เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 596 คุณทำได้อย่างไร
บทที่ 596 คุณทำได้อย่างไร
เวินเที๋ยนเที๋ยนพูดจบ แต่คนนั้นๆ กลับยังไม่พอใจ และมีท่าทางไม่เต็มใจ
อีกทั้งน้ำเสียงยังมีความเคลือบแคลง
“คุณไม่ใช่หัวหน้ากลุ่มหรอกหรือ? คุณเพิ่งจะอายุยี่สิบปีก็ได้อยู่ในตำแหน่งนี้ คงจะเก่งมากสินะ? พวกเราล้วนเทียบไม่ได้หรอก คุณคนเดียวก็ทำได้ไม่ใช่หรือ? ทำไมยังต้องให้ฉันไปช่วย?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ฟัง คิ้วก็ขมวดขึ้นเล็กน้อย น้ำเสียงเองก็ดังขึ้นมาด้วย
“ถ้าหากฉันทำโครงการนี้เสร็จตัวคนเดียวได้ อย่างนั้นโครงการที่เหลือ คุณสามารถทำเสร็จคนเดียวได้หรือเปล่าล่ะ?”
พูดจบ เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่อธิบายต่อ และโยนแผนการอื่นให้เขาโดยตรง
คนๆ นั้นหยิบมันขึ้นมาดู ท่าทางร้อนตัวอยู่บ้าง
“โครงการนี้ไม่รีบร้อนไม่ใช่หรือ? ฉันรอคนอื่นทำงานเสร็จแล้วค่อยไปรวมกับพวกเธอ…”
“พูดแบบนี้ก็คือ รออีกไม่กี่วันคนอื่นๆ ทำงานเสร็จ คุณก็จะทำตัวเป็นแมลงข้าวในกลุ่มแนะแนวไปเรื่อยๆ อย่างงั้นหรือ?”
“คุณหมายความว่าไง?” คนๆ นั้นเอ่ยถาม
เวินเที๋ยนเที๋ยนไม่ได้หวั่นเกรง เธอเอ่ยเสียงเย็นชา “ตอนนี้ทุกคนล้วนยุ่งอย่างมากเพื่องานประชุมครั้งนี้ มีเพียงคุณเท่านั้นที่กำลังนั่งสบายๆ อยู่ในสำนักงาน ครั้งนี้กลุ่มผู้แนะแนวของพวกเราล้วนกังวลว่าการประชุมทั้งหมดจะดำเนินไปอย่างราบรื่นหรือไม่ ถ้าหากคุณยังทำตัวแบบนี้ ฉันก็มีเหตุผลที่จะสงสัยคุณ ว่าคุณมีคุณสมบัติเพียงพอสำหรับงานนี้หรือไม่ ถ้าไม่ คุณสามารถถูกแทนที่ได้ทุกเมื่อ”
น้ำเสียงของเธอเย็นชาอย่างยิ่ง ท่าทางและอารมณ์ดูคล้ายกับจี้จิ่งเชินขึ้นมาอยู่หลายส่วน
คนๆ นั้นตกใจจนเบิ่งตาโต
ดูจากลักษณะภายนอกเวินเที๋ยนเที๋ยน ท่าทางของเธอดูอ่อนโยน น่าจะง่ายต่อการกลั่นแกล้ง
ดังนั้นถึงแม้ว่าเธอจะเป็นศิษย์ของท่านเปิง และต่อให้เธอจะได้รับแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้ากลุ่มแนะแนว แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่จะฟังคำสั่งของเธอ
ส่วนในเวลานี้ ทันทีที่เธอพูดจบ ทุกคนที่อยู่ในนั้นก็เงียบลง
ดูเหมือนว่าพวกเขาจะคิดไม่ถึงเวินเที๋ยนเที๋ยนจะมีด้านนี้เช่นกัน ดังนั้นจึงมองเวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความตกใจ
แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนกลับไม่ได้สนใจ เธอเอ่ยต่อ “ตอนนี้คุณคิดว่ายังไง? จะไปอยู่อีกไหม?”
คนๆ นั้นอยากจะตอบโต้ แต่เมื่ออ้าปากจะเอ่ย ก็คิดได้ว่าหากตนเองโต้กลับก็อาจจะถูกขับออกและต้องกลับไปพบอาจารย์ของตนแน่
เห็นท่าทางของเวินเที๋ยนเที๋ยนแบบนี้ ดูแล้วคงไม่ได้แค่ขู่ แต่เธอลงมือจริงแน่
เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้นี้ เธอก็ลังเลในทันที จากนั้นจึงเอ่ยอย่างไม่เต็มใจ “ไปก็ไป ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร! ”
พูดจบ เธอก็รับข้อมูลนั้นมา และเดินออกไปข้างนอก
ในขณะที่เวินเที๋ยนเที๋ยนกำลังจะออกไป เธอก็หันมามองดูกลุ่มคนในห้อง และเห็นว่าพวกเขายังคงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม
เธอเอ่ยเตือนความจำ “พวกคุณรีบทำงานเถอะ พรุ่งนี้ยังมีโครงการอีกมากมายรออยู่”
คนที่กำลังยืนนิ่งได้สติขึ้นมาทันทีและพยักหน้ารับ จากนั้นจึงก้มหน้าทำงานของตนโดยไม่พูดไม่จาต่ออีก
ขณะนี้โครงการเริ่มขึ้นแล้ว เวินเที๋ยนเที๋ยนและสมาชิกคนอื่นๆ จำเป็นต้องโปรโมตชุดเครื่องเคลือบดินเผาของราชวงศ์ชิงออกไปสู่ต่างประเทศและเข้าร่วมกับนิทรรศการ
แม้ว่าสินค้าเหล่านี้จะเป็นเพียงสินค้าเสริม แต่ก็จำเป็นที่จะต้องได้รับการออกแบบตามประวัติศาสตร์ของราชวงศ์ชิงและได้รับคำแนะนำในการบำรุงรักษา
คนๆ นั้นหลังจากถูกตำหนิโดยเวินเที๋ยนเที๋ยน แต่ในใจกลับยังไม่พอใจ เมื่อเข้ามาในบริษัทก็ไม่ได้ฟังคำสั่งของเวินเที๋ยนเที๋ยน
แต่เดิมงานที่จะเสร็จภายในวันเดียว กลับถูกเลื่อนออกไปเป็นวันถัดมา เนื่องจากเธอไม่ให้ความร่วมมือส่งผลให้เกิดความล่าช้า
ถึงขนาดที่ก่อนจะถึงเวลาพัก คนๆ นั้นก็ออกไปก่อนแล้ว และก็ปล่อยให้เวินเที๋ยนเที๋ยนอยู่คนเดียวเพื่อทำงานจนถึงตกค่ำ
ฟ้ามืดลง จี้จิ่งเชินถึงค่อยมาตาม เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาก็พบว่ามีเพียงเวินเที๋ยนเที๋ยนที่ยังทำงานอยู่ในห้องลำพัง
เมื่อเห็นว่ามีเพียงแสงไปจากโต๊ะของเวินเที๋ยนเที๋ยนที่สว่างอยู่ เขาก็ขมวดคิ้ว
“มีแค่เธอคนเดียวหรือ? ”
เมื่อได้ยินเสียง เวินเที๋ยนเที๋ยนก็เงยหน้าขึ้นจากการเขียนคำโฆษณา และมองเห็นจี้จิ่งเชิน ใบหน้าของเธอแสดงถึงความเหนื่อยล้า
จี้จิ่งเชินสาวเท้าเข้าไปและมองดูรอบๆ สำนักงาน
โครงการใหญ่ขนาดนี้ ไม่มีทางที่เวินเที๋ยนเที๋ยนจะรับผิดชอบเพียงลำพังได้ ต้องมีคนอื่นทำงานร่วมกับเธอ แต่คนเหล่านั้นล่ะ?
คิดถึงตรงนี้ เขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ในใจรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาอยู่บ้าง
ตอนที่เวินเที๋ยนเที๋ยนรับงานนี้ จี้จิ่งเชินก็เดาได้แล้วว่าสิ่งนี้อาจเกิดขึ้น
แต่เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีความสุขมากขนาดนั้น เขาจึงค่อยตัดสินใจที่จะให้เธอลองดู
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า โครงการเพิ่งจะเริ่มต้นก็เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นแล้ว หลังจากนี้ช่วงเวลาของเวินเที๋ยนเที๋ยนในกลุ่มแนะแนวเห็นทีคงจะไม่ใช่เรื่องง่าย
เมื่อนึกถึงตรงนี้ และเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนมีสีหน้าเหนื่อยล้า เขาก็มีความคิดที่จะให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากกลุ่มผู้แนะแนว
แต่ใจเขานั้นรู้ดีถึงความทะเยอทะยานของในใจของเวินเที๋ยนเที๋ยน ถ้าหากเธอยังไม่เอ่ย นั่นหมายความว่ายังไม่ยอมแพ้
จี้จิ่งเชินรู้สึกกังวลและอดไม่ได้ที่จะถาม “ทำงานในกลุ่มผู้แนะแนวมีอะไรที่ไม่ราบรื่นไหม?”
เวินเที๋ยนเที๋ยนส่ายหัว เพื่อทำให้จี้จิ่งเชินรู้สึกสบายใจ เธอจึงฉีกยิ้มออกมา
“ไม่มีปัญหา ฉันทำได้”
เมื่อจี้จิ่งเชินได้ยิน เขาก็ได้แต่เก็บความไม่พอใจข้างในกลับลงไป
“ดึกแล้ว กลับก่อนเถอะ จากนี้ยังมีงานต้องทำอีกมากมาย อย่าได้เอาตัวเองมาเหนื่อยอยู่ที่นี่”
เขาเอื้อมมือไปดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมา จากนั้นจึงลูบผมข้างหูของเธอด้วยความรักใคร่
เวินเที๋ยนเที๋ยนเห็นว่างานที่เธอทำใกล้จะเสร็จแล้ว งานที่เหลือควรจะเสร็จในวันพรุ่งนี้ได้ เธอจึงพยักหน้า
หลังจากขึ้นรถ เวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงนึกถึงความคิดเห็นของสมาชิกกลุ่มแนะแนวที่มีต่อเธอ
อาจารย์ฟ่านพูดถูก หากยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้ จากนี้ไปสถานการณ์จะยิ่งเลวร้ายยิ่งขึ้น
เธอคิดแล้วคิดอีก จากนั้นจึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยขึ้น
“จี้จิ่งเชิน ตอนทำธุรกิจในช่วงแรกคุณประสบปัญหาอะไรบ้างไหม?”
จี้จิ่งเชินมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนผ่านในกระจก แม้ว่าเขาจะรู้ว่าเธอประสบปัญหาในการทำงาน แต่เวินเที๋ยนเที๋ยนก็ไม่ได้เป็นฝ่ายพูดขึ้นมาก่อน ดังนั้นเขาทำได้เพียงแสร้งทำเป็นว่าไม่รู้
หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็คิดอย่างรอบคอบและตอบว่า “พบปัญหามากมายไม่น้อย ตอนนั้นฉันยังเด็ก และผู้อาวุโสหลายคนในห้างสรรพสินค้าก็ยังลังเลกับคุณสมบัติของฉันกับบริษัทเอ็มไอกรุ้ป อีกทั้งยังไม่เชื่อมั่นในความสามารถของฉัน”
เมื่อพบว่าสถานการณ์ของจี้จิ่งเชินคล้ายคลึงกับตน เวินเที๋ยนเที๋ยนก็รีบหันกลับมา
“หลังจากนั้นคุณทำอย่างไร?”
เมื่อเห็นท่าทางอยากรู้อยากเห็นของเด็กน้อย ดวงตาของเธอกำลังส่องประกายเจิดจ้า จนทำเอาเขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้นมา
เขาอธิบายอย่าละเอียด “ในเมื่อพวกเขาสงสัยในความสามารถของฉัน ก็ใช้ความสามารถบอกพวกเขาไปว่าคนที่พูดขึ้นมาได้ก็คือผู้ตัดสินใจ สำหรับคนที่อยู่ในมือ เมื่อสมควรลงโทษก็ไม่ควรลงโทษเบาๆ นั่นเพราะถ้าใจอ่อนเมื่อไหร่ อีกฝ่ายก็จะคิดว่าคุณง่ายต่อการเอาเปรียบรังแก”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าขณะฟัง
“อย่างนั้นหรือคะ? ”
จี้จิ่งเชินเอ่ย “ในตอนนั้นมีพนักงานคนหนึ่งถูกขุดหลุมดัก ฉันท้าแข่งกับเขา เขาสัญญาว่าถ้าฉันชนะ เขาจะเข้ามาทำงานใน บริษัท ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ่งประหลาดใจ
“ใครคะ? ถึงทำให้คุณมีความคิดแบบนี้ได้? จะต้องเก่งมากแน่ๆ”
“คนๆ นั้นคุณก็รู้จัก เขาคือจงหลี”