เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 577 ไม่จำเป็นต้องพูดขอโทษ
บทที่ 577 ไม่จำเป็นต้องพูดขอโทษ
ที่ปราสาท
เหยาเย้นกำลังรอโทรศัพท์จากตระกูลหลวน แต่เธอกลับไม่ได้รับข่าวสารจากพ่อแม่ของตัวเองสักที
ตามที่พวกเขาได้นัดกันวันนั้น ช้าสุดที่พวกเขาจะมาถึงคือตอนบ่ายของวันนี้
ตอนนี้ดวงอาทิตย์ก็ค่อยๆลอยไปฝั่งตะวันตกแล้ว แต่ยังไม่เห็นเงาคนเลย จึงทำให้เหยาเย้นยิ่งรู้สึกกระวนกระวายใจมากกว่าเดิม
เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่กับเธอข้างๆ เธอเห็นเหยาเย้นมีสีหน้ากังวลขึ้นเรื่อยๆ จึงพูดปลอบขึ้น: “ ไม่ต้องกังวลหรอก บางทีบนท้องถนนอาจจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น จึงทำให้เสียเวลานิดหน่อยก็ได้ ”
เหยาเย้นยิ้มเล็กน้อย แต่เธอกลับไม่ได้ทำให้อารมณ์ที่กำลังเป็นกังวลของตัวเองผ่อนคลายลงเลยสักนิดเดียว
รอไปได้สักพัก โทรศัพท์ที่อยู่ในห้องก็ดังขึ้น และทำให้เธอตกใจ เธอจึงรีบวิ่งไปดูทันที
และเป็นคนของตระกูลหลวนโทรมาจริงๆ
หรือว่าบนท้องถนนจะเกิดปัญหาอะไรขึ้นจริงๆ!
ในที่สุดเหยาเย้นก็โล่งใจขึ้น เธอกดรับสาย และพูดถามขึ้นทันที: “ พ่อ แม่ พวกท่านจะมาถึง
ตอนไหนคะ? ”
เหยาเย้นค่อนข้างรับมือไม่ทัน ทำไมน้ำเสียงของพ่อแม่ที่อยู่ในสายกลับเย็นชาอย่างเห็นได้ชัดแบบนี้ล่ะ? ”
“ ทำไม…… ”
น้ำเสียงของพ่อแม่ที่อยู่ในสายกลับมีความหงุดหงิดนิดหน่อย
“ พวกเราก็คิดว่าเรื่องใหญ่อะไรซะอีก ก็แค่ทะเลาะกัน จึงทำให้มีการเข้าใจผิดกันนิดหน่อย หงไห่เขายอมรับผิดกับพวกเราแล้ว นี่แกยังจะอยู่ข้างนอกและไม่กลับบ้านอีกหรอ? ”
เหยาเย้นถูกเสียงก่นด่าที่ดังมาตามสายตบหน้าจนรับมือไม่ทัน ผ่านไปสักพักเธอก็ยังตอบสนองกลับมาไม่ได้
คนในสายโทรศัพท์พูดต่อ: “ ตอนนี้ กิจการตระกูลหลวนของเราพัฒนาไปได้ไม่ค่อยดี แค่เรื่องบริษัท เราก็ยุ่งพออยู่แล้ว แกยังจะมาเพิ่มความวุ่นวายในตอนนี้อีก? ฉันขอเตือนให้แกกลับไปที่ตระกูลเวินภายในวันนี้ อย่าอยู่ข้างนอกทำให้เราอับอายขายหน้า! ตอนที่ฉันให้แกแต่งออกไป ฉันเคยบอกแกว่ายังไง? ”
เธอไม่คิดว่าพ่อแม่ของตัวเองจะยืนอยู่ข้างเวินหงไห่
เหยาเย้นเหมือนถูกฟ้าผ่า เธอยืนตัวแข็งทื่ออยู่ที่เดิม สีหน้าของเธอก็ขาวซีดขึ้นทันที
ตอนนี้ เธอถึงจะนึกออก
ตอนนั้น เป็นเธอเองที่ไปตอบตกลงเรื่องงานแต่งของตระกูลเวินกับพ่อแม่เป็นการส่วนตัว พวกเขาถึงได้ให้เธอแต่งออกไป
ตั้งแต่เล็กจนโต พ่อแม่ของตัวเองให้ความสำคัญกับอำนาจและอิทธิพลมาก จะเป็นไปได้ยังไงที่พวกเขาจะเป็นฝ่ายเข้ามาเป็นศัตรูกับตระกูลเวิน!
เดิมที ตระกูลเหยาที่เธออาศัยอยู่ก็เป็นแค่ญาติพี่น้องห่างๆเท่านั้น ในความคิดของพวกเขา การแต่งงานกับตระกูลเวินเป็นการถูกเอาเปรียบ
เธอลืมเรื่องนี้ไปได้ยังไง?
คิดมาถึงตรงนี้ เหยาเย้นก็ฝืนหัวเราะออกมา
“ พวกท่านไม่สนใจหนูแล้วหรอ? ”
“ ทำไมพวกเราจะไม่สนใจแก? ลูกสาวที่แต่งงานออกเรือนก็เท่ากับน้ำที่สาดออกไป เพียงแค่แกไม่ทำให้ตระกูลหลวนอับอายขายหน้าอยู่ข้างนอก! ทุกอย่าง ก็ทำตามวิธีของตระกูลเวินสะ! ”
เหยาเย้นสูดหายใจเข้าลึกๆ หลังจากนั้นก็พยักหน้า
“ หนูทราบแล้วค่ะ ”
พูดเสร็จ ไม่รอให้คนในสายได้พูดอะไร เธอก็กดวางสายทันที
ผ่านไปสักพัก รอจนอารมณ์ผ่อนคลายลงแล้ว เธอถึงจะหันกลับไปมองเวินเที๋ยนเที๋ยนที่อยู่ด้านหลัง
แต่ต่อให้เป็นแบบนี้ ในดวงตาของเธอก็ยังมีน้ำตาอยู่ดี
เมื่อสักครู่ เสียงพูดตำหนิของพ่อแม่เหยาเย้นดังมาก เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ด้านหลังก็ยังได้ยินนิดหน่อย และเธอก็เดาได้รางๆแล้ว
“ คุณนายเหยา คุณอย่ากังวล มันจะต้องมีวิธีแก้ไข ”
เหยาเย้นเช็ดน้ำตาที่หางตา ในดวงตาของเธอเปล่งประกายแสงที่แน่วแน่
“ ฉันจะหย่า ”
ตลอดยี่สิบปีที่เชื่อฟังมา ไม่ได้ทำให้เธอมีสถานะใดๆในตระกูลเวินกับตระกูลหลวนเลย กลับยิ่งทำให้ร้ายแรงมากกว่าเดิม
เธอทนมามากพอแล้ว!
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกทอดถอนใจ อยู่ๆเธอก็นึกถึงคุณนายหล่อนกับเวินหงไห่
ถ้าตอนนั้นพวกเขาไม่ได้คัดค้าน จะเป็นเหมือนเหยาเย้นตอนนี้หรือเปล่า?
ตอนนี้ ตระกูลหลวนไม่ช่วยเธอ สองมือของเหยาเย้นกำเข้าหากันแน่น เธอไม่รู้ว่ายังจะสามารถไปขอให้ใครช่วยได้อีก
ถึงแม้ว่าตอนอยู่ที่ตระกูลเวิน เธอจะเคยมีเพื่อนอยู่จำนวนไม่น้อย แต่คนพวกนั้นเข้ามาหาเธอเพราะตำแหน่งคุณผู้หญิงรองตระกูลเวิน ของเธอเท่านั้น
หลวนจื่อยังดูแลตัวเองไม่ได้เลย จะมีเวลามายุ่งเรื่องของเธอได้ยังไง?
ไม่คิดว่าคนที่ช่วยเธอจริงๆจะเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่เพราะว่าเธออยู่ที่ตระกูลเวินมานาน เธอจึงเข้าใจวิธีการของพ่อลูกตระกูลเวินเป็นอย่างดี เธออยู่ที่นี่ต่อไปไม่ได้ เพราะจะเป็นการทำร้ายเวินเที๋ยนเที๋ยนกับจี้จิ่งเชิน
“ ฉัน……ฉัน…… ”
ไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นความกังวลในใจของเธอ จึงชิงพูดขึ้นมาก่อน: “ สองสามวันนี้คุณสามารถอยู่ที่นี่ต่อได้ ไม่เป็นไร ”
เหยาเย้นได้ฟัง เธอทั้งรู้สึกตกตะลึง ทั้งรู้สึกดีใจ
“ แต่บัตรเชิญงานเลี้ยงที่เวินหงไห่พูดก่อนหน้านั้นล่ะ? พวกคุณจะทำยังไง? ”
“ ไม่เป็นไร ต่อให้ไม่มีคุณ เขาก็ไม่มีทางช่วยฉันให้ได้บัตรเชิญนั้นจริงๆหรอก ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อบัตรเชิญบัตรเดียว แต่ต้องส่งตัวคุณไปให้พวกเขา จี้จิ่งเชินก็ไม่คิดว่าสมควรที่จะทำเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มนิดหน่อย ในดวงตาของเธอมีความแน่วแน่อยู่ในนั้น
เหยาเย้นชะงักไปนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนจะไม่ได้พูดอะไร แต่ในการกระทำ เธอก็สามารถรับรู้ถึงความหวานชื่นระหว่างทั้งสองคนได้อย่างชัดเจน
ทำให้รู้สึกอิจฉาเป็นอย่างยิ่ง
ถ้าตอนนั้นเธอคัดค้านเหมือนคุณนายหล่อน ไม่รู้ว่าตัวเองจะมีความสุขหรือเปล่า?
แต่ตอนนี้มาคิดเรื่องนี้ก็สายไปเสียแล้ว
เธอแอบถอนหายใจ หลังจากนั้นก็พูดขึ้น: “ เที๋ยนเที๋ยน อย่าบอกเรื่องนี้กับหมิงเฮ่านะ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ ฉันรู้แล้ว ”
หลังจากออกมาจากหอคอย เวินเที๋ยนเที๋ยนก็มีเรื่องให้คิดเยอะแยะ
พอเข้ามาในห้องหนังสือ เธอก็เห็นจี้จิ่งเชิน
เพื่อป้องกันไม่ให้คนของตระกูลเวินถือโอกาสบุกเข้ามาในปราสาท เขาก็ได้ย้ายสถานที่ทำงานจากบริษัทมาที่ปราสาท และทำงานระยะไกล
ห้องหนังสือทั้งห้องมีเอกสารวางไว้อย่างระเกะระกะ สามารถเห็นถึงความยุ่งของงาน
น่าจะเพราะบัตรเชิญงานเลี้ยงเอเชียแปซิฟิกครั้งนี้
เห็นจี้จิ่งเชินยุ่งถึงขนาดนี้ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รู้สึกผิดในใจนิดหน่อย เธอจึงเลือกที่จะไม่เดินเข้าไป แต่ยืนอยู่ตรงประตูแทน
ผ่านไปไม่กี่วินาที คล้ายกับว่าจี้จิ่งเชินรับรู้ถึงการมาของเธอ เขาจึงเงยหน้าขึ้นมามองเธอ
“ เป็นอะไรไป? ”
ทำงานตั้งแต่เช้าจนถึงตอนนี้ บางทีอาจจะเสร็จตอนดึกเลยทีเดียว ใบหน้าของเขาจึงเต็มไปด้วยความเหนื่อยล้า
เวินเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกเศร้าใจ
จี้จิ่งเชินวางเอกสารในมือลง หลังจากนั้นก็ยื่นมือไปหาเธอ
“ เข้ามา ”
ตอนนี้เวินเที๋ยนเที๋ยนถึงจะเดินเข้าไป เธอเพิ่งจะสัมผัสมือของจี้จิ่งเชิน ก็ถูกเขาดึงเข้าไปในอ้อมก่อนทันที
“ เป็นอะไร? ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหน้า “ พ่อแม่ของคุณนายเหยาปฏิเสธการขอความช่วยเหลือของเธอ และให้เธอกลับไปที่ตระกูลเวิน ”
สีหน้าของจี้จิ่งเชินนิ่งมาก คล้ายกับเขารู้อยู่แล้วว่าผลมันจะต้องเป็นแบบนี้
ตระกูลหลวนเข้าข้างพวกของตัวเองจริงๆ แต่ก็เข้าข้างแค่คนที่มีสายเลือดเดียวกันเท่านั้น ที่ที่เหยาเย้นอยู่เป็นเพียงบ้านของญาติพี่น้องห่างๆ วิ่งเข้าหาผลประโยชน์ แต่หลบหลีกผลเสีย เป็นสัญชาตญาณของพวกเขา ไม่อย่างนั้น ตอนนั้นคงไม่รีบไปเกี่ยวดองกับตระกูลเวินหรอก
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่รู้ ถึงแม้ว่าเธอจะโตมาในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่เธอยังคงเห็นกลิ่นอายครอบครัวจากบนตัวของคุณนายหล่อนกับเวินหงไห่อยู่ดี
จนตอนนี้เธอถึงจะรู้ว่า ไม่ได้มีพ่อแม่ทุกคนที่จะยอมละทิ้งทุกอย่างเพื่อลูกได้จริงๆ
ถ้าเทียบกัน คุณนายหล่อนกับเวินหงไห่พวกเขาทำดีที่สุดเท่าที่ตัวเองจะสามารถทำได้แล้ว
ถึงอย่างไร พวกเขาก็มีสิทธิ์ที่จะตามหาความสุขของตัวเอง
“ ฉันให้เธออยู่ที่นี่ ขอโทษที่ไม่ได้บอกนายก่อน ”
“ เพราะเรื่องแค่นี้? คุณไม่จำเป็นต้องพูดขอโทษกับผม ”
จี้จิ่งเชินยิ้มนิดหน่อย เขาไม่ได้รู้สึกถือสาอะไรเลย