เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 571 สงครามที่ยาวนาน
บทที่ 571 สงครามที่ยาวนาน
ฉึบ — —
ผ้าห่มที่เดิมทีนำมาใช้ปกปิดร่างกายได้ถูกแย่งไปแล้ว ผิวขาวผ่องที่เรียบเนียนของเวินเที๋ยนเที๋ยนได้ปรากฏขึ้นมาในอากาศทันที
เธอจึงรีบกระโดดออกจากเตียง และวิ่งไปที่ห้องอาบน้ำอย่างรวดเร็ว
เธอเพิ่งวิ่งได้ไม่กี่ก้าว มือของเธอยังไม่ทันได้จับประตูห้องอาบน้ำ จี้จิ่งเชินก็ยื่นมือมาคว้าเธอไว้ซะก่อน หลังจากนั้นเขาก็อุ้มเธอขึ้นมา
ภาพตรงหน้าเวินเที๋ยนเที๋ยนสั่นไหว ตอนเธอตอบสนองกลับมา ก็พบว่าตัวเองกลับมาที่บนเตียงอีกครั้ง
ฟูกที่อ่อนนุ่มกระแทกจนเธอตาลายไปหมด รอจนสายตาของเธอกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง เธอก็เห็นว่าจี้จิ่งเชินกำลังยืนอยู่ตรงหน้าตัวเอง
เขาเปลือยท่อนบน ทำให้คนมองรู้สึกหน้าแดงใจและเต้นแรง
เวินเที๋ยนเที๋ยนขดตัวไปด้านหลัง เธอยื่นมือออกไปคว้าผ้าห่มบนเตียงอย่างน่าสงสาร เพื่อต้องการเอามาปกปิดร่างกายของตัวเอง
เขาไม่รอให้เธอได้สัมผัสกับขอบผ้าห่ม อยู่ๆจี้จิ่งเชินก็ยื่นมือมาแย่งผ้าห่มไป
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้าไปมา หลังจากนั้นก็เก็บมือกลับมา และนำมือมากอดไว้ที่หน้าอกของตัวเอง
เพราะเขินอาย นิ้วเท้าที่ขาวเนียนจึงแดงนิดหน่อย ใบหน้าของเธอก็แดงเป็นเลือดฝาดเช่นเดียวกัน
ไม่รู้ว่าเมื่อวานเธอถูกจี้จิ่งเชินลากมาทรมานตั้งแต่ตอนไหน วันนี้ตื่นมาจึงไร้เรี่ยวแรง แต่ไม่คิดว่าพอตื่นขึ้นมาตอนเช้าของวันนี้ เธอยังไม่ทันได้ลืมตา ก็ถูกจี้จิ่งเชินจูบจนตื่นซะก่อน
เธอทั้งง่วง ทั้งเหนื่อย ยังต้องมารองรับความอ่อนโยนจากจี้จิ่งเชินอีกต่างหาก
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยากร้องแต่ร้องไม่ออก มีใครที่ไหนเขาบังคับให้แต่งงานแบบนี้กันล่ะ?
นึกถึงที่จี้จิ่งเชินเคยพูดก่อนหน้านี้ว่าเขามีวันหยุดสองวันจึงอยู่บนเกาะนี้ต่อได้ ดูจากท่าทางเขาน่าจะเตรียมไว้ก่อนแล้ว
ขังเธอไว้บนเกาะ ให้เธอหนีไปไหนไม่ได้ เวลาสองวัน ถ้าเธอยังไม่ตอบรับ คงจะต้องอยู่ต่อไปอย่างยากลำบากแน่นอน
ปรกติที่นี่ก็ไม่มีคนมาอยู่แล้ว ยิ่งช่วยเธอไม่ได้อีกด้วย
เห็นจี้จิ่งเชินตรงหน้ามีทีท่ามั่นใจว่าจะชนะ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงรู้สึกโมโห และวิตกกังวล
หรือเขาคิดว่าเป็นแบบนี้แล้วเธอจะยอมแพ้อย่างนั้นหรอ?
“ เที๋ยนเที๋ยน ทำไมไม่ตอบตกลงล่ะ? ”
เขาเปิดกล่องใบเล็กสีดำในมือออก แหวนเพชรเงางามก็ปะทะเข้าในดวงตาทันที
เพชรสีชมพูขนาดใหญ่ มีเพชรเม็ดเล็กๆสิบกว่าเม็ดฝังอยู่รอบๆ แสงของมันทั้งสวยงามและเปล่งประกาย
พอเปิดออก เหมือนห้องทั้งห้องได้สว่างขึ้นมาทันที
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับหันหน้าไปทางอื่น
“ ไม่ คนสมัยก่อนเคยบอกว่า อย่าถูกหลอกด้วยเงินทอง อย่าเปลี่ยนแปลงปณิธานของตัวเอง เพียงเพราะความจน และตำแหน่ง…… ”
ไม่รอให้เธอพูดเสร็จ จี้จิ่งเชินก็นำแหวนไปวางไว้บนโต๊ะ หลังจากนั้นเขาก็โถมตัวมาด้านหน้า และกดเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ใต้ร่างทันที
คล้ายกับว่าทรวงอกที่ร้อนระอุอยากจะเผาเวินเที๋ยนเที๋ยนไปทั้งตัว ในรูม่านตาที่ดำสนิทกำลังดึงดูดสายตาคนให้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้าย
เวินเที๋ยนเที๋ยนเบิกตากว้างมองเขาอย่างตะลึง เธอชะงักไป และถูกเขากดลงบนเตียงอีกครั้ง
เขาจูบตั้งแต่หน้าผากลงไปที่ปลายจมูก จากมุมปากลามไปที่ติ่งหู เธอเหมือนถูกคนถือไว้ในกำมือ
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้วนิดหน่อย น้ำเสียงของเธอเปลี่ยนเป็นติดๆขัดๆ
“ ตำแหน่ง……ตำแหน่งไม่สามารถ……อื้อ……จี้จิ่งเชิน…… ”
เสียงค่อยๆเบาลง ไม่นานเธอก็ถูกลมหายใจอันแสนหวานปกคลุม
ตอนนี้พวกเขาอยู่บนเกาะที่เป็นของพวกเขาเอง จึงทำให้ไม่มีใครมารบกวน
เวินเที๋ยนเที๋ยนตกอยู่ในความหวานชื่นที่จี้จิ่งเชินสร้างขึ้น แต่เธอกลับรู้สึกไม่พอใจอยู่ในใจ
นักธุรกิจที่หน้าเนื้อใจเสือ มักจะใช้ร้อยแปดวิธีเพื่อบรรลุความต้องการของตัวเอง
เขามักจะทำทุกวิถีทาง ต่อให้ทรยศต่อร่างกายของตัวเอง เพื่อแลกมาด้วยคำตอบก็ตาม
ภายในห้องมักมีเสียงพูดถามดังขึ้นบ่อยๆ
“ ผมรักคุณ เที๋ยนเที๋ยน ”
“ ……ฉันก็รักนาย ”
“ แต่งงานกับผมนะ? ”
“ ไม่ ”
บทลงโทษที่หวานชื่นและยาวนานบดเส้นประสาทของคนให้เป็นผง เวินเที๋ยนเที๋ยนพยายามประคองสติเฮือกสุดท้ายของตัวเอง
ในช่วงเวลาแห่งความสับสน สงครามยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง
ตั้งแต่รุ่งสางจนถึงตอนบ่าย แม้แต่จนกระทั่งเวินเที๋ยนเที๋ยนหลับไปแล้ว เขาก็ยังไม่ได้รับความประนีประนอมแม้แต่นิดเดียว
จี้จิ่งเชินมองคนที่นอนหลับอยู่ใต้ร่าง หลังจากนั้นเขาก็รู้สึกจนปัญญาทันที
บนแก้มของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังเป็นรอยแดงอยู่ หางตาก็มีคาบน้ำตาติดอยู่นิดหน่อยเช่นกัน บนตัวยิ่งเต็มไปด้วยร่องรอยที่ไม่สามารถบรรยายออกมาได้อย่างชัดเจนอีกด้วย
ต่อให้กำลังนอนหลับ คล้ายกับเธอเจอเรื่องอะไรที่ไม่ดี คิ้วของเธอจึงขมวดนิดหน่อย
จี้จิ่งเชินหัวเราะอย่างเงียบๆ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังคิดไม่ถึงว่าแรงปณิธานของเวินเที๋ยนเที๋ยนจะแข็งแกร่งขนาดนี้
ไม่ว่าตัวเองจะบีบบังคับหรือหลอกล่อขนาดไหน ฝ่ายนั้นก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆเลย
เห็นทีว่าครั้งที่อยู่บนชิงช้าสวรรค์ เขาได้ขุดหลุมให้ตัวเองเสียแล้ว และไม่รู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะหายโกรธตอนไหน
ต่อให้ไม่ตอบรับแล้วยังไง?
เขามีเวลาอยู่กับเธอทั้งชีวิต และเขาจะต้องสวมแหวนไว้บนมือเธอด้วยตัวเขาเองให้ได้
จี้จิ่งเชินก้มหน้าลงไปนิดหน่อย หลังจากนั้นเขาก็แตะลงไปที่ระหว่างคิ้วของเวินเที๋ยนเที๋ยนเบาๆ
คิ้วที่เดิมทีขมวดเข้าหากันนิดหน่อยก็ค่อยๆคลายตัวลง หลังจากนั้นเธอก็นอนหลับสบายยิ่งขึ้น
ตอนนี้จี้จิ่งเชินถึงจะอุ้มเธอขึ้นมา หลังจากนั้นก็พาเธอไปที่ห้องอาบน้ำ ทำความสะอาดร่างกายของเธออย่างระมัดระวังและรอบคอบ
หลังจากนั้นเขาก็เปลี่ยนผ้าปูที่นอน และให้เวินเที๋ยนเที๋ยนนอนพักต่อ
ส่วนตัวเองก็หมุนตัวเดินออกจากห้องนอนไปที่ห้องครัว
พอหมุนตัว ก็เห็นรอยเล็บชัดเจนที่อยู่บนหลังของเขา ทั้งหมดคือร่องรอยที่เวินเที๋ยนเที๋ยนทำไว้ตอนกำลังแสดงความรัก
ที่นี่เป็นเกาะที่ไม่มีบ้านคน บนเกาะมีเพียงพวกเขาสองคน บริเวณรอบๆแม้แต่เรือก็ไม่สามารถเข้ามาใกล้ได้ ยิ่งไม่ต้องกังวลว่าจะถูกใครเห็นเข้า
หลังจากที่จี้จิ่งเชินทำความสะอาดร่างกายเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็คาดผ้าขนหนูไว้ที่เอว และเดินเข้าไปทำอาหารในห้องครัว
เมื่อวานหลังจากที่ทานอาหารค่ำเสร็จ ทั้งสองคนก็ออกเดินทางข้ามน้ำข้ามทะเลมาที่นี่เลย
แล้วก็พลาดอาหารเช้าไปแล้วหนึ่งมื้อ รอถึงตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนตื่นขึ้นมา เธอก็คงจะหิวมาก
บนเกาะไม่มีคน หน้าที่ในการทำอาหารจึงตกเป็นของจี้จิ่งเชิน
มีคนเคยบอกไว้ว่า ถ้าอยากครอบครองหัวใจใครคนนึง ต้องครอบครองกระเพาะอาหารของคนคนนั้นก่อน
ในเมื่อบีบบังคับไม่สำเร็จ งั้นก็ต้องหลอกล่อหน่อยเป็นไง?
ในคฤหาสน์มีอาหารเพียงพอสำหรับสองคนเป็นเวลาหนึ่งอาทิตย์ จึงไม่ต้องกังวลแม้แต่นิดเดียว
เขามองอาหารในตู้เย็นนิดหน่อย จี้จิ่งเชินขมวดคิ้ว สุดท้ายเขาก็หยิบปลาออกมาจากด้านใน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยังนอนหลับอยู่
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน อยู่ๆเธอก็ถูกกลิ่นหอมของอาหารปลุกให้ตื่น
พอลืมตาขึ้น ท้องของเธอก็ร้องประท้วงทันที
เธอขยับตัวเล็กน้อย และรู้สึกแค่ว่าร่างกายของตัวเองเมื่อยไปทั้งตัว แขนขายังไร้เรี่ยวแรงอีกด้วย
ต่อมา ในหัวของเธอก็ปรากฏภาพเหตุการณ์ของเมื่อคืนขึ้น ทำให้แก้มของเธอแดงเป็นเลือดฝาดทันที
โชคดีที่จี้จิ่งเชินไม่ได้อยู่ในห้อง ไม่นาน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็กลับมาเป็นปกติ เธอมองไปรอบๆ หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นนั่งอย่างยากลำบาก
กลิ่นหอมของอาหารที่ลอยอยู่ในอากาศยิ่งเย้ายวน ทำให้คนอยากกินเป็นอย่างมาก
ใบหน้าเล็กของเธอยับยู่ยี่ เธอลุกขึ้นยืน และรู้สึกว่าขาทั้งสองข้างอ่อนจนเหมือนเป็นเส้นบะหมี่สองเส้น
เธอหาไปทั่ว ก็ยังหาเสื้อผ้าของตัวเองไม่เจอ เวินเที๋ยนเที๋ยนจึงไปเปิดตู้เสื้อผ้า
พอเปิดตู้เสื้อผ้าออก เธอก็เห็นว่าด้านในมีกระโปรงสิบกว่าตัววางไว้อย่างเป็นระเบียบ
พอหยิบออกมาดู ก็พบว่าขนาดพอดีกับตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน และเธอก็รู้ว่าจี้จิ่งเชินเป็นคนซื้อกระโปรงพวกนี้มา
แต่พอดูอย่างละเอียดแล้ว ถึงพบว่ากระโปรงพวกนี้ไม่ใช่กระโปรงทรงยาว แต่เป็นกระโปรงที่สั้นมาก เนื้อผ้าบางตัวยังบางจนน่าตกใจอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดงปี๋ ปรกติจี้จิ่งเชินแทบอยากจะห่อเธอไว้ตั้งแต่หัวจรดเท้า ทำไมตอนนี้ถึงเปลี่ยนไปแล้วล่ะ?
เธอเลือกแล้วเลือกอีก ในที่สุดก็หากระโปรงทรงสั้นเลยหัวเข่าเจอ นี่เป็นทรงที่เธอพอรับได้อยู่บ้าง
เธอคลึงเอวที่ปวดเมื่อยเดินออกจากห้องนอน และเดินไปตามกลิ่น ไม่นาน เธอก็หาห้องครัวเจอ