เมียหวานของประธานเย็นชา - บทที่ 599 แข่งกันเถอะ
บทที่ 599 แข่งกันเถอะ
“ฉันจะทำงานสุดท้ายของเมื่อวานให้เสร็จ จากนี้หากเธอต้องการอะไรในอนาคต เธอสามารถบอกฉันได้ ฉันจะพยายามช่วยเธออย่างเต็มที่”
สมาชิกคนนั้นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงพูดว่า “คนในสำนักงานเหล่านั้นเห็นว่าเธอยังเด็ก ไม่มีคุณสมบัติใดๆ เธอจะต้องยืนหยัดกับพวกเขาถึงจะได้”
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้า
“ฉันมีแผนแล้ว อีกสักครู่ถ้าคุณกลับไปแล้วอย่าลืมบอกพวกเขา ว่าฉันจะแข่งขันกับพวกเขา”
“แข่งขัน?” ชายคนนั้นมองไปที่เวินเที๋ยนเที๋ยนด้วยความประหลาดใจ ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
เวินเที๋ยนเที๋ยนพยักหน้าอย่างแน่วแน่
“ไม่ผิด บอกพวกเขาอย่างนั้นก็พอ”
ในที่สุดชายคนนั้นก็พยักหน้าอย่างลังเล “ได้ ยังไงเสียนี่ก็เป็นการตัดสินใจของเธอ”
พูดจบ ก็โบกมือให้เวินเที๋ยนเที๋ยนจากนั้นจึงหันกลับไปที่ห้องทำงาน
เวินเที๋ยนเที๋ยนยืนอยู่ที่เดิม และคิดเรื่องที่จี้จิ่งเชินบอกในวันนี้
หากต้องการให้ทุกคนฟังเธอ อย่างนั้นก็มาแข่งกันเถอะ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึกเพื่อให้กำลังใจตัวเอง จากนั้นจึงหันไปเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน
ในเวลาเดียวกัน ตอนนั้นเมื่อผู้คนในสำนักงานได้ยินว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนต้องการแข่งขัน พวกเขาทั้งหมดก็แสดงความสงสัย
“ทำไมเธอถึงต้องการแข่งขันกับพวกเรา? หรือว่าจะแข่งเรื่องเทคนิคการบูรณะ?”
“ถ้าแข่งจริงก็ดี ฉันมั่นใจว่าฉันจะชนะ! ”
“แน่ใจหรือ? เธอชนะหลีเจียเวยมาก่อนเชียวนะ”
มีหลายคนหัวเราะคนมา
“หลีเจียเวยแล้วยังไง? เธอก็แค่เป็นลูกศิษย์อาจารย์ฟ่านมาแค่ห้าหกปี จะมาเทียบกับฉันได้ยังไง? หรือว่าแค่ชนะหลีเจียเวยได้คนหนึ่งเธอก็คิดไปว่าตัวเองนั้นเก่งกาจนัก?”
“พวกเราสามารถใช้การแข่งขันนี้ แสดงให้เธอเห็น! ถ้าชนะจริงๆ ไม่แน่ว่าพวกเราก็อาจจะสามารถไล่เธอออกจากตำแหน่งหัวหน้าทีมได้ อย่าคิดว่าก็ทุกคนจะเป็นผู้นำได้”
“ฉันว่า ในพวกเราหลายคนยังเหมาะสมกว่าเธออีก! ”
หลังจากได้ยิน หลายคนก็พยักหน้าเห็นด้วย จากนั้นจึงเปลี่ยนข้อไปที่อาจารย์ฟ่านซึ่งนั่งเงียบมาตลอด
“อาจารย์ฟ่าน คุณคิดว่ายังไง? ”
อาจารย์ฟ่านที่กำลังมองหาโอกาสที่จะให้เวินเที๋ยนเที๋ยนออกจากกลุ่มคำแนะแนว ในเวลานี้เมื่อได้ยินว่าเธอเป็นคนเสนอการแข่งขันเอง ก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง
แต่เมื่อเผชิญหน้ากับสมาชิกมากมายที่อยู่ตรงหน้า ความรู้สึกในใจของเธอกลับไม่ได้ปรากฏออกมาบนสีหน้า เธอทำเพียงเอ่ยเสียงเรียบ
“ในเมื่อหัวหน้าทีมเอ่ยร้องขอ อย่างนั้นก็ต้องดำเนินการ อาศัยช่วยที่งานยังไม่เยอะ วันนี้แล้วกัน มาเปรียบเทียบระดับที่จะให้รู้ได้ว่าใครระดับไหน”
เมื่อหลายคนเห็นว่าแม้แต่อาจารย์ฟ่านก็เห็นด้วย พวกเขาก็ฮึกเหิมขึ้นมา และคิดอย่างจะเปรียบเทียบสูงต่ำกับเวินเที๋ยนเที๋ยนขึ้นมาแล้วจริงๆ
ในตอนเที่ยงของวันนั้น การแข่งขันเล็กๆ ถูกจัดขึ้นในห้องประชุม และสิ่งที่พวกเขาต้องการก็ไม่มีอะไรอื่นนอกจากการบูรณะสิ่งของ
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พวกเขาซ่อมแซมมักจะเป็นของเก่าแก่ล้ำค่าหรือโบราณวัตถุทางวัฒนธรรม แต่ตอนนี้พวกเขาไม่มีอะไรให้ใช้ได้ และได้แต่บูรณะสิ่งเล็กๆ น้อยๆ รอบตัวเท่านั้น
สิ่งเหล่านี้มีทั้งขนาดใหญ่เล็ก บางอันบนโต๊ะเป็นแก้วที่แตกหัก ยางอันเป็นปากกาที่หักลงหลังจากใช้ไปช่วงหนึ่ง
สิ่งของเหล่านี้กระจัดกระจายอยู่บนโต๊ะ และทุกคนสามารถเลือกหนึ่งในนั้นได้
วิธีการแข่งขันนั้นง่ายอย่างยิ่ง ขอแค่ใครก็ตามที่สามารถซ่อมแซมให้เสร็จได้ภายในเวลาอันสั้น และบูรณะได้ดีที่สุด คนนั้นเป็นผู้ชนะ
หลายคนที่ตัดสินใจแข่งขันกับเวินเที๋ยนเที๋ยนลุกขึ้น จากนั้นจึงเข้าไปดูสิ่งของบนโต๊ะ พวกเขาขมวดคิ้วและวิพากษ์วิจารณ์
“ใช้ของพวกนี้มาแข่งหรือ? ปกติของที่พวกเราสัมผัสล้วนเป็นของล้ำค่าทั้งนั้น”
เวินเที๋ยนเที๋ยนยิ้มจางๆ เธอเอ่ย “การแข่งขันนี้ตั้งมาจากการประชุมเอเชียแปซิฟิก ของเหล่านี้ไม่ใช่วัตถุโบราณทางวัฒนธรรม ทั้งหมดส่วนใหญ่เป็นของที่เกี่ยวข้องกับประวัติศาสตร์ หากพวกเราใช้สิ่งเหล่านี้ในการแข่งขัน ก็จะสามารถปรับให้เข้ากับการประชุมของเราในครั้งนี้ได้มากขึ้น”
สายตาของผู้คนหลายคนยังคงจู้จี้จุกจิก หลังจากมองดู และเห็นว่าไม่มีสิ่งอื่นที่สามารถใช้ในการแข่งขันได้อีก ดังนั้นพวกเขาจึงได้แต่ตกลง และหยิบกล่องเครื่องมือของตนเองมาและเลือกของที่ตนต้องการบูรณะ จากนั้นพวกเขาก็เริ่มดำเนินการทันที”
เวินเที๋ยนเที๋ยนเข้าไปเลือกเป็นคนสุดท้าย เธอเลือกแก้วที่แตกหักขึ้นมาจากในนั้น
ทันทีที่หยิบกล่องบูรณะขึ้น ทุกคนก็เริ่มคุยกันด้วยเสียงเบา
“นั่นคืออะไร? ”
เมื่อเห็นว่ากล่องบูรณะของเธออยู่ในสภาพขาดรุ่งริ่ง ดูเหมือนว่ากล่องจะมีรอยถูกไฟไหม้ อีกทั้งยังมีรอยด่างเต็มไปหมด
“ตำแหน่งของเวินเที๋ยนเที๋ยนในตอนนี้ ยังจะใช้กล่องแบบนี้อยู่อีก?”
“น่าอับอายจริงๆ ”
เวินเที๋ยนเที๋ยนได้ยินพวกเขาพูด แต่กลับไม่ตอบโต้อะไร
กล่องนี้มีความหมายสำหรับเธอมาก และเธอก็ไม่อาจทิ้งมันได้ลง
นี่คือสิ่งที่จี้จิ่งเชินแลกมันมาด้วยราคามหาศาล ถึงแม้ว่ามันจะพังแล้ว แต่เธอก็จะซ่อมแซมมัน ให้มันอยู่กับเธอตลอดไป
เธอเปิดกล่องที่ดูมอมแมมไปหน่อย ในนั้นมีเครื่องมือทุกชนิดอยู่ อีกทั้งยังสะอาดสะอ้านอย่างยิ่ง
เห็นได้ชัดว่า เจ้าของที่ใช้มักจะบำรุงรักษาและซ่อมแซมมันเสมอ
เวินเที๋ยนเที๋ยนนั่งลง และมองไปที่แก้วตรงหน้าท่ามกลางแสงที่ส่องอยู่
เพราะเธอเป็นคนสุดท้ายที่เลือก สิ่งที่เสียหายน้อยกว่าและซ่อมแซมได้ง่ายกว่าจึงถูกคนแย่งไปหมดแล้ว มีแค่แก้วใบนี้ที่แตกลงอย่างรุนแรงที่สุด มันแตกเป็นเจ็ดแปดชิ้น
สามารถพูดได้ว่า มันแทบจะไม่สามารถซ่อมแซมให้เหมือนเดิมได้ในเวลาอันสั้น
เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนเลือกแก้วใบนี้ หลายคนรอบๆ ก็หัวเราะเยาะขึ้นมาและส่ายหัว พวกเขาคาดไว้แล้วว่าตำแหน่งหัวหน้าของเธอคงรักษาเอาไว้ไม่ได้แน่แล้ว
หลังจากที่พวกเขารู้เรื่องนี้ พวกเขาก็ถอนสายตาจากเวินเที๋ยนเที๋ยนและมองไปที่คนอื่น ๆ
ในความเห็นของพวกเขา ขอแค่มีใครสักคนในนี้ทำผลงานได้โดดเด่น คนๆ นั้นก็จะสามารถดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนลงมาได้ และกลายเป็นหัวหน้ากลุ่มแนะแนวคนใหม่
สมาชิกคนหนึ่งที่เพิ่งจะคืนดีกับเวินเที๋ยนเที๋ยนแล้วเห็นตัวเลือกของเวินเที๋ยนเที๋ยน อีกทั้งยังเห็นว่าเธอกำลังยังคงศึกษาแก้วในมืออย่างช้าๆ ก็ยิ่งวิตกกังวลมากขึ้น
เธอเดินเข้าไปอย่างระมัดระวังและเอ่ยถามข้างหู “คุณหนูเวิน คุณมีความมั่นใจหรือเปล่า? รีบหน่อยเถอะ คนอื่นเริ่มกันหมดแล้ว”
ดวงตาของเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงจับจ้องอยู่ที่แก้วใบนั้น เนิ่นนานจึงค่อยเอ่ยขึ้น “ไม่เป็นไร สามารถเสร็จได้ภายในเวลาที่กำหนด”
แม้ว่าเธอจะเอ่ยคำมั่น แต่คนๆ นั้นก็ยังไม่เชื่อ ในความคิดของเธอ นี่มันแทบจะเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย
แต่เมื่อเห็นว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนยังไม่รีบร้อน เธอจึงได้แต่ถอนหายใจ จากนั้นจึงเริ่มสังเกตการบูรณะของคนอื่นๆ
ในทางตรงกันข้าม อาจารย์ฟ่านที่นั่งอยู่ด้านข้างไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน แต่ความสนใจกลับตกอยู่ที่ตัวของเวินเที๋ยนเที๋ยนตลอด
เมื่อเห็นว่าเธอเลือกแก้วน้ำใบนั้น ในใจก็อดยินดีขึ้นมาไม่ได้
ดูเหมือนว่าเวินเที๋ยนเที๋ยนยังคงเป็นเช่นเคย คิดไปว่าตัวเองจะสามารถชนะการแข่งขันได้เหมือนการแข่งขันครั้งล่าสุด ใช้วิธีไม่เหมือนคนอื่นและเอาชนะไปได้งั้นหรือ?
อย่าฝันไปหน่อยเลย!
ครั้งที่แล้วมันก็เป็นแค่เรื่องบังเอิญ แต่ครั้งนี้คงไม่โชคดีอย่างนั้นแน่
ขอแค่สามารถดึงเวินเที๋ยนเที๋ยนลงจากตำแหน่งหัวหน้ากลุ่มได้ ไม่ว่าใครจะมาเป็นหัวหน้ากลุ่มคนใหม่ เธอก็มั่นใจว่าสามารถดึงคนๆ นั้นเข้ามาเป็นพวกตนได้แน่ จากนี้ไปเรื่องราวก็จะทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
เมื่อนึกถึงตรงนี้ เธอก็อดไม่ได้ที่จะผ่อนคลายลง และรู้สึกว่าชัยชนะกำลังโบกมือรอตนอยู่ไม่ไกล จากนั้นจึงค่อยๆ สนุกไปกับการแข่งขันของผู้คนตรงหน้า