เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 595 การจัดการวิกฤต
บทที่ 595 การจัดการวิกฤต
เมื่อเห็นคนสองสามคนทะเลาะกันดังขึ้นเรื่อยๆ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้น “หยุด อย่าทะเลาะกัน! ”
ทั้งสองคนหยุดลงกะทันหัน แต่ในเวลานี้ดวงตากลับแดงก่ำ และจ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมแพ้
ทั้งสองกำลังแย่งเอาแผนงานนั้นมา อีกทั้งกระดาษหลายหน้าในนั้นก็แทบจะถูกพวกเขาฉีกขาดออกมาอยู่รอมร่อ
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ย “คนๆ เดียวเป็นไปไม่ได้ที่จะทำโครงการใหญ่ขนาดนี้สำเร็จ ถ้าหากพวกคุณยังอยากรับโครงการนี้ พวกคุณจำเป็นต้องร่วมมือกัน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ สีหน้าของทั้งสองคนก็บิดเบี้ยวไปทันที พวกเขาหันมามองเวินเที๋ยนเที๋ยนและพิจารณาอย่างละเอียด
“เธอเป็นใคร? มายุ่งอะไรเรื่องของพวกเรา?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกวาดตามองไปที่ทุกคน น้ำเสียงของเธอดังขึ้นเล็กน้อย
“ฉันเป็นหัวหน้ากลุ่มผู้แนะแนวในการประชุมนี้ แน่นอนว่าฉันมีสิทธิ์จัดการว่าใครสามารถเข้ารับโครงการนี้ได้”
“หัวหน้า?” ชายคนนั้นกลับมองอย่างสงสัย “ทำไมฉันไม่เคยได้ยินมาก่อน? ”
ทั้งสองคนมองเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นลงอย่างประเมิน สายตาแฝงความดูหมิ่น
ผู้ที่สามารถได้รับเชิญให้เป็นสมาชิกของกลุ่มแนะแนวได้ ล้วนเป็นเด็กฝึกงานของอาจารย์ที่มีชื่อเสียงในด้านนั้นๆ อีกทั้งยังต้องมีประสบการณ์มาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อทุกคนเข้าร่วมวงการบูรณะวัตถุโบราณและกลายเป็นอาจารย์นักบูรณะวัตถุโบราณล้วนมีอายุมากกว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนอย่างมาก อย่างน้อยๆ ก็ไม่ต่ำกว่าสิบปี ส่วนใหญ่ล้วนมีอายุมากกว่าสามสิบปีขึ้นไปทั้งนั้น
เมื่อเห็นว่าพวกตนที่มีอายุมากกว่ากลับถูกเด็กสาววัยยี่สิบต้นๆ เหยียบลงบนศีรษะ ในใจก็ไม่พอใจขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้นกับผู้จัดงาน? ถึงให้ฉันมาฟังคำแนะนำของเด็กคนหนึ่งแบบนี้ นี่มันไร้สาระจริงๆ!”
“ถ้าหากฉันรู้ว่าหัวหน้ากลุ่มผู้แนะแนวจะเป็นแบบนี้ ฉันคงไม่สามารถจัดการได้แล้ว”
“ไหนบอกว่าหัวหน้าผู้แนะแนวคืออาจารย์ฟ่านไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้เปลี่ยนเป็นเวินเที๋ยนเที๋ยน?”
แม้ว่าหลายคนจะรู้ว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเป็นศิษย์ของท่านเปิง อีกทั้งยังได้เห็นการแข่งขันของเธอและหลีเจียเวยมาก่อน แต่พวกเขาก็ไม่ได้ยอมรับความสามารถของเธอ
แค่เห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนยังเด็กแต่กลับขึ้นไปสู่ระดับที่พวกเขาไม่อาจเอื้อมถึงได้ ก็ทำให้ผู้คนรู้สึกอิจฉา และไม่ว่าจะยังไงก็ไม่เต็มใจที่จะทำตามคำสั่งของเวินเที๋ยนเที๋ยน
พูดไป ลูกศิษย์ของอาจารย์เครื่องทองสัมฤทธิ์ทั้งสองคนก็เริ่มแย่งชิงกันอีกครั้ง สถานการณ์วุ่นวายอย่างยิ่ง
เวินเที๋ยนเที๋ยนเอ่ยปากห้าม แต่ทั้งสองคนกลับไม่สนใจสักนิด ราวกับว่าไม่เห็นเธออยู่ในสายตา
ตอนนี้เป็นแค่เพียงโครงการแรกเท่านั้น คณะทำงานเล็กๆ ยังวุ่นวายได้ขนาดนี้ ต้องทราบด้วยว่ายังมีโครงการหลายสิบโครงการที่จะได้รับการตัดสินใจอย่างต่อเนื่องตลอดการประชุมเอเชียแปซิฟิก และทั้งหมดนี้ล้วนต้องการความช่วยเหลือจากกลุ่มผู้แนะแนวทั้งสิ้น
รอจนถึงภายหลัง หากไม่สามารถติดตามได้ทันเวลาหรือเกิดความผิดพลาดขึ้น การประชุมเอเชียแปซิฟิกทั้งหมดอาจล่มสลายลง
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังมองคนสองคนตรงหน้าเธอด้วยความปวดหัว ขณะที่เธอกำลังจะเอ่ยปากห้าม จู่ๆ ทันใดนั้นก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากข้างหลังของเธอ
“หยุดมือ! พวกคุณกำลังทำอะไร?”
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดทำให้ทุกคนหยุดลง และหันไปมอง
อาจารย์ฟ่านเดินเข้ามาจากประตูด้วยสีหน้าไม่พอใจ จากนั้นจึงตะโกนใส่ทั้งสองคนที่กำลังเถียงกัน
“พวกคุณเป็นอะไรกับ? ตอนนี้การประชุมเพิ่งเริ่มต้นขึ้น ก็เกิดเรื่องแบบนี้แล้ว แล้วผู้จัดงานจะปล่อยให้พวกคุณทำหน้าที่เป็นผู้แนะแนวต่อไปได้อย่างไร? ถ้าคุณถูกไล่กลับไป ดูสิว่าอาจารย์ของพวกคุณจะอบรมคุณอย่างไร! ”
เมื่อทั้งสองเห็นอาจารย์ฟ่านเดินเข้ามา ทั้งหมดต่างก็เงียบลงทันที
เมื่อเทียบกับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้ว อาจารย์ฟ่านในฐานะอาจารย์และคุณสมบัติที่มีผลให้เธอมีความน่าเชื่อถือมากกว่า
แต่เมื่อคิดถึงโครงการนี้ พวกเขากลับยังไม่ยอมแพ้
เขากล่าวอย่างขุ่นเคือง “เรื่องเกี่ยวกับเครื่องทองสัมฤทธิ์ต้องเป็นฉันเท่านั้น ฉันต่างหากที่เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด! ”
อีกฝั่งหนึ่งเองก็ไม่ยอมอ่อนข้อ “ตัวเลือกที่ดีที่สุดอะไร? ฉันมั่นใจอย่างเต็มที่ว่าฉันสามารถทำโครงการนี้ให้สำเร็จได้อีกทั้งจะไม่มีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นแน่ โครงการนี้ควรปล่อยให้ฉันทำ”
อาจารย์ฟ่านหยิบโครงการมาเปิดดู
“ไม่ต้องเถียงกัน โครงการนี้ต้องใช้เงินจำนวนมหาศาล คุณทั้งสองต้องรับผิดชอบด้วยกัน หากคุณไม่พอใจคุณก็ไปบอกกับผู้จัดงานเอง ถ้าใครไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินนี้ สามารถบอกฉันได้และคุณสามารถออกจากกลุ่มผู้แนะแนวไปได้ทันที ส่วนเรื่องการลาออก ฉันจะเป็นคนไปบอกกับอาจารย์ของพวกคุณเอง พวกคุณตัดสินเองแล้วกัน”
ทันทีที่เขาพูดจบ ทั้งคู่ก็เงียบลง จากนั้นจึงมองหน้ากันอย่างไม่เต็มใจและแค่นเสียงอย่างเย็นชา
“ในเมื่ออาจารย์ฟ่านตัดสินใจแล้ว ก็เอาตามนั้นแล้วกัน”
พูดจบ เขาก็รับแผนโครงการมาและออกไปข้างนอก
ทันทีที่พวกเขาจากไป อาจารย์ฟ่านก็หันศีรษะและมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยน
“คุณเวิน ทำไมคุณถึงมองดูพวกเขาทะเลาะกันอยู่แบบนี้? คุณกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มได้ยังไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้แก้ตัว เธอแค่เอ่ย “ครั้งหน้าจะไม่เกิดขึ้นอีก”
อาจารย์ฟ่านหัวเราะเยาะ “นี่เป็นเพียงโครงการแรกเท่านั้น รอในอนาคตยังมีเรื่องอีกมากมายที่จะเกิดขึ้น ฉันจะเตือนคุณให้รู้ไว้ก่อน มีความสามารถในการบูรณะไม่ได้หมายความว่าจะมีความสามารถในการจัดการคน”
เมื่อเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยนยังเงียบ อาจารย์ฟ่านก็เหลือบมองเธอ
“คุณชนะนักเรียนของฉัน แต่ในด้านนี้ คุณไม่มีความสามารถในการโน้มน้าวคนอื่นเลยสักนิด แทนที่จะรอให้ถึงเวลาแล้วถูกหัวเราะเยาะ ทางที่ดีคุณควรออกจากกลุ่มแนะแนวนี้ไปก่อนยังจะดีกว่า เอาเวลาไปฝึกฝนทักษะการบูรณะของคุณต่อไปเถอะ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยิน ก็หันหน้ามามองเธอ ท่าทีแข็งขึ้นหลายส่วน
“คุณรู้ได้อย่างไรว่าฉันไม่มีวิธีหยุดพวกเขา? ”
“โอ้ คุณมีวิธี? เอ่ยเหตุผลห้ามไม่ให้พวกเขาทะเลาะกันงั้นหรือ?”
อาจารย์ฟ่านยิ้มเยาะขึ้นมา และพูดกับเวินเที๋ยนเที๋ยนว่า “ที่นี่ไม่ใช่เด็กเล่นขายของ ที่นี่คือห้างสรรพสินค้า ผู้ชนะเป็นนาย ส่วนผู้แพ้ไม่มีที่ยืนใดๆ ทั้งนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนกำหมัดแน่น แต่น้ำเสียงกลับไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ เธอเอ่ยเสียงเรียบ “เช่นเดียวกัน ฉันก็มอบให้คุณ แต่ฉันยังมีอีกประโยคหนึ่งอยากจะบอก ถ้าหากคุณต้องการใช้สถานะของคุณเพื่อช่วยตระกูลเวิน อย่างนั้นคุณก็ต้องระวังให้ดี เพราะฉันจะจับตาดูคุณอยู่ตลอดเวลา”
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็หันหลังจากไป
ทันทีที่เธอจากไป อาจารย์ฟ่านก็ยืนอยู่กับที่เดิม ดวงตาหรี่ลงและกัดฟันมองด้านหลังของเวินเที๋ยนเที๋ยน
ดูเหมือนว่าจะปล่อยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่ต่อไปไม่ได้แล้ว
หลังการเปิดตัวโครงการแรกที่เป็นไปด้วยดี การประชุมเอเชียแปซิฟิกก็ค่อยๆ เริ่มขึ้น
ในวันแรก มีการจัดสรรโครงการห้าโครงการ ซึ่งมีจี้จิ่งเชินเป็นตัวแทนของบริษัทเอ็มไอกรุ้ป ครอบครองรายชื่อไปสองรายการ
การเผยแพร่โบราณวัตถุทางวัฒนธรรมในช่วงสมัยต่างๆ จำเป็นต้องมีนักบูรพาวัตถุโบราณและผู้ประเมินในสาขาต่างๆ มาคอยแนะนำ
เนื่องจากมีโครงการมากเกินไป กำลังคนไม่เพียงพอ แม้กระทั่งเวินเที๋ยนเที๋ยนและอาจารย์ฟ่านเองก็ต้องเข้าร่วมในนั้นด้วย ทั้งคู่ต้องเข้าไปแนะนำทั้งในการประชุมและบริษัท
“ทำไมฉันต้องไปทำงานกับเธอ? ”
เพิ่งได้รับมอบหมายเสร็จ และต้องอยู่ในคณะเดียวกับเวินเที๋ยนเที๋ยนในทีมเครื่องลายคราม หลังจากฟังผลและเห็นเวินเที๋ยนเที๋ยน ก็ไม่อาจปกปิดความดูถูกในใจเอาไว้ได้
ทันทีที่เปิดปาก เขาก็พูดอย่างไม่พอใจ “ฉันไม่ไป! ยังมีคนอื่นอยู่อีกไม่ใช่หรือไง?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพลิกดูงานที่ถูกแจกจ่าย เธอเอ่ย “คนอื่นๆ ล้วนมีโปรเจ็กอื่นอยู่แล้ว ทุกคนได้รับมอบหมายงานออกไปแล้ว คุณและฉันไปหาบริษัทนี้ด้วยกันเถอะ”