เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 574 มีคนมาหา
บทที่ 574 มีคนมาหา
การฝึกว่ายน้ำก็ค่อยๆเปลี่ยนรสชาติไปโดยไม่รู้ตัว
ชายหาดที่ว่างเปล่าไร้ผู้คน ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้ เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่รู้ว่าตัวเองเหยียบเข้าไปในกับดักที่จี้จิ่งเชินตั้งใจวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนไหน
จนกระทั่งเธอตื่นขึ้นมาบนเตียงทรงกลมนั้นอีกครั้ง เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงได้เข้าใจถึงความหวังดีของจี้จิ่งเชิน
เธอยิ่งรู้สึกโกรธในใจ สงครามที่ยาวนานดำเนินการมาเป็นเวลาสองวันเต็ม และเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้ประนีประนอมแม้แต่นิดเดียว
รอจนเวลาสองวันหมดลง พวกเขาก็ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เพื่อเตรียมตัวกลับ เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกโล่งใจอย่างเห็นได้ชัด
จี้จิ่งเชินมองเธออยู่ข้างๆ หลังจากนั้นเขาก็หัวเราะออกมาอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่
เขาถือโอกาสยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังใส่หมวก หลังจากนั้นก็พูดที่ข้างหูของเธอ: “ คุณคิดว่าไปจากที่นี่แล้วจะไม่เป็นอะไรแล้วอย่างนั้นหรอ? ”
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ การกระทำของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็หยุดชะงักทันที เธอตกใจจนหยุดทุกการกระทำ หลังจากนั้นก็มองจี้จิ่งเชินด้วยสีหน้าหวาดกลัว
อยู่ๆก็รู้สึกปวดเมื่อยที่เอวของตัวเองขึ้นมาทันที
พอคิดดูอย่างละเอียดแล้ว เหมือนกับว่าต่อให้อยู่ที่ปราสาท จี้จิ่งเชินก็ไม่เคยเก็บอาการมาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว
ตอนที่ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าคนนี้หน้าด้าน ตัวเธอเองยังรู้สึกว่าตัวเองยังหน้าด้านไม่เท่าเขาเลยด้วยซ้ำ
พอคิดว่าตัวเองต้องเจอกับเหตุการณ์น่าเศร้าใจในอนาคต เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกลังเลใจนิดหน่อย
จี้จิ่งเชินพูดขึ้นอีกครั้ง: “ ยังไง? เพียงแค่คุณพยักหน้า ผมก็จะปล่อยคุณไป เป็นไง? ”
เห็นรอยยิ้มข่มขู่และยั่วยุของเขา เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกนึกโมโหในใจ
“ ไม่ ”
ไม่คิดว่าพอจี้จิ่งเชินได้ยินคำตอบนี้ เขากลับรู้สึกพึงพอใจมาก “ อันที่จริง ผมยังกลัวว่าคุณจะพยักหน้าตั้งแต่ตอนนี้ซะอีก ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนมองเขาอย่างไม่เข้าใจ ความขี้เล่นในดวงตาของจี้จิ่งเชินมีมากกว่าเดิม มุมปากของเขายังยกยิ้มอีกด้วย
“ ในเมื่อคุณยังไม่ตอบตกลง งั้นผมก็จะไม่ปล่อยคุณไปได้อย่างสบายใจแล้วล่ะ ”
เขาตั้งใจพูดเน้นเสียง เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าใจได้ทันที หลังจากนั้นเธอก็เบิกตากว้าง
ไม่คิดว่าในใจของจี้จิ่งเชินจะคิดแบบนี้ ตอนนี้เธอจึงไม่รู้ว่าควรตอบตกลงหรือไม่ตกลงดี
เธอกำลังครุ่นคิด อยู่ๆจี้จิ่งเชินก็พูดต่อ: “ เที๋ยนเที๋ยน คุณต้องยืนหยัดให้นานหน่อยนะ ”
เกลียวเปิดออกแล้ว หลังจากนั้นก็มีเสียงสั่นสะเทือนดังขึ้น
เพื่อให้เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินอย่างชัดเจน เขาขยับเข้ามาใกล้ ตามการเคลื่อนไหวของการพูด ทุกครั้งที่เปิดและปิดปาก ปากของเขาจะสัมผัสไปที่ติ่งหูของเวินเที๋ยนเที๋ยน น้ำเสียงของเขายังหนักแน่นเต็มไปด้วยกระแสแม่เหล็กอีกด้วย
เวินเที๋ยนเที๋ยนหน้าแดง แต่เธอไม่ได้พูดอะไร
จี้จิ่งเชินมองท่าทางของเธอยิ้มๆ หลังจากนั้นถึงค่อยหันไปสั่งนักบินให้เอาเครื่องขึ้น
จนถึงตอนพลบค่ำ ในที่สุดเฮลิคอปเตอร์ก็มาถึงที่ปราสาท และมาจอดลงบนสนามหญ้าที่อยู่ด้านหน้า
พ่อบ้านกับแม่ครัวและคนอื่นๆทราบข่าวก่อนล่วงหน้าแล้ว และพวกเขาก็กำลังรออยู่ที่ด้านนอก
กระแสอากาศขนาดใหญ่กวาดสนามหญ้าให้กลายเป็นคลื่นที่กำลังกลิ้งไปมา พอเกลียวหยุดลง พ่อบ้านก็เดินเข้ามาหาทันที
“ คุณผู้ชาย คุณผู้หญิง ” เขายิ้มจนตาหยี สายตาของเขามักจะสังเกตไปที่บนตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยน
จี้จิ่งเชินกระโดดลงมาก่อน หลังจากนั้นเขากำลังจะยกมือขึ้นไปดึงเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ไม่คิดว่าเธอจะหลบการช่วยเหลือจากเขา
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินลงมาด้วยใบหน้าที่ไม่สบอารมณ์สักเท่าไหร่
จี้จิ่งเชินเห็นแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นนิดหน่อย แต่ไม่ได้พูดอะไร หลังจากนั้นเขาก็เดินตามเธอไปด้านหน้า
พ่อบ้านกับแม่ครัวเห็นสถานการณ์นี้เข้า ทั้งสองคนจึงหันไปสบตากันนิดหน่อย
เดิมที ยังคิดว่าทั้งสองคนไปเที่ยวพักผ่อนที่เกาะเล็กๆ ความรักต้องลึกซึ้งมากกว่าเดิมสิถึงจะถูก แต่ทำไมตอนนี้กลับถอยหลังลงได้ล่ะ? ”
เห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนสลัดจี้จิ่งเชินออก และเดินไปด้านหน้า อยู่ๆพ่อบ้านก็นึกอะไรได้ เขาจึงรีบเดินตามเธอไปทันที สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นเช่นกัน
“ คุณผู้หญิงครับ สองวันที่คุณกับคุณผู้ชายไม่อยู่ มีคนมาหาคุณด้วยครับ ”
ฝีเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนชะงักลงนิดหน่อย
“ ใคร? อาจารย์หรือว่าหมินอันเกอ? ”
พ่อบ้านส่ายหน้า
“ ไม่ใช่ทั้งคู่ครับ ” เขาขมวดคิ้วนิดหน่อย หลังจากนั้นก็กดน้ำเสียงลง และพูดขึ้น: “ เป็นคุณผู้หญิงรองตระกูลเวินครับ ”
ได้ยินดังนั้น ฝีเท้าของเวินเที๋ยนเที๋ยนก็ชะงักลงนิดหน่อย หลังจากนั้นเธอก็หันกลับมา
พ่อบ้านพูดต่อ: “ คุณผู้หญิงรองเวินมาตั้งแต่ตอนเช้าแล้วครับ พอรู้ว่าคุณไม่อยู่ เธอก็เข้าไปพักในปราสาท ”
“ เธอพักอยู่ที่ปราสาท? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนถามกลับอย่างตกใจ แม้แต่จี้จิ่งเชินที่เดินอยู่ด้านหลังก็ยังขมวดคิ้วนิดหน่อย
เขาไม่ได้รู้สึกชอบอะไรตระกูลเวินมาตั้งแต่ไหนแต่ไร เหยาเย้นคือภรรยาของเวินหงไห่ ถึงแม้ว่าเธอจะเคยช่วยเวินเที๋ยนเที๋ยนไว้ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะได้รับอนุญาตให้พักอยู่ในปราสาทของเขา
พ่อบ้านก็รู้สึกกลุ้มใจเช่นเดียวกัน
“ ใช่ครับ พวกเราไม่มีทางอื่นแล้วครับ ”
พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา
เหยาเย้นมาที่นี่ตั้งแต่เช้าตรู่ แถมยังพาลูกมาอีกด้วย ดูจากสภาพแล้วคงจะรีบมาก
เป็นถึงคุณหญิงรองของตระกูลเวิน ถึงแม้ว่าเธอจะอ่อนน้อมถ่อมตัว ปรกติถ้าออกมาข้างนอก เธอจะแต่งตัวอย่างเหมาะสม แต่ครั้งนี้เหมือนเธอกำลังตกอยู่ในสภาพที่อึดอัดใจอย่างนั้นแหละ
เธอไม่ได้แต่งหน้า จึงสามารถมองเห็นรอยบวมที่อยู่บนหน้าเธอได้อย่างชัดเจน ใบหน้าของเธอเขียวช้ำ เหมือนกับว่ามุมปากยังแตกอีกด้วย
สภาพของเธอดูแย่มาก แถมใบหน้ายังซีดเขียวอีกต่างหาก
พอเข้ามาได้ เธอก็รีบถามหาเวินเที๋ยนเที๋ยนทันที พอรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนไม่อยู่ เธอก็นิ่งไปเหมือนโดนฟ้าผ่า
ดูแล้วเหมือนสูญเสียความหวังสุดท้ายไป และเหมือนจะร้องไห้ออกมาอยู่ตลอดเวลา
ไม่รอให้พ่อบ้านได้พูดอะไร เธอก็เข้ามาจับเขาไว้ หลังจากนั้นก็ขอร้องเขาให้ตัวเองอยู่ที่นี่
พ่อบ้านรู้ว่าตัวเองไม่สามารถตัดสินใจแทนจี้จิ่งเชิน แต่พอเห็นสองแม่ลูกที่มีสภาพจนตรอกอยู่ตรงหน้า เขาไตร่ตรองอยู่สักพัก สุดท้ายก็ตกลงให้พวกเขาพักอยู่ในหอคอย
พูดเสร็จ เขาก็หันกลับไปโค้งตัวให้จี้จิ่งเชินนิดหน่อย
“ คุณผู้ชาย เป็นความผิดของผมเองครับ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่
“ คุณพาฉันไปดูหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? ”
หลังจากนั้นพ่อบ้านก็พาทั้งสองคนเดินไปที่หอคอย
พอเห็นเหยาเย้น เวินเที๋ยนเที๋ยนก็อดไม่ได้ที่จะร้องออกมาอย่างตกใจ
คำบรรยายของพ่อบ้านยังถือว่าอ้อมค้อม สภาพของเหยาเย้นตอนนี้ถือได้ว่าหมดสภาพมาก
ผ่านไปหนึ่งวันเต็ม รอยบวมบนหน้าก็ยุบลงแล้วนิดหน่อย แต่ยังเห็นรอยเขียวช้ำบนใบหน้า เห็นแล้วก็รู้สึกสะเทือนใจมาก
คล้ายกับว่าสองวันนี้เธอร้องไห้ตลอด เบ้าตาของเธอแดงนิดหน่อย แถมลูกตายังเต็มไปด้วยรอยเลือดอีกด้วย
ตอนไปหาหลวนจื่อกับเธอเมื่อครั้งที่แล้ว เธอแทบจะเป็นคนละคนกับเมื่อตอนนั้น
อีกอย่าง เวินหมิงเฮ่าที่ได้รับความคุ้มครองจากตระกูลเวินในฐานะผู้สืบตระกูลก็อยู่ในบ้านด้วยเช่นกัน เขามีสีหน้างุนงงนิดหน่อย
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกได้รางๆว่ามีเรื่องบางอย่างที่น่ากลัวเกิดขึ้น
“ คุณนายเหยา ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเรียกเหยาเย้น เหยาเย้นหันกลับมา หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนอย่างติดๆขัดๆ
“ เที๋ยนเที๋ยน ขอโทษจริงๆที่ฉันเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพวกคุณก่อน ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเดินเข้าไปหาเธอ หลังจากนั้นก็ดึงเธอให้นั่งลง และพูดถามขึ้น: “ ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น? แล้วหน้าคุณไปโดนอะไร? ”
พอได้ยินคำถามนี้ ก็คล้ายกับว่าไปสะกิดเรื่องเศร้าใจของเหยาเย้นเข้า เบ้าตาของเธอจึงมีน้ำตาคลอขึ้นมานิดหน่อย
เธอไม่ได้พูด แต่ให้เวินหมิงเฮ่ากลับไปที่ห้องก่อน
พอเขาออกไป เธอถึงค่อยพูดขึ้น: “ ถูกเวินหงไห่ตี ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนใจกระตุก ดูไปดูมาเหมือนแผลบนใบหน้าของเหยาเย้นไม่เบาเลย ตกลงว่ามันเกิดอะไรขึ้น ถึงทำให้เวินหงไห่ไประบายความโกรธลงที่เธอได้กันนะ
เมื่อก่อน ตอนอยู่ที่บ้านตระกูลเวิน เหยาเย้นกับเวินหงไห่ทั้งสองก็เกรงใจและเคารพกันเหมือนแขกผู้มาเยือนกัน ทำไมตอนนี้ถึงกลายเป็นแบบนี้ได้ล่ะ?