิดว่าคนแบบผมจะต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิต ต้องแก่ ต้องอัปลักษณ์ไปพร้อมกับความแค้นและความชั่วร้าย จนต้องตกเป็นทาสของความแค้น ผมไม่เคยคิดว่าพระเจ้าจะเอาใจผมเช่นนี้ ทำให้ผมได้เจอคุณ ”
เขาหยุดพูดสักครู่ สายตาของเขาอ่อนโยนมากกว่าเดิม
“ ก่อนที่จะพบคุณ ผมไม่เคยเชื่อพระเจ้า แต่เขาทำให้คุณอยู่ข้างกายผมครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้ผมต้องเชื่อ ต้องขอบคุณ ขอบคุณเขาที่ทำให้ผมได้รู้จักกับคุณ และขอบคุณเขาที่ทำให้คุณรักผมด้วยเช่นเดียวกัน ”
“ ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่ที่ผมไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวในแผนสำหรับอนาคตอีกต่อไป แต่มีคุณเพิ่มเข้ามา ผมเปลี่ยนเป็นกลัวความตาย เพราะผมไม่อยากให้เราแยกจากกัน ผมอยากมอบของที่ดีที่สุดในโลกให้กับคุณ แต่ผมก็กลัวว่าตัวเองจะทำได้ไม่ดี ”
ถึงขนาดมีหลายครั้งที่ผมกลับทำร้ายคุณ และผมโชคดีมากที่คุณไม่จากผมไปไหน ขอบคุณคุณที่อยู่ข้างกายผมมาตลอด ”
จี้จิ่งเชินสูดหายใจเข้าลึกๆ น้ำเสียงของเขาตื้นตันใจ และไม่คิดว่าจะผสมไปด้วยเสียงสะอื้น
เขานึกถึงเรื่องเมื่อก่อน นึกถึงวันแรกที่เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้ามาในปราสาท ตั้งแต่ตอนที่ทั้งสองคนแสดงความรักต่อกัน ถึงตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตกทะเลไปอย่างกะทันหัน จนทำให้ต้องทรมาน ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดปรากฏขึ้นมาในหัวของจี้จิ่งเชิน
ช่วงเวลานี้ เขาทำให้หัวใจของตัวเองเข้มแข็งขึ้น
ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าคนนี้ คือคนที่เขาไม่เพียงแค่อยากใช้ชีวิตกับเธอไปตลอดชีวิต ถ้าเป็นไปได้ เขาถึงขั้นอยากใช้ทุกอย่างของตัวเอง เพื่อแลกกับการเดินทางไปกับเธอในชาติหน้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยืนอยู่ตรงหน้าฟังคำพูดของเขาแล้ว ก็รู้สึกซาบซึ้งใจมาก เบ้าตาของเธอค่อยๆชื้นขึ้นช้าๆ
ความอ่อนโยนที่ทำให้คนใจเต้นที่สุด คือความรักที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันของคนไร้ความรู้สึก
จี้จิ่งเชินเป็นคนไร้ความรู้สึกแบบนี้แหละ ในความทรงจำของคนอื่น เขาทั้งเย็นชา ทั้งไร้ความรู้สึก คล้ายกับเขาไม่มีความรู้สึกใดๆที่คนควรจะมี
เวลาผ่านไป อารมณ์ความรู้สึกกับตัณหาของเขาก็ค่อยๆปรากฏออกมาให้เห็นโดยไม่รู้ตัว
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะคนคนเดียว นั่นก็คือเวินเที๋ยนเที๋ยน
ลมทะเลพัดมาเบาๆ และพัดมารวมกับเสียงที่อ่อนโยนและหนักแน่นของจี้จิ่งเชิน
เขาพูดขึ้น: “ ผมเป็นคนที่โลภมาก เป็นคนที่ไม่รู้จักพอ มีคนอยู่เคียงข้างวันเดียว ผมก็อยากให้มีวันที่สอง วันที่สาม……ถึงขั้นอยากมีไปตลอดชีวิต ”
“ สวรรค์รู้ว่าตอนนี้ผมตื่นเต้นขนาดไหน แต่ผมยังอยากบอกว่า เวินเที๋ยนเที๋ยน…… ”
เขาหยุดพูดสักครู่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นตื่นเต้นมากกว่าเดิม หลังจากนั้นเขาก็พูดขึ้นอย่างตั้งใจ: “ แต่งงานกับผมนะ? ถึงแม้ว่าผมจะรู้ว่าตัวเองยังทำได้ไม่ดีเลิศพอ แต่ได้โปรดให้โอกาสผมอีกสักครั้ง ได้ไหม? ”